รีวิวทดสอบรถ Mercedes-AMG ในเส้นทางกรุงเทพฯ – อยุธยา 

รีวิวทดสอบรถ Mercedes-AMG จัดทัพรวมพลรถสปอร์ตสมรรถนะสูง ชวนสื่อมวลชนร่วมทดสอบความแรง กว่า 6 รุ่น 8 คัน ในเส้นทางกรุงเทพฯ – อยุธยา

บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดหนักส่งท้ายครึ่งปีแรก ชวนทัพสื่อมวลชนร่วมทดสอบสมรรถนะรถยนต์กลุ่มสปอร์ตสมรรถนะสูง แบรนด์ Mercedes-AMG กว่า 6 รุ่น 8 คัน ครบครันทั้ง

1. Mercedes-AMG A45 4MATIC,
2. Mercedes-AMG CLA 45 4MATIC,
3. Mercedes-AMG GLA 45 4MATIC,
4. Mercedes-AMG C43 4MATIC Coupe,
5. Mercedes-AMG SLC 43 และ
6. Mercedes-AMG GLE 43 4MATIC Coupe

ให้ได้สัมผัสกันอย่างใกล้ชิดทั้งในด้านดีไซน์ ความเร็ว และความแรงในเส้นทางกรุงเทพฯ – อยุธยา

นับเป็นทริปขับรถที่มีแรงม้าหลายพันแรงม้า เพราะรถแต่ละคันไม่ธรรมดาพกพาแรงม้ามามากกว่า 300 ตัว ซึ่งบอกเลยว่าทริปนี้มันส์มาก แม้เราจะมีระยะทางในการทดสอบไม่ไกลมากนัก แต่ก็พอเพียงที่จะได้ทดสอบสมรรถนะของตัวรถอย่างเต็มพิกัด AMG ถือว่าเป็นสำนักตกแต่งรถคู่บารมีของ Mercedes-Benz มาอย่างยาวนาน

ในการทดสอบครั้งนี้ เรามีรหัส 43 กับ รหัส 45 ซึ่งทั้งสองรหัสที่กล่าวจะแตกต่างตรงที่ รหัส 43 ยังเป็นการประกอบเครื่องยนต์ด้วยเครื่องจักร แต่รหัส 45 จะเป็นการประกอบด้วยมือโดยช่างเพียงคนเดียว เหมือนในซูเปอร์คาร์แพงที่เขาทำกัน ทำให้รถรหัส 45 นั้นมีความโดดเด่นทั้งสมรรถนะและรายละเอียดในการประกอบที่ได้รับการใส่ใจจากผู้ประกอบ โดยรถทุกคันในรหัส 45 จะมีลายเซ็นของผู้ประกอบอยู่บนฝาเครื่องอีกด้วย

อย่างที่กล่าวมา ในวันนี้แม้จะเป็นวันเดย์ทริปแต่ก็มีรถให้ลองขับมากมาย ซึ่งเรามีโอกาสได้สัมผัสอยู่สองรุ่น แต่โชคดีที่ได้สัมผัสทั้งในรุ่น รหัส 43 และ45 โดยครั้งแรกที่เราได้ทดสอบเป็น Mercedes-AMG C43 4MATIC Coupe ถือเป็นรถยนต์สมรรถนะสูงตระกูล 43 สามารถสัมผัสถึงความโดดเด่นของแบรนด์ Mercedes-AMG ได้ในทุกจังหวะการขับขี่ โดย

Mercedes-AMG C43 4MATIC Coupe

ดีไซน์ภายนอกของรถยนต์รุ่นนี้ โดดเด่นด้วยการตกแต่งฝาครอบเครื่องยนต์ด้วยแถบสีแดงทรงวี เพื่อสะท้อนสมรรถนะเครื่องยนต์แบบวี 6 สูบเทอร์โบคู่ ขนาด 2,996 ซีซี มาพร้อมแรงม้า 367 แรงม้าที่ 5,500 -6,000 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิด 520 นิวตันเมตรที่ 2,000-4,200 รอบต่อนาที ที่สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 ได้เพียง 4.7 วินาที พร้อมความเร็วปลายที่ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ถือว่ามีอัตราการตอบสนองที่รวดเร็ว และรุนแรงเพียงกดคันเร่งลงจนสุด และรอเพียงเสี้ยววินาที แรงดึงของตัวรถที่ตรึงคุณกับเบาะ พร้อมกับตัวรถที่พุ่งทะยานไปอย่างรวดเร็ว ที่ทำให้รถข้างหลังเริ่มเล็กลงไปเรื่อย ๆ นั่นก็เป็นเครื่องยืนยันได้ถึงสมรรถนะที่ดึงดันของคำว่าAMG ได้ยิ่งกว่าสิ่งใด

อีกทั้งจุดเด่นอื่น ๆ ที่น่าสนใจอย่าง ฝากระโปรงหน้าแบบยาว ตัวถังที่กว้างขึ้น ประตูแบบไร้ขอบ กรอบกระจกมองข้างสีดำแบบลอยตัวจากตัวถัง ขอบตกแต่งสีดำเงาบริเวณด้านข้างตัวรถและกรอบหน้าต่าง เส้นสายด้านข้างตัวรถที่ยาวลงไปถึงซุ้มล้อหลัง พร้อมปลายท่อไอเสียเสริมโครเมียม 2 ท่อ พร้อมตัวแบ่งตรงกลางที่เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

• ไฟหน้าแบบ LED Intelligent Light System
• ระบบปรับโคมไฟหน้ารถตามการเลี้ยวของพวงมาลัย (ALS – Active Light System)
• ระบบเพิ่มความส่องสว่างขณะเลี้ยวโค้ง (Cornering light)
• หลังคาพาโนรามิคซันรูฟเลื่อนเปิด-ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า
• กระจังหน้า Diamond Grille สีเงิน พร้อมตราสัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ และAMG
• AMG bodystyling (กันชนหน้า-หลังและสเกิร์ตข้าง)
• ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจากAMG แบบ 5 ก้านคู่ ขนาด 19”
• ยางรถยนต์แบบ Run-flat ก็ถูกแต่งเติมมาจนครบ

ที่มาพร้อมค่าตัวราคา 4,140,000 บาท

ดีไซน์ภายใน มาพร้อมพวงมาลัยแบบสปอร์ตท้ายตัดที่ปรับการทำงานตามระดับความเร็ว, ระบบป้อนเข็มขัดนิรภัยอัตโนมัติ สำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า, วิทยุ-ซีดี MB Audio 20 พร้อม Touchpad และ Controller, ระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester®, ตกแต่งภายในด้วยลาย AMG Carbon-fibre และอะลูมิเนียม

นวัตกรรมและเทคโนโลยี ใช้ระบบช่วงล่าง AMG RIDE CONTROL แบบสปอร์ตเป็นระบบมาตรฐาน เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ยอดเยี่ยมในทุกย่านความเร็ว พร้อมมอบความสบายให้ทุกคนในห้องโดยสารแม้ขณะเดินทางไกล โดยผู้ขับขี่สามารถปรับตั้งค่าระบบรองรับแรงสะเทือนได้ 3 รูปแบบ คือ

1. Comfort
2. Sport
3. Sport Plus

รถยนต์รุ่นนี้ยังมาพร้อมกับระบบ AMG DYNAMIC SELECT ที่มีให้เลือก 5 โหมด คือ

1. Eco
2. Comfort
3. Sport
4. Sport Plus
5. Individual

โดยโหมดการขับขี่แบบ Sport Plus จะสามารถเร้าอารมณ์ของผู้ขับขี่ได้ถึงขีดสุด และยังช่วยให้ผู้ขับขี่สัมผัสถึงจิตวิญญาณของแบรนด์ AMG ได้อย่างแท้จริง

Mercedes-AMG A45 4MATIC

หลังจากถึงที่หมายเราพักทานข้าวก่อนมีการสลับรถ โดยขากลับเราได้ลองขับ Mercedes-AMG A45 4MATIC ยนตรกรรมจากตระกูล A-Class ที่ยังคงรูปลักษณ์ ความหรูหราสไตล์สปอร์ตจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิดตัวครั้งแรกในปี 2013 และประสบความสำเร็จติดอันดับท็อปในตลาดรถยนต์ขนาดเล็ก โดย

ดีไซน์ภายนอก ถูกออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์มอเตอร์สปอร์ต ผนวกกับชุดแต่งดีไซน์ใหม่ของ AMG ที่มากับเทคโนโลยีของรถตระกูลรุ่น A-Class พร้อมทั้งกระจังหน้าแบบ A-wing 3 มิติ ที่มากับลายเส้นเอกลักษณ์ 4 เส้นและโลโก้สีเทาไทเทเนียมแมตช่วยเพิ่มความรู้สึกแบบสปอร์ตมากยิ่งขึ้น ส่วนด้านท้ายรถตกแต่งด้วยสปอยเลอร์ ไฟท้ายที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับการขับขี่ยามค่ำคืน และล้ออัลลอยAMG 19 นิ้ว สีเทาไทเทเนียม อยู่ที่ราคา 4,390,000 บาท

ในส่วนของเครื่องยนต์ที่เป็นหัวใจของรถทุก ๆ คัน กับเครื่องยนต์ขนาด 1,991 ซีซี 381 แรงม้า ที่ 6,000 รอบนาที พร้อมแรงบิด 475 นิวตันเมตรที่ 2,250-5,000 รอบต่อนาที ที่สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 ได้ในเพียง 4.2 วินาที พร้อมความเร็วปลายที่ทำได้จริงที่ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ดีไซน์ภายใน ยังคงเน้นความปราดเปรียวสไตล์สปอร์ต แผงหน้าปัดมากับดีไซน์ลายเส้นคู่เข็มไมล์ และตัวเลขแบบใหม่ พวงมาลัยหนังที่ถูกดีไซน์มาเพื่อผสานการขับขี่ของผู้ขับขี่กับรถเข้าด้วยกันอย่างลงตัว นอกจากนี้ The Mercedes-AMG A45 4MATIC ยังมากับระบบการขับขี่ AMG DYNAMIC SELECT  4 โหมด

1. Comfort
2. Sport
3. Sport Plus
4. Individual

ประกอบกับระบบเกียร์ AMG SPEEDSHIFT DCT 7-speed sports ที่ใช้ระยะเวลาในการเปลี่ยนเกียร์สั้นลงโดยเฉพาะเกียร์ 3-7 รองรับการขับขี่สไตล์สปอร์ตด้วยการติดตั้งปุ่ม Shift เกียร์สีเงินที่พวงมาลัยเพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนเกียร์ Manual ได้อย่างสนุกสนานที่ถูกถ่ายทอดสู่ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ

ถ้าเทียบทั้งสองคันนี้คงบอกเลยว่า Mercedes-AMG A45 4MATIC ได้เปรียบกว่าอย่างแน่นอนด้วยรูปทรงที่มีขนาดที่เล็ก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า Mercedes-AMG C43 4MATIC Coupe จะไม่น่าประทับใจ แต่ความหล่อแบบสปอร์ตแท้ของ C43 ก็คงชดเชยทุกอย่างได้เป็นอย่างดี ซึ่งในตอนนี้ทาง Mercedes-Benz ได้นำรถรุ่น AMG มาประกอบในไทยทำให้ราคาถูกลงมาก ซึ่งทำให้การครอบครองรถ AMG เป็นเรื่องง่ายขึ้นกว่าเดิม