ข่าวสด รถยนต์ วันนี้ (30/05/19) บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย จัดกิจกรรมทดสอบบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 3 และ X5 เปิดประสบการณ์ยนตรกรรมระดับพรีเมียม
ข่าวสด: บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย จัดกิจกรรมทดสอบบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 3 และ X5
หากคุณกำลังค้นหา Wallpaper รูปรถสวยๆเราขอแนะนำ Wallpaper รูปรถสวยๆ Download wallpaper ที่นี้ |
บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย พาสื่อมวลชนเปิดประสบการณ์การขับขี่บีเอ็มดับเบิลยู 320d Sport บีเอ็มดับเบิลยู 330i M Sport และบีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive30d M Sport ให้ได้สัมผัสสมรรถนะการขับขี่ทั้งบนเส้นออนโรด ออฟโรด
พร้อมพาโลดแล่นบนท้องถนนจริง และทดสอบเทคโนโลยีการขับขี่แห่งอนาคตกันอย่างเต็มเปี่ยม ในกิจกรรมทดสอบรถยนต์สุดพิเศษ ณ สนามปทุมธานีสปีดเวย์ จังหวัดปทุมธานี ในวันที่ 13 – 16 พฤษภาคม 2562
การทดสอบสมรรถนะการขับขี่ในด้านต่าง ๆ ใน 3 ด่านทดสอบ
สำหรับการทดสอบบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 3 และบีเอ็มดับเบิลยู X5 ในครั้งนี้ ผู้ร่วมกิจกรรมจะได้ทดสอบสมรรถนะการขับขี่ในด้านต่าง ๆ ใน 3 ด่านทดสอบ ตั้งแต่การทดสอบความเร็วจากขุมพลังของเครื่องยนต์บนสนามแข่ง การทดสอบความคล่องตัว และความปราดเปรียวในการขับขี่แบบ Gymkhana พร้อมการทดสอบฟังก์ชั่น Reversing Assistant ในบีเอ็มดับเบิลยู 330i M Sport
ส่วนการทดสอบการขับขี่บนถนนจริง เปิดให้ผู้ขับขี่ได้สัมผัสถึงการใช้งานรถยนต์ทั้งสองรุ่นในชีวิตประจำวัน ขณะที่ผู้ทดสอบบีเอ็มดับเบิลยู X5 จะได้ลองสมรรถนะของระบบช่วงล่างแบบ Adaptive M และระบบการขับเคลื่อนต่าง ๆ บนเส้นทางแบบออฟโรด ทั้งทางลูกรัง พื้นหญ้า และเนินดินกันอย่างเต็มที่
ความโดดเด่นของบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 3 ใหม่ นอกจากดีไซน์สปอร์ตโฉมใหม่สะดุดตา และเทคโนโลยีการขับขี่ที่ล้ำสมัยแล้ว บีเอ็มดับเบิลยู 320d Sport ยังเหนือกว่าในด้านการประหยัดเชื้อเพลิง ด้วยอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ยที่ 21.7 กิโลเมตรต่อลิตร
บีเอ็มดับเบิลยู 320d Sport นอกจากจะถือเป็นหนึ่งในรถที่มีความประหยัดน้ำมันที่สุดในเซกเมนต์แล้ว ยังผ่านการรับรองมาตรฐานยูโร 5 ซึ่งเป็นมาตรฐานมลพิษของกลุ่มประเทศสหภาพยุโรปที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลอีกด้วย
ข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าที่จอง และรับมอบรถยนต์ บีเอ็มดับเบิลยู 320d Sport
นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย ยังมอบข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าที่จองและรับมอบรถยนต์ บีเอ็มดับเบิลยู 320d Sport ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม – 30 มิถุนายน 2562
จะได้รับการขยายแพคเกจการบำรุงรักษาจากแพคเกจ BSI Standard ระยะเวลา 3 ปี / 60,000 กม. เพิ่มเป็นแพคเกจ BSI Plus ระยะเวลา 5 ปี / 100,000 กม. พร้อมรับฟรี บัตรเติมน้ำมันปตท. มูลค่า 30,000 บาท
บีเอ็มดับเบิลยู 320d Sport ใหม่
- ราคาจำหน่าย: 2,959,000 บาท (พร้อมโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard)
บีเอ็มดับเบิลยู 330i M Sport ใหม่
- ราคาจำหน่าย: 3,359,000 บาท (พร้อมโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard)
บีเอ็มดับเบิลยู 320d Sport ใหม่
หลังจากที่ได้เปิดตัวครั้งแรกไปเมื่อปี พ.ศ. 2518 บีเอ็มดับเบิลยูซีรี่ส์ 3 เจเนอเรชั่นแรก ได้สร้างปรากฎการณ์ในวงการยนตรกรรมด้วยสมรรถนะความปราดเปรียวที่เหนือระดับ และรูปลักษณ์สปอร์ตสะดุดตาตลอด 40 ปีที่ผ่านมา บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 3 ได้พิสูจน์ถึงความเป็นที่สุดแห่งยนตรกรรม หรือ “Ultimate Driving Machine”
ด้วยเอกลักษณ์ดีไซน์ที่ทันสมัย สมรรถนะ และประสิทธิภาพการขับขี่เหนือระดับ รวมถึงนวัตกรรมล้ำยุค ที่ครองใจแฟน ๆ มาทุกยุคทุกสมัย จนมาสู่รุ่นล่าสุดกับ บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 3 ใหม่ ที่กลับมาอีกครั้งในเจเนอเรชั่นที่ 7 กับการพัฒนาทั้งในด้านดีไซน์ ระบบช่วงล่าง เครื่องยนต์ และเทคโนโลยีการขับขี่ เพื่อมอบประสบการณ์ที่เหนือระดับยิ่งขึ้น อันเป็นหัวใจสำคัญของบีเอ็มดับเบิลยู
ดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยวสะดุดตา ตอกย้ำความสปอร์ตมากยิ่งขึ้น
บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 3 ใหม่ มาในดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยวสะดุดตา ตอกย้ำความสปอร์ตมากยิ่งขึ้น ด้วยเส้นสายที่แข็งแกร่ง และคมชัด ด้านหน้าของตัวรถมาในรูปลักษณ์ที่ดุดันยิ่งขึ้นด้วยกระจังหน้าทรงไตคู่ขนาดใหญ่ขึ้นในกรอบที่เชื่อมกับไฟหน้าคู่ LED ทรงเรียวยาวดีไซน์ใหม่ล่าสุด รับกับช่องดักอากาศรูปทรง T เพิ่มความโดดเด่นให้แก่ด้านหน้าของรถ
ด้านข้างของตัวรถโดดเด่นด้วยกรอบหน้าต่างดีไซน์แบบ Hofmeister Kink อันเป็นเอกลักษณ์ของบีเอ็มดับเบิลยูที่ได้รับการออกแบบให้เป็นหนึ่งเดียวกับเสา C-pillar มอบมิติไร้ขอบหรูหรายิ่งขึ้น พร้อมด้วยไฟท้ายดีไซน์ใหม่เรียวยิ่งขึ้นในรูปทรง L แนวนอนสีหม่นแบบสามมิติ และท่อไอเสียแบบคู่ให้ท้ายรถดูกว้าง และสปอร์ตกว่าเดิม
การออกแบบโครงสร้าง และเทคโนโลยีแชสซีใหม่ล่าสุด
การออกแบบโครงสร้าง และเทคโนโลยีแชสซีใหม่ล่าสุดในบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 3 มอบการควบคุมที่เฉียบคม และปราดเปรียวยิ่งขึ้น ผสมผสานทั้งความสปอร์ต และความนุ่มสบายไว้ได้อย่างลงตัว พร้อมด้วยประสิทธิภาพของชุดเบรกที่เหนือชั้น
จุดศูนย์ถ่วงต่ำ และการกระจายน้ำหนักแบบ 50:50 นอกจากนี้ ตัวรถยังมีน้ำหนักที่เบาลงกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 55 กิโลกรัม จากการใช้วัสดุอลูมิเนียมในชิ้นส่วนและโครงสร้างต่าง ๆ เช่น กระโปรงและกันชนหน้า
ส่วนการออกแบบด้านอากาศพลศาสตร์ในบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 3 ใหม่ช่วยเสริมสมรรถนะการขับขี่ด้วยค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศต่ำถึง 0.26 ลดลง 0.03 จากรุ่นก่อนหน้า ทั้งจากระบบ Active Air Flap แผ่นปิดด้านในกระจังหน้าไตคู่เจเนอเรชั่นใหม่ล่าสุด และการจัดระเบียบทิศทางการไหลของอากาศผ่าน Air Curtains ที่ช่วยลดแรงเสียดทานอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ
มิติของตัวรถ มีความกว้างเพิ่มขึ้น 16 มิลลิเมตร ยาวขึ้น 76 มิลลิเมตร ฐานล้อมีขนาด 2,851 มิลลิเมตร กว้างขึ้นจากรุ่นก่อนหน้า 41 มิลลิเมตร ทำให้บริเวณห้องโดยสารด้านหลังมีพื้นที่กว้างขวาสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
มิติรถยนต์ (มม.) บีเอ็มดับเบิลยูซีรี่ส์ 3 (รุ่นใหม่) บีเอ็มดับเบิลยูซีรี่ส์ 3 (รุ่นก่อนหน้า) ต่างจากเดิม
- ความยาว 4,709 4,633 +76
- ความกว้าง 1,827 1,811 +16
- ความสูง 1,442 1,441 +1
- ระยะช่วงล้อหน้า-หลัง 2,851 2,810 +41
บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 3 ใหม่ ทรงพลังด้วยเครื่องยนต์ที่มาพร้อมเทคโนโลยีขับเคลื่อนล่าสุด มอบพละกำลังสูงสุด 140 กิโลวัตต์ / 190 แรงม้าที่ 4,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตรที่ 1,750 – 2,500 รอบต่อนาที
จากเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบของบีเอ็มดับเบิลยู 320d Sport สามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 6.8 วินาที และมีความเร็วสูงสุด 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ส่วนบีเอ็มดับเบิลยู 330i M Sport มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ส่งกำลังสูงสุด 190 กิโลวัตต์ / 258 แรงม้าที่ 5,000 – 6,500 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตรที่ 1,550 – 4,400 รอบต่อนาที เร่งความเร็วจากหยุดนิ่งถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 5.8 วินาที และมีความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
โดยทั้งสองรุ่นรองรับระบบ Driving Experience Control ที่มีรูปแบบการขับขี่ให้เลือกทั้งใน
- โหมด COMFORT
- โหมด SPORT
- โหมด ECO PRO
บีเอ็มดับเบิลยู 320d Sport ใหม่ มาพร้อมล้ออัลลอย 18 นิ้วลาย V Spoke และชุดแต่ง BMW Individual high-gloss Shadow Line ด้วยขอบหน้าต่าง ขอบช่องดักอากาศ และซี่บริเวณกระจังหน้าไตคู่สีดำเงาเช่นเดียวกับภายใน ซึ่งตกแต่งด้วยวัสดุอลูมิเนียมลาย Mesheffect พร้อมพวงมาลัย และที่นั่งด้านหน้าแบบสปอร์ต
บีเอ็มดับเบิลยู 330i M Sport โดดเด่นด้วยชุดแต่ง M Sport ที่ช่วยเสริมทั้งรูปลักษณ์โฉบเฉี่ยว และสมรรถนะปราดเปรียว ไม่ว่าจะเป็นระบบช่วงล่าง ชุดเบรก และชุดแอโรไดนามิคส์ แบบ M Sport ล้ออัลลอย M ขนาด 18 นิ้วลาย Double Spoke และพวงมาลัยหนังแท้ M ภายในตกแต่งด้วยวัสดุอลูมิเนียม Tetragon
ส่วนห้องโดยสารได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงผู้ขับขี่เป็นหัวใจสำคัญ พร้อมแผงหน้าปัดและจอ Control Display ในดีไซน์ใหม่ สะดวกสบายด้วยพื้นที่ด้านหน้า และด้านหลังที่กว้างขวางยิ่งขึ้น รวมถึงพื้นที่จุสัมภาระถึง 480 ลิตร เบาะนั่งสามารถพับได้แบบ 40:20:40 บรรยากาศหรูหราด้วยไฟ ambient light และระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 3 ตอน
นอกจากระบบ BMW Intelligent Personal Assistant ที่ติดตั้งมาเป็นส่วนหนึ่งของระบบปฏิบัติการ BMW Operating System 7.0 ในบีเอ็มดับเบิลยู 330i M Sport และทำงานประสานเป็นหนึ่งเดียวกับระบบ BMW Live Cockpit Professional แล้ว
บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 3 ใหม่ ยังมาพร้อมระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่อย่างระบบช่วยนำรถเข้าที่จอด (Parking Assistant) ในบีเอ็มดับเบิลยู 330i M Sport ระบบเซนเซอร์ควบคุมระยะการจอดด้านหน้าและหลัง (Park Distance Control)
ในบีเอ็มดับเบิลยู 320d Sport ที่มาพร้อมระบบ BMW Live Cockpit Plus รวมถึงระบบการเชื่อมต่อ BMW ConnectedDrive เพื่อการเชื่อมต่ออย่างไร้ขีดจำกัด และระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สายในบีเอ็มดับเบิลยู 330i M Sport
ก้าวสู่อนาคตแห่งรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติของบีเอ็มดับเบิลยู
อีกหนึ่งก้าวสู่อนาคตแห่งรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติของบีเอ็มดับเบิลยู คือ ฟังก์ชั่น Reversing Assistant ในบีเอ็มดับเบิลยู 330i M Sport ซึ่งจะให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ขับขี่ขณะถอยจอด หรือ ถอยออกจากที่แคบอัตโนมัติได้อย่างมีประสิทธิภาพเหนือกว่าคู่แข่งอื่น ๆ ในเซกเมนต์
โดยฟังก์ชั่น Reversing Assistant นี้ เป็นส่วนหนึ่งของระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติ Parking Assistant ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถถอยออกจากบริเวณที่มีพื้นที่แคบ เช่น อาคารจอดรถ ทางเลี้ยวเข้า หรือ ทางตันได้อย่างง่ายดายแม้จะมีมุมมองที่จำกัด
ซึ่งฟังก์ชั่นดังกล่าวจะจดจำองศาการเลี้ยวของพวงมาลัยขณะขับเข้าไปยังพื้นที่แคบได้เป็นระยะทางไกลสูงสุด 50 เมตร ขณะขับขี่ที่ความเร็วไม่เกิน 36 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สามารถเริ่มใช้งานโดยกดปุ่ม Reversing Assistant ขณะจอดนิ่งที่เกียร์ P หลังจากนั้น รถยนต์จะถอยหลังอัตโนมัติตามเส้นทางที่ขับเข้าไปล่าสุด ผู้ขับขี่จะมีหน้าที่เพียงแค่แตะเบรก หรือ คันเร่ง
โดยความเร็วในการถอยอัตโนมัติจะอยู่ที่ความเร็วสูงสุด 9 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งระบบจะสามารถจดจำองศาการเลี้ยวภายในระยะ 50 เมตรสุดท้ายไว้ได้เป็นระยะเวลายาวนาน ทำให้ผู้ขับขี่สามารถแม้กระทั่งถอยออกจากที่จอดรถได้แม้จะจอดทิ้งไว้ข้ามคืน หรือ เป็นระยะเวลาหลายวัน
บีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive30d M Sport
- ราคาจำหน่าย: 5,699,000 (พร้อมโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard)
ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542 บีเอ็มดับเบิลยูได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้แก่รถยนต์ในกลุ่ม SUV ด้วยการเปิดตัวบีเอ็มดับเบิลยู X5 รถยนต์คันแรกที่มาในสไตล์ Sports Activity Vehicle อย่างเต็มรูปแบบ โดยเมื่อปลายปี 2561 ที่ผ่านมา บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทยได้เปิดตัวบีเอ็มดับเบิลยู X5 เจเนอเรชั่นที่ 4
ที่โดดเด่นด้วยการผสมผสานสมรรถนะ และความสะดวกสบายอย่างเหนือระดับ เสริมความแข็งแกร่งให้แก่รถยนต์ในตระกูล Sports Activity Vehicle ด้วยหนึ่งในรถยนต์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในตระกูล X
บีเอ็มดับเบิลยู X5 ใหม่ ยังคงรูปลักษณ์อันเฉพาะตัวของ Sports Activity Vehicle แต่มาในดีไซน์ใหม่ที่เรียบหรูยิ่งขึ้น ด้วยพื้นผิวตัวถังที่ราบเรียบ ตัดกับเส้นสายที่เฉียบคม และดุดัน เพิ่มลุคสง่างามให้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู X5 รุ่นล่าสุดนี้
และนอกจากนี้ ตัวรถยังมีขนาดใหญ่ขึ้น ยาว 4,922 มิลลิเมตร กว้าง 2,004 มิลลิเมตร และสูง 1,745 มิลลิเมตร ให้ความรู้สึกโปร่งสบายแก่ผู้โดยสาร พร้อมปริมาตรในการบรรจุของ 650-1,870 ลิตร
มิติรถยนต์ (มม.) บีเอ็มดับเบิลยู X5 (รุ่นใหม่) บีเอ็มดับเบิลยู X5 (รุ่นก่อนหน้า) ต่างจากเดิม
- ความยาว 4,922 4,886 +36
- ความกว้าง 2,004 1,938 +66
- ความสูง 1,745 1,726 +19
- ระยะช่วงล้อหน้า-หลัง 2,975 2,933 +42
บีเอ็มดับเบิลยู X5 ใหม่ ปราดเปรียวยิ่งขึ้นด้วยชุดแต่ง M Aerodynamics เสริมลุคสปอร์ตด้วยขอบหน้าต่าง และราวหลังคาสีดำเงา กระจังหน้าทรงไตคู่ที่มีผิวอลูมิเนียมแบบด้าน พร้อมให้ความรู้สึกทรงพลังด้วยชุดเบรก และช่วงล่างแบบ M Sport และล้ออัลลอย M ขนาด 22 นิ้ว ลาย Double-spoke
เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะแบบ Steptronic ทำงานคู่กับเครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ เทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ขับเคลื่อนบีเอ็มดับเบิลยู X5 ใหม่ด้วยกำลังสูงสุด 195 กิโลวัตต์ / 265 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที
และแรงบิดสูงสุด 620 นิวตันเมตรที่ 2,000-2,500 รอบต่อนาที ส่งพลังให้เร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 6.5 วินาที และมีความเร็วสูงสุด 230 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
บีเอ็มดับเบิลยู X5 ยังคล่องตัวด้วยระบบขับเคลื่อนสี่ล้อบีเอ็มดับเบิลยู xDrive เจเนอเรชั่นล่าสุด ที่ได้รับการพัฒนากำลังขับเคลื่อน และควบคุมการทรงตัวได้อย่างดีเยี่ยม ด้วยการถ่ายแรงขับเคลื่อนอย่างนุ่มนวลระหว่างล้อหลังทั้งสองข้างบนเส้นทางออนโรด และออฟโรด
บีเอ็มดับเบิลยู X5 ใหม่ ยังมาพร้อมช่วงล่างแบบ Adaptive M ระบบควบคุมการยึดเกาะถนน (Dynamic Traction Control) ระบบ Driving Experience Control สำหรับเลือกรูปแบบการขับขี่พร้อมโหมด ECO PRO และระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ (Dynamic Stability Control) เพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่บนเส้นทางออฟโรด พร้อมมอบความสปอร์ตคล่องตัว และความสะดวกสบายได้ตลอดเส้นทาง
ภายในห้องโดยสารของบีเอ็มดับเบิลยู X5 ใหม่
ภายในห้องโดยสารของบีเอ็มดับเบิลยู X5 ใหม่ มอบความรู้สึกหรูหรา และมีระดับ ด้วยวัสดุคุณภาพเยี่ยม ดีไซน์ที่ลงตัว และระบบการควบคุมที่ล้ำสมัย แผงหน้าปัดดิจิทัลและจอ Control Display ได้รับการออกแบบทั้งกราฟฟิค และดีไซน์มาให้สอดรับกัน
พร้อมด้วยเบาะนั่งหนังแท้ Vernasca และพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบ M Sport ฟีเจอร์อื่น ๆ ที่โดดเด่นของบีเอ็มดับเบิลยู X5 ใหม่ ยังมีหลังคากระจกแบบ Panorama ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่ารุ่นเก่า 30% นอกจากความสะดวกสบาย และความเหนือระดับยิ่งขึ้นแล้ว
บีเอ็มดับเบิลยู X5 ใหม่ยังสามารถรองรับการใช้งานได้อย่างหลากหลาย เบาะหลังพับได้แบบ 40 : 20 : 40 รองรับปริมาตรการบรรจุของตั้งแต่ 650 ลิตรถึง 1,870 ลิตร พร้อมประตูท้ายที่สามารถแยกเปิดสองส่วนเพื่อให้สะดวกต่อการขนย้ายสัมภาระ ซึ่งสามารถเปิดปิดอัตโนมัติด้วยระบบไฟฟ้าระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ล้ำสมัย เช่น
ระบบ Parking Assistant Plus ที่มาพร้อมกับระบบ Reversing Assistant ช่วยถอยรถในทิศทางเดิมแบบอัตโนมัติ ช่วยให้ตัวรถสามารถจดจำทิศทางที่ขับตรงไปข้างหน้าในระยะ 50 เมตรสุดท้าย ด้วยความเร็วไม่เกิน 36 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ และสามารถถอยออกในทิศทางเดิมแบบอัตโนมัติ
ทั้งนี้ Parking Assistant Plus มาพร้อมกับกล้องมองรอบทิศทาง Surround View Camera รวมทั้งวิวด้านบน วิวพาโนรามิค และรีโมท 3D วิวที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเชื่อมต่อเพื่อดูภาพของรถที่จอดทางโทรศัพท์สมาร์ทโฟนได้ ผ่านระบบ BMW ConnectedDrive
นอกจากนี้ ยังมาพร้อมระบบ Driving Experience Control เลือกรูปแบบการขับขี่พร้อม ECO PRO ที่ได้รับการติดตั้งเป็นอุปกรณ์พื้นฐานในบีเอ็มดับเบิลยู X5 ใหม่
อีกหนึ่งความพิเศษของ Sports Activity Vehicle รุ่นนี้ คือระบบ BMW Live Cockpit Professional ที่โดดเด่นด้วยจอแสดงผลขนาด 12.3 นิ้ว พร้อมการเชื่อมต่อที่ครบครัน ส่วน BMW Head-Up Display เจเนอเรชั่นล่าสุด ขนาด 7×3.5 นิ้ว
สามารถแสดงภาพกราฟฟิคสามมิติได้ ขณะที่ระบบควบคุมผ่าน iDrive, BMW Gesture Control และจอ Control Display ระบบสัมผัสขนาด 10.25 นิ้ว ก็ยังเป็นทางเลือกเพื่อมอบที่สุดแห่งความสะดวกสบายแก่ผู้ขับขี่
นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive30d M Sport ใหม่ ยังมาพร้อม BMW ConnectedDrive มอบบริการการเชื่อมต่อแบบไร้ขีดจำกัดระหว่างยานยนต์ และผู้ขับขี่ยกระดับสุนทรียภาพในการขับขี่ ด้วยระบบผู้ช่วยส่วนตัว BMW Intelligent Personal Assistant
“Hey BMW”
ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2562 เป็นต้นไป ผู้ขับขี่และผู้โดยสารรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูจะพบกับความสะดวกสบายที่เหนือกว่าด้วยระบบ BMW Intelligent Personal Assistant ผู้ช่วยส่วนตัวฉลาดล้ำ ที่พร้อมทำงาน เพียงแค่ทักด้วยประโยค “Hey BMW” (สวัสดี บีเอ็มดับเบิลยู)
ซึ่งถือเป็นประสบการณ์ใหม่ และอีกหนึ่งก้าวสำคัญในโลกยานยนต์ เมื่อผู้ขับขี่สามารถควบคุม และใช้งานฟังก์ชั่นต่าง ๆ ในรถยนต์ได้อย่างครบวงจรมากขึ้น เพียงแค่สั่งงานด้วยเสียง
ระบบ BMW Intelligent Personal Assistant ติดตั้งมาเป็นส่วนหนึ่งของระบบปฏิบัติการ BMW Operating System 7.0 และทำงานประสานเป็นหนึ่งเดียวกับระบบ BMW Live Cockpit Professional ความสามารถของระบบผู้ช่วยส่วนตัวนั้นพัฒนาอยู่ตลอดเวลา
ยิ่งใช้งานมาก ผู้ช่วยส่วนตัวก็จะรู้ใจมากขึ้น โดยตัวระบบใช้เทคโนโลยีแพลตฟอร์ม จาก Open Mobility Cloud ของบีเอ็มดับเบิลยู ร่วมกับนวัตกรรมอย่างปัญญาประดิษฐ์ (AI) ดังนั้น ฟังก์ชั่นต่าง ๆ และความสามารถของผู้ช่วยส่วนตัวจึงรองรับการอัพเกรดอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มเติมคุณสมบัติ และรูปแบบการเรียนรู้ใหม่ ๆ ได้อีกในอนาคต
ระบบผู้ช่วยส่วนตัวพร้อมรับคำสั่งจากเสียงพูดในรูปแบบที่เป็นธรรมชาติ ใกล้เคียงกับบทสนทนาในชีวิตประจำวัน พ่วงด้วยฟังก์ชั่นอันชาญฉลาดอีกมากมาย ระบบสามารถเรียนรู้และจดจำกิจวัตรประจำวัน และความชอบส่วนตัวของผู้ขับขี่ได้ ก่อนจะนำมาปรับใช้งานอย่างถูกต้อง แม่นยำ เช่น
หากผู้ขับขี่รู้สึกว่าอุณหภูมิในตัวรถหนาวเกินไป ก็สามารถพูดออกคำสั่งว่า “Hey BMW, I’m cold” เพื่อให้ระบบปรับการทำงานของระบบปรับอากาศให้เหมาะสม ทั้งนี้บีเอ็มดับเบิลยูได้พัฒนาให้ระบบผู้ช่วยส่วนตัวนี้สามารถอัพเกรดเพื่อเพิ่มเติมคุณสมบัติและรูปแบบการเรียนรู้ใหม่ ๆ ได้อีกในอนาคต
การเปิดตัวระบบ BMW Intelligent Personal Assistant ในครั้งนี้ ยังเสมือนเป็นการพาผู้เชี่ยวชาญ ที่รู้ลึก รู้จริงเรื่องรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูขึ้นรถคู่ใจไปกับผู้ขับขี่ทุกขณะ เพราะผู้ขับสามารถถามคำถามพื้นฐาน ตั้งแต่วิธีใช้งานระบบปรับการทำงานไฟสูงอัตโนมัติ
ไปจนถึงคำถามที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลในการขับขี่เช่น ระดับน้ำมัน และระยะทางที่สามารถขับต่อไปได้ ระบบ BMW Intelligent Personal Assistant จึงเป็นระบบผู้ช่วยส่วนตัวที่ครบเครื่อง เติมสุนทรียภาพให้กับประสบการณ์อันเหนือระดับในการขับขี่บีเอ็มดับเบิลยูในชีวิตประจำวัน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม: บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย