รีวิวทดสอบรถ MG3 รูปลักษณ์ใหม่ แรงบันดาลใจการดีไซน์จากรถต้นแบบ MG E-Motion เปี่ยมไปด้วยความมันส์ หากคุณใช้โหมด Manual เข้ามาเป็นส่วนประกอบสำคัญ
รีวิว ทดสอบรถ MG3 รูปลักษณ์ใหม่ แรงบันดาลใจการดีไซน์จากรถต้นแบบ MG E-Motion
MG3 ยนตรกรรมโมเดลแรก จาก บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด คือ อีกหนึ่งโมเดลที่มีกระแสตอบรับจากชาวไทยในระดับที่เรียกว่า “ประสบความสำเร็จ” ถึงปัจจุบัน ดังที่เห็นวิ่งอยู่ทั่วบ้านทั่วเมือง จนทำเอาเราอยากขับมันอีกครั้งเลยทีเดียว
MG3 มากับหน้าตาที่เราคุ้นเคยกันดี บนเรือนร่างตัวถังในสไตล์ Hatchback ซึ่งรายล้อมด้วยงานดีไซน์ที่เกิดจากแนวคิด Brit Dynamic จากการผสมผสาน “สมรรถนะ, การควบคุม, การออกแบบ, ความปลอดภัย และเทคโนโลยีอันทันสมัย” เอาไว้อย่างลงตัวเพื่อตอบโจทย์ ทุกไลฟ์สไตล์ของการใช้ชีวิตสำหรับคนรุ่นใหม่
โดยจุดเด่นของ MG3 นั้นว่ากันตั้งแต่รูปลักษณ์ใหม่ ที่มีแรงบันดาลใจในการดีไซน์มาจากรถต้นแบบชื่อ MG E-Motion ประกอบด้วยรายละเอียดอันสะดุดตา เช่น กระจังหน้าใหม่, ชุดไฟหน้าล้ำ ๆ ที่เลือกใช้แบบโปรเจ็กเตอร์ (Projector Headlamp) พร้อมด้านหลังที่มากับไฟท้ายแบบ LED Light Guide
ในขณะที่มุมมองจากด้านข้างนั้น คุณจะเห็นถึงความกระชับจากรูปทรงตัวถัง ปูพรมด้วยเส้นสายที่ชัดเจนจากด้านหน้า ไปถึงซุ้มล้อหลัง และสร้างความหล่อเหลาด้วยล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่แบบ Bi-Colour ขนาด 16 นิ้ว ซึ่งนั่นช่วยขับเน้นความสะดุดตาให้โทนสีตัวถังแบบ Brit Duo Colour Styling ได้เป็นอย่างดี
เมื่อคุณปลดล็อคประตู ก้าวสู่ห้องโดยสารภายใน คุณจะซึมซับอารมณ์ที่คุ้นเคยในเรื่องของการออกแบบอย่างมีสไตล์ เพื่อยกระดับสู่ความสปอร์ตแบบพรีเมี่ยม เช่น แผงคอนโซลหน้า และสีสันของเบาะโดยสารลาย Modern Graphic พร้อมด้วยการเอาใจผู้เป็นเจ้าของด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็นความกว้างขวางแบบคาดไม่ถึง รวมถึงความอเนกประสงค์ในด้านหลัง ตั้งแต่ห้องเก็บสัมภาระท้ายที่เพิ่มเติมขนาดได้ด้วยการปรับพับพนักพิงเบาะนั่งด้านหลังแบบ 60:40
ในขณะที่สิ่งบันเทิงเริงใจใน MG3 ได้รับการอัพเกรดขึ้นใหม่ให้ทันสมัยมากยิ่งขึ้น เช่น หน้าจอระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว ที่มากับระบบอัจฉริยะ i-Smart เพื่อตอบรับการใช้งานที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง, ฟังเพลง ทั้งยังมีการอัพเดตระบบ Navigation ใหม่ เพื่อให้เป็นตัวช่วยชั้นดีในการค้นหาโรงแรม หรือ ร้านอาหารได้ง่ายขึ้น และที่สำคัญมันสามารถสั่งการได้ด้วยเสียงภาษาไทย
ตามด้วยระบบ Entertainment ที่เลือกฟังเพลงศิลปินจากค่ายต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดายผ่านระบบออนไลน์ ที่แสดงผลผ่านหน้าจอ รวมไปถึงสามารถเชื่อมต่อไร้สายแบบ Bluetooth และ USB ได้อีกด้วย ตลอดจนการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน ซึ่งควบคุมได้ง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นบนหน้าจอ Multi-Function Display หรือ บนพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันทรงสปอร์ต รวมไปถึงการควบคุมปุ่มรับ-วาง สายโทรศัพท์ ด้วยเช่นกัน
อีกหนึ่งจุดเด่นที่เป็นไฮไลท์ของ MG3 ก็คือ คุณจะมีเลขาส่วนตัวค่อยช่วยเหลือทุกอย่างผ่าน Smartphone อาทิ ระดับน้ำมันเชื้อเพลิง สภาพการทำงานของแบตเตอรี่, ถุงลมนิรภัย, สถานะประตู, การช่วยบอกตำแหน่งรถยนต์ และแจ้งเตือนการสตาร์ทเครื่องที่ผิดปกติ ซึ่งอาจเกิดจากการโจรกรรม
เรียกได้ว่าเป็นรถเล็กที่จัดของมาให้อย่าง “คุ้มค่า” มาก จนเราไม่แปลกใจเลยว่า ทำให้จึงมี MG3 อยู่บนท้องถนนเมืองไทยมากมาย เพราะแค่ฟังก์ชันต่าง ๆ ที่ติดตั้งมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ก็มากพอที่จะทำให้ผู้ซื้อตัดสินใจเป็นเจ้าของได้ไม่ยากเลยทีเดียว
ในขณะที่ระบบความปลอดภัย ก็เป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญต่อผู้บริโภคในการตัดสินใจ เพราะรถพิกัดเล็กอย่าง MG3 นั้นเค้าใส่ระบบต่าง ๆ มาให้แทบไม่ต่างกับรถพิกัดใหญ่ในค่ายเช่นกัน ประกอบด้วยฟังก์ชัน Synchronize Protection System ซึ่งประกอบด้วย
- ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรกฉุกเฉิน ABS (Anti-Lock Braking System)
- ระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake Force Distribution)
- ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist)
- ระบบควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System)
- ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control)
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System)
- ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System)
- ระบบป้องกันการลื่นไถลเมื่อเกียร์ลดต่ำอย่างฉับพลัน MSR (Motor Control Slide Retainer)
นอกจากนี้ยังเพิ่มความมั่นใจในการจอดรถ ด้วยฟังก์ชันที่มีทั้งกล้องมองหลังขณะถอย และสัญญาณเตือนกะระยะถอยหลัง ตลอดจนความสบายในการขับขี่ทางไกลด้วยระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) อีกด้วย ซึ่งทั้งหมดจะช่วยเพิ่มความอุ่นใจ และสร้างปลอดภัยได้ในทุกสถานการณ์ เพราะงั้นบอกได้เลยว่าแค่กางแคตตาล็อกออกมา แล้วเจอออฟชันขนาดนี้ใครจะอดใจไม่เป็นเจ้าของไหวล่ะครับ
หากคุณกำลังต้องการ Wallpaper สวยๆเราแนะนำ Wallpaper รูปรถ สวยๆ Download wallpaper ลิ้งนี้ |
แต่สำหรับเรา แค่ออฟชันยังไม่มีน้ำหนักมากพอสำหรับการตัดสินใจเป็นเจ้าของ เพราะยังมีส่วนสำคัญที่รอคอยอย่าง “สมรรถนะ” อยู่ โดย MG3 จะมากับขุมพลังเบนซิน DOHC VTi-TECH ขนาด 1.5 ลิตร ซึ่งโมเดลใหม่นี้มีการปรับแต่งพละกำลังเพิ่มขึ้นใหม่อีก 6 แรงม้า ทำให้มีกำลังเพิ่มขึ้นเป็น 112 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 150 นิวตันเมตรที่ 4,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติใหม่แบบ 4 สปีดพร้อมโหมด Manual เพื่อให้ตอบสนองทุกการขับขี่อย่างเต็มประสิทธิภาพ
โดยมีระบบช่วงล่างที่ยังคงรักษา มาตรฐานความเป็น European Tuning Suspension กับพื้นฐานด้านหน้าแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง และด้านหลังทอร์ชั่นบีม พร้อมปิดท้ายด้วยความมั่นใจจากระบบเบรกแบบด้านหน้าดิสก์พร้อมช่องระบายความร้อน และด้านหลังแบบดรัมเบรก
ซึ่งความรู้สึกของการได้ลองขับ (อีกครั้ง) ยังคงสร้างความประทับใจได้ดี โดยเฉพาะในเรื่องของความคล่องตัวกับการใช้งานในเมือง จากสไตล์ของรถ Hatchback ที่ช่วยให้เราจอดรถได้ง่ายขึ้น แม้ไม่มีตัวช่วยก็ตาม และเมื่อมีตัวช่วยทั้งกล้อง ทั้งสัญญาณเตือนเข้ามาเป็นส่วนประกอบ คุณจะมั่นใจได้แน่นอนว่าการจอดรถจะเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปากเลยทีเดียว
ส่วนในเรื่องของการใช้ เครื่องยนต์ระดับพิกัด 1.5 ลิตร 112 แรงม้า พร้อมแรงบิด 150 นิวตันเมตร ก็ไม่ขี้เหร่เท่าไหร่สำหรับการใช้งาน โดยเฉพาะเมื่อรวมกับระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติ 4 สปีดขับเคลื่อนล้อหน้า ถือว่าให้ความกระฉับกระเฉงได้ดีในข่วงตีนต้น
เพราะแค่แตะคันเร่งเพียงเล็กน้อย MG3 ก็พร้อมจะที่สะบัดความเกียจคร้าน และมอบความสนุกสนานในการขับขี่ที่เปลี่ยนสภาพการจราจรในเมืองให้กลายเป็นลาน Gymkhana ย่อม ๆ ให้เราได้เติมคันเร่งหมุนพวงมาลัย หลบเพื่อนร่วมท้องถนนในเวลาการจราจรแน่นหนา ซึ่งเปลี่ยนช่วงเวลาน่าเบื่อให้กลายเป็นเรื่องสนุกสนานได้ไม่ยาก
ในขณะที่การใช้งานบนความเร็วเดินทางยาวไปจนถึงความเร็วสูงนั้น MG3 ก็ยังคงให้ความมั่นใจได้ดี ด้วยอารมณ์สัมผัสจากพวงมาลัยที่แปรผันอย่างเหมาะสมกับความเร็วที่ใช้ ไปจนถึงระบบช่วงล่างที่ปรับแต่งมาในสไตล์ European Tuning Suspension ซึ่งมันจะมีความแน่นหนึบ และการทรงตัวการยึดเกาะถนนที่คุณมั่นใจได้
โดยเฉพาะในการขับขี่บนทางโค้ง ซึ่งจะให้อารมณ์ความสนุกที่ชัดเจน และจะเปี่ยมไปด้วยความมันส์ หากคุณใช้โหมด Manual เข้ามาเป็นส่วนประกอบสำคัญบางอย่างเช่นการ “ลากรอบ” ในจังหวะกรอคันเร่ง ไปพร้อมกับฟังเสียงหวาน ๆ ของเครื่องยนต์เบนซิน ช่วงที่คุณไหลลื่นเข้าไปตามองศาโค้ง
แต่ถ้าไม่ทำแบบนั้นคุณอาจแค่ใช้ความเนียนของเท้าขวาในการใช้งานเบรกเพื่อถ่ายน้ำหนักลงด้านหน้าสร้างแรงยึดเกาะ ก่อนย้ายเท้ามากรอคันเร่งรักษาความเร็วไปจนถึงปลายทางโค้ง และจากนั้นก็แค่สวนคันร่งลงไป เพื่อทะยานออกโค้ง เพียงแค่นี้คุณก็จะได้สัมผัสถึงฟิลลิ่งมันส์ของ MG3 ได้ไม่ยาก
รวมถึงแสดงให้เห็นชัดเจนว่า MG3 คือ รถ Hatchback ที่น่าสนใจไม่แพ้รุ่นอื่น ๆ ในท้องตลาด แถมหากเทียบกันในเรื่องของ “ออฟชัน” มาตรฐานล่ะก็ เชื่อเถอะ “กินขาด” และนั่นคือสิ่งที่เราไม่แปลกใจเลยว่าทำไมปัจจุบันสมาชิก MG3 บนท้องถนนถึงเพิ่มมากขึ้นทุกวัน
Specification : MG3
- Price : 629,000 BHT
- Engine : 1,498 CC / 4 Cylinder 16 Valve 112 hp @ 6,000 rpm / 150 Nm @ 4,500 rpm
- Transmission : 4AT / Front Wheel Drive
- Performance : 0 – 100 Km/h @ N/A / Top Speed @ N/A
- Weight : 1,190 Kg.