รีวิว ทดสอบ All-New Honda Civic RS เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร VTEC TURBO 178 แรงม้า มาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ราคา 1.199 ล้านบาท
รีวิว ทดสอบ All-New Honda Civic RS 1.5L VTEC TURBO ขุมพลัง 178 แรงม้า
All-New Honda Civic RS
สปอตไลต์และชุดไฟหน้าเป็นแบบ LED ทั้งหมด ไฟส่องสว่างแบ่งเป็น 3 ส่วน ดวงกลางคือไฟสูง ในขณะที่ไฟต่ำทั้งสองจะแยกหน้าที่กันทำงาน โดยดวงนอกส่องเป็นแนวกว้างออกด้านข้างส่วนดวงในส่องพุ่งไปด้านหน้า
ข่าวดีก็คือ Civic ใหม่ ทุกเกรดติดตั้ง Honda Sensing มาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน โดยระบบเวอร์ชั่นล่าสุดนี้ เปลี่ยนมาใช้ระบบกล้องตัวเดียวที่มีมุมมองกว้างขึ้นหนึ่งเท่าตัว (จาก 50 เป็น 100 องศา) แทนที่ระบบ เรดาร์+กล้อง ของรุ่นเก่า ร่วมด้วยหน่วยประมวลผลที่ทรงพลัง และปรับการตอบสนองเมื่อใช้ครูสคอนโทรลให้ฉับไวกว่าเดิม นอกจากนั้น ยังปรับการทำงานของพวงมาลัยให้เลี้ยวไปมาอย่างเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้นขณะเปิดระบบควบคุมรถให้อยู่ในเลน… Honda แจ้งว่าระบบ ลดความเร็ว/เบรก อัตโนมัติก็ได้รับการปรับปรุงให้ทำงานได้นุ่มนวลขึ้นเช่นกัน แต่ในการใช้งานจริง เราพบว่ามันยังเบรกค่อนข้างแรงและเริ่มต้นทำงานในระยะที่น่าหวาดเสียวไปหน่อย
ใช้ระบบฉีดน้ำแบบติดตั้งไว้ร่วมกับก้านปัดน้ำฝน ซึ่งดีกว่าหัวฉีดน้ำแบบปกติที่ติดตั้งแยกไว้บนฝากระโปรงหรือแผงใต้กระจกหน้า เนื่องจากเมื่อฉีดน้ำจะไม่มีละอองน้ำหรือผืนน้ำมาบดบัง (ก่อนที่ปัดน้ำฝนจะปัดออกไป) ทำให้ไม่บดบังทัศนวิสัยขณะขับขี่
มีระบบ LaneWatch ติดตั้งให้เฉพาะเกรด RS เช่นเดิม แต่ยังคงไม่มีระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับมาให้ที่กระจกมองข้างมาให้
ในกรณีที่คุณมีปัญหากับการปลดล็อคประตูด้วยระบบแฮนด์ฟรี คุณจะมีอีกหนึ่งปัญหาตามมา นั่นคือการต้องใช้มือข้างหนึ่งดึงมือเปิดประตูออก และอีกข้างพยายามเสียบดอกกุญแจเข้าไป… บางครั้ง Form และ Function ก็ไปด้วยกันไม่ได้ โดยเฉพาะกับเหล่าดีไซเนอร์ของ Honda ที่มักจะออกแบบอะไรบางอย่างมาเพี้ยนๆ เสมอ
เกรดสูงสุด ‘RS’ มาพร้อมกับอุปกรณ์พิเศษและการตกแต่งด้วยสีดำในชิ้นส่วนต่างๆ รอบคัน และติดตั้งอุปกรณ์มาตรฐานอื่นๆ มาให้เต็มพิกัด
เลนส์ด้านในของไฟท้ายใช้การตัดแบบละเอียดช่วยให้ได้แสงสม่ำเสมอทุกมุมมอง เทคโนโลยีที่ใช้ใน Civic คือการตัดเฉือนอย่างละเอียด มีความกว้างระหว่าง 0.2 ถึง 0.5 มม. และลึกเพียง 5 ถึง 25 ไมครอน (0.005 ถึง 0.025 มม.) วิธีนี้ทำให้แสงสว่างสม่ำเสมอเมื่อเปิดไฟ และดูสะอาดตาโดยแทบไม่มีเส้นตัดที่สังเกตเห็นได้ชัดเมื่อปิดไฟ
เกรด RS มาพร้อมกับล้อ 17 นิ้ว และยาง 215/50 ระบบเบรกใช้คาลิเปอร์แรงเสียดทานต่ำและปรับสปริงดันกลับใหม่เพื่อลดแรงต้าน ช่วยให้ได้สัมผัสขณะเบรกที่ดียิ่งขึ้น
เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร ใช้เทอร์โบใหม่ที่เปลี่ยนทิศทางการไหลแก๊สไอเสีย จากการเข้าด้านข้างมาเป็นแบบทแยงมุม โดยเปลี่ยนท่อร่วมไอเสียจากแบบ 4-1 มาเป็น 4-2 และปรับรูปทรงของใบกังหันใหม่ ด้วยวิธีนี้ช่วยให้ได้แรงบูสต์เป็นช่วงกว้างขึ้นและมีประสิทธิภาพกว่าเดิม ขณะที่ฝั่งคอมเพรสเซอร์ของเทอร์โบ ก็ได้รับการออกแบบท่อทางเดินอากาศไปยังตัวเรือนและท่อแรงดันสูงด้านข้างให้มีความโค้งงอน้อยลง เพื่อลดโอกาสแรงดันอากาศตก เทอร์โบจึงตอบสนองได้ฉับไวและสร้างพละกำลังได้มากยิ่งขึ้น การปรับปรุงเหล่านี้ทำให้ได้เพิ่มจากเครื่องยนต์เวอร์ชั่นที่แล้วเพียง 5 แรงม้า ก็จริง แต่การตอบสนองนั้นยอดเยี่ยมกว่าอย่างชัดเจนในทุกความเร็วรอบ
ไม่เพียงแค่สมรรถนะที่ดีขึ้นเท่านั้น แต่ดีไซน์ห้องโดยสารก็เช่นกัน จากความสลับซับซ้อนและการจัดวางปุ่มต่างๆ ไว้กระจัดกระจายไปหมด รถรุ่นใหม่เรียบง่ายสะอาดตา ทำความเข้าใจและใช้งานง่ายกว่าเดิมชนิดหนังคนละม้วน ความโปร่งโล่งเกิดจากการกำจัดสิ่งบดบังทัศนวิสัยออกไป ตั้งแต่ฝากระโปรงหน้าที่ลาดต่ำ, ใบปัดน้ำฝนซ่อนตัวอย่างแนบเนียน และส่วนบนของแดชบอร์ดที่แบนราบ ร่วมด้วยเสา A ที่ขยับมาด้านหลังมากขึ้น จึงได้มุมมองแบบพาโนรามากว้างถึง 87 องศา เมื่อเทียบกับ 84 องศาของรุ่นก่อนหน้านี้
เช่นเดียวกับชุดเกียร์ ระบบบังคับเลี้ยวก็เป็นของเดิมที่ได้รับการปรับซอฟต์แวร์ควบคุมใหม่ เมื่อรวมเข้ากับฮาร์ดแวร์อย่างการใช้ลูกปืนคอพวงมาลัยที่มีแรงเสียดทานต่ำ, บอลจอยท์ใหม่ และลูกปืนบนแดมเปอร์ใหม่ ส่งให้การตอบสนองฉับไว, เฉียบคม และให้สัมผัสตลอดจนน้ำหนักที่พอเหมาะพอเจาะทุกย่านความเร็ว ตัวพวงมาลัยมีขนาดกำลังดี แอร์แบ็คได้รับการออกแบบมาเพื่อลดการหมุนของศีรษะเมื่อเกิดการชน โดยเฉพาะการชนแนวเฉียง โดยใช้โครงสร้างรูปโดนัทเพื่อประคองศีรษะเอาไว้ จึงช่วยลดการหมุนของศีรษะและลดโอกาสที่สมองจะได้รับบาดเจ็บ
Civic เกรดอื่นๆ มีหน้าปัดดิจิตอล TFT ขนาด 7 นิ้ว ร่วมกับมาตรวัดความเร็วแบบเข็มทั่วไป ส่วนเกรด RS ใช้จอ LCD กว้างเต็มพื้นที่ ขนาด 10.2 นิ้ว แบบดิจิตอลเต็มระบบ สามารถเรียกดูข้อมูลได้หลากหลายครบครัน ส่วนกลางของจอ (ระหว่างมาตรวัดทั้งสอง) สามารถเปลี่ยนมาแสดงภาพดิจิตอลมุมสูงของรถขณะรถขับเคลื่อนได้ โดยมีลูกเล่นเล็กๆ น้อยๆ คือ จะแสดงไฟหน้า, ไฟเบรก และไฟเลี้ยว ได้ตรงตามที่ผู้ขับกำลังใช้งานจริงในขณะนั้น
ยังคงใช้เกียร์ CVT ของเดิม แต่มีทอร์คคอนเวอร์เตอร์ขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อรับมือกับแรงบิดที่มากกว่าเดิม และด้วยพละกำลังเครื่องยนต์ที่มากขึ้น ทำให้อาการ “เร่งรอบสูง” ค้างรอไว้ เมื่อเหยียบคันเร่งลึกๆ (ตามประสาเกียร์ CVT ทั่วไป) ลดน้อยลง ซอฟแวร์ที่ปรับโปรแกรมใหม่ช่วยให้เกียร์ตอบสนองดีกว่าเดิมและขับสนุกยิ่งขึ้นเมื่อเปลี่ยนเกียร์ผ่านแป้นหลังพวงมาลัย แต่เราก็ยังอยากได้รุ่นเกียร์ธรรมดามากกว่าอยู่ดี
เกรด RS ให้จอแสดงผลระบบสัมผัส ขนาด 9 นิ้ว ซึ่งนับเป็นขนาดใหญ่สุดเท่าที่มีในรถยนต์ของ Honda ไอคอนต่างๆ มีขนาดใหญ่, มองเห็นชัดเจน และกดได้ง่าย การตอบสนองรวดเร็วไม่ต่างจากสมาร์ทโฟน นอกจากนั้นยังมีฟังก์ชั่น Smart Shortcuts ที่มีระบบ Machine Learning ซึ่งเรียนรู้และคาดการณ์คำสั่งที่ถูกเรียกใช้งานบ่อยได้เอง โดยเมื่อกดที่ไอคอนมันจะแสดงหัวข้อที่มักจะถูกเรียกใช้ เช่น แสดงชื่อหรือหมายเลขโทรศัพท์ที่โทรเข้าหรือออกบ่อยที่สุดเป็นอันดับแรก เมื่อเข้าเมนูการโทร ผู้ใช้จึงไม่ต้องค้นหาชื่อให้เสียเวลา เป็นต้น
ใช้ตะแกรงโลหะแบบรังผึ้งครอบปิดช่องแอร์อีกชั้นหนึ่ง ผู้ออกแบบตั้งใจให้ตะแกรงนี้เป็นตัวแบ่งพื้นที่แดชบอร์ดระหว่างส่วน “ข้อมูล” ซึ่งก็คือหน้าจอส่วนกลาง และส่วน “ควบคุม” ที่เป็นปุ่มหมุนและกดของระบบปรับอากาศ ออกจากกัน ก้านสำหรับปรับครีบบังคับทิศทางลม เป็นอะไรที่ใช้งานได้ดีและง่ายมาก
ติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมาให้ครบครัน อาทิ เบรกมือไฟฟ้าพร้อมระบบ Hold, การชาร์จไร้สาย และช่อง USB ที่ไม่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ จนใช้งานลำบากเหมือนรุ่นก่อนหน้านี้อีกต่อไป
ยังคงใช้เกียร์ CVT ของเดิม แต่มีทอร์คคอนเวอร์เตอร์ขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อรับมือกับแรงบิดที่มากกว่าเดิม และด้วยพละกำลังเครื่องยนต์ที่มากขึ้น ทำให้อาการ “เร่งรอบสูง” ค้างรอไว้ เมื่อเหยียบคันเร่งลึกๆ (ตามประสาเกียร์ CVT ทั่วไป) ลดน้อยลง ซอฟแวร์ที่ปรับโปรแกรมใหม่ช่วยให้เกียร์ตอบสนองดีกว่าเดิมและขับสนุกยิ่งขึ้นเมื่อเปลี่ยนเกียร์ผ่านแป้นหลังพวงมาลัย แต่เราก็ยังอยากได้รุ่นเกียร์ธรรมดามากกว่าอยู่ดี
เลือกเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้จากสวิตช์ใกล้คันเกียร์ มีให้เลือก 3 รูปแบบ คือ Sport, Normal และ Eco ที่ตอนนี้มันจะสลับสู่โหมดปกติได้อัตโนมัติเมื่อคุณกดคันเร่งลึกลงไป และกลับเข้า Eco เองหลังจากนั้น ต่างจากรุ่นที่แล้วซึ่งไม่สลับให้
เบาะนั่งใช้โครงสร้างภายในแบบใหม่ เพื่อให้การรองรับที่ดีขึ้นทั่วทั้งร่างกาย นั่นรวมถึงแผ่นเรซินที่รองรับร่างกายตั้งแต่เชิงกรานไปจนถึงกระดูกสันหลังส่วนเอว จึงนั่งได้กระชับและมั่นคงยิ่งขึ้น โครงด้านในที่ส่วนล่างของเบาะช่วยโอบรับสะโพกเพื่อลดการเคลื่อนไหวของลำตัวขณะเข้าโค้ง
นี่คือ Civic ที่ดีที่สุดในรอบกว่าทศวรรษของรถรุ่นนี้ ชื่อเสียงเรื่องอรรถรสการขับขี่หวนคืนมาอีกครั้งหลังจากห่างหายไปนาน แต่ข่าวดีกว่านั้นก็คือ รถรุ่นใหม่ขับสนุกยิ่งกว่าคันอื่นๆ ในตระกูลของมัน! พละกำลังเพิ่มขึ้นจากเดิม 5 แรงม้า และ 20 นิวตันเมตร ใช้เกียร์ CVT ชุดเดิม แต่ปรับประสิทธิภาพของทอร์คคอนเวอร์เตอร์และซอฟต์แวร์ใหม่
ในขณะที่น้ำหนักรวมของรถเพิ่มมาอีกเพียง 28 กก. เท่านั้น ผลลัพธ์คือการตอบสนองที่กระฉับกระเฉงกว่ารุ่นก่อนหน้านี้อย่างเห็นได้ชัด สามารถเร่งได้ทันใจขึ้นและทำความเร็วทะลุ 200 กม./ชม. โดยไม่ต้องแช่คันเร่งยาวเหมือนเคย น่าเสียดายที่ในโหมด Manual การเปลี่ยนเกียร์ยังให้สัมผัสปลอมๆ มากไปหน่อย จึงบั่นทอนความสนุกในการขับขี่ลงเล็กน้อย… แน่นอนว่า เราถามหาเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ มากกว่า แต่มีความเป็นไปได้น้อยมากที่ Honda ประเทศไทยจะให้ทางเลือกนี้แก่เรา
ช่วงล่างให้ความนุ่มนวลได้ดีเช่นเคย เพิ่มเติมขึ้นมาคือปราศจากอาการยวบยาบที่ด้านหลังแบบในรุ่นที่แล้ว สิ่งนี้เกิดขึ้นจากโครงสร้างตัวถังที่ได้รับการเพิ่มความแข็งแกร่งเพื่อลดการบิดตัว ร่วมด้วยช่วงล่างที่เซ็ตให้แข็งยิ่งขึ้น รถจึงโคลงตัวน้อยลง ในขณะที่ฐานล้อซึ่งยาวกว่าเดิม 35 มม. ช่วยทดแทนเรื่องความกระด้างจากช่วงล่าง
ทั้งหมดนี้ส่งให้ Civic ใหม่ เคลื่อนตัวได้อย่างมั่นคงทว่านุ่มนวลที่การใช้ความเร็วบนมอเตอร์เวย์หรือทางด่วน แม้มีผู้โดยสารเบาะหลังร่วมเดินทางด้วยก็ตาม นอกจากนั้น ด้วยโครงสร้างที่แข็งแกร่งขึ้นยังช่วยลดเสียงและความสั่นสะเทือนที่ถูกส่งเข้ามาในห้องโดยสารได้อีกทางหนึ่ง ทั้งยังทำให้รถสามารถรับมือกับแรงกระแทกเมื่อเกิดการชนได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
ในทางคดเคี้ยวมันก็ทำได้ดีขึ้นชัดเจนเช่นกัน ต้องขอบคุณซับเฟรมอลูมิเนียมน้ำหนักเบาแบบโครงถักและโครงซี่ที่ด้านหน้า ซึ่งช่วยลดการบิดตัวขณะเข้าโค้ง บวกด้วยความกว้างของฐานล้อหลังที่เพิ่มขึ้นอีกถึง 24 มม. บุชต่างๆ ได้รับการปรับปรุงใหม่ เช่นเดียวกับการเปลี่ยนตำแหน่งสปริงและแดมเปอร์เพื่อลดแรงเสียดทานขณะทำงาน เมื่อผสานเข้ากับระบบบังคับเลี้ยวด้วยไฟฟ้าที่ตอบสนองฉับไวและให้ฟีดแบ็คยอดเยี่ยม จากการใช้โปรแกรมซอฟต์แวร์ใหม่ และบอลจอยท์แบบแรงเสียดทานต่ำ เรื่อยไปถึงลูกปืนของจุดยึดแดมเปอร์ด้านบนแบบใหม่
ส่งให้ Civic เป็นรถที่คุณสามารถสนุกไปกับโค้งรูปแบบต่างๆ ได้หลากหลาย มีอาการอันเดอร์สเตียร์ตามประสารถขับเคลื่อนล้อหน้า แต่ถ้าคุณไม่อัดมันหนักจนเกินไป ก็นับว่าเป็นรถขับเคลื่อนล้อหน้าที่เกาะถนนและควบคุมได้น่าประทับใจทีเดียว โดยรวมแล้ว นี่จึงเป็น Civic ที่ดีกว่าเดิมอย่างชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าคุณโฟกัสไปที่ความสนุกในการขับขี่แล้วล่ะก็… ไม่มีรถรุ่นไหนในคลาสเทียบเคียงมันได้อย่างแน่นอน
SPECIFICATIONS: All-New Honda Civic RS
- Price: 1,199,000 บาท
- Engine: 1498cc 16v 4-cyl turbo, 178hp @ 6000rpm, 240Nm @ 1700-4500rpm
- Transmission: CVT automatic, front-wheel drive
- Performance: n/a
- Weight: 1334kg
TorqueThailand.com
