Breaking News

รีวิว ลองขับ Subaru Forester 2.0i-S EyeSight ที่ปลอดภัยมากขึ้น และขับขี่ได้สนุกเกินคาด

รีวิว ลองขับ Subaru Forester 2.0i-S EyeSight เครื่องยนต์ Boxer ขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 156 แรงม้า ราคา 1,285,000 บาท

รีวิว ลองขับ Subaru Forester 2.0i-S EyeSight ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์สายลุย

รีวิว ลองขับ Subaru Forester 2.0i-S EyeSight ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์สายลุย

Subaru Forester 2.0i-S EyeSight

“เมื่อเทรนด์การใช้รถปัจจุบัน เอนเอียงไปทางรถอเนกประสงค์ จนทำให้หลายผู้ผลิตเข็นโปรดักส์ออกมาให้เลือกมากมาย เพื่อให้เป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น … แต่ถ้าความ “จำเจ” เป็นปัญหาหลัก เราคิดว่า Subaru Forester น่าจะมีคำตอบบางอย่างให้”

รีวิว ลองขับ Subaru Forester 2.0i-S EyeSight ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์สายลุย

รีวิว ลองขับ Subaru Forester 2.0i-S EyeSight ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์สายลุย

รีวิว ลองขับ Subaru Forester 2.0i-S EyeSight ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์สายลุย

รีวิว ลองขับ Subaru Forester 2.0i-S EyeSight ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์สายลุย

สารภาพกันตรงๆ ว่าผมค่อนข้างที่จะเป็น Fan Boy ของค่ายดาวลูกไก่ไม่น้อย ด้วยอะไรบางอย่างที่ทำให้รู้สึกว่าแบรนด์ Subaru มีความ Unique สูง เข้าถึงได้ยาก จนอดคิดไม่ได้ว่าผู้ที่ครอบครองยนตรกรรมจากแบรนด์นี้ ก็ต้องเป็นบุคคลที่ “เป็นตัวของตัวเอง” ค่อนข้างสูงเช่นกัน

แล้วก็ด้วยการตีความของเราเองดังที่กล่าวมานั่นแหละครับ ทำให้คิดว่าการ “เข้าถึงยาก” คือ เสน่ห์ของแบรนด์ Subaru ที่น่าหลงใหล

รีวิว ลองขับ Subaru Forester 2.0i-S EyeSight ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์สายลุย

รีวิว ลองขับ Subaru Forester 2.0i-S EyeSight ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์สายลุย

Fan Boy ทั้งหลาย เมื่อพูดถึงแบรนด์ Subaru สิ่งแรกที่นึกถึงคงเป็นอย่างอื่นไม่ได้นอกจากความร้ายกาจบนทางฝุ่นของตัวแข่งสายแรลลี่ อันมีต้นกำเนิดมาจากขุมพลัง Boxer สูบนอน และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (Symmetrical All-Wheel Drive) ที่ตั้งอยู่บนความ “ดิบ” อันเป็นอัตลักษณ์ ที่สาวกทั่วโลกต่างหลงใหล

รีวิว ลองขับ Subaru Forester 2.0i-S EyeSight ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์สายลุย

รีวิว ลองขับ Subaru Forester 2.0i-S EyeSight ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์สายลุย

นอกจากนี้ เรายังเชื่อว่า ส่วนใหญ่ของประชากรทั่วโลกที่หลงใหล Subaru ต้องมีไม่น้อยที่อยากให้นำเอาความ “ดิบ” จากยุคสร้างชื่อกลับคืนมาอีกครั้ง … แต่หากมองจากมุมของการทำตลาด ดูแล้วความเป็นไปได้ต่ำ เพราะอย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า “ความ Unique สูง” จนถูกมองว่าการ “เข้าถึงยาก ไม่สามารถสร้างผลบวกให้กับยอดจำหน่าย”

Subaru Forester 2.0i-S EyeSight

Subaru Forester 2.0i-S EyeSight

ฉะนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่ยนตรกรรมหลายรุ่นจาก Subaru จะมาพร้อมความเป็นมิตร เพื่อเปิดทางให้เข้าถึงได้ง่าย สังเกตได้จาก Subaru WRX ตัวแรงที่มีชื่อชั้นระดับตำนาน ไล่มาจนถึงรถอเนกประสงค์ ที่ส่วนใหญ่ก็นำเสนอจุดเด่นรอบด้าน ควบคู่ไปกับความเหนือชั้นของระบบขับเคลื่อน …

และ Subaru Forester 2.0i-S EyeSight คือ หนึ่งในนั้น ซึ่งหากคุณไม่ยึดติดกับภาพจำความแรงในอดีต เราบอกได้เลยว่า นี่คือ SUV จากค่ายดาวลูกไก่ ที่น่าสนใจอย่างคาดไม่ถึงทีเดียว

รีวิว ลองขับ Subaru Forester 2.0i-S EyeSight ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์สายลุย

รีวิว ลองขับ Subaru Forester 2.0i-S EyeSight ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์สายลุย

รีวิว ลองขับ Subaru Forester 2.0i-S EyeSight

สำหรับ Subaru Forester ที่มีจำหน่ายในบ้านเรา จะมากับ 2 รุ่นย่อยทางเลือก เริ่มต้นที่ 2.0i-L EyeSight ค่าตัว 1,185,000 บาท ก่อนจะขยับมาเป็นรุ่นสูงสุดที่อยู่กับเราวันนี้ คือ 2.0i-S EyeSight ค่าตัว 1,285,000 บาท พูดง่ายๆ ก็คือ มีส่วนต่างอยู่ราวๆ 100,000 บาท … แล้ว “ส่วนต่าง 100,000 บาท” จะได้อะไรบ้าง มาดูกัน หากจะข้ามรุ่นเริ่มต้น ไปสุดเพดานที่รุ่นท็อป

รีวิว ลองขับ Subaru Forester 2.0i-S EyeSight ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์สายลุย

Subaru Forester 2.0i-S EyeSight

อันดับแรกกับภายนอก ซึ่งทั้ง 2 รุ่นย่อยมีเหมือนกัน แต่เพิ่มเติมในรุ่นท็อปก็คือ ระบบไฟหน้าที่เลี้ยวตามพวงมาลัย SRH พร้อมความอัจฉริยะเวอร์ชั่นใหม่ของ ระบบปรับสูง-ต่ำอัตโนมัติ HBA ส่วนด้านหลังมากับไฟตัดหมอกแบบ LED, ฝาท้ายไฟฟ้า พร้อมระบบป้องกันการหนีบ และจดจำตำแหน่ง ตลอดจนติดตั้งระบบตรวจจับวัตถุด้านหลัง SRVD เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

อีกทั้งยังมีล้ออัลลอยที่ขยับจาก 17 นิ้วเป็น 18 นิ้ว ส่วนฟังก์ชั่นการขับขี่ X-Mode จะมีมาให้ในรุ่นเริ่มต้นเท่านั้น เพราะในรุ่นท็อปเค้าเหนือกว่า ด้วยฟังก์ชั่นที่เรียกว่า Special X-Mode กันเลยทีเดียว

Subaru Forester 2.0i-S EyeSight

สมรรถนะของ Subaru Forester ทั้ง 2 รุ่นย่อย ยังคงมีส่วนประกอบจาก โครงสร้างตัวถัง Subaru Global Platfom มาพร้อมการขับเคลื่อน โดยเครื่องยนต์ Boxer ขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 156 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 196 นิวตันเมตร

ส่งกำลังผ่านชุดเกียร์อัตโนมัติ Lineartronic CVT สู่ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (Symmetrical All-Wheel Drive) ซึ่งมีระบบ SI-Drive ให้เลือกปรับการขับขี่ได้ 2 รูปแบบ ระหว่าง การประหยัดน้ำมันแบบอัจฉริยะ และความเร้าใจสไตล์สปอร์ต เสริมด้วยระบบ Special X-Mode ให้เลือกปรับใช้อย่างเหมาะสมตามสภาวะการขับขี่

Subaru Forester 2.0i-S EyeSight

Subaru Forester 2.0i-S EyeSight

Subaru Forester 2.0i-S EyeSight

หรือพูดง่ายๆ ก็เอาไว้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์สายลุยนี่แหละครับ เพราะบอกตรงๆ ว่าด้วยขีดความสามารถของ Subaru Forester “เค้าทำได้” … แต่ถ้าถามส่วนตัว เราคงไม่พาเค้าไปทำบ่อยๆ เพราะด้วยงานดีไซน์ และอีกหลายๆ อย่าง บอกกับเราว่า ความเหมาะสมที่แท้ทรู ควรอยู่กับการใช้งานปกติทั่วไป แบบไม่ต้องไกลถึงขั้นสายลุย

Subaru Forester 2.0i-S EyeSight

Subaru Forester 2.0i-S EyeSight

ด้วยเหตุนั้น Subaru Forester 2.0i-S EyeSight ที่อยู่กับเรา จึงได้ลุยแต่ป่าคอนกรีตซะเป็นส่วนใหญ่ ตั้งแต่มหาวิบัติงานรถติดระดับชาติทั้งเช้า และเย็นบนเส้นสุขุมวิท ที่หากไม่ได้ความเป็นรถอเนกประสงค์ SUV ซึ่งมีความสูง และความกว้างขวางเป็นทุน เราคงหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก

Subaru Forester 2.0i-S EyeSight

Subaru Forester 2.0i-S EyeSight

ขุมพลังเบนซิน 2 ลิตร อาจดูเรี่ยวแรงน้อยไปนิดกับ 156 แรงม้า หรือแม้กระทั่งแรงบิด 192 นิวตันเมตรเองก็ตาม แต่เมื่อใดที่ได้สัมผัสจะพบว่าตัวเลขระดับนั้น เป็นอะไรที่ “มากพอ” สำหรับการขับเคลื่อน ระบบส่งกำลังแบบ Lineartronic CVT ก็เป็นอีกส่วนที่ต้องชื่นชม เพราะหากเคยสัมผัสการทำงานของเกียร์ CVT จากแบรนด์อื่นมาก่อน คุณจะพบความต่างเล็กๆ ให้สัมผัส

นั่นคือ ความแข็งแกร่งในการถ่ายทอดกำลัง จนทำให้รู้สึกถึง “แรงบิด” แบบเต็มเม็ด เต็มหน่วย ที่ผ่านลงไปสู่ล้อขับเคลื่อนทั้ง 4 และที่สำคัญ คือ สร้างความกระฉับกระเฉงได้ดีซะด้วย โดยเฉพาะเมื่อต้องฝ่าการจราจรสาหัส ที่ต้องอาศัยการขยับโยกหลบซ้ายที ขวาที

Subaru Forester 2.0i-S EyeSight

Subaru Forester 2.0i-S EyeSight

Subaru Forester 2.0i-S EyeSight

Subaru Forester 2.0i-S EyeSight

แต่ถ้าเอาแบบที่ประทับใจไปเลยจริงๆ ก็คือ การเดินทางไกล ที่คุณจะพบความสบายในการขับขี่อย่างคาดไม่ถึง ทั้งจากคุณสมบัติความเป็นรถอเนกประสงค์ SUV และสมรรถนะ ที่มีความต่อเนื่องนุ่มนวล ในการถ่ายทอดพละกำลังจากเครื่องยนต์ ผ่านชุดเกียร์อัตโนมัติ Lineartronic CVT

ซึ่งถ้าไม่รีบเร่งอะไรนัก ทั้งการ Kick Down, Manual Mode หรือแม้กระทั่ง Paddle Shift ก็แทบไม่มีความจำเป็นมากเท่าไหร่ เพราะแค่เพิ่มน้ำหนักเท้าขวาลงไปก็เพียงพอแล้วต่อการขยับความเร็ว เว้นแต่ถ้าอยากเพิ่มความสนุก เร้าใจขึ้นอีกระดับ สิ่งที่เรากล่าวมาทั้งหมด คือ สิ่งที่สามารถช่วยได้

Subaru Forester 2.0i-S EyeSight

Subaru Forester 2.0i-S EyeSight

โดยภายใต้ความสนุก เร้าใจที่ว่ามา นั้นตั้งอยู่บนพื้นฐานของความปลอดภัย และมั่นใจ ด้วยสิ่งที่สาวกดาวลูกไก่ทั่วโลกรู้จักดีกับ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Symmetrical All-Wheel Drive สร้างอรรถรสที่แตกต่าง โดยเฉพาะในทางโค้งที่รับรู้ได้ถึงแรงยึดเกาะที่มีเสถียรภาพ พร้อมความเฉียบคม และน้ำหนักของพวงมาลัยที่แปรผันอย่างลงตัว กลายเป็นความสนุก

ที่เราพนันว่าคุณจะไม่พบในรถอเนกประสงค์ SUV รุ่นใดๆ ก็ตาม ด้วยเพราะระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ของ Subaru Forester ที่ยกระดับความเหนือกว่าให้เห็นอย่างเด่นชัด จนเป็นอีกหนึ่งความ Unique ที่สามารถจับต้องได้

Subaru Forester 2.0i-S EyeSight

Subaru Forester 2.0i-S EyeSight

ยิ่งถ้าจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด เกิดขึ้นจากคำว่า “จำเจ” ในการเลือกคบหารถอเนกประสงค์ SUV ซักคัน เราคิดว่า Subaru Forester 2.0i-S EyeSight น่าจะเป็นอีกตัวเลือกที่ช่วยต่อยอด ความมีสไตล์ให้กับผู้เป็นเจ้าของได้ดี เหนืออื่นใด ก็คือ สิ่งที่ได้กลับมา

ทั้งเรื่อง “สมรรถนะ” และ “ความปลอดภัย” ซึ่งพูดได้ว่า “ประทับใจ” ทุกครั้งเมื่อได้ลองขับ เพราะเราสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่า เป็นอีกหนึ่งยนตรกรรมที่ช่วยเติมเต็มการใช้ชีวิตได้อย่างแท้จริง

Subaru Forester 2.0i-S EyeSight

Specification: Subaru Forester 2.0i-S EyeSight

  • Price: 1,285,000 BHT
  • Engine: 1,995 CC / 4 Cylinder / 16 Valve 156 hp @ 6,000 rpm / 196 Nm @ 4,000 rpm 
  • Transmission: Lineartronic CVT / All-Wheel Drive
  • Performance: 0 – 100 Km/h @ 10.3 Sec / Top Speed @ 193 Km/h
  • Weight: 1,553 Kg.

Check Also

Kia EV5 Earth Exclusive AWD 2024

รีวิว ลองขับ Kia EV5 Earth Exclusive AWD รถไฟฟ้าจากเกาหลี ที่เติมอรรถประโยชน์ในการใช้งานที่คุ้มค่า

รีวิว ลองขับ Kia EV5 Earth Exclusive AWD มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ขับเคลื่อนสี่ล้อ ให้กำลังสูงสุด 230 แรงม้า แรงบิด 480 นิวตัน-เมตร …