รถใหม่ ล่าสุด 2020: Ford Focus ST เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด มากับการยกระดับขีดความสามารถขึ้นอีกขั้นทั้งขุมพลังเบนซิน และดีเซล
รถใหม่: Ford Focus ST (2020) เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด ซึ่งมีทั้งขุมพลังเบนซิน และดีเซล
หากคุณกำลังค้นหา Wallpaper รูปรถสวยๆเราขอแนะนำ Wallpaper รูปรถสวยๆ Download wallpaper ที่นี้ |
Ford Focus ST เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด มากับการยกระดับขีดความสามารถขึ้นอีกขั้นทั้งขุมพลังเบนซิน และดีเซล ด้วยฝีมือของแผนก Ford Performance เพื่อสร้างยนตรกรรมที่เปี่ยมสมรรถนะทั้งในการขับขี่บนถนน และในสนามทั้งเบนซิน และดีเซล
ขุมพลังเบนซิน เจเนอเรชันใหม่ EcoBoost พิกัด 2.3 ลิตร
โดย Ford Focus ST ได้ถูกเน้นหนักในเรื่องของ “สมรรถนะ” เต็มขั้น ว่ากันตั้งแต่ ขุมพลังเบนซิน เจเนอเรชันใหม่ EcoBoost พิกัด 2.3 ลิตร ที่มากับระบบอัดอากาศ Turbocharge แบบ Twin-Scroll ซึ่งมากับเทคโนโลยี Anti-lag แบบเดียวกับที่พัฒนาขึ้นมาสำหรับ Ford GT และ F-150 Raptor
เพื่อยกระดับความเร้าใจในการขับขี่ โดยเฉพาะในโหมด Sport และ Track Drive ด้วยกำลังสูงสุดที่ทำได้ คือ 280 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตร ซึ่งสามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 6 วินาที
ขุมพลังดีเซล เทอร์โบ EcoBlue พิกัด 2.0 ลิตร นั้นจะมากับพละกำลัง 190 แรงม้า
ส่วนรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ EcoBlue พิกัด 2.0 ลิตร นั้นจะมากับพละกำลัง 190 แรงม้า ในขณะที่แรงบิดสูงสุดนั้นอยู่ที่ 400 นิวตันเมตร และทั้ง 2 รุ่นจะมีมากับมีเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ที่พัฒนาขึ้นใหม่เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน โดยที่รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน จะมีทางเลือกมาให้เป็นเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีดรุ่นใหม่
ระบบพวงมาลัยที่พัฒนาขึ้นใหม่ให้ตอบสนองได้รวดเร็วมากขึ้นกว่าเดิมอีกราว 15 เปอร์เซ็นต์ในทุกรุ่น
พร้อมด้วยระบบพวงมาลัยที่พัฒนาขึ้นใหม่ให้ตอบสนองได้รวดเร็วมากขึ้นกว่าเดิมอีกราว 15 เปอร์เซ็นต์ในทุกรุ่น เช่นเดียวกับระบบช่วงล่างแบบ Continuously Controlled Damping (CCD) ที่มีการปรับเซ็ทขึ้นใหม่ ด้วยการลดความสูงลงอีก 10 มม.
และเพิ่มความหนืดขึ้นอีก 20 เปอร์เซ็นต์ในด้านหน้า และ 13 เปอร์เซ็นต์ในด้านหลัง ทั้งยังมาพร้อมกับความล้ำสมัยด้วยเทคโนโลยีที่สามารถตรวจสอบช่วงล่าง, ตัวรถ, พวงมาลัย และการเบรกทุก 0.002 วินาที เพื่อทำการปรับระบบกันสะเทือนที่เหมาะสมกับสไตล์การขับขี่
เพิ่มตัวช่วยสำคัญอย่างชุดเฟืองท้ายแบบ ELSD ควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์
อีกทั้งยังเพิ่มตัวช่วยสำคัญอย่างชุดเฟืองท้ายแบบ ELSD ควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ มาให้ในรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2.3 ลิตร EcoBoost ส่วนรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร EcoBlue จัดระบบ Torque Vectoring Control Technology เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
ระบบเบรกถูกอัพเกรดไปใช้ขนาดใหญ่ขึ้น สามารถทำงานได้รวดเร็ว และมั่นใจมากขึ้นในทุกโหมดการขับขี่
ขณะที่ระบบเบรกถูกอัพเกรดไปใช้ขนาดใหญ่ขึ้น โดยมีขนาดจานเบรกด้านหน้าอยู่ที่ 330 x 27 มม. จับคู่คาลิปเปอร์แบบ Dual Pot และด้านหลังอยู่ที่ 302 x 11 มม. และมาพร้อมกับเทคโนโลยี EBB (Electric Brake Booster) เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
ซึ่งจะช่วยเพิ่มแรงดันให้ระบบเบรกสามารถทำงานได้รวดเร็ว และมั่นใจมากขึ้นในทุกโหมดการขับขี่ ซึ่งมีให้เลือก เช่น Slippery/Wet, Normal, Sport ตลอดจน Track Drive Modes ที่ต้องเลือกติดตั้งออฟชั่น Performance Pack เข้าไป
Credit: www.NetCarShow.com