Breaking News

เชฟโรเลต แนะนำ เคล็ดลับ การขับแบบออฟโรดอย่างปลอดภัย

เชฟโรเลต แนะนำ เคล็ดลับ การขับแบบออฟโรดอย่างปลอดภัย ด้วยรถอเนกประสงค์เทรลเบลเซอร์ และรถกระบะโคโลราโด ซึ่งถือว่าเป็นรถที่มีประสิทธิภาพรุ่นหนึ่งในตลาดรถยนต์

เชฟโรเลต แนะนำ เคล็ดลับ-การขับแบบออฟโรดอย่างปลอดภัย-Chevrolet Trailblazer-2.jpg
Chevrolet Trailblazer

เชฟโรเลต แนะนำ เคล็ดลับ การขับแบบออฟโรดอย่างปลอดภัย

การขับขี่แบบออฟโรดนั้น ผู้ขับขี่จำเป็นต้องมีทักษะ และความชำนาญในการขับขี่ และต้องมีความเข้าใจในลักษณะภูมิประเทศ และสภาวะต่าง ๆ รวมถึงเข้าใจในสมรรถนะของรถยนต์ด้วย ซึ่งถึงแม้ว่าผู้ขับขี่จะมีทักษะ และเข้าใจถึงสิ่งที่กล่าวมาข้างต้นแล้วก็ตาม การขับขี่แบบออฟโรดก็อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อคุณได้

เชฟโรเลต จึงขอแนะนำข้อควรระมัดระวัง และการวางแผนในการขับขี่แบบออฟโรด ตลอดจนเคล็ดลับการขับออฟโรดในการเดินทางไปในทุกที่ด้วยรถอเนกประสงค์เทรลเบลเซอร์ และรถกระบะโคโลราโด ซึ่งรถทั้งสองรุ่นนั้นเป็นรถที่จัดอยู่ในกลุ่มรถยนต์ที่มีประสิทธิภาพ และความสามารถมากที่สุดรุ่นหนึ่งในตลาดรถยนต์

เตรียมตัวสำหรับการขับเคลื่อนสี่ล้อ

โดยปกติทั่วไปแล้วรถอเนกประสงค์ และรถกระบะ มักจะใช้งานระบบขับเคลื่อนสองล้อเสียเป็นส่วนใหญ่ แต่สามารถขับเคลื่อนแบบสี่ล้อได้เมื่อต้องขับขี่แบบออฟโรด หรือเผชิญกับสถานการณ์ที่ท้าทายต่าง ๆ เช่น ฝนตกหนัก ถนนที่เต็มไปด้วยดินโคลน หรือพื้นผิวถนนที่ลื่น เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ดังกล่าวการขับขี่โดยใช้ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อจะมีประโยชน์เป็นอย่างมาก ระบบการขับเคลื่อนสี่ล้อของรถอเนกประสงค์เทรลเบลเซอร์ และรถกระบะโคโลราโด สามารถช่วยเพิ่มแรงฉุดลากได้ด้วยการถ่ายกำลังของเครื่องยนต์ไปยังล้อทั้งสี่ล้อ

  • ระบบขับเคลื่อนสองล้อด้วยความเร็วสูง หรือ โหมดทูไฮ (2H – Two-Wheel Drive High) มักใช้สำหรับการขับขี่บนถนนทั่วไป และไฮเวย์
  • ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อด้วยความเร็วสูง หรือ โหมดโฟร์ไฮ (4H – Four-Wheel Drive High) ใช้เมื่อต้องการเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะบนผิวถนนลื่น
  • ตำแหน่งเกียร์ว่าง หรือ โหมด N (Neutral) ใช้เมื่อต้องลากจูง
  • โหมดโฟร์โลว์ (4L- Four-Wheel Drive Low) ใช้เมื่อขับบนทราย หรือ ดินโคลน หรือ เมื่อต้องขึ้น/ลงเนินที่มีความลาดชันสูง

ทำความคุ้นเคยกับรถยนต์ของคุณ

คุณควรรู้ความกว้าง ความสูง สมรรถนะ แรงบิด และระบบช่วยเหลือทั้งหมดของรถคุณ เพื่อที่คุณจะได้ตัดสินใจได้อย่างถูกต้องและทันท่วงทีในการใช้รถยนต์ให้เหมาะสมกับถนนที่มีสภาพพื้นผิวที่หลากหลาย ควรทำความเข้าใจกับฟีเจอร์ระบบช่วยเหลือต่าง ๆ ในรถยนต์ของคุณ รวมถึง

  • ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค Antilock Brake System (ABS)
  • ระบบเสริมแรงเบรก (Brake Assist)
  • ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว Electronic Stability Control (ESC)
  • ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (Grade Braking) โหมดลงทางลาดชัน
  • ระบบป้องกันการไหลของรถเมื่อขึ้นทางชัน Hill Start Assist (HSA)
  • ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางชัน Hill Descent Control (HDC)
  • ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและการลื่นไถล Traction Control System (TCS)

เตรียมตัวให้พร้อม

เครื่องมือ และอุปกรณ์ต่าง ๆ ต่อไปนี้จะมีประโยชน์ในสภาวะคับขัน ไม่ว่าจะเป็นยางออลเทอร์เรน (AT) และยางอะไหล่ขนาดเท่ายางที่ใช้งาน (full-size) เครื่องวัดความดันของลมในยาง ชุดอุปกรณ์เติมลมยางแบบอิเลคทรอนิกส์ แม่แรงหนุนรถสูง/แม่แรงยกของสูง ชุดรักษาความปลอดภัย รวมถึงชุดปฐมพยาบาล และเครื่องดับเพลิง ชุดวินซ์/กว้าน ยึดหรือผูกกับสายรัด เครื่องมืออเนกประสงค์ พลั่วและขวาน วิทยุสื่อสารคลื่นความถี่ประชาชน (CB) เข็มทิศ และไฟฉาย

นั่งในตำแหน่งที่เหมาะสม

สิ่งแรกที่ผู้ขับขี่ควรทำ คือ การปรับตำแหน่งเบาะที่นั่งให้เหมาะสมกับรูปร่างของตนเอง และคาดเข็มขัดนิรภัย เพราะจะช่วยให้ผู้ขับขี่รักษาตำแหน่งที่นั่งได้เมื่อต้องขับขึ้น/ลงเนินเขาที่สูงชัน

จับพวงมาลัยให้ถูกต้อง

วางมือของคุณบนพวงมาลัยที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกา และ 9 นาฬิกา จับพวงมาลัยให้กระชับโดยให้นิ้วโป้งทั้งสองข้างชี้ขึ้น ไม่ควรสอดนิ้วโป้งเข้าไปในพวงมาลัยเมื่อต้องขับขี่แบบออฟโรด เพราะเมื่อรถยนต์ชนกับหินหรืออุปสรรคอื่น ๆ พวงมาลัยจะหมุนอย่างรวดเร็วและอาจจะทำให้นิ้วโป้งหรือข้อมือของคุณได้รับบาดเจ็บ

เพิ่มแรงฉุดลาก เมื่อต้องขับขี่บนพื้นผิวถนนที่ไม่แน่น ลาดชัน หรือเปียกลื่น

ไม่ควรเหยียบคันเร่งมากเกินไป เพราะอาจจะทำให้รถเสียการทรงตัวบนถนนที่พื้นผิวไม่แน่น ทำให้ควบคุมรถได้ยาก

  • ใช้เกียร์ต่ำ และขับช้า ๆ
  • หากเป็นไปได้ ให้ขับทั้งขึ้น และลงเขา
  • ชะลอความเร็วเมื่อใกล้ถึงยอดเขา
  • ห้ามลงเขาด้วยเกียร์ว่างในตำแหน่ง N (Neutral)
  • เมื่อต้องขับรถลงเขา บังคับพวงมาลัยให้ตรง และใช้เกียร์ต่ำ เพราะกำลังเครื่องจะส่งไปยังเบรก เพื่อชะลอความเร็ว และช่วยให้สามารถควบคุมรถยนต์ได้

ออกตัวอีกครั้ง เมื่อเครื่องยนต์ดับ

  • เหยียบเบรกเพื่อหยุดรถ เปลี่ยนเกียร์ให้อยู่ที่ตำแหน่ง P (Park) จากนั้นสตาร์ทเครื่องยนต์อีกครั้ง
  • หากรถดับเมื่อกำลังขับขึ้นเขา ให้เปลี่ยนเกียร์ไปที่ R (Reverse) ปล่อยเบรก และถอยตรงลงมา อย่าพยายามกลับรถ ถ้าเนินลาดชันมากจนทำให้เครื่องยนต์ดับได้ ก็สามารถทำให้รถคว่ำได้เช่นกัน
  • หากรถดับเมื่อกำลังขับลงเขา ให้เปลี่ยนมาใช้เกียร์ต่ำ ปล่อยเบรก และขับตรงลงเขา
  • หากไม่สามารถสตาร์ทเครื่องยนต์อีกครั้งได้ ให้ดึงเบรกมือ เปลี่ยนเป็นเกียร์ P (Park) และดับเครื่อง ลงจากรถ และขอความช่วยเหลือ

ขับขี่ผ่านน้ำลึก

  • ถ้าน้ำไม่เชี่ยว และระดับน้ำไม่ลึก ให้ขับผ่านอย่างช้า ๆ ถ้าขับขี่ด้วยความเร็วสูงเกินไป จะทำให้น้ำเข้าเครื่องยนต์ และสามารถทำให้เครื่องยนต์ดับได้
  • ก่อนที่จะขับลงไปในน้ำ ให้ปิดแอร์ และเปิดกระจกทั้ง 4 บาน
  • ค่อย ๆ ขับลงน้ำด้วยความเร็วไม่เกิน 3 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเพิ่มความเร็วเป็น 6 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่ออยู่ในน้ำ
  • เมื่อขับรถพ้นจากน้ำ ให้เหยียบเบรกหลาย ๆ ครั้ง เพื่อรีดน้ำออกจากผ้าเบรค

เกี่ยวกับเชฟโรเลต

เชฟโรเลต ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2454 ในเมืองดีทรอยท์ เป็นหนึ่งในบริษัทด้านยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยดำเนินธุรกิจอยู่มากกว่า 100 ประเทศ จัดจำหน่ายรถยนต์ และรถกระบะกว่า 4 ล้านคันต่อปี เชฟโรเลตนำเสนอยานยนต์ที่มีความคุ้มค่า ประหยัดน้ำมัน สมรรถนะที่เหนือชั้น การออกแบบอันโดดเด่น มีความปลอดภัยทั้งแบบแอคทีฟและแพสซีฟ รวมถึงเทคโนโลยีที่ใช้งานง่ายให้แก่ลูกค้า

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถเชฟโรเลตทุกรุ่น

Check Also

MG New Year’s Super Deal Campaign 2024

เอ็มจี จัดแคมเปญ ‘NEW YEAR’S SUPER DEAL’ ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567 ที่โชว์รูมและศูนย์บริการ เอ็มจี 140 แห่ง ทั่วประเทศ ข้อเสนอเดียวกับมอเตอร์เอ็กซ์โป 2024   

บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย มอบความคุ้มค่าผ่านแคมเปญ MG …