รีวิว ทดลองขับ BMW 520d M SPORT ขุมพลังเทอร์โบดีเซล 4 สูบ 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ความเร็วสูงสุดที่ 235 กม./ชม. ราคา 3.539 ล้านบาท
รีวิว ทดลองขับ BMW 520d M SPORT เวอร์ชั่นปรับโฉม ราคา 3,539,000 บาท
BMW 520d M SPORT
ขุมพลังเทอร์โบดีเซลของ BMW ไม่เคยทำให้เราผิดหวัง แม้จะเป็นเครื่องยนต์ขนาดเล็กสุดอย่าง 520d รถทดสอบของเรา ที่กำลังวิ่งฉิวอยู่บนถนนสายรองที่ว่างเปล่าก็ตาม นี่คือ 5-series เวอร์ชั่นปรับโฉมตามอายุขัย เครื่องยนต์ไม่มีการปรับปรุงใดๆ นัก ยังคงเป็นแบบ 4 สูบ ความจุ 2.0 ลิตร ทำงานร่วมกับเทอร์โบแปรผัน ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า และ 400 นิวตันเมตร
เพียงพอสำหรับฉุดน้ำหนักตัวขนาด 1.56 ตัน จากจุดหยุดนิ่งสู่ 100 กม./ชม. ได้ใน 7.5 วินาที และทำความเร็วสูงสุดที่ 235 กม./ชม. 520d มีชีวิตชีวากว่ารถซีดานพลังดีเซลรุ่นอื่นๆ ในคลาสเดียวกันอย่างเห็นได้ชัด การตอบสนองคันเร่งทันอกทันใจด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ
ที่พร้อมลดลงเกียร์ต่ำทันทีที่คุณกดเท้าขวาลึกลงไป เมื่อรวมกับระบบบังคับเลี้ยวที่ขึงตึงและพวงมาลัยขนาดกะทัดรัดทว่าอวบอ้วนเต็มมือตามสไตล์ BMW ส่งให้ 520d หนักแน่นขณะเปลี่ยนทิศทางไปมา แม้ที่ความเร็วสูงบนถนนนอกเมืองโล่งๆ เช่นนี้
แม้จะมาพร้อมกับช่วงล่าง M Sport (ไม่มีระบบ Adaptive) ที่ขึงตึงกว่าแบบมาตรฐาน ทว่ายังให้ความนุ่มนวลได้น่าพอใจทีเดียว ที่ความเร็วเดินทาง 520d สามารถดูดซับแรงสั่นสะเทือนได้ดี ขณะเดียวกันก็ยังให้ความมั่นใจเต็มเปี่ยมเมื่ออยู่ในโค้ง คุณจะเห็นความยอดเยี่ยมของมันได้ชัดเจนยิ่งขึ้นเมื่อเข้าสู่เส้นทางที่คดเคี้ยว ปรับสู่โหมด Sport เพื่อการตอบสนองที่ฉับไวยิ่งขึ้น ทั้งในส่วนของเครื่องยนต์, เกียร์ และพวงมาลัย จากนั้นก็เริ่มเอนเตอร์เทนตัวเองได้เลย!
เมื่อเริ่มหมุนพวงมาลัยเพื่อเบนเข้าสู่ยอดโค้ง 520d เอนตัวเล็กน้อยตามแรงเหวี่ยง พร้อมเสียงยางคู่หน้ากรีดร้องแผ่วๆ บ่งบอกว่าคุณกำลังอยู่บนขีดจำกัดสูงสุด ระบบควบคุมการยึดเกาะเข้ามาแทรกแซงเป็นระยะอย่างเป็นธรรมชาติ เพื่อประคับประคองให้รถคงเส้นคงวาขณะกำลังเคลื่อนไปสู่ทางออกโค้ง สัมผัสที่หนักแน่นมั่นคงของช่วงล่างทำให้คุณไม่ต้องกังวลหรือสงสัยใดๆ ในตัวมัน
กระทั่งถนนเปิดสู่ทางตรง ถึงคราวของแรงบิดจากขุมพลังดีเซลและชุดเกียร์เผยให้เห็นประสิทธิภาพของพวกมันบ้าง เติมคันเร่งลงไปอย่างนุ่มนวลแต่รวดเร็วจากนั้น 520d จะกระโจนไปข้างหน้าด้วยแรงเร่งที่คุณแทบไม่เชื่อว่ามาจากเครื่องยนต์ดีเซลความจุเพียง 2.0 ลิตร หน้ารถเชิดขึ้น,
พวงมาลัยเบาจนคุณรับรู้ได้ว่ายางคู่หน้าไม่ได้กดพื้นแน่นเหมือนปกติ, ท้ายรถกดต่ำลงเล็กน้อย ก่อนที่เกียร์จะเปลี่ยนสูงขึ้นเพื่อให้รถทำความเร็วเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ขณะส่งคุณสู่ความสนุกในโค้งถัดไป
และประสิทธิภาพเหล่านี้ คือสิ่งที่ BMW ใช้มัดใจลูกค้าของพวกเขา โฟกัสไปที่ความสนุกในการขับขี่ทว่าไม่ทิ้งเรื่องของความสะดวกสบายไว้เบื้องหลัง นั่นหมายถึง ไม่เพียงสมรรถนะอันน่าประทับใจเท่านั้น 520d ยังเป็นรถที่สามารถขับใช้งานในชีวิตประจำวันในฐานะมิดไซส์ซีดานระดับหรูได้โดยไม่มีข้อกังขา
ด้วยห้องโดยสารกว้างขวางสำหรับทุกที่นั่ง, วัสดุคุณภาพสูง, เก็บเสียงได้ดี และแม้ 520d จะเป็นเกรดเริ่มต้นของ 5-series แต่ก็มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมาให้พรั่งพร้อม สมกับราคา 3.5 ล้านบาท
เราขับทดสอบ Merc E220 d (3.4-4.0 ล้านบาท) คู่ปรับโดยตรงของมัน และพบว่า หากคุณชื่นชอบรถที่ขับสนุกล่ะก็… BMW 520d คือตัวเลือกที่เหมาะสมกว่าอย่างเห็นได้ชัด
ปรับรูปทรงของกระจังหน้าให้กว้างใหญ่ขึ้นกว่าเดิม ส่วนบนของแถบแนวตั้งก็ปรับให้ยื่นออกมาจากขอบกระจังอย่างเห็นได้ชัดเจน ลายกราฟฟิกบนแถบนี้ถูกนำไปใช้บนไฟ DRL อีกด้วย (ดูรูปถัดไปด้านล่าง) ลึกลงไปหลังกระจังหน้าคือแผ่นกั้นอากาศแบบแอคทีฟ ที่ได้รับการปรับปรุงให้ทำการ เปิด-ปิด ได้เหมาะสมกับอุณภูมิทำงานของเครื่องยนต์ยิ่งขึ้น
ไฟหน้ามีขนาดเพรียวบางกว่าเดิม ช่วยขับให้กระจังหน้าดูใหญ่และโดดเด่นยิ่งขึ้น ไฟทั้งหมดเป็น LED ทุกฟังก์ชั่น โดยมี DRL รูปทรงตัว L เรียงซ้อนกันสองชิ้น (ชิ้นนอกจะกระพริบและเปลี่ยนเป็นสีส้มเมื่อเปิดไฟเลี้ยว) เมื่อมองเข้าไปใกล้ๆ จะเห็นว่ามีการใส่ลายกราฟฟิกแบบเดียวกับบนกระจังหน้า เป็นความขี้เล่นเล็กๆ น้อยๆ ของผู้ออกแบบ
ไฟท้ายดีไซน์ใหม่แบบ 3 มิติ ใช้เลนส์สีดำจึงทำให้แถบไฟสีแดงดูโดดเด่นเป็นพิเศษ แน่นอนว่าฟังก์ชั่นต่างๆ เป็น LED ทั้งหมดเช่นเดียวกับไฟหน้า
ปลายท่อเปลี่ยนเป็นท่อเดี่ยวทรงสี่เหลี่ยมคางหมู ติดตั้งแนบเนียนไว้ที่มุมทั้งสองของกันชนที่ใช้ส่วนล่างสีเทาเข้มกินพื้นที่ขึ้นไปเกือบเต็มกันชน
520d มาพร้อมกับชุดแต่งตัวถังแบบ M Sport รอบคัน ช่องระบายอากาศหลังซุ้มล้อหน้าช่วยบังคับอากาศที่ไหลออกมาจากจุดเริ่มต้นที่กันชนหน้ามายังล้อหน้า ให้ออกไปตามแนวด้านข้างของรถ ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอยู่ที่ 0.23 นับว่าน้อยมากทีเดียว
ขุมพลัง 2.0 ลิตร ดีเซลเทอร์โบ 190 แรงม้า, 400 นิวตันเมตร มาพร้อมกับระบบ Mild Hybrid ที่ใช้สตาร์ทเตอร์ 48V เข้ามาช่วยขับเคลื่อนร่วมกับเครื่องยนต์เพื่อช่วยเพิ่มอัตราเร่ง ทั้งยังประหยัดน้ำมันและลดมลพิษด้วยฟังก์ชั่นดับเครื่องยนต์อัตโนมัติ โดยระบบสามารถดับเครื่องยนต์ได้ในขณะถอนคันเร่ง (เมื่ออยู่ในโหมด ECO Pro และ Comfort) และก่อนที่รถจะจอดสนิท
ดีไซน์โดยรวมของห้องโดยสารยังคงให้ความรู้สึกแบบดั้งเดิม การเก็บเสียงรบกวนทำได้น่าประทับใจอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเรื่องของการลดเสียงการทำงานของเครื่องยนต์ด้วยการผสมผสานวัสดุและเทคนิคหลากหลายเพื่อไม่ให้ผ่านเข้ามาในห้องโดยสารได้
ระบบบังคับเลี้ยวด้วยไฟฟ้าสามารถตอบสนองและสื่อสารความเป็นไปของล้อหน้ามาสู่คุณได้ชัดเจน นอกจากนั้น ยังฉับไว, กระชับ และให้น้ำหนักที่เหมาะสมอีกด้วย วงพวงมาลัยมีขนาดพอดีมือและอวบอ้วนจับได้ถนัดมาก
ใช้จอแสดงผลแบบดิจิตอลสำหรับผู้ขับขี่ รูปแบบกราฟฟิกสวยงามล้ำสมัย แต่ก็ทำให้การอ่านค่าต่างๆ ค่อนข้างยาก และปรับเปลี่ยนการแสดงผลได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ในโฉมไมเนอร์เชนจ์ มาพร้อมกับระบบ Live Cockpit Professional ใช้จอแสดงผลระบบสัมผัสขนาดใหญ่ถึง 12.3 นิ้ว กับระบบปฏิบัติการรุ่นล่าสุดเวอร์ชั่น 7.0 ปัจจุบันไม่เพียง Apple CarPlay เท่านั้น แต่ยังรองรับ Android Auto ได้แล้วอีกด้วย ซอฟต์แวร์ของระบบนำทางก็ได้รับการปรับปรุงให้คำนวณเส้นทางและตอบสนองได้ฉับไวยิ่งขึ้น สามารถสั่งงานได้จากการสัมผัสจอ, บนพวงมาลัย, ปุ่ม iDrive บนคอนโซลกลาง ตลอดจนใช้สัญญาณมือ (กับบางฟังก์ชั่น) ชุดเครื่องเสียงจาก hamann/kardon ให้รายละเอียดเสียงได้ดี… ด้วยระบบปฏิบัติการ 7.0 ช่วยให้คุณสามารถอัพเกรดฟีเจอร์ใหม่ๆ ของ BMW ได้ออนไลน์จากรถโดยตรง อ้อ! กราฟฟิกรูปรถยังมีสีตรงตามแต่ละสีตัวถังจริงๆ ของรถอีกด้วย
เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ‘Steptronic’ จัดสรรอัตราทดมาพอเหมาะลงตัวกับบุคลิกและพละกำลังของเครื่องยนต์ ทำงานได้ราบรื่นเรียบเนียนในโหมด Auto แต่การเปลี่ยนเกียร์เองผ่านแป้นหลังพวงมาลัยยังไม่ฉับไวนัก มีโหมดการขับขี่ให้เลือกทั้ง Sport, Comfort และ ECO Pro
วัสดุคุณภาพสูงคือสิ่งที่คุณได้เมื่อเป็น BMW ตกแต่งด้วยลายกราฟฟิกหลายๆ จุด พร้อม Ambient Light เปลี่ยนได้หลากสี ให้ประตูระบบดูด (Soft Close) มาเป็นมาตรฐานด้วย
ด้วยการตกแต่งแบบ M เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน จึงมีเบาะแบบสปอร์ตพร้อมแถบสามสีสัญลักษณ์ M ติดตั้งมาด้วย
กุญแจรีโมทพร้อมหน้าจอทัชสกรีน สามารถแสดงข้อมูลได้เล็กน้อย รวมถึงสั่งสตาร์ตรถเพื่อเปิดระบบปรับอากาศก่อนเข้ารถได้
SPECIFICATIONS : BMW 520d M SPORT
- Price: ฿3,539,000 (with BSI package)
- Engine: 1995cc turbodiesel 4-cyl, 190hp @ 4000rpm, 400Nm @ 1750-2500rpm Transmission: 8-speed automatic, rear-wheel drive
- Performance: 7.5sec 0-100km/h, 235km/h top speed, 132g/km Co2
- Weight: 1560kg
- NCAP rating: 5 stars
TorqueThailand.com
