รถใหม่: McLaren Speedtail (2020) ครื่องยนต์เบนซิน ผสานกำลังกับมอเตอร์ไฟฟ้า Petrol-Electric Hybrid ซึ่งสร้างพละกำลังมหาศาลได้ถึง 1,050 แรงม้า
รถใหม่: McLaren Speedtail (2020) ผลิตจำกัดเพียงแค่ 106 คันทั่วโลกเท่านั้น
หากคุณกำลังค้นหา Wallpaper รูปรถสวยๆเราขอแนะนำ Wallpaper รูปรถสวยๆ Download wallpaper ที่นี้ |
McLaren Speedtail (2020)
McLaren Automotive ปล่อยของใหม่ล่าสุดในอนุกรม Ultimate Series ด้วย McLaren Speedtail ในฐานะ “Hyper GT” โมเดลแรกประจำค่าย ที่มากับจำนวนการผลิตจำกัดเพียงแค่ 106 คันทั่วโลกเท่านั้น
สำหรับรูปลักษณ์ของ McLaren Speedtail มากับงานดีไซน์ที่เน้นหลักอากาศพลศาสตร์ชั้นสูง ผสมผสานด้วยการลดน้ำหนักส่วนเกินจากการเลือกใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ ในการผลิตโครงสร้างตัวถังที่มีชื่อเฉพาะว่า McLaren Monocage ตามด้วยระบบช่วงล่างแบบ Active Suspension ที่สร้างขึ้นจากวัสดุอลูมิเนียม และระบบเบรกแบบคาร์บอนเซรามิค ซึ่งทำให้น้ำหนักตัวรถเปล่าสุทธิอยู่ที่ 1,430 กก. เท่านั้น
ออกแบบในส่วนห้องโดยสารในลักษณะ “โดม” คล้ายฝาครอบค็อกพิทของเครื่องบินขับไล่ ส่วนล้อคู่หน้ามากับฝาปิด ที่ทำจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ เพื่อช่วยลดการไหลวนของอากาศ ขณะที่ด้านหลังมากับชุด Active Aerodynamic ที่แยกออกเป็น 2 ฝั่ง ซึ่งติดตั้งอยูในตัวถัง และสามารถยกตัวขึ้นมาได้ 35 มิลลิเมตร เพื่อสร้างแรงกด Downforce
การออกแบบภายในห้องโดยสารได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถ McLaren F1 ด้วยการวางตำแหน่งเบาะนั่งคนขับไว้ตรงกลาง ส่วนด้านหลังเป็นเบาะนั่งผู้โดยสารในตำแหน่งด้านซ้าย ด้านขวาของเบาะนั่งคนขับ ขณะที่บนคอนโซลมากับความล้ำสมัยเต็มขั้น ด้วยหน้าจอ LCD แบบดิจิตอล สำหรับแสดงข้อมูลต่าง ๆ
ตลอดจนระบบ Infotainment และระบบปรับอากาศ อีกทั้งยังมีหน้าจอบริเวณเสา A-Pillar ทั้ง 2 ฝั่ง ทำหน้าที่เป็นกระจกมองข้างแบบ E-mirrors นอกจากนี้ยังมีแผงควบคุมต่าง ๆ ที่ถูกติดตั้งด้านบนหลังคา ซึ่งทำให้ผู้ขับขี่รู้สึกราวกับกำลังควบคุมอากาศยานเลยทีเดียว
ขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน ผสานกำลังกับมอเตอร์ไฟฟ้า Petrol-Electric Hybrid ซึ่งสร้างพละกำลังมหาศาลได้ถึง 1,050 แรงม้า
ขุมพลังของ McLaren Speedtail นั้นมากับเครื่องยนต์เบนซิน ผสานกำลังกับมอเตอร์ไฟฟ้า Petrol-Electric Hybrid ซึ่งสร้างพละกำลังมหาศาลได้ถึง 1,050 แรงม้า โดยเร่งความเร็วจาก 0-300 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 12.8 วินาที ขณะที่อัตราความเร็วสูงสุดนั้นว่ากันที่ระดับ 403 กม./ชม. ใน Velocity Mode อีกทั้งยังมาพร้อมกับระบบ Velocity Active Chassis Control สำหรับปรับระดับความสูงของตัวรถที่ปกติจะอยู่ราว ๆ 1,120 มม. ให้ลดลงมาได้อีก 35 มม. เพื่อเพิ่มเสถียรภาพการขับขี่ในความเร็วสูง
Credit: www.NetCarShow.com