รีวิว ทดสอบรถ: All New Suzuki XL7 รถยนต์ Multi-Dynamic Crossover เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 105 แรงม้า 779,000 บาท
รีวิว ทดสอบรถ: All New Suzuki XL7 รถยนต์ Multi-Dynamic Crossover ใหม่ !
หากคุณกำลังค้นหา Wallpaper รูปรถสวยๆเราขอแนะนำ Wallpaper รูปรถสวยๆ Download wallpaper ที่นี้ |
รีวิว ทดสอบรถ: All New Suzuki XL7
ซูซูกิ ประเทศไทย เปิดตัวรถรุ่นใหม่เอาใจครอบครัวยุคใหม่ด้วย All New Suzuki XL7 รถอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง ที่มีการใช้แพลตฟอร์มจาก Suzuki Ertiga มาใช้ในการผลิต ซึ่งมีแฟนๆ ซูซูกิ เรียกว่า “เออร์ทิก้า ยกสูง” ซึ่งจริงๆ แล้วก็ไม่ใช่เสียทีเดียว เพราะ All New Suzuki XL7 แม้จะมีพื้นฐานร่วมกันกับ Suzuki Ertiga แต่ก็มีการปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับตัวรถที่สูงขึ้นทั้งในเรื่องการขับขี่และการควบคุม จากการถามทีมวิศวกรได้ใจความว่า ตั้งแต่เสาบีขึ้นไปมีการปรับเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด คุณไม่สามารถเอาไว้ใส่ร่วมกับ Suzuki Ertiga พวกไฟหน้ากันชนจุดยึดเปลี่ยนใหม่หมด รวมไปถึงประตูด้วย
ส่วนในเรื่องของช่วงล่างมีการปรับเปลี่ยนโช๊คและสปริงใหม่ พร้อมขยายเหล็กกันโคลงให้มีขนาดใหญ่ขึ้นอีก 1 มม. เพื่อเพิ่มเสถียรภาพในการขับขี่ให้มั่นคงมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีการปรับเปลี่ยนกล่องควบคุมระบบไฟฟ้า ระบบเบรกและชุดปั้มเอบีเอสใหม่ รวมไปถึงการปรับจูนกล่องสมอง ECU ให้มีสมรรถนะเพิ่ม และอัตราเฟืองท้ายให้มีความจัดจ้านมากขึ้น
ภายนอกเน้นโคมไฟหน้า โดยมีแรงบันดาลใจจากดาบคาทานะ โดยชุดไฟหน้าเป็นแบบ LED พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน (Daytime Running Light) แบบมีสวิตช์ปรับระดับสูง-ต่ำภายในรถ ส่วนไฟท้ายออกแบบใหม่มีความลงตัวดูสวยงาม
All New Suzuki XL7 ได้รับการติดตั้งราวหลังคา เป็นมาตรฐานจากโรงงาน พร้อมล้อแม็กขนาด 16 นิ้ว พร้อมยางขนาด 195/60R16 ที่ออกแบบลวยลายได้อย่างสวยงาม ดูทนทานและแข็งแกร่ง โดย All New Suzuki XL7 ใต้ท้องรถสูงจากพื้นถึง 200 มม.
ภายในห้องโดยสารถูกตกแต่งด้วยสีดำล้วน พร้อมเบาะนั่งแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง หุ้มด้วยวัสดุผ้าสลับหนัง เบาะนั่งผู้ขับขี่ปรับสูง-ต่ำได้, พวงมาลัยปรับสูง-ต่ำเท่านั้น, หน้าจอ MID แบบใหม่ที่เป็นแบบเดียวกับที่อยู่ใน Suzuki Swift sport ตัวที่จำหน่ายที่ญี่ปุ่นก็ถูกนำมาติดตั้งในรุ่นนี้ โดยสามารถแสดงข้อมูลแรง G-Force ได้ รวมแสดงผลเป็นสี สามารถปรับได้ถึง 4 สี รวมถึงยังแสดงสถานะการเปิด-ปิดประตู, ตรงกลางคอนโซลเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 10 นิ้วขนาดใหญ่ที่ลอยตัวขึ้นเหนือแผงคอนโซล รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto หน้าจอดูทันสมัยสมราคา พร้อมปุ่มรับสาย-วางสายโทรศัพท์บนพวงมาลัยและลำโพง 6 ตำแหน่ง
ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ด้วยช่องเสียบไฟทั้ง 3 แถว แบบ 12V ซึ่งน่าเสียดายที่ไม่เป็นช่องเสียบ USB ไปเลย ซึ่งกระจายอยู่ทั้งในตอนหน้า ตอนกลางและตอนท้ายของตัวรถ ระบบปรับอากาศด้านหน้าเป็นจอแบบอัตโนมัติ พร้อมปุ่มควบคุมดีไซน์เรียบง่ายสไตล์ซูซูกิ ขณะที่ระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนที่ 2 และ 3 มีสวิตช์แยกต่างหาก (ปรับได้เฉพาะความแรงลมเท่านั้น) เสริมด้วยที่วางแก้วน้ำด้านหน้าที่สามารถเป่าลมเย็นให้กับเครื่องดื่มได้
ที่น่าสนใจคือ ปกติเบาะแถวสุดท้ายจะเป็นเบาะที่สำรองที่ให้เด็กนั่งมากกว่า แต่ถ้าเทียบรถในกลุ่มเดียวกัน ซูซูกิถือว่าทำได้ดีที่สุดในแถวที่ 3 ด้วยการออกแบบตัวถังให้มีความพร้อมตำแหน่งการวางเบาะนั่งให้สูงทำให้ขาไม่ติด จึงทำให้ผู้ใหญ่สามารถนั่งได้จริงในแถวที่ 3 ซึ่งถ้าผู้ใหญ่ความสูงมาตรฐานชายได้ 170 ซม. นั่งได้สบายๆ อีกอย่างที่ชอบใน All New Suzuki XL7 กระจกที่นั่งตอนกลางมีขนาดใหญ่มากให้ความรู้สึกโปร่งโล่งมาก ทำให้ไม่รู้สึกอึดอัด
ขุมพลังคงเป็นบล็อกเดียวกันกับ Suzuki Ertiga กับเครื่องยนต์ รหัส K15B เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 105 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 138 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ พร้อมระบบเบรกแบบหน้าดิสก์-หลังดรัม แต่สิ่งที่ต่างก็คงเป็นเรื่องของจากปรับจูน ECU ให้มีการตอบสนองดีขึ้นกว่า พร้อมปรับอัตราเฟืองท้ายให้ชิดขึ้น ซึ่งเหตุผลหนึ่งที่เกียร์ยังคงเป็น 4 สปีด เพราะเป็นรถที่นำเข้ามาจากอินโดนีเซีย ซึ่งพื้นฐานภูมิประเทศที่นั่นเป็นทางลาดชันขึ้นลงภูเขา การใช้เกียร์แบบ CVT อาจจะไม่เหมาะสมนัก
ซึ่งทางซูซูกิไทยได้ส่งเรื่องไปแต่ก็มีหลายๆ เงื่อนไขที่ทางนั่นจะปรับเปลี่ยนได้ หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับทางอินโดนีเซีย เพราะมันเป็นเรื่องของค่าใช้จ่ายมหาศาล แต่ 4 สปีดที่ใช้ใน All New Suzuki XL7 ก็โดดเด่นพอสมควรอัตราการบริโภคน้ำมัน ค่าเฉลี่ยตามอีโค สติกเกอร์ ระบุ 16.4 กม./ลิตร ส่วนการขับในระยะทางกว่า 200 กม. ทั้งความเร็วสูงและช้าตามสภาพจราจรก็สามารถทำตัวเลข 14-15 กม./ลิตร ทีเดียว
เริ่มทดสอบโดยออกจากย่านรามอินทรามาขึ้นทางด่วน เพื่อออกไปวงแหวนรอบนอก เพื่อมุ่งสู่เขาใหญ่ สัมผัสแรกเบาะที่นั่งดูสูง แต่ยังมีพื้นที่เหนือศีรษะพอสมควร โดยผู้ขับสูงกว่า 180 ซม. ทัศนวิสัยถือว่าดีด้วยความที่รถสูงพอสมควร อัตราเร่งของรถในช่วงออกตัวถือว่าดีไม่อืดอาด แต่ก็ไม่ได้จัดจ้านมากนักด้วยขนาดของตัวรถที่ทั้งใหญ่และสูง รอบความเร็วที่ 80 กม./ชม. อยู่ที่ 2,000 รอบต่อนาที พอไหลมาความเร็ว 100 กม./ชม. อยู่ที่ 2,500 รอบต่อนาที ซึ่งรอบค่อนข้างสูงเพราะเป็นเกียร์ 4 สปีด แต่ในรอบกลางที่ความเร็ว 120 กม./ชม ขึ้นไป เครื่องยนต์ตอบสนองได้ดีกว่าเพียงเติมคันเร่งเบาๆ ตัวรถก็ไต่ความเร็วขึ้นอย่างรวดเร็ว
นอกจากนั้นที่รู้สึกอีกอย่างคือ ความนุ่มนวลของช่วงล่างที่ทำออกมาได้ลงตัวไม่กระด้างแต่ไม่ย้วย ซึ่งอยู่ในระดับนั่งสบาย แถมช่วงล่างยังให้ความมั่นใจแม้ในความเร็วสูงก็ตาม ตัวรถยังคงนิ่ง ไม่มีอาการย้วยไปตามแรงลมให้เห็น ถ้าเทียบกับ Suzuki Ertiga คนละเรื่อง ซึ่ง Suzuki Ertiga อาจจะถูกเซ็ตให้นิ่มกว่าเพราะเป็นรถครอบครัวผู้ใหญ่ใช้ แต่ใน All New Suzuki XL7 ถูกออกแบบเพื่อคนหนุ่มสาวที่พึ่งมีลูก หรือสร้างครอบครัวที่ต้องการรถที่กระฉับกระเฉง แต่ยังคงสามารถพาครอบครัวไปได้จำนวนมากๆ
All New Suzuki XL7 จึงน่าเป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ ด้วยราคาตอบโจทย์รถของครอบครัว ด้วยสนนราคา 779,000 บาท กับออฟชั่นที่ได้และความรู้สึกในการขับขี่ที่ดีแบบนี้ ยิ่งเมื่อเทียบส่วนต่างราคากับ Suzuki Ertiga รุ่นท็อปแล้วห่างเพียง 50,000 บาท และเทียบกับคู่แข่งจากค่ายอื่นที่ราคาต่างกันเป็น 100,000 บาท ซึ่งนี่คงเป็นจุดแข็งของ All New Suzuki XL7 ที่กล้ามาท้าชนคู่แข่งในกลุ่มรถมินิ SUV ที่กำลังเป็นที่นิยมได้อย่างแน่นอน