รีวิวทดสอบรถ BMW M2 Coupe ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ M สายพันธุ์แท้ แบบ 6 สูบแถวเรียงพิกัด 3.0 ลิตร พละกำลังออกมาให้ใช้ถึง 370 แรงม้า
รีวิวทดสอบรถ BMW M2 Coupe ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ M สายพันธุ์แท้
“เจ้านี่คือ BMW ที่ไม่ใช่ BMW เพราะมันจะมี ‘หน้าตา’ บ่งบอกว่ามาจากแบรนด์ใบพัดฟ้า-ขาว … แต่เชื่อเถอะว่า มันมีแค่สิ่งนั้นแหละที่ใช่ เพราะนอกนั้น คือ ผลงานการสร้างสัตว์ร้าย ภายใต้ฝีมือแผนกของ M Division ล้วน ๆ”
ถ้าถามผมว่าสำหรับ BMW M ที่มีจำหน่าย ณ ปัจจุบันอยากขับรุ่นไหนที่สุด คำตอบเดียวที่ผมจะตอบก็คือ ‘M2’ ด้วยเหตุผลง่าย ๆ ก็คือ ‘ความดิบเถื่อน’ ที่เค้าว่ากันปากต่อปาก และสร้างความประทับใจมาแล้วนักต่อนัก สำหรับพวกชอบเสพความแรง
ซึ่งนับตั้งแต่ BMW Thailand เปิดตัว M2 ในไทยอย่างเป็นทางการ สาวก Bimmer หลายคนคงเก็บเอาเจ้านี่มาเป็นอีกหนึ่งในรถฝัน โดยผมเองก็เช่นกัน แต่ด้วยราคาแตะ 6 ล้านบาทไทย เลยทำให้ฝันยังคงเป็นฝัน และขอแค่โอกาสได้ลองขับสักครั้งก็พอ โดยล่าสุด BMW Thailand จัดให้ ส่งตรง BMW M2 Coupe สู่อ้อมอก Torque Magazine ฉะนั้นเมื่อความ ‘อยาก’ ถึงขีดสุด พร้อมกับ ‘วัตถุดิบ’ ที่เดินทางถึงมือพอดี งานนี้ไม่มีรอให้ตัดริบบิ้นเบิกฤกษ์แน่นอน เพราะงั้นคว้ากุญแจแล้วไปกันเลยดีกว่า
สำหรับ BMW M2 Coupe นั้นเรียกได้ว่าเป็น ‘น้องชาย’ คนเล็กจากผลงานของแผนก M Division ที่นำเอา BMW 2-Series ยนตรกรรมพิกัด Compact Car มา ‘รื้อ’ ทิ้ง และ ‘สร้าง’ ใหม่ ตั้งแต่จุดเริ่มต้น เช่น โครงสร้างตัวถังที่เสริมความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นอีกระดับ ผสมผสานไปกับการเข้าคอร์สลดน้ำหนัก ตามด้วยการปรับในเรื่องของงานดีไซน์ใหม่ให้ดู ‘โหด’ และ ‘แตกต่าง’ จาก BMW 2-Series Coupe เวอร์ชั่นพื้นฐาน
โดยจะประกอบด้วยชุดตกแต่ง BMW Individual High-Gloss Shadow Line Package ซึ่งประดับลงไปบนตัวถังที่อัพเกรดความ ‘เข้ม’ เช่น โป่งล้ออวบใหญ่ รับกับล้ออัลลอยลาย M Double-Spoke ขนาด 19 นิ้ว พร้อมยางต่างขนาด คือ 245/35 R19 ในด้านหน้า และขนาด 265/35 R19 ในด้านหลัง โดยซุกซ่อนชุดเบรก M Compound ซึ่งสะดุดตาด้วยชุดคาลิปเปอร์เบรก M แบบด้านหน้า 4 Pot และด้านหลัง 2 Pot
ตามด้วยการเปลี่ยนแปลงในส่วนของชุด ที่มากับช่องดักอากาศขนาดใหญ่ 3 ช่อง, กระจังหน้าสีดำแบบซี่คู่ ประทับตราสัญลักษณ์ M ส่วนด้านข้างเสริมด้วยกาบบันได M พร้อมด้านหลังที่มากับ M Rear Spoiler บนฝากระโปรงท้าย, ชุดไฟท้ายแบบ LED ทรง L – Shaped และชุดกันชนหลังที่เพิ่มความโหดด้วย Diffuser ซึ่งออกแบบให้มีความลงตัวกับชุดท่อไอเสีย BMW M Exhaust Tailpipes แบบโครเมี่ยม
ภายในยังคงมากับความหรู และการผสมผสานความสปอร์ต ด้วยการเสริมแต่งรายละเอียด เช่น พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนังแท้แบบ M พร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์ Paddle Shift, เบาะนั่งแบบสปอร์ตคู่หน้าหุ้มด้วยหนัง Dakota เดินด้ายสีฟ้า และตราสัญลักษณ์ M ที่พนักพิง, การตกแต่งด้วย Carbon Fiber และหลังคาภายในตกแต่งด้วยสี Anthracite ในขณะที่ระบบความบันเทิงนั้นก็ยังจัดมาให้แบบครบ ๆ ด้วยเครื่องเสียงจากแบรนด์ Harman Kardon รองรับการเชื่อมต่อโทรศัพท์ด้วย Bluetooth ช่อง USB และแท่นสำหรับอุปกรณ์เสริม รวมถึงแอพพลิเคชั่น BMW สำหรับ Smartphone ที่สามารถควบคุมได้จากทั้งบนพวงมาลัย และปุ่มควบคุม iDrive
แต่งานนี้เมื่อมีโอกาสได้ลอง ‘หวด’ BMW M2 Coupe ทั้งที ใครเลยจะมานั่งสนใจเรื่องฟังก์ชันอำนวยความสะดวกล่ะครับ ในขณะที่ ‘สมรรถนะ’ คือ สิ่งที่น่าสนใจสุด ๆ ณ เวลานี้ เพราะภายใต้ฝากระโปรงหน้าน้ำหนักเบานี้ คือ เครื่องยนต์ M สายพันธุ์แท้ แบบ 6 สูบแถวเรียงพิกัด 3.0 ลิตร พ่วงระบบอัดอากาศ BMW TwinPower Turbo แบบ Twin Scroll ซึ่งจัดสรรพละกำลังออกมาให้ใช้ถึง 370 แรงม้าที่รอบจัดถึง 6,500 รอบต่อนาที พร้อมด้วยแรงบิดสูงระดับ 465 นิวตันเมตรที่ 1,400 – 5,560 รอบต่อนาที ซึ่งสามารถ Overboost แรงบิดเพิ่มขึ้นอีก 35 นิวตันเมตร ขึ้นไปถึง 500 นิวตันเมตรที่ 1,450 – 4,750 รอบต่อนาที
ส่วนระบบส่งกำลัง คือ หน้าที่ของเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด คลัทช์คู่ M DCT (M Double Clutch Transmission) พร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์ Paddle Shift และระบบ Drivelogic ที่ออกแบบมาพิเศษ สำหรับขุมพลังรอบสูงในการถ่ายทอดเรี่ยวแรงลงสู่ล้อหลัง การันตีอัตราเลขตัวเลขจาก 0-100 กม./ชม. ที่ 4.3 วินาที และทำความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. ทั้งยังมาพร้อมตัวช่วยสไตล์รถสมรรถนะสูงอีกมากมาย สำหรับสร้างความเร้าใจ ไม่ว่าจะเป็นระบบ Launch Control, ระบบเฟืองท้ายแบบ Active M Differential ควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ ไปจนถึงฟังก์ชัน Driving Experience Control ให้เลือกปรับรูปแบบการขับขี่ได้ 3 โหมด คือ Comfort, Sport และ Sport+ ซึ่งคงไม่ต้องถามว่าส่วนใหญ่เราใช้โหมดไหนเป็นส่วนใหญ่ในการกระหน่ำคันเร่ง
แต่ดูเหมือนครั้งหนึ่งจะมีคนเคยเตือนว่า สำหรับ M2 ซึ่งมากับความ ‘ดิบ’ ขั้นสุดยอดล่ะก็ ถ้าใจยังไม่กล้าพอที่จะจัดหนักด้วยโหมด Sport+ ตั้งแต่นัดแรกที่เจอกัน ให้ลองชิมลางด้วย Sport เพื่อปรับความคุ้นเคยก่อน ซึ่งบอกเลยว่าแค่โหมด Sport ในตอนออกตัวแบบกระแทกคันเร่ง ก็มากพอที่จะให้สัญญาณไฟเตือน Traction Control กระพริบถี่ ๆ ในทันที ตามด้วยรอบเครื่องยนต์ที่กวาดขึ้นอย่างไว เพื่อสร้างการออกตัวที่รุนแรงจนหลังติดเบาะ
ปกติผมชอบที่จะฟังเพลงไปด้วยขณะขับรถ แต่กับ BMW M2 เชื่อเถอะว่าคุณอยากที่จะฟังเสียงหวาน ๆ ของรอบเครื่องยนต์มากกว่าสิ่งอื่นใด โดยเฉพาะในการเล่นกับโค้ง ด้วยการใช้ Paddle Shift ปรับเกียร์ลงต่ำ ลากรอบมารอ เพื่อเรียกแรงม้า แรงบิด ให้กองรออยู่ปลายเท้า ก่อนจะกระแทกคันเร่งกลับลงไป หลังจากตั้งลำตรง และตบ Paddle Shift เพื่อปรับเกียร์ขึ้น ซึ่งมันคือ ‘วัฎจักร’ แห่งการกระทำ โดยเฉพาะเมื่อคุณมีโอกาสได้ขับ M2 ในสนามสั้น ๆ ที่เต็มไปด้วยโค้งองศาลึกมากมาย และรวมไปถึงการ ‘ซิ่ง’ บนท้องถนนในช่วงเวลาเร่งด่วนด้วยเช่นเดียวกัน
ผมอยู่กับ M2 แม้ไม่นาน แต่ก็พอจะบอกได้ว่า เจ้าตัวแสบรุ่นนี้ เป็นรถที่ไม่ต้องการความประนีประนอมแต่อย่างใด ตั้งแต่แค่การสตาร์ทรถจอดนิ่งเฉย ๆ คุณก็สามารถได้ยินเสียงเครื่องยนต์เดินเบา ด้วยเสียงหอบต่ำ ๆ ครางกระพือ รอการปลดปล่อยพลัง ซึ่งหากได้ลองเพียงสักครั้ง มันจะทำคุณเสียนิสัยทันที โดยการเปลี่ยนพฤติกรรมการขับขี่ของคุณใหม่ให้กลายคนเท้าหนักโดยปริยาย
แถมคนที่คิดว่า M2 จะมีความนุ่มนวลของช่วงล่างตามมาตรฐาน BMW ทั่วไปล่ะก็ ผิดถนัดครับ เพราะความต่างนอกจากพละกำลังแล้ว ก็คือเรื่องของช่วงล่างที่หยิบยกเอาความสปอร์ตมาใส่เอาไว้แบบเต็ม ๆ ทำให้อรรถรสในการขับขี่ด้วยความเร็วต่ำแบบถนนไม่เรียบ ๆ อย่างเช่นในบ้านเรา มันอาจจะดูโหดร้ายสักนิด สำหรับคนชอบอารมณ์นุ่ม ๆ แบบ BMW รุ่นมาตรฐานทั่วไป แต่กับใครที่ชอบปราบพยศรถสมรรถนะสูงล่ะก็ อารมณ์ช่วงล่างแบบนี้ บอกเลยว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แถมน่าจะชอบด้วยซ้ำ เมื่อผสมผสานกับสมรรถนะที่ถูกถ่ายทอดออกมาแบบสะใจ
ฉะนั้นผมจึงไม่ปฏิเสธสักนิด ว่าผมหลงรักเจ้า BMW M2 Coupe แบบหัวปักหัวปำ เลยทีเดียวแม้จะได้ลองขับไปเพียงไม่นาน จนอยากจะเป็นเจ้าของสักคันในฐานะของ Big Boy Toy นะครับ เพราะผมคิดว่าในฐานะอื่นความสามารถของเจ้า M2 Coupe นั้นดูมันจะมากไป จนอาจเข้าข่ายคนที่บ้านไม่ปลื้มได้ เพราะถ้าจะใช้งานปกติในชีวิตประจำวันก็ดูจะเหนื่อยไปสักนิดโดยเฉพาะถ้าเจอรถติด ๆ ในเมือง หรือถ้าคิดจะไปต่างจังหวัดมันก็อาจะมีข้อจำกัดเยอะหน่อย ถ้าคุณเป็นคนรักรถเข้าเส้น ฉะนั้นผมจึงคิดว่าเจ้านี่น่าจะเหมาะสมกับฐานะรถคันที่ 2 หรือ 3 ของบ้าน ในการเป็น Big Boy Toy อีกชิ้นที่ผู้มี ‘กำลังทรัพย์’ และคลั่งไคล้ตัวอักษร ‘M’ ควรมีไว้ครอบครอง
Specification : BMW M2 Coupe
- Price : 5,939,000 BHT
- Engine : 2,979 CC / TwinPower Turbo / 6 Cylinder / 24 Valve 370 hp @ 6,500 rpm / 465 Nm @ 1,400-5,560 rpm
- Transmission : 7M DCT / Rear Wheel Drive
- Performance : 0 – 100 Km/h @ 4.3 Sec, Top Speed @ 250 Km/h
- Weight : N/A