ข่าวสด รถยนต์ วันนี้: BMW Thailand เดินหน้าประกอบแบตเตอรี่แรงดันสูงในประเทศไทยซึ่งเป็นแห่งเดียวในภูมิภาคอาเซียน สำหรับรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด
ข่าวสด: BMW Group Thailand เดินหน้าประกอบแบตเตอรี่แรงดันสูงในประเทศไทย
หากคุณกำลังค้นหา Wallpaper รูปรถสวยๆเราขอแนะนำ Wallpaper รูปรถสวยๆ Download wallpaper ที่นี้ |
บรรยายจากภาพ:
- มร. อูเว่ ควาส (ซ้ายสุด) กรรมการผู้จัดการ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย
- มร. แกร์ฮาร์ด แอร์เนสแบร์เกอร์ (ขวาสุด) ผู้อำนวยการโรงงานแดร็คเซิลไมเออร์ กรุ๊ป
- คุณกรณ์ภัฐวีร์ ม่วงน้อย (ที่ 3 จากซ้าย) รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม,
- ดร. ปราจิน เอี่ยมลำเนา (ที่ 2 จากซ้าย) ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน)
- คุณจาตุรนต์ โกมลมิศร์ (ที่ 4 จากซ้าย) กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน)
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทยเปิดฉากอีกหนึ่งความสำเร็จครั้งประวัติศาสตร์ เปิดตัวโรงงานประกอบแบตเตอรี่แรงดันสูงในประเทศอย่างเป็นทางการ ด้วยความร่วมมือกับแดร็คเซิลไมเออร์ กรุ๊ป ผู้นำด้านการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ระดับโลก ซึ่งเป็นพันธมิตรกับบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ปมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2509
โดยโรงงานครอบคลุมในส่วนของการประกอบโมดูลแบตเตอรี่ และการประกอบตัวแบตเตอรี่ และได้เริ่มต้นสายการประกอบตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งโรงงานของแดร็คเซิลไมเออร์ กรุ๊ป ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ ชลบุรี 2 และนับเป็นโรงงานประกอบแบตเตอรี่แรงดันสูงสำหรับบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ปแห่งเดียวในภูมิภาคอาเซียน
หนึ่งในวิสัยทัศน์หลักของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป คือ การขับเคลื่อนสังคมไปสู่อนาคตแห่งยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้า
มร. อูเว่ ควาส กรรมการผู้จัดการ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย กล่าวว่า “หนึ่งในวิสัยทัศน์หลักของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป คือ การขับเคลื่อนสังคมไปสู่อนาคตแห่งยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้า ซึ่งบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย มุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายนี้เช่นกันด้วยการเดินหน้าสู่อีกก้าวแห่งความสำเร็จครั้งใหญ่ด้านกลยุทธ์ยานยนต์ไฟฟ้า
การเริ่มประกอบแบตเตอรี่แรงดันสูงในประเทศจะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เราสามารถตอบโจทย์ความต้องการในตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย นอกจากนี้ ยังถือเป็นการเสริมความแข็งแกร่งให้แก่โรงงานบีเอ็มดับเบิลยูในจังหวัดระยอง ซึ่งเป็นศูนย์กลางการประกอบรถยนต์ในภูมิภาคนี้ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น”
แดร็คเซิลไมเออร์ กรุ๊ป ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ซึ่งได้รับการยอมรับจากพันธมิตรนานาชาติทั้งในภูมิภาค และในระดับสากล
มร. แกร์ฮาร์ด แอร์เนสแบร์เกอร์ ผู้อำนวยการโรงงาน แดร็คเซิลไมเออร์ กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า “เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับความไว้วางใจให้ประกอบแบตเตอรี่แรงดันสูงสำหรับบีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย ในฐานะผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ซึ่งได้รับการยอมรับจากพันธมิตรนานาชาติทั้งในภูมิภาค และในระดับสากล
เรามีประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญในการมอบโซลูชั่นที่ล้ำสมัยให้กับผู้ผลิตยานยนต์ระดับพรีเมียม ไม่ว่าจะเป็นด้านระบบไฟฟ้า ระบบอิเล็กทรอนิกส์ การออกแบบภายในรถยนต์ และระบบแบตเตอรี่ ด้วยความสัมพันธ์อันยาวนานกับบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป มากว่า 53 ปี เราจึงยินดีมากที่ได้ต่อยอดการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย”
ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญจากบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป มิวนิค ได้ร่วมวางรากฐานกระบวนการประกอบแบตเตอรี่ที่โรงงานแห่งใหม่ของแดร็คเซิลไมเออร์ กรุ๊ป เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการประกอบในประเทศไทยสอดคล้องกับมาตรฐานคุณภาพระดับโลกของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ปและเพื่อวางรากฐานสำหรับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในอนาคต
ทั้งนี้ แบตเตอรี่แรงดันสูงเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่สำคัญของรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าไม่ว่าจะเป็นยานยนต์ประเภทไฮบริด หรือ รถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าโดยสมบูรณ์ ทั้งยังเป็นชิ้นส่วนที่มีความซับซ้อน และต้องใช้ทักษะเฉพาะด้านในการผลิต
นับตั้งแต่เดือนกันยายน พ.ศ. 2561 บุคลากรจากแดร็คเซิลไมเออร์ กรุ๊ป ได้เข้าร่วมโปรแกรมอบรม และพัฒนาบุคลากรเพื่อการประกอบแบตเตอรี่แรงดันสูง ณ โรงงานบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ปในเมืองดิงกอลฟิง และโรงงานนำร่องการผลิตระบบการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า
ซึ่งมีความพร้อมแล้วสำหรับการประกอบแบตเตอรี่ที่ต้องใช้ทักษะความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการผลิตที่ล้ำสมัย เพื่อการประกอบแบตเตอรี่อันเป็นเทคโนโลยีล่าสุด (เจนเนอเรชั่นที่ 4) เช่น การเชื่อมด้วยเลเซอร์ การเตรียมพื้นผิววัสดุด้วยพลาสมา วิทยาการหุ่นยนต์ กระบวนการยึดติด การตรวจสอบคุณภาพชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์อัตโนมัติ (AOI) การตรวจสอบการทำงานของระบบไฟฟ้า และการตรวจสอบคุณภาพเมื่อสิ้นสุดสายการผลิต
นอกจากนี้ โปรแกรมการอบรมดังกล่าวยังครอบคลุมทักษะในการทำงานกับกระบวนการผลิตอัตโนมัติ ซึ่งเป็นกระบวนการที่สำคัญในการประกอบโมดูลแบตเตอรี่ รวมถึงการตรวจสอบคุณภาพโดยรวม การออกแบบกระบวนการและเทคโนโลยีการผลิต การปรับปรุงแก้ไขคุณภาพ และการวิเคราะห์กระบวนการผลิต
เมื่อเสร็จสิ้นการเรียนรู้ และเสริมสร้างความเชี่ยวชาญด้านการประกอบแบตเตอรี่แล้ว บุคลากรที่ผ่านการอบรมข้างต้นจะได้ทำงานกับชิ้นส่วนอย่างเซลล์แบตเตอรี่ที่นำเข้าจากผู้ผลิตในภูมิภาคเอเชีย พร้อมด้วยชิ้นส่วนแบตเตอรี่นำเข้าอีกมากมาย
ทั้งโครงอะลูมิเนียม ระบบวงจรอิเล็กทรอนิกส์และสายไฟ เพื่อประกอบแบตเตอรี่แรงดันสูงที่ได้มาตรฐานระดับโลกของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป และเป็นไปตามข้อกำหนดด้านการใช้ชิ้นส่วนจากผู้ผลิตในประเทศของประเทศไทย เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการประกอบแล้ว
แบตเตอรี่แรงดันสูงดังกล่าวจะถูกส่งไปยังโรงงานบีเอ็มดับเบิลยูที่ระยอง เพื่อนำไปติดตั้งในรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด ในตระกูลบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 5 ซึ่งได้เริ่มต้นเฟสแรกไปแล้วตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560 เป็นต้นมา โรงงานบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย ณ นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ระยอง ได้ประกอบรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดมาแล้ว 4 รุ่นด้วยกันคือ
- BMW 330e
- BMW 530e
- BMW X5 xDrive40e
- BMW 740Le
ทั้งนี้ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ได้รับอนุมัติการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) สำหรับการลงทุนประกอบรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดมูลค่า 700 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯ ได้จัดสรรงบประมาณส่วนหนึ่งมาร่วมลงทุนกับแดร็คเซิลไมเออร์ กรุ๊ป ประเทศไทย
เพื่อพัฒนาโรงงานประกอบแบตเตอรี่แรงดันสูงที่มีมูลค่าการลงทุน 500 ล้านบาท ความสำเร็จครั้งนี้จะยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศ และแสดงถึงความร่วมมืออันดีระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนที่จะขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่อนาคตแห่งยนตรกรรมไฟฟ้าที่ยั่งยืนต่อไป