รถนำเข้า ร่วมกับ ภาครัฐ เชื่อตลาดยังมีหวังสร้างพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ และในปี2562 คาดการณ์ว่าตลาดรถยนต์นำเข้าจะโตขึ้น 5 – 10 เปอร์เซ็นต์
รถนำเข้า ร่วมกับ ภาครัฐ เชื่อตลาดยังมีหวังสร้างพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ
นายสมศักดิ์ ศรีรัตนประภาส นายกสมาคมผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์ใหม่ เปิดเผยว่า ในปี 2561 ทางสมาคมฯ ซึ่งได้ดำเนินงานมากว่า 7 ปี จนเป็นที่ยอมรับของหน่วยงานภาครัฐต่าง ๆ ทำให้ในปีที่ผ่านนั้น ทางสมาคมฯ และหน่วยงานภาครัฐ สามารถประสานงาน และดำเนินงานในด้านต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้นจากปีก่อน ทั้งมีการประชุม เจรจา เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ร่วมกัน เพื่อให้การดำเนินกิจการของบริษัทผู้นำเข้ารถยนต์ เป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งในด้านของการชำระภาษี และด้านพิธีการนำเข้ารถยนต์ เป็นการสร้างความมั่นใจ และเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้บริโภค
“ในปีที่ผ่านมา ทางสมาคมพยายามทำงานกันอย่างหนัก ในการที่จะให้บริษัทสมาชิกดำเนินกิจการได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ตากฎระเบียบที่หน่วยงานภาครัฐกำหนด ทั้งนี้ในอดีตที่ผ่านมาบริษัทผู้นำเข้ารถยนต์โดยส่วนใหญ่แล้วจะไม่ค่อยรู้ และไม่เข้าใจในเรื่องกฏหมาย กฎระเบียบ หรือ ขั้นตอนการดำเนินการต่าง ๆ มากนัก จึงดำเนินการกันแบบผิด ๆ ถูก ๆ มาโดยตลอด จนมีการก่อตั้งสมาคมผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์ใหม่ขึ้นมา ทำให้บริษัทสมาชิกได้รับความรู้ในเรื่องวิธีการนำเข้ารถยนต์อย่างถูกต้อง จากทุก ๆ หน่วยงานภาครัฐ
โดยเฉพาะช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมา ที่มีการเปลี่ยนกฎระเบียบ และหลักเกณฑ์ การเก็บภาษีรถยนต์นำเข้าซึ่งถือเป็นเรื่องที่ใหม่มาก ๆ สำหรับบริษัทนำเข้า แต่ทางสมาคมก็เปรียบเสมือนเป็นศูนย์กลางในการประสานงานระหว่างบริษัทภาคเอกชน และหน่วยงานภาครัฐ โดยได้มีการประชุม เจรจา หารือ กับหน่วยงานต่าง ๆ หลายครั้ง ทั้งกรมศุลกากร กรมสรรพสามิต และสำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม
จนมาถึงวันนี้ บริษัทสมาชิกก็สามารถปฏิบัติได้ตามกฎระเบียบได้อย่างชัดเจน โปร่งใส และภาครัฐเองก็สามารถทำการตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอน และมีความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับปัญหาต่าง ๆ ที่เคยเกิดขึ้น ซึ่งทางสมาคมเอง ก็ต้องขอขอบคุณหน่วยงานภาครัฐทุกส่วน ที่พร้อมที่จะประชุมหารือกับเรา และช่วยกันแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ให้ลุล่วงได้ด้วยดี”
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า “จากการที่ภาครัฐ มีการปรับเปลี่ยนกฎหมาย และหลักเกณฑ์เรื่องภาษีนำเข้ารถยนต์ เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ทำให้บริษัทนำเข้า ต้องทำการปรับตัวเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ในวิธีการปฏิบัติ ก็ยังมีในบางขั้นตอน ที่แม้ปัจจุบันนี้ก็ยังไม่มีความแน่นอน เพราะก็ถือเป็นเรื่องที่ใหม่มากสำหรับทั้งทางภาคเอกชน และร่วมถึงเจ้าหน้าที่ภาครัฐเองด้วย ที่ก็ต้องปรับตัวในการปฏิบัติงานให้เป็นไปตามกฎระเบียบใหม่
โดยทางสมาคมเองก็ได้ประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐมาโดยตลอด เพื่อที่จะให้วิธีการ ขั้นตอนการปฏิบัติต่าง ๆ มีความชัดเจน โปร่งใส สามารถปฏิบัติได้จริง เป็นมาตรฐานที่ใช้เหมือนกันกับทุกบริษัท โดยสมาคมก็หวังว่ากฎระเบียบ และขั้นตอนต่าง ๆ จะนิ่งจนเป็นมาตรฐานเดียวกันในเร็ววันนี้”
ทั้งนี้ทางนายกสมาคมผู้นำเข้า และจำหน่ายรถยนต์ใหม่ ได้เปิดเผยตัวเลขยอดจำหน่ายรถยนต์นำเข้าของปี 2561 ไว้ที่ประมาณ 4,000 คัน ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้เกือบ 500 คัน โดยในช่วงไตรมาส 1-3 ของปีนี้ ยังคงทำยอดขายได้ดี ด้วยปัจจัยที่มีรถยนต์รุ่นใหม่เข้าสู่ตลาด
โดยเฉพาะรถยนต์เอนกประสงค์ แบบ MPV แต่พอเข้าสู่ไตรมาสที่ 4 ตัวเลขยอดจำหน่ายหดตัวลงไป ด้วยปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจโดยรวม ที่มีผลมาจากปัญหาระหว่างอเมริกา และจีน ทำให้กระทบต่อภาวะเศรษฐกิจของประเทศ ผู้บริโภคจึงเกิดการชะลอตัวในการตัดสินใจที่จะใช้จ่าย
“ในปี 2561 ที่ผ่านมานั้นตัวเลขยอดจำหน่ายรถยนต์นำเข้าไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ คือน้อยกว่าที่คาดไว้ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจริง ๆ แล้ว ในช่วงไตรมาสที่ 1 – 3 นั้น ยังคงสามารถทำยอดจำหน่ายได้ตามเป้า แต่เริ่มมาหดตัวลงในช่วงปลายไตรมาสที่ 3 จนถึงไตรมาสที่ 4 โดยผลมาจากปัจจัยหลาย ๆ อย่าง
โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจเป็นหลัก แต่เชื่อว่ารถยนต์นำเข้ายังเป็นสินค้าที่ยังสามารถทำตลาดได้อย่างต่อเนื่อง และมีโอกาสเติบโตได้อีก เพราะเป็นสินค้าที่สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี ทั้งในด้านของคุณภาพ และความหลากหลายที่ผู้บริโภคสามารถเลือกตามความต้องการได้
ในปีหน้า 2562 คาดการณ์ว่าตลาดรถยนต์นำเข้าจะโตขึ้น 5 – 10 เปอร์เซ็นต์ โดยตลาดส่วนใหญ่ยังคงมุ่งเน้นไปที่รถยนต์เอนกประสงค์แบบ MPV ทั้งจากฝั่งญี่ปุ่น และยุโรป ที่ยังเป็นที่นิยมมาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงจะยังมีการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ ๆ ออกสู่ตลาดอีกกว่า 20 รุ่น
เฉพาะรถยอดนิยมอย่าง ปอร์เช่ ที่จะเปิดตัวรถยนต์ใหม่เกือบทุกรุ่นในปีหน้า ประกอบกับการที่จะมีการเลือกตั้งในช่วงต้นปี ทางภาคเอกชนจึงคาดหวังว่าเศรษฐกิจโดยรวมจะดีขึ้น รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งจะเป็นที่ยอมรับจากต่างชาติมากขึ้น และรัฐน่าจะช่วยยกระดับเศรษฐกิจรากหญ้าให้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะภาคการเกษตร ทั้งในด้านราคาข้าว ราคายางพารา และการประมง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวมได้เป็นอย่างดี”
นายสมศักดิ์ กล่าวทิ้งท้าย “ในปีหน้าทุกอย่างน่าจะลงตัวกันพอดี ทั้งในแง่ของการปฏิบัติตามกฎระเบียบ และในแง่เศรษฐกิจโดยรวม จึงหวังว่าตลาดรถยนต์นำเข้าจะเติบโตขึ้นอย่างมั่นคง และจะเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศได้ต่อไป”