รีวิว ลองขับ New Mazda CX-3 (MY2022) มาพร้อมกับโทนสีพิเศษ “สีบรอนซ์ Platinum Quartz” รุ่นท็อปสุด 2.0 Comfort กับราคาเพียง 879,000 บาทเท่านั้น
รีวิว ลองขับ New Mazda CX-3 (MY2022) ออฟชั่นที่เพิ่มขึ้น โทนสีใหม่ในราคาเดิม
New Mazda CX-3 (MY2022)
“New Mazda CX-3 คือ ยนตรกรรมอเนกประสงค์ SUV พิกัด Compact ที่จะมาบอกคุณว่า “ความคุ้มค่า” มีอยู่จริง … รวมถึง “บุคลิก” ที่เด่นชัดในเรื่อง “สมรรถนะ” ซึ่งเกิดจากการผสมผสานทั้ง “ความเนียน และความสปอร์ต” อย่างลงตัว”
สำหรับผู้บริโภคในปัจจุบัน ดูเหมือนการเลือกเป็นเจ้าของยนตรกรรมที่ถูกใจซักคันได้กลายเป็นเรื่องยากอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ตั้งแต่เรื่องของตัวเลือกที่มีมากมาย หลากหลายแบรนด์, หลายรุ่น, หลายประเภท และหลายราคา ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นตัวแปรสำคัญ ที่ทำให้ผู้บริโภคต้องตัดสินใจไปตามสภาพเศรษฐกิจ ที่บังคับให้ “ความคุ้มค่า” ต้องมาก่อน
เพราะงั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ตลาดของรถอเนกประสงค์ทั้ง SUV และ PPV จะมีเข้ามามีบทบาทมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าแบรนด์ไหนมีตัวเลือกมาให้มากกว่า แน่นอนว่าต้องได้ถือสิทธ์ครองใจผู้ซื้อในบ้านเราไปอย่างง่ายดาย
และในสายตาเรา Mazda ถือเป็นแบรนด์ระดับหัวแถวที่มีรถอเนกประสงค์ SUV ให้เลือกได้อย่างพร้อมสรรพ ด้วยตระกูล CX-Series ตั้งแต่น้องเล็กสุดอย่าง CX-3 ไล่มาที่ CX-30 ต่อเนื่องด้วย CX-5 และปิดท้ายกับ CX-8 ซึ่งแต่ละรุ่นต่างก็มีบุคลิกเฉพาะตัวไม่เหมือนใคร เพื่อตอบโจทย์สไตล์ความชอบของผู้บริโภคชาวไทย
โดยเราเองก็ผ่านการขับเจ้า CX-Series ทุกรุ่นมาไม่น้อย แต่ที่รู้สึกได้ว่า “เข้ามือ” มากที่สุด ต้องยกให้กับ Mazda CX-3 รถอเนกประสงค์ SUV ขนาดพิกัด Compact ด้วยประเด็นเรื่องของความเหมาะสมทั้ง “ขนาด” และ “สมรรถนะ” ซึ่งประกอบกัน เพื่อสร้างรถ SUV ที่ขับสนุกเร้าใจอย่างชัดเจน รวมถึงครั้งนี้ด้วยเช่นกัน
แล้วก็ไม่ใช่เพียง “ความสนุก” เท่านั้นที่จะได้รับ หากแต่ยังมีเรื่องของความโดดเด่นสะดุดตาที่มากกว่า จากโทนสีพิเศษของเรือนร่างในชื่อ “สีบรอนซ์ Platinum Quartz” รวมถึงการตอกย้ำ “ความคุ้มค่า” ให้มากขึ้นไปอีกระดับด้วยออฟชั่นที่เพิ่มขึ้น และทั้งหมดทั้งมวลที่ว่า คือ รุ่นท็อปสุด 2.0 Comfort กับราคาเพียง 879,000 บาทเท่านั้น
สำหรับในส่วนของ New Mazda CX-3 (MY2022) ที่เห็นอยู่นี้ ต้องบอกตรงๆ ว่าในภาพรวมของ “กายภาพ” นั้นไม่ได้มีการปรับแต่งอะไรมากมายนัก เพราะหลักๆ ยังเป็นพื้นฐานเดิม แต่เพิ่มเติมด้วยสีใหม่ “บรอนซ์ Platinum Quartz” ที่โดดเด่นสะดุดตาตา ส่วนอีกหนึ่งความเปลี่ยนแปลงที่เรามองแล้วว่าดีงาม ก็คือ การอัพเกรดความสปอร์ตขึ้นไปอีกระดับ ด้วยล้ออัลลอยด์ที่ขยับขึ้นมาเป็น 18 นิ้ว จับคู่กับยางซีรี่ส์ 215/50 R18
ขณะที่ภายในห้องโดยสารยังคงมากับออฟชั่นเต็มพิกัด ซึ่งถ้าอยากรู้ว่ามีอะไรบ้าง เราแนะนำให้เปิดแคตตาล็อค หรือ ส่งจากเว็ปไซต์ น่าจะได้ความละเอียดมากกว่า เพราะงั้นเราจึงขอพูดถึงสิ่งที่ยกระดับความ “คุ้มค่า” มากขึ้นไปอีกขั้น ด้วยออฟชั่นอีก 2-3 อย่าง
สำหรับเสิร์ฟความสะดวกสบาย และการตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์มากขึ้น อาทิ เบาะคนขับ ปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง ที่มาพร้อมกับระบบ Memory Seat สำหรับบันทึกตำแหน่ง ตามด้วยระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย (Wireless Charger) และระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ
ประเด็นหลักที่ยังคงสร้างความประทับใจให้เราทุกครั้ง เมื่อขึ้นประจำการหลังพวงมาลัยต้องยกให้ “สมรรถนะ” คือ สิ่งที่ทำให้เรารู้สึกว่าสามารถจับต้องแนวคิด “จินบะ อิไต (Jinba Ittai)” ได้ชัดเจน โดยมีส่วนประกอบจาก เครื่องยนต์เบนซิน Skyactiv-G ขนาด 2.0 ลิตร แบบ 4 สูบ 16 วาล์ว
ฉีดจ่ายเชื้อเพลิงด้วยระบบ Electronic Direct Injection ให้กำลังสูงสุด 156 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 204 นิวตันเมตร ที่รอบเครื่องราวๆ 2,800 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านชุดเกียร์ 6 สปีด Skyactiv-Drive พร้อมระบบ Activematic และฟังก์ชั่น Drive Selection ให้เลือกปรับเปลี่ยนโหมดขับขี่
เสริมทัพด้วยเทคโนโลยี Skyactiv-Vehicle Dynamic ตั้งแต่ ระบบช่วงล่าง อิสระแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ในด้านหน้า และกึ่งอิสระทอร์ชั่นบีม ในด้านหลัง ทั้งยังบังคับให้อยู่ในลู่ในทาง ไปพร้อมๆ กับเน้นความสนุกเร้าใจด้วยระบบควบคุมการขับขี่อัจฉริยะ G-Vectoring Control (GVC)
และด้วยองค์ประกอบดังที่กล่าวมา เพื่อสร้างสรรค์ “สมรรถนะ” นั่นล่ะครับ คือ ส่วนที่ดีที่สุดของ Mazda CX-3 โดยเฉพาะผู้นิยมชมชอบเรื่องการขับ เพราะอันดับแรกเลย คือ บุคลิกที่สามารถสื่อสารความสปอร์ตออกมาให้จับต้องได้อย่างชัดเจนดังที่กล่าวข้างต้น ซึ่งถ้านึกภาพไม่ออกให้ลองนึกถึง Mazda3 ดู เนื่องจากเราสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างที่คล้ายกัน
แต่สิ่งที่ทำให้เรา “เทใจ” ให้ Mazda CX-3 มากกว่า ต้องยกให้กับ “ทัศนวิสัย” ที่ดีงาม จากพื้นฐานของความเป็นรถอเนกประสงค์ SUV ซึ่งมี “ความสูง” เป็นตัวช่วยยกระดับความมั่นใจ รวมถึงเป็นการสื่อสารว่า Mazda CX-3 มีศักยภาพในการขับขี่มากกว่าแค่ใช้งานในเมือง หรือในชีวิตประจำวันอีกด้วย
และนั่นแหละครับ คือ เหตุผลที่ว่าทำไมเราต้องออกนอกเมืองทุกครั้ง ที่มีโอกาสได้จับคู่กับเหล่า Mazda ตระกูล CX-Series แล้วก็ไม่ใช่กับทุกรุ่นนะครับ ด้วยเพราะทั้ง CX-5 และ CX-8 ต่างก็มีความเป็นรถอเนกประสงค์ที่ชัดเจนมากพอ จนเราไม่สงสัยในเรื่องสมรรถนะการขับเดินทางต่างจังหวัดอยู่แล้ว
ขณะที่ Mazda CX-3 หลายคนยังมองว่ามันมีความใกล้เคียงกับ Mazda3 ด้วยเพราะการเพิ่มความสูง แต่บอกตรงๆ ว่าเราอยากให้เปลี่ยนความคิดใหม่ ก่อนจะตอกย้ำให้ชัดเจนอีกครั้งด้วยการไป “ลองขับ” ด้วยตัวเอง
เนื่องจากสถานะของการเป็นรถอเนกประสงค์ SUV และความสูงตัวรถที่เพิ่มขึ้น ทำให้การปรับเซ็ทช่วงล่างนั้นต่างไป จากที่เคยเน้นความสปอร์ตเป็นหลัก ก็มีการเพิ่มส่วนผสมของความเป็นรถครอบครัวมากขึ้น
ทำให้ในทุกรายละเอียดของการขับทั้งบนสภาพถนนที่เรียบเนียน หรือขรุขระ เจ้า Mazda CX-3 สามารถรับมือได้ดีกว่า เพื่อให้ทั้งคุณ และผู้โดยสาร สัมผัสได้ถึงความเพลิดเพลินตลอดการเดินทาง ขณะเดียวกันก็สื่อสารอารมณ์ความสปอร์ตออกมาได้อย่างลงตัว ทั้งจากการตอบสนองของเครื่องยนต์ ไปจนถึงความเฉียบคมของพวงมาลัย ตามสไตล์ยนตรกรรมภายใต้แบรนด์ Mazda
ซึ่งคงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า “สมรรถนะ” ของ Mazda CX-3 มันช่างยั่วยุให้เราใช้ความเร็วมากกว่ากำหนดเล็กน้อย (เอาจริงๆ ก็ไม่น้อยเท่าไหร่) โดยเฉพาะในโค้ง ด้วยเพราะเราชื่นชอบภาพรวมของการปรับแต่งสไตล์ Mazda ที่มีความเฉพาะตัว ไม่ขาด ไม่เกิน เน้นความเหมาะสมกับประเภท หรือรถรุ่นนั้นๆ
และ Mazda CX-3 คือ อีกหนึ่งความเยี่ยมยอดที่สามารถสัมผัสได้ชัดเจนดี ชนิดที่เราสามารถหยิบเอาทักษะการเข้าโค้งสไตล์การขับรถ Sedan มาใช้ได้อย่างแนบเนียน
ตั้งแต่การเบรกแน่นๆ เพื่อ Weight Transfer ก่อนเข้าโค้ง หักพวงมาลัยคมๆ ไปตามองศาโค้ง พร้อมกับค่อยๆ ยกเบรก และเติมคันเร่งเพิ่มความเร็ว ส่งตัวเองทะยานออกโค้งอย่างสวยงาม โดยเราแอบสารภาพตามตรงว่า Mazda CX-3 ให้ความสนุก และเพลิดเพลินในการขับ ได้เหนือกว่าบรรดารถ Sedan ที่ปรับเซ็ทมาเพื่อเน้นความสปอร์ตซะด้วยซ้ำ
เพราะสิ่งหนึ่งที่สังเกตได้ในบางโค้ง ที่มีรอยต่อ มีหลุม มีเนิน การดูดซับแรง ตลอดจนการทรงตัวของ Mazda CX-3 ที่มีช่วงล่างเป็นรถครอบครัวจะมีความนุ่มนวล และรับมือกับสภาพถนนได้ดีกว่า ช่วงล่างที่เน้นความสปอร์ตที่มีบุคลิกออกแนวตึงตัง โดยเฉพาะเมื่อใช้ความเร็วสูงๆ ที่อาจรู้สึกได้ถึงความไม่อยู่กับร่อง กับรอย จากช่วงล่างด้านหลัง
ฉะนั้นถ้าให้เราเลือกระหว่างรถ Sedan ที่เน้นอารมณ์ความสปอร์ตเป็นหลัก กับ Mazda CX-3 รถอเนกประสงค์ที่มีส่วนผสมอันลงตัวของทั้งความสปอร์ต และความนุ่มนวลล่ะก็ บอกได้เลย ว่าเรามีความสุขกับ Mazda CX-3 มากกว่า แล้วก็จะมากกว่านั้นกับโฉมปี 2022 ที่แสนพิเศษ ทั้งจากโทนสีที่สะดุดตา และออฟชั่นที่เพิ่มขึ้นมา ภายใต้ราคาที่พูดได้คำเดียวว่า “ยั่ว” สุดๆ
Specification: New Mazda CX-3 (MY2022)
- Price: 879,000 BHT
- Engine: 1,998 CC / 4 Cylinder 16 Valve / 156 hp @ 6,000 rpm / 204 Nm @ 2,800 rpm
- Transmission: 6A/T – Activematic / Front-Wheel Drive
- Performance: 0 – 100 Km/h @ N/A, Top Speed @ N/A
- Weight: 1,303 Kg.