Breaking News

ประวัติความเป็นมาของ Porsche Targa

ข่าวสด รถยนต์ วันนี้: ประวัติความเป็นมาของ Porsche Targa และแนวคิดในการพัฒนา ทาร์กา (Targa) นิยามใหม่แห่งประสบการณ์ขับขี่รถสปอร์ตปอร์เช่

History of the Porsche Targa
Model year 1990; front 911 Carrera 4 3,6 Cabriolet;middle 911 Carrera 4 3,6 Targa; in the back 911 Carrera 4 3,6 Coupé

ข่าวสด รถยนต์ วันนี้: ประวัติความเป็นมาของปอร์เช่ ทาร์กา (Porsche Targa)

หากคุณกำลังค้นหา Wallpaper รูปรถสวยๆ

เราขอแนะนำ Wallpaper รูปรถสวยๆ Download wallpaper ที่นี้

ประวัติความเป็นมาของ Porsche Targa

History of the Porsche Targa
Porsche 911 2,0 Targa, model year 1967

สตุ๊ทการ์ท. ปอร์เช่ เผยโฉม 911 ทาร์กา (911 Targa) เป็นครั้งแรกในงานมหกรรมยานยนต์ International Motor Show ณ เมือง Frankfurt ในเดือนกันยายนปี 1965 ทาร์กา (Targa) คือยนตรกรรมสปอร์ตที่ไม่ได้เป็นทั้งรถเปิดประทุน หรือ รถคูเป้ 2 ประตู และไม่ได้เป็นทั้งรถหลังคาแข็ง หรือ รถ 4 ประตูซาลูนนี่คือการถือกำเนิดของสิ่งใหม่: รถสปอร์ตเปิดหลังคาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความปลอดภัยที่สุดในโลกด้วยอุปกรณ์นิรภัยโรลบาร์แบบติดตั้งถาวร การขับขี่ในขณะที่สัมผัสกับบรรยากาศแห่งธรรมชาติแสนรื่นรมย์อย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อนในรถยนต์เปิดหลังคาอื่น ๆ ต้องยกประโยชน์ดังกล่าวให้แก่ชุดหลังคาแบบพับรวมทั้งหน้าต่างพลาสติกบานหลังที่สามารถถอดเก็บได้:

ไม่ว่าจะเป็นการเปิดหลังคาอย่างเต็มรูป แบบตั้งแต่หน้าจรดท้าย หรือเปิดเพียงหลังคาช่วงกลางตัวรถ หรือแม้แต่การพับเก็บหน้าต่างบานหลังลงแนวคิดในการพัฒนาทาร์กา (Targa) คือสัญญาณเริ่มต้นของปรัชญาในการส่งมอบประสบการณ์การขับขี่อันหลากหลายจาก ปอร์เช่ซึ่งไม่ได้มีผลต่อเนื่องไปถึงสายพันธุ์รถสปอร์ต 911 ในอนาคตเท่านั้นแต่ยังรวมถึงรถยนต์รุ่นอื่น ๆ ของปอร์เช่อีกด้วย อาทิ ปอร์เช่ 914 (Porsche 914) หรือ คาร์เรร่า จีที (Carrera GT)

History of the Porsche Targa
At the Hockenheimring Porsche 911 2,0 Targa, model year 1967
  • ที่มาของสมญานาม ทาร์กา ฟลอริโอ (Targa Florio)

ผลพวงจากแนวทางการพัฒนาใหม่ และกระแสต่อต้านการใช้งานรถเปิดประทุนในประเทศสหรัฐอเมริกา ทำให้ปอร์เช่ต้องเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่รถยนต์เปิดประทุนให้กลุ่มลูกค้าชาวอเมริกัน จึงได้มีการพิจารณานำเอาชื่อของสนามแข่งที่ปอร์เช่ประสบความสำเร็จในการประลองความเร็วมาเป็นส่วนหนึ่งของการตัดสินใจตั้งชื่อรถยนต์รุ่นใหม่หนึ่งในรายชื่อที่น่าสนใจเป็นอันดับต้น ๆ คือ ทาร์กา ฟลอริโอ (Targa Florio) สนามแข่งรถในแคว้นซิซิลี ที่ซึ่งปอร์เช่ได้สรรสร้างผลงานอันยอดเยี่ยมประดับวงการกีฬามอเตอร์สปอร์ตเอาไว้ตั้งแต่ช่วงกลางยุค 1950

ในระยะแรก คำว่า “911 ฟลอริ (911 Flori)” คือชื่อที่ถูกนำมาพิจารณาจนกระทั่ง Harald Wagner หัวหน้าฝ่าย Domestic Sales หาคำตอบที่ทุกคนต้องฉุกคิดผ่านคำถามที่ว่า: “ทำไมเราถึงไม่เรียกมันว่า ทาร์กา (Targa)ในภาษาอิตาลี ซึ่งมีความหมายว่า “ป้ายทะเบียน”

History of the Porsche Targa
New York 1967 912 Targa, model year 1968

หลังจากนั้นตำนานก็ได้เริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาในทันทีที่ข้อความดังกล่าวปรากฎบนโบรชัวร์ในเดือนสิงหาคม ปี 1965 ปอร์เช่ได้จดสิทธิบัตรชื่อ ทาร์กา (Targa) ต่อมาในช่วงฤดูใบไม้ร่วงของปี 1966 ทาร์กา (Targa) ได้รับการเปิดตัวเพื่อเสริมทัพเพิ่มเติมจากรุ่นตัวถังคูเป้ สำหรับปอร์เช่ 911, 911 เอส (911 S) และ 912 และตั้งแต่ปลายฤดูร้อน ของปี 1967 ลูกค้าทาร์กา (Targa) สามารถเลือกสั่งติดตั้งอุปกรณ์พิเศษ หน้าต่างบานท้ายแบบถาวรพร้อมระบบไล่ฝ้า ผลิตจากกระจกนิรภัย แทนที่หน้าต่างพลาสติกพับได้ในแบบปกติ โดยอุปกรณ์ดังกล่าวได้กลายเป็นมาตรฐานในปีถัดมา และยังคงถูกติดตั้งใน ทาร์กา (Targa) ทุกรุ่น ไม่เปลี่ยนแปลงจนกระทั่งปี 1993

History of the Porsche Targa
Porsche Type 911 2,7; model year 1974
  • อุปกรณ์พิเศษสำหรับ ทาร์กา (Targa) รุ่นตัวถัง G series

ทาร์กา (Targa) ยังคงได้รับการบรรจุให้เป็นหนึ่งในรุ่นตัวถังที่ผลิตออกมาทำตลาดในปอร์เช่ 911 เจเนอเรชันที่ 2 G series ซึ่งถูกสร้างขึ้นในช่วงปลายฤดูร้อนของปี 1973 นับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งแรกของตัวถัง 911 ด้วยการติดตั้งกันชน box-shaped สีดำแบบใหม่ตอบรับกฎหมายด้านความปลอดภัยฉบับใหม่ของสหรัฐอเมริกา อุปกรณ์ดังกล่าวสามารถรองรับแรงกระแทกที่ความเร็วไม่เกิน 8 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยไม่เกิดความเสียหายถึงตัวถังรถยนต์ ทั้งนี้ในส่วนของงานออกแบบ ระบบหลังคาของ ทาร์กา (Targa) ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในทางเทคนิครูปลักษณ์ภายนอก

History of the Porsche Targa
Porsche 911 S 2,7 Targa, model year 1975

ได้รับการปรับเปลี่ยนโรลบาร์ของหลังคาทาร์กา (Targa) เดิมเป็นสแตนเลสปัดเงา สามารถเปลี่ยนเป็นสีดำได้ จวบจนการมาถึง ของปอร์เช่ 911 เอสซี คาบริโอ (Porsche SC cabrio) เปิดตัวเสริมทัพในเดือนมกราคม ปี 1983 นับเป็นอีกครั้งที่ลูกค้าปอร์เช่จะได้ขับขี่รถสปอร์ต เปิดประทุนแบบเปิดหลังคาเต็มตัว อย่างไรก็ตาม ทาร์กา (Targa) ยังคงวางจำหน่ายจนกระทั่งสิ้นสุดระยะเวลาการทำตลาดของตัวถัง G series ในปี 1989

History of the Porsche Targa
Porsche 911 Carrera 3,2 Targa, model year 1989
  • รหัสตัวถัง 964 พร้อมการเปลี่ยนแปลงกว่า 85 เปอร์เซ็นต์ แต่ยังคงความคลาสสิกสไตล์ ทาร์กา (Targa)

เข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง ปี 1988 ปอร์เช่เปิดตัว 911 ขับเคลื่อน 4 ล้อ รุ่นแรก ภายใต้ชื่อ 911 คาร์เรร่า โฟร์ (911 Carrera 4) รหัสตัวถัง 964 สานต่อตำนานสุดยอดยนตรกรรมสปอร์ตเจเนอเรชันที่ 3 จากโรงงาน Zuffenhausen ปอร์เช่ยังคงรักษาเอกลักษณ์รูปทรงตัวถังคลาสสิกของ 911 เอาไว้เช่นเดิม แต่ภายใต้ความอนุรักษ์นิยมดังกล่าว ชิ้นส่วนอะไหล่กว่า 85 เปอร์เซ็นต์ของตัวรถล้วนได้รับการเปลี่ยนใหม่หลังจากนั้นเพียง 1 ปี รุ่นขับเคลื่อนล้อหลังสไตล์ดั้งเดิมก็ได้รับการเผย โฉมออกมา ภายใต้ชื่อ 911 คาร์เรร่า 2 (911 Carrera 2)

แต่ทั้งหมดยังคงทำตลาดผ่านรูปแบบตัวถัง 3 ทางเลือกเช่นเดิม: นั่นคือ 2 ประตูคูเป้ (Coupé), เปิดประทุน คาบริโอเล็ต (Cabriolet) และ ทาร์กา (Targa) ปอร์เช่ 911 คาร์เรรา 2 ทาร์กา (Porshce Carrera 2 Targa) และ 911 คาร์เรร่า 4 ทาร์กา (911 Carrera 4 Targa) ที่ถูกผลิตขึ้นจนถึงปี 1993 ยังคงความคลาสสิกสไตล์ ทาร์กา (Targa) ด้วยโรลบาร์ และหลังคาช่วงกลางตัวถังที่สามารถเปิดได้ปอร์เช่รุ่นทาร์กา (Targa) ทั้งสิ้นจำนวน 87,663 คัน ได้รับการสร้างขึ้นใน 3 เจเนอเรชันแรกของสายพันธุ์ 911

History of the Porsche Targa
911 Carrera 2 3,9 Targa, model year 1990
  • วิวัฒนาการจาก ทาร์กา (Targa) โรลบาร์ สู่ 911 ทาร์กา (911 Targa) หลังคากระจก รหัสตัวถัง 993

เจเนอเรชันที่ 4 ของปอร์เช่ 911 รหัสตัวถัง 993 เปิดตัวครั้งแรกในช่วงฤดูใบไม้ร่วงของปี 1993 ผสมผสานการพัฒนาทั้งด้านงานออกแบบตัวถังใหม่พร้อมแนวคิดของหลังคาทาร์กา (Targa) รูปแบบใหม่ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ปี 1995 เป็นครั้งแรกสำหรับปอร์เช่ 911 ที่ซุ้มล้อหน้ามีขนาดที่กว้าง และแบนราบมากขึ้นอย่างชัดเจนในส่วนของซุ้มล้อหลังได้รับการขยายความกว้าง และวางเส้นสายในแนวตรงไปยังส่วนท้ายของรถเช่นกันกับการพัฒนาขุมพลังเครื่องยนต์ และระบบช่วงล่างให้ดีเยี่ยมยิ่งขึ้น

History of the Porsche Targa
911 Targa 3,6 Coupé,model year 1996

รหัสตัวถัง 993 มีการเปลี่ยนแปลงทิศทางการออกแบบของรุ่น ทาร์กา (Targa) ใหม่ทั้งหมด โดยตัดทาร์กา (Targa) โรลบาร์ออกแทนที่ด้วยหลังคากระจกฉนวนกันความร้อนวางตำแหน่งตั้งแต่กรอบกระจกบังลมหน้า จนถึงท้ายรถรักษาคุณลักษณะของโครงสร้างนิรภัยตลอดแนวตัวถังรถเอาไว้ได้เป็นอย่างดี ควบคุมกลไกการเปิดปิดด้วยระบบไฟฟ้าให้การทำงานที่ราบรื่นเพียงปลายนิ้วสัมผัส พับหลังคาเก็บซ่อนใต้กระจกบังลมหลังอย่างแนบเนียนเฉก เช่น ระบบหลังคาซันรูฟ

History of the Porsche Targa
911 Targa 3,6 (285 PS) Interior (1996)

ข้อดีของหลังคาสไตล์ใหม่นี้คือ ระดับเสียงรบกวนจากลมปะทะในขณะที่ปิดหลังคาจะลดลง ด้วยวัสดุภายในทนความร้อนคุณภาพสูงบุคลิกเฉพาะตัวที่ถ่ายทอดมาสู่ ทาร์กา (Targa): คือแนวกระจกบังลมหลังที่ลู่ลง โดยทาร์กา (Targa) รหัสตัวถัง 993 คือส่วนผสมอันลงตัวระหว่างสุนทรียภาพแห่งการขับขี่รถยนต์เปิดประทุน ให้เป็นหนึ่งเดียวกับสมรรถนะชั้นเลิศของปอร์เช่ 911 โดยปราศจากการปรับเปลี่ยนที่เกินจำเป็นจากรูปทรงสุดคลาสสิก ของตัวถัง 2 ประตูคูเป้

History of the Porsche Targa
911 Targa 3,6, model year 2002
  • 911 ทาร์กา (911 Targa) รหัสตัวถัง 996 มุมมองใหม่ในสไตล์ ทาร์กา (Targa)

ปอร์เช่ นำเสนอยนตรกรรมสปอร์ตเจเนอรชันที่ 5 ด้วย 911 คาร์เรร่า (911 Carrera) รหัสตัวถัง 996 ในปี 1997 ที่ได้รับการปรับงานออกเเบบอย่างสมบูรณ์ และติดตั้งขุมพลังเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ 6 สูบนอนระบายความร้อนด้วยน้ำเป็นครั้งแรก สำหรับตัวถังทาร์กา (Targa) ทำตลาดตั้งแต่เดือนธันวาคม ปี 2001 เคียงข้างกับพี่น้องตัวถังคูเป้ (Coupé) และคาบริโอเล็ต (Cabriolet) เช่นเดียวกันกับรุ่นก่อนหน้า ปอร์เช่ 911 ทาร์กา (Porsche 911 Targa) มีระบบควบคุมการทำงานของหลังคาด้วยไฟฟ้า และมีพื้นที่ส่วนหลังคาเปิดมากกว่า 1.5 ตารางเมตร ซึ่งนับเป็นพื้นผิวกระจกที่มากที่สุดของปอร์เช่ 911 (911 Targa)

History of the Porsche Targa
Porsche 911 Targa, model year 2002

นอกจากนี้ ทาร์กา (Targa) รุ่นใหม่ ยังถือเป็น 911 คันแรกที่มาพร้อมกระจกบังลมหลังที่สามารถเปิดได้ส่งผลต่อความสะดวกสบายในการเข้าถึงห้องเก็บสัมภาระท้ายรถ รวมทั้งเพิ่มความจุสูงสุดกว่า 230 ลิตร สามารถบรรจุกระเป๋าเสื้อผ้า หรือกระเป๋าเดินทางได้มากขึ้นตามมาด้วยปอร์เช่ 911 ทาร์กา 4 (Porsche 911 4) และทาร์กา 4 เอส (Targa 4S) รหัสตัวถัง 997 มีการลดน้ำหนักของบานกระจก เป็นการเพิ่มทางเลือกด้วย 2 รุ่นย่อยเป็นครั้งแรก เปิดตัวในเดือนกันยายน ปี 2006 นับเป็น 911 ทาร์กา (911 Targa) เจเนอเรชันที่ 6 รหัสตัวถัง 997 โดยทั่วไปหลังคา ทาร์กา (Targa) ของรุ่นนี้

History of the Porsche Targa
911 Targa 4S 3,8, model year 2006

มีงานออกแบบที่ไม่แตกต่างจากรุ่นก่อนหน้าแต่อย่างใด เพียงแค่เพิ่มเติมชุดบานพับหลังที่ง่ายต่อการใช้งานยิ่งขึ้น ชิ้นส่วนหลังคาผลิตจาก กระจกชนิดพิเศษช่วยให้ลดน้ำหนักลงได้ถึง 1.9 กิโลกรัม ประดับด้วยแถบอะลูมิเนียมปัดเงาเดินคู่ตลอดแนวหลังคาซ้าย จรดขวาให้มุมมองทางสายตาที่โดดเด่นสง่างาม ตอบสนองความต้องการของผู้ขับขี่โดยสามารถเลือกระดับความแรงใน รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อได้เป็นครั้งแรก ในปอร์เช่ 911 ทาร์กา โฟร์ (Porsche 911 Targa 4) และ 911 ทาร์กา โฟร์ เอส (911 Targa 4S)

History of the Porsche Targa
911 Targa 4S, model year 2009
  • 911 ทาร์กา (911 Targa) รหัสตัวถัง 991 การหวนคืนของตำนาน ทาร์กา (Targa) โรล บาร์

ในเดือนกันยายน ปี 2011 ปอร์เช่เผยโฉมทายาทลำดับที่ 7 ด้วย 911 รูปลักษณ์ใหม่ นำทัพมาก่อนโดยรุ่นตัวถัง 2 ประตูคูเป้ (coupé) และตัวถังเปิดประทุน คาบริโอเล็ต (cabriolet) สำหรับ 911 ทาร์กา (911 Targa) เปิดตัวครั้งแรกของโลกในเดือนมกราคม ปี 2014 ในฐานะรถสปอร์ตคลาสสิกร่วมสมัยพร้อมนวัตกรรมหลังคา ทาร์กา (Targa) ทั้งนี้แนวคิดในการออกแบบหลังคา ทาร์กา (Targa) ในอดีตประสบความสำเร็จจากการผสมผสานทั้งศาสตร์ และศิลป์ที่ช่วยให้การใช้งานเป็นไปอย่างสะดวกสบาย เช่นเดียวกันกับจุดกำเนิดของทาร์กา (Targa)

History of the Porsche Targa
Branding Targa 2014

รถยนต์รุ่นใหม่นั้นมีเสา B-pillars ขนาดใหญ่คาดกลางรถที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวส่วนของหลังคาที่เปิดออกได้บริเวณเหนือพื้นที่เบาะนั่งคู่หน้าและชิ้นงาน กระจกบังลมหลังที่โอบล้อมส่วนท้ายของรถโดยปราศจากเสา C-pillar สิ่งที่แตกต่างจากรุ่นก่อนคือ ระบบเปิดปิด หลังคา ทาร์กา (Targa) อัตโนมัติ สั่งการเพียงปลายนิ้วสัมผัสหลังคาจะได้รับการเก็บอย่างแนบเนียนบริเวณด้านหลังห้องโดยสาร ปอร์เช่ 911 ทาร์กา ใหม่ (The new Porsche 911 Targa) คือ ตัวแทนของความล้ำยุคผ่านนวัตกรรมชั้นเลิศที่ต่อยอดความคลาสสิกของรุ่นปี 1965

History of the Porsche Targa
Autodesk VRED Professional 2016
  • เปิดตัวออนไลน์ครั้งแรกของโลก ผ่าน 9:11 Magazine web TV

ปอร์เช่เปิดตัว 911 ทาร์กา (The new 911 Targa) รุ่นใหม่ล่าสุด สู่สายตาสาธารณชนทั่วโลกอย่างเป็นทางการผ่านช่องทาง web TV โอกาสนี้ Dr. Frank-Steffen Walliser รองประธานกรรมการบริหารผู้กำกับดูแลส่วนงานรถสปอร์ต 911 และ 718 รับหน้าที่อธิบายรายละเอียดต่าง ๆ ของอุปกรณ์ที่ได้รับการติดตั้งขึ้นใหม่ในตัวรถเคียงข้างกับพิธีกรระดับ Porsche Brand Ambassadors นักเทนนิสหญิงผู้มีชื่อเสียง Maria Sharapova และนักแข่งรถมืออาชีพ Jörg Bergmeister รับชมได้ที่ www.911-magazin.porsche.com

สำหรับ episode ที่ 2 จะพาท่านย้อนกลับไปสัมผัสกับประวัติศาสตร์ของปอร์เช่ รวมทั้งปัจจัยต่าง ๆ ที่เป็นจุดกำเนิดแรงบันดาลใจในการพัฒนารถยนต์ใหม่ถึง 2 รุ่นด้วยกันความพิเศษเหนือระดับที่ถือกำเนิดขึ้นจากเทคโนโลยียานยนต์ชั้นเลิศพร้อมงานออกแบบอมตะท้าทายกาลเวลาบริษัทผู้ผลิตรถสปอร์ตสัญชาติเยอรมัน เปิดมุมมองใหม่ในสถานการณ์โคโรน่าไวรัสที่แพร่ระบาดไปทั่วโลกด้วยการเผยโฉมรถสปอร์ตรุ่นใหม่ไปยังสื่อมวลชนและ แฟน ๆ ปอร์เช่ ผ่านทาง virtual format เป็นครั้งแรก

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

ติดตามข่าวสารของ Porsche Thailand แบบ real time ได้ที่

Check Also

Embrace the future with AVATR 11 2024

“อินฟินิท ออโตโมบิล” ส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าพรีเมี่ยมแบรนด์ “AVATR” ล็อตแรกถึงมือลูกค้า พร้อมบริการสุดไฮคลาสเต็มรูปแบบ!!

สร้างกระแสความตื่นเต้นให้วงการรถยนต์ไฟฟ้าหรูเป็นอย่างมาก เมื่อ บริษัท อินฟินิท ออโตโมบิล จำกัด บริษัทในเครือเอเอเอส กรุ๊ป จัดงานฉลองการส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมี่ยมแบรนด์ AVATR ให้ลูกค้าล็อตแรก ภายใต้ชื่องาน “Embrace the future …