Breaking News

ปอร์เช่ เตรียมความพร้อมร่วมลงสนาม ABB FIA Formula E World Championship

ปอร์เช่ เตรียมความพร้อมร่วมลงสนามประลองสงครามความเร็วในรายการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ ABB FIA Formula E World Championship ประจำฤดูกาล 2022/2023

ปอร์เช่ _ Fritz Enzinger with Amiel Lindesay, Head of Operations Formula E
Fritz Enzinger with Amiel Lindesay, Head of Operations Formula E

ปอร์เช่ เดินหน้าเต็มพิกัดสู่ยุคสมัยใหม่ของ ABB FIA Formula E World Championship 

ABB FIA Formula E World Championship

ปอร์เช่ มั่นใจในอนาคตที่ยิ่งใหญ่ของ Formula E บริษัทผู้ผลิตรถสปอร์ตชั้นนำของโลกจากสตุ๊ทการ์ทเตรียมความพร้อมร่วมลงสนามประลองสงครามความเร็วในรายการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ ABB FIA Formula E World Championship ประจำฤดูกาล 2022/2023

แสดงวิสัยทัศน์แห่งการก้าวเข้าสู่ยุคสมัยใหม่ด้วยการส่งรถแข่งรุ่นล่าสุดในเจเนอเรชันที่ 3 ลงสนามอย่างเป็นทางการ ปอร์เช่ตอกย้ำพันธสัญญาในการเป็นส่วนหนึ่งของ Formula E และหลักปรัชญาขององค์กรในการสนับสนุนส่งเสริมการสรรสร้างยนตรกรรมในอนาคตผ่านทางการพัฒนารถแข่งพลังงานไฟฟ้า

ปอร์เช่ _ Fritz Enzinger
Fritz Enzinger รองประธานกรรมการผู้ดูแลส่วนงาน Porsche Motorsport และรองประธานอาวุโสของกลุ่ม Motorsport Volkswagen AG

“รถแข่งเจเนอเรชันที่ 3 คันล่าสุดนี้ คือการเปิดฉากเรื่องราวความสำเร็จบทต่อไปของการแข่งขันรายการ Formula E และเราต้องการที่จะเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งเหล่านั้น” ข้างต้นคือคำกล่าวจาก Fritz Enzinger รองประธานกรรมการผู้ดูแลส่วนงาน Porsche Motorsport และรองประธานอาวุโสของกลุ่ม Motorsport Volkswagen AG “ด้วยการเปิดตัวเข้าร่วมการแข่งขัน Formula E เมื่อปี 2019 เราได้กำหนดพันธสัญญาที่ชัดเจนจากมุมมองของเรา ส่งผลให้เกิดบรรยากาศที่เอื้ออำนวยต่อการแข่งขันและเพื่อพัฒนายานยนตรกรรมสมรรถนะสูง

ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพเต็มไปด้วยความยั่งยืน ผลงานในฤดูกาลก่อนหน้านี้คือสิ่งยืนยัน แม้ว่าจะต้องเผชิญกับความยากลำบากจากข้อจำกัดต่างๆอันเนื่องด้วยวิกฤติการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ความสำเร็จในฤดูกาลแรกของเราด้วยการขึ้นโพเดียมได้ 2 ครั้ง และคว้าตำแหน่งโพลมาได้อีก 1 ครั้งนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น” 

“หลักชัยสำคัญที่รอเราอยู่ข้างหน้าในลำดับถัดไปสำหรับการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบรายการ ABB FIA Formula E World Championship คือเรื่องทางเทคนิค นั่นทำให้ผมรู้สึกยินดีที่ปอร์เช่มีภารกิจที่จะต้องผลักดันตนเองให้ก้าวเข้าสู่ยุคสมัยใหม่” Jean Todt ประธานของ FIA กล่าวแสดงความคิดเห็น “น้ำหนักเบาลง พละกำลังสูงขึ้น ชาร์จพลังงานได้รวดเร็วยิ่งขึ้นรถแข่ง เจนเนอเรชันที่ 3  จะมีบทบาทในการกำหนดบรรทัดฐานต่ออนาคตของรถแข่งพลังงานไฟฟ้า

นอกจากนี้ยังเป็นสิ่งยืนยันได้ว่าการแข่งขัน Formula E นั้น ดำเนินมาในทิศทางที่ถูกต้องสำหรับความมุ่งมั่นที่จะสื่อสารประชาสัมพันธ์ให้เกิดการรับรู้ถึงความเชี่ยวชาญด้านพลังงานไฟฟ้าของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ต่างๆ รวมไปถึงประกาศคำมั่นสัญญาที่จะแสวงหาหนทางในการแก้ไขปัญหาด้านยานยนต์ได้อย่างยั่งยืน”

Jamie Reigle, CEO of Formula E
Jamie Reigle, CEO of Formula E

“เรามีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ทราบว่าปอร์เช่มีแผนระยะยาวในการทำงานร่วมกับ Formula E” Jamie Reigle CEO ของ Formula E กล่าวย้ำ “การปรากฏตัวของปอร์เช่ในรายการ Formula E คือสิ่งที่ยิ่งใหญ่ และเป็นการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของพวกเขาที่เป็นแรงผลักดันต่อการพัฒนาของเรา เราคาดหวังถึงการจับมือกันรังสรรค์รถแข่ง เจเนอเรชันที่ 3 พร้อมกับการที่ ABB FIA Formula E World Championship ยังคงเปรียบเสมือนสนามทดสอบสำหรับการโอนถ่ายวิวัฒนาการจากเทคโนโลยีรถสนามสู่รถพลังงานไฟฟ้าบนท้องถนนสาธารณะ”

รถแข่ง เจเนอเรชันที่ 3 เป็นอีกจุดหมายหนึ่งของ ABB FIA Formula E World Championship ในด้านการพัฒนาทางเทคนิค รถเหล่านี้จะนำพาเอาความล้ำหน้าต่างๆ ในแง่ของสมรรถนะและประสิทธิภาพซึ่งทั้งหมดนั้นมาพร้อมกับการควบคุมต้นทุนที่ดีขึ้นเรื่อยๆ แน่นอนว่าเมื่อพิจารณาถึงสมรรถนะการขับขี่ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งรถแข่งเจเนอเรชันที่ 3 นี้จะต้องถูกนำเอาไปเปรียบเทียบกับรถแข่ง เจเนอเรชันที่ 2

ซึ่งถูกใช้งานอยู่ในฤดูกาลนี้ใน qualifying mode พละกำลังระดับ 350 กิโลวัตต์ จะได้รับอนุญาตให้นำมาใช้แทนที่กำลัง 250 กิโลวัตต์ สำหรับ normal racing mode เพิ่มขึ้นเป็น 300 กิโลวัตต์ (ก่อนหน้าอยู่ที่ 200 กิโลวัตต์) ฟังก์ชันอื่นๆ ประกอบด้วยระบบเบรกไฟฟ้า electric all-wheel-drive ซึ่งมาพร้อมระบบชาร์จพลังงานย้อนกลับ recuperated ที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น – สูงสุดกว่า 600 กิโลวัตต์

Jean Todt, President of the FIA
Jean Todt, President of the FIA

การแข่งขันรายการ Formula E ได้กำหนดบรรทัดฐานใหม่ ให้แก่วงการกีฬาความเร็วด้วย ultra-fast-charging pit stops ที่ซึ่งรถแข่ง เจเนอเรชันที่ 3 สามารถชาร์จพลังงานสูงสุดได้ถึง 600 กิโลวัตต์ นวัตกรรมดังกล่าวไม่เพียงแต่ช่วยให้การแข่งขันสนุกสนานและตื่นเต้นขึ้นเท่านั้น สิ่งที่เหนือกว่าคือการลดระยะเวลาที่ใช้ชาร์จพลังงาน อันจะส่งผลสำคัญต่อการยอมรับการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในชีวิตประจำวันของผู้คนได้ง่ายขึ้น และยังส่งผลต่อเนื่องไปถึงการพัฒนายนตรกรรมไฟฟ้าในอนาคตอย่างไร้ขีดจำกัด

ปอร์เช่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการพิจารณากฎเกณฑ์ที่บังคับใช้ในรถแข่ง Gen3 ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้น “มันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเราในเรื่องการสร้างสรรค์ DNA ให้แก่รายการ Formula E ซึ่งจะส่งผลต่อความสำเร็จของการแข่งขันชิงแชมป์โลก ในขณะเดียวกันเราเฝ้ามองหาวิถีทางที่จะยกระดับรายการ Formula E ให้สูงขึ้นในมุมมองของการแข่งขันกีฬาความเร็ว และเทคโนโลยียานยนต์” Fritz Enzinger สรุปส่งท้าย

“เราต่างตระหนักดีถึงความท้าทายที่น่าสนใจ สำหรับการร่วมกันออกแบบสมการแห่งความสำเร็จให้เป็นรูปเป็นร่างแก่รายการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ ABB FIA Formula E World Championship และนั่นหมายรวมถึงการสร้างโอกาสอื่นๆ ในการพัฒนายนตรกรรรมพลังงานไฟฟ้าในระดับสากล เราทุกคนต่างรอคอยการมาถึงของ Formula E ยุคใหม่อย่างใจจดจ่อ”

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

Check Also

Isuzu One Make Race 2025 Flag off

อีซูซุเปิดศึกเจ้าแห่งความเร็วใน ISUZU ONE MAKE RACE 2025 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 16

กลุ่มตรีเพชร โดย บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ร่วมกับ บริษัท ฟาอีส ยูไนเต็ด มอเตอร์สปอร์ต จำกัด บริษัท ต.สยาม คอมเมอร์เชียล จำกัด …