รถใหม่ Subaru BRZ 2022 สปอร์ตคูเป้ปรับดีไซน์ใหม่หัวจรดท้าย ขยายมิติตัวรถใหม่ใหญ่ขึ้น รวมถึงอัพพลังให้จัดจ้านเร้าใจมากกว่าเดิมด้วยขุมพลังใหม่
รถใหม่ Subaru BRZ 2022 สปอร์ตคูเป้ปรับดีไซน์ใหม่หัวจรดท้าย
2022 Subaru BRZ
หลังจากที่ทยอยส่งภาพทีเซอร์ออกมาล่วงหน้าเพื่อเลือกน้ำย่อย ล่าสุดค่ายดาวลูกไก่ Subaru ได้เปิดตัว Subaru BRZ 2022 สปอร์ตคูเป้ตัวแรงของทางค่าย ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยรถสปอร์ตจากค่ายดาวลูกไก่รุ่นใหม่ล่าสุดนี้ ได้รับการปรับเปลี่ยนดีไซน์ใหม่หมดหัวจรดท้าย ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตา ขยายมิติตัวรถใหม่ใหญ่ขึ้น รวมถึงอัพพลังให้จัดจ้านเร้าใจมากกว่าเดิมด้วยขุมพลังใหม่เครื่องยนต์ Boxer N/A 2.4 ลิตร ที่ให้กำลังแรงม้าลงพื้นถึง 228 แรงม้า
Subaru BRZ 2022 รถสปอร์ตคูเป้ท้ายลาดจากแดนปลาดิบ ตัวใหม่ล่าสุดนี้ จัดเป็นเจเนอเรชั่นที่ 2 ที่ยังคงถูกพัฒนามากับเพื่อนร่วมชาติอย่างทาง Toyota เหมือนกับรุ่นที่ผ่านมา โดย Subaru BRZ 2022 เจนที่ 2 นี้ถูกพัฒนาขึ้นมาใหม่ทั้งหมด พร้อมกับปรับเปลี่ยนดีไซน์หน้าตาให้หล่อเหลามากกว่าเดิม ตัวถังมากับแพลตฟอร์มใหม่ทำให้มีขนาดที่ดูใหญ่ขึ้นกว่ารุ่นที่ผ่านมา
โดยจะมีความยาวตัวถังที่ยาวขึ้นกว่ารุ่นเดิม 1.2 นิ้ว (30 มม.) เป็น 4,264 มิลลิเมตร ในส่วนความกว้างนั้นเท่าเดิมที่ 1,775 มิลลิเมตร ในความสูงของตัวรถปรับให้เตี้ยลง 10 มม. อยู่ที่ 1,310 มม. เพื่อให้ดูสปอร์ตขึ้น รวมถึงทำให้ตัวรถมีจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำลง ส่วนระยะฐานล้อมีความยาว 2.575 มม. ปรับให้ยาวกว่ารุ่นก่อนหน้า 5 มม.
ในส่วนรูปลักษณ์ภายนอกก็ได้รับการปรับใหม่ยกชุด กันชนหน้าทรงใหม่ดีไซน์สปอร์ตมากับช่องดักลมขนาดใหญ่ทั้งตรงกลางและด้านข้าง ขยับขึ้นไปด้านบนโฉบเฉี่ยวด้วยชุดโคมไฟหน้าที่มากับการดีไซน์ใหม่ เป็นแบบ LED ทั้งชุด มาพร้อมไฟ DRL LED รูปทรงตัว C ที่ออกแบบให้เข้ากันอย่างลงตัว ที่ให้ด้านหน้าดูหล่อ และมีมาดที่เข้ม และดุดัน
ด้านข้าง มาพร้อมการดีไซน์เส้นสายให้ตัวรถดูบึกบึนมากขึ้นกว่ารุ่นที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นช่องระบายอากาศที่ซุ้มล้อหน้า ให้รับกับสเกิร์ตข้างตัวรถที่ได้อย่างกลมกลืน เติมความสปอร์ตด้วยล้อ Forged น้ำหนักเบาขนาด 17″ รัดด้วยยาง Michelin Pilot Sport 4 ด้าน ในส่วนหลังคาเป็นแบบท้ายลาดที่เอกลักษณ์ของรถสปอร์ตสายพันธุ์แรง
ต่อเนื่องมาถึงด้านท้ายปรับเปลี่ยนด้วยเช่นกัน เริ่มจากชุดโคมไฟหลังดีไซน์ใหม่ทรง C-Shape เติมความสปอร์ตที่ฝากระโปรงท้ายด้วยสปอยเลอร์ทรงตูดเป็ด ในส่วนกันชนท้ายดีไซน์ให้มีขนาดใหม่เสริมด้วย Diffuser ในตัว ขนาบข้างด้วยชุดปลายท่อไอเสียคู่ทรงกลมแยกซ้าย-ขวา นอกจากนั้นในส่วนตรงกลางกันชนหลังยังได้ติดไฟทับทิมดวงโต และไฟถอยอยู่ขนาบทั้งสองด้าน
ขยับเข้ามาในห้องโดยสารก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ได้ปรับเปลี่ยนด้วยเช่นกัน เริ่มจากในส่วนแผงแดชบอร์ด จะมากับหน้าปัดเรือนไมล์ดีไซน์ใหม่ แสดงผลเป็นดิจิตอล ขนาด 7 นิ้ว ช่องปรับอากาศซ้าย-ขวาเป็นแบบทรงกลม ส่วนตรงกลางเป็นทรงเหลี่ยม ถัดลงมาด้านล่างจะเป็นในส่วนของ หน้าจออินโฟเทนเมนท์แบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว ที่รองรับการเชื่อมต่อทั้ง Apple CarPlay, Android Auto และ SiriusXM, พวงมาลัยมัลติฟังชั่นทรงสามก้าน
ในส่วนเบาะนั่งเป็นแบบทรงสปอร์ตหุ้มด้วยหนัง และผ้าสีดำ แซมด้วยหนังสีแดงตรงกลางเบาะ พร้อมกับเดินด้วยด้ายสีแดงตามส่วนต่างๆ ภายในห้องโดยสารทั้งที่ตัวเบาะนั่ง คอนโซลหน้า, คอนโซลกลาง, แผงประตู และพวงมาลัย
ในส่วนโครงสร้างตัวถังทาง Subaru อ้างว่า BRZ ใหม่นี้เป็นรถสปอร์ตรุ่น 2 + 2 ที่มีน้ำหนักเบาที่สุดในตลาดสหรัฐอเมริกาโดยมีน้ำหนักต่ำกว่า 1,315 กิโลกรัม โดยในส่วนของหลังคา, บังโคลนหน้าและฝากระโปรงหน้าถูกทำขึ้นจากวัสดุอะลูมิเนียมที่เน้นในเรื่องน้ำหนักที่เบา นอกจากนั้นในส่วนแชสซีใหม่ รวมถึงยึดจุดเชื่อมต่อใหม่ ส่งผลให้มีความแข็งแกร่งมากกว่าเดิม โดยสามารถลดการบิดตัวได้มากขึ้นถึง 50 เปอร์เซ็นต์
ถึงแม้ว่าจะดูเป็นรถสปอร์ตเน้นการขับขี่เป็นหลัก ทาง Subaru ก็ได้ใส่ใจในเรื่องความสะดวกสบายในชีวิตประจำวัน เช่นในส่วนพื้นที่เก็บสัมภาระด้านในห้องโดยสาร ถึงแม้จะเป็นรถแบบ 2+2 ที่นั่ง ถ้าพับในส่วนเบาะหลังลงสามารถใส่จักรยานเสือภูเขา หรือไม้กอล์ฟ ได้อย่างสบาย
ด้านพละกำลังของ Subaru BRZ 2022 ติดตั้งขุมพลังเครื่องยนต์ Boxer N/A ขนาด 2.4 ลิตร ที่ให้กำลังแรงม้าถึง 228 แรงม้า โดยในส่วนแรงบิดนั้นจะมีมากกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 15 เปอร์เซ็นต์ โดยมีแรงบิดสูงสุดที่ 250 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วย เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ
หรือเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ ไปยังล้อคู่หลังด้วย ในส่วนด้านตัวเลขสมรรถนะต่างๆ ของ Subaru BRZ 2022 เวอร์ชั่นใหม่นี้ ยังไม่มีการเปิดเผยออกมา มีเพียงแต่เผยออกมาว่าตัวรถนั้นมีระบบควบคุมเสถียรภาพใหม่ VSC ที่สามารถปรับตั้งค่าได้ถึง 5 โหมด เพิ่มความต้องการและตอบสนองให้กับผู้ขับขี่ได้ดีและเร้าใจมากขึ้น
Subaru BRZ 2022 จะเริ่มเดินสายการผลิตที่ในโรงงาน Gunma ประเทศญี่ปุ่น คาดว่าจะเริ่มวางจำหน่ายได้ในช่วงต้นฤดูใบไม้ร่วงปี 2021 โดยจะเริ่มเปิดตลาดที่ในสหรัฐอเมริกาเป็นแห่งแรก และทยอยสู่ตลาดอื่นๆ ทั่วโลกในช่วงถัดไป ส่วนราคาค่าตัวนั้นคงต้องรอถึงช่วงวันเปิดจำหน่ายถึงจะทราบกัน