รถใหม่ Lamborghini Huracan Evo (2019) ตัวแรงจากพื้นฐานขุมพลัง V10

Torque Thailand February 1, 2019 NewComer

รถใหม่ Lamborghini Huracan Evo (2019) ขุมพลังเบนซินพิกัด 5.2 ลิตร V10 ไร้ระบบอัดอากาศ 640 แรงม้า พร้อมแรงบิดมหาศาลถึง 600 นิวตันเมตร

รถใหม่ Lamborghini Huracan Evo-2019-2.jpg — 2019 Lamborghini Huracan Evo

รถใหม่ Lamborghini Huracan Evo-2019-3.jpg — 2019 Lamborghini Huracan Evo

รถใหม่ Lamborghini Huracan Evo (2019) ตัวแรงจากพื้นฐานขุมพลัง V10

Lamborghini Huracan Evo ทายาทกระทิงเปลี่ยวรุ่นล่าสุดเจเนอเรชั่นที่ 2 จาก Automobili Lamborghini คือ ตัวแรงจากพื้นฐานขุมพลัง V10 พัฒนามาจาก Huracan Performante ที่มีความ “โหด” ในเรื่องของ “สมรรถนะ” ที่อัพเกรดขึ้นอีกระดับ ตั้งแต่การรีดน้ำหนักส่วนเกินออกทำให้เหลือกล้ามเนื้อเพียว ๆ ที่ 1,422 กก.

ส่วนขุมพลังเบนซินพิกัด 5.2 ลิตร V10 ไร้ระบบอัดอากาศ ถูกอัพเกรดขึ้นใหม่ เริ่มจากในส่วนของวาล์วไอดีที่เปลี่ยนไปใช้วัสดุไททาเนียม ในขณะที่ส่วนของชุดไอเสียเลือกใช้วัสดุน้ำหนักเบา และการเปลี่ยนไปใช้วัสดุน้ำหนักเบาในส่วนของชุดไอเสีย ซึ่งทั้งหมดสร้างพละกำลังให้ Huracan Evo อยู่ในระดับ 640 แรงม้า พร้อมแรงบิดมหาศาลถึง 600 นิวตันเมตร

พร้อม Driving Modes Selected ให้เลือก 3 สไตล์ คือ STRADA, SPORT และ CORSA โดย Huracan Evo นั้นสามารถทำเวลาจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 2.9 วินาที จาก 0-200 กม./ชม. ใน 9.0 วินาที และท็อปสปีดสูงสุดแตะ 325 กม./ชม.

เท่านั้นยังไม่พอ เพราะ Huracan Evo ได้รับการติดตั้งฟังก์ชั่นใหม่ที่ชื่อว่า Lamborghini Dinamica Veicolo Integrata (LDVI) เข้ามาเสริมสมรรถนะ โดยใช้ Central Processing Unit คอยทำหน้าที่ประมวลผลพฤติกรรม และการเคลื่อนไหวของตัวรถไปพร้อม ๆ กับคาดการณ์ความต้องการของผู้ขับขี่ล่วงหน้า

หากคุณกำลังต้องการ Wallpaper สวยๆ

เราแนะนำ Wallpaper รูปรถ สวยๆ Download wallpaper ลิ้งนี้

ซึ่งทำงานร่วมกับระบบ Lamborghini Piattaforma Inerziale (LPI) ที่พัฒนาสู่เวอร์ชั่น 2.0 ในการทำหน้าที่ควบคุมความไดนามิกของตัวรถได้ในแบบ Real-Time เพื่อให้ Huracan Evo เป็นรถที่เข้าถึงสมญานาม “กระทิงเปลี่ยว” ได้อย่างชัดเจนที่สุด

นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงระบบพวงมาลัย Lamborghini Dynamic Steering (LDS) ขึ้นใหม่ พร้อมกับติดตั้งระบบเลี้ยวล้อหลัง Lamborghini Rear-Wheel Steering เพื่อสร้างการควบคุมที่เฉียบคม และขับเคลื่อน 4 ล้อให้อย่างมีเสถียรภาพสูงสุด โดยมีกำลังเสริมเป็นระบบ Torque Vectoring System คอยทำหน้าที่จัดสรรแรงบิดอย่างเหมาะสม ทำงานร่วมกับระบบ Traction Control System รุ่นล่าสุดที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า