Breaking News

ฟอร์ด จับตามอง เทรนด์ของโลก เพื่อทำความเข้าใจการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภค และเรียนรู้

ฟอร์ด จับตามอง เทรนด์ของโลก เพื่อทำความเข้าใจการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภค จากรายงาน Looking Further with Ford Trends ประจำปีที่ 7

ฟอร์ด จับตามอง เทรนด์ของโลก-Looking Further with Ford Trends-2.jpg
Looking Further with Ford Trends

ฟอร์ด จับตามอง เทรนด์ของโลก เพื่อทำความเข้าใจการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภค และเรียนรู้

ยานพาหนะที่ขับเคลื่อนเองได้กำลังเป็นที่สนใจอยู่ในตอนนี้ หากต้องเลือก คุณจะเลือกให้ลูกนั่งรถที่ขับเคลื่อนเอง หรือ นั่งรถที่ขับโดยคนแปลกหน้า น่าแปลกใจที่ร้อยละ 67 ของผู้ใหญ่เลือกรถที่ขับเคลื่อนได้เอง

ข้อมูลนี้นำมาจากรายงานเทรนด์ปี 2019 ของฟอร์ด ซึ่งเปิดเผยออกมาล่าสุด เจาะลึกเกี่ยวกับแรงขับเคลื่อนที่ส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรมของผู้บริโภค โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างผู้บริโภค กับภาพรวมของเทคโนโลยีที่ไม่เคยหยุดนิ่ง

ฟอร์ด จับตามอง เทรนด์ของโลก-Looking Further with Ford Trends-3.jpg
Trend

การเปลี่ยนแปลงไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะเวลาที่มีตัวแปรที่ควบคุมไม่ได้ ผลสำรวจของฟอร์ดจาก 14 ประเทศเผยว่า ผู้ใหญ่ร้อยละ 87 เชื่อว่าเทคโนโลยีคือแรงขับเคลื่อนที่มีอิทธิพลมากที่สุด และขณะที่จำนวนร้อยละ 79 คิดว่าเทคโนโลยีส่งผลในแง่ดี ประชากรจำนวนไม่น้อยก็รู้สึกกังวล บ้างก็หวาดระแวงเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) บ้างก็กลัวว่าเทคโนโลยีจะส่งผลต่อสภาพจิตใจของมนุษย์เรา

“การเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรมนี้อาจจะเปลี่ยนความรู้สึกของเราจากความสิ้นหวังไปเป็นแรงกระตุ้น และทำให้เกิดสิ่งมหัศจรรย์ ความหวัง และความก้าวหน้า ทั้งในระดับปัจเจกบุคคลและส่วนรวม” เชอริล คอนเนลลี ผู้จัดการฝ่ายเทรนด์ และอนาคตผู้บริโภค ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี กล่าว “ฟอร์ด ให้ความสำคัญในการออกแบบโดยยึดความต้องการของผู้บริโภค และมุ่งมั่นที่จะหาวิธีต่าง ๆ ในด้านการสัญจร เพื่อพัฒนาชีวิตของผู้คน และชุมชน ในบริบทของการเปลี่ยนแปลงนั้น เราต้องรักษาสิ่งที่เรามองว่ามีคุณค่าที่สุด ซึ่งก็คือความเชื่อใจซึ่งเรา และลูกค้ามีระหว่างกัน เราจึงมีความตั้งใจ และระมัดระวังในเรื่องของทิศทางที่เราจะเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ”

สรุปใจความหลักของผลการสำรวจจากรายงานเทรนด์ประจำปีที่ 7 ของฟอร์ดได้ดังต่อไปนี้

ฟอร์ด จับตามอง เทรนด์ของโลก-Looking Further with Ford Trends-4.jpg
I’m more outgoing on social media than I am in person.
ฟอร์ด จับตามอง เทรนด์ของโลก-Looking Further with Ford Trends-5.jpg
When I make a purchase, I often consider its environmental costs.
  • ประชากรเกือบครึ่งโลกเชื่อว่า ความกลัวจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง และ 7 ใน 10 ของประชากรกลุ่มนั้น กล่าวว่าการเปลี่ยนแปลงเป็นแรงกระตุ้นสำหรับพวกเขา
  • ประชากรร้อยละ 87 เห็นว่า เทคโนโลยีเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญที่สุดในการเปลี่ยนแปลงทุกวันนี้ และ 8 ใน 10 ของประชากรเชื่อว่าเทคโนโลยีคือเป็นแรงผลักดันที่ดี
  • ประชากรผู้ใหญ่ทั่วโลกร้อยละ 45 กล่าวว่า พวกเขาอิจฉาคนที่สามารถตัดตัวเองออกจากสังคมก้มหน้าได้
  • ผู้บริโภค 7 ใน 10 เห็นด้วยว่าคนเราควรจะมีช่วงเวลาบังคับให้ตัวเองออกห่างจากอุปกรณ์สื่อสาร

รายงานเทรนด์ของฟอร์ดเป็นเสมือนพิมพ์เขียวที่ทำให้เข้าใจว่า รูปแบบพฤติกรรมหลัก ๆ ของผู้บริโภคทั่วโลกมีแนวโน้มที่จะส่งผลต่อผู้บริโภคเอง รวมถึงองค์กรต่าง ๆ ทั้งในปี 2019 นี้ และในอนาคตด้วย

เทรนด์ในปี 2019 มีดังต่อไปนี้

  • 1. เทคโนโลยีล้ำโลก เทคโนโลยีมีผลกระทบเชิงลึกต่อการเชื่อมต่อกับโลกภายนอก และการมองโลกมากขึ้นกว่าเดิม แต่ก็ยังมีความขัดแย้งระหว่างคนที่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยี และเชื่อว่าเป็นแรงขับเคลื่อนที่ดีกับคนที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ ฟอร์ด ใช้เทคโนโลยีช่วยให้การสัญจรของคนทั่วโลกที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ปลอดภัยมากขึ้น และใช้งานได้สะดวกขึ้น ฟอร์ด ใส่ใจในการใช้เทคโนโลยีรวมไปถึงการให้ความรู้แก่ผู้บริโภคเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีอย่างฉลาด รอบคอบ เพื่อสร้างคุณค่าในชีวิตประจำวัน ในบางเมือง ฟอร์ด ได้ร่วมมือกับคณะบริหารจัดการปัญหาในเมืองเพื่อช่วยให้ผู้คนสัญจรได้อย่างอิสระขึ้น
  • 2. ดิจิตอล ดีท็อกซ์ ถึงแม้มนุษย์จะติดสังคมก้มหน้า ผลการสำรวจพบว่าผู้คนตื่นตัวกันมากขึ้น ในเรื่องการพึ่งอุปกรณ์ต่าง ๆ มากเกินไป และพยายามควบคุมเวลาที่ตัวเองใช้ไปกับสังคมออนไลน์ ฟอร์ด ศึกษาผลกระทบทางสมองจากการขับรถแข่งสมรรถนะสูง โดยใช้ข้อมูลจากการวิจัยเกี่ยวกับ “ช่วงเวลาระทึก” ที่อาจกระทบต่อสวัสดิภาพของผู้ขับขี่ เพื่อพัฒนาประสบการณ์การขับขี่พร้อมสร้างความตระหนักเรื่องการขับขี่ที่ปลอดภัย
  • 3. ทวงคืนการควบคุม ในโลกที่ใครหลาย ๆ คนรู้สึกว่าไม่สามารถควบคุมอะไรได้ ผู้บริโภคต่างหาหนทางในการใช้ชีวิตโดยมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาตนเอง เนื่องจาก ฟอร์ด ได้ยึดถือกระบวนการออกแบบโดยยึดความต้องการของมนุษย์เป็นที่ตั้ง ฟอร์ด จึงได้ทำการวิจัยเพื่อศึกษาความต้องการ และลักษณะนิสัยของผู้บริโภค ตั้งแต่อาจารย์มหาวิทยาลัย นักไตรกีฬา ไปจนถึงบุคคลทั่วไป ฟอร์ด ได้นำผลการวิจัยครั้งนี้ไปพัฒนาเครื่องมือ และยานพาหนะ อาทิ ฟอร์ด โคไพล็อต 360TM ซึ่งออกแบบมาเพื่อแบ่งเบาภาระในการขับขี่ และเสริมความมั่นใจว่าพาหนะของตนจะพร้อมรับสถานการณ์ตึงเครียดบนท้องถนนได้
  • 4. ตัวตนที่หลากหลาย ในยุคที่โซเชียลมีเดียมีบทบาทมากในชีวิตของผู้บริโภค หลายคนจึงแสดงออกด้วยตัวตนที่แตกต่างกันไปตามสถานการณ์ เช่น การเป็นตัวเองในชีวิตจริงแต่เป็นอีกตัวตนหนึ่งในสังคมออนไลน์ ซึ่งส่งผลต่อสิ่งที่พวกเขาซื้อ สวมใส่ และขับขี่ รวมไปถึงเทคโนโลยีที่พวกเขาใช้ ฟอร์ด เข้าใจดีว่ารถยนต์เป็นวัตถุที่สะท้อนตัวตนของผู้ขับขี่ ด้วยเหตุนี้รถยนต์จึงถูกออกแบบให้ตอบโจทย์ความต้องการส่วนตัวไปพร้อมกับนำเสนอตัวตนของผู้ขับขี่ เช่น ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ เป็นรถกระบะขนาดกลาง ลงตัวทุกการใช้งาน ผู้บริโภคสามารถสัญจรไปทำงานในเมืองได้ และมีความสมบุกสมบันพอที่จะไปท่องเที่ยวเชิงผจญภัยได้ในวันหยุด
  • 5. ชีวิตและการทำงาน มุมมองที่มีต่อชีวิตการทำงานได้เปลี่ยนแปลงไป เมื่อคนทุกวันนี้ทำงานเพื่ออยู่ แทนที่จะอยู่เพื่อทำงาน บริษัทต่าง ๆ ก็ตอบแทนด้วยสิทธิประโยชน์ วันหยุดพักร้อนรวมไปถึงโอกาสให้ลูกจ้างได้พัฒนาสภาพจิตใจ ฟอร์ดเชื่อว่าความสามารถของคนจะแข็งแกร่งขึ้นเมื่อได้รับการสนับสนุนให้ออกไปเผชิญโลกภายนอก และคืนกำไรสู่สังคมที่อยู่ โครงการหนึ่งของฟอร์ด ได้ส่งพนักงานอายุต่ำกว่า 30 ปี ออกไปเรียนรู้เกี่ยวกับองค์กรเพื่อสังคม และวางกลยุทธ์ในการเข้าถึงผู้บริจาค และอาสาสมัครเพื่อช่วยเหลือพวกเขาในการพัฒนาสังคม
  • 6. เพื่อสิ่งแวดล้อม การเปลี่ยนนิสัยที่มีมานานอาจเป็นเรื่องยาก แต่ผู้บริโภคเห็นตรงกันว่ากระบวนการทางสิ่งแวดล้อมจะขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมคน และหลายคนก็เสาะหาหนทางพัฒนาสานต่อสิ่งที่ตนเองได้สร้างไว้ การพัฒนาที่ยั่งยืนนั้นสำคัญต่อสภาพสิ่งแวดล้อม และความสำเร็จของฟอร์ดเอง ฟอร์ด ยังคงเน้นการลดสารพิษที่ปล่อยจากยานพาหนะ ด้วยการร่วมลดการปล่อยสารคาร์บอนไดออกไซด์ตามข้อตกลงปารีส โดยได้เริ่มนำร่องการลงทุนประกอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 16 รุ่น ในจำนวนทั้งหมด 40 รุ่นทั่วโลกที่จะแล้วเสร็จในปี 2022
  • 7. ขับง่ายสบายใจ การสัญจรบนท้องถนนไม่ได้มีแค่จุดเริ่มต้น และจุดหมายปลายทาง แต่ยังรวมถึงสิ่งที่เราทำระหว่างทางด้วย ชาวอเมริกันใช้เวลาบนรถมากกว่าเวลาพักร้อน นั่นหมายความว่าสิ่งที่ทำบนรถจะช่วยเปลี่ยนประสบการณ์บนท้องถนนเดิม ๆ ฟอร์ด เชื่อว่ารถที่ขับเคลื่อนด้วยตัวเองจะลดความเหนื่อยล้าในสังคม พร้อมกับขยายหนทางการสัญจรรวมถึงการส่งของ ฟอร์ด ร่วมมือกับบริษัทอื่น ๆ เพื่อศึกษาว่า การส่งของด้วยรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยตัวเองนั้นสามารถพัฒนาอย่างไรได้บ้าง ตัวอย่างเช่น โครงการนำร่องที่ฟอร์ดทำร่วมกับวอลมาร์ท และโพสเมทส์ ที่ศึกษาว่ารถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยตัวเองจะช่วยส่งเสริมการขนส่งถึงบ้านได้อย่างไร

Check Also

Volvo car dealer in Pitsanulok 2025

วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย ประกาศเปิดบริการ โชว์รูม วอลโว่ พิษณุโลก

วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย นำโดย คุณภัทรพงษ์ อชะปาละศิริ ผู้อำนวยการฝ่ายปฎิบัติการ บริษัท วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย (กลาง), คุณถนอมศักดิ์ สันทนาประสิทธิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจและบริหารประสบการณ์ลูกค้า …