รีวิว ทดสอบรถ: All-New Honda City 1.0 ลิตร VTEC Turbo 122 แรงม้า รถเล็กที่พิษสงเกินตัว อัตราเร่งจาก 0 -100 กม./ชม. ภายใน 10 วินาที
รีวิว ทดสอบรถ: All-New Honda City 1.0 ลิตร VTEC Turbo รถเล็กที่พิษสงเกินตัว
หากคุณกำลังค้นหา Wallpaper รูปรถสวยๆเราขอแนะนำ Wallpaper รูปรถสวยๆ Download wallpaper ที่นี้ |
All-New Honda City
ถ้าพูดซึ่งรถซีดานขนาดเล็กที่กำลังเป็นที่สนใจของบุคคลทั่วไปในชั่วโมงนี้คงหนีไม่พ้น All-New Honda City ที่เป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างยิ่งใหญ่ของรถในพิกัดนี้จากทางฮอนด้า ซึ่งได้มีการลดขนาดของเครื่องยนต์ให้มีขนาดเล็กลงจากเดิม 1.5 ลิตร มาเหลือเพียง 1.0 ลิตร
แต่มีไม้เด็ดพบพาระบบอัดอากาศ หรือที่เรียกว่าเทอร์โบเข้ามาด้วย ช่วยทำให้เครื่องยนต์ตัวนี้ตอบสนองเหมือนเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร แต่กินน้ำมันเท่าอีโคคาร์ โดยในครั้งทางฮอนด้าเชิญสื่อมวลชนไปทดสอบที่เชียงราย มุ่งหน้าสู่เชียงของ รวมระยะทางกว่า 200 กิโลเมตร
All-New Honda City เป็นรุ่นที่ 5 ที่มาพร้อมดีไซน์ภายนอกแบบสปอร์ตเรียบหรู ซึ่งในตัวถังรุ่นนี้มีตัวถังที่ต่ำลงกว่าในรุ่นก่อน 10 มม. กว้างขึ้นถึง 53 มม. และยาวกว่าเดิมถึง 113 มม.
โดดเด่นด้วยไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED และไฟท้ายแบบ LED กระจังหน้าแบบโครเมียม เสาอากาศแบบ ครีบฉลาม และล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 15 นิ้ว
ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง และหรูหราด้วยสไตส์เรียบหรู ด้วยเบาะหนัง และภายในสีทูโทน ไอเวอรี่/ดำ (เฉพาะรุ่น SV) โดยรุ่นพิเศษที่เป็นตัวท็อป อย่าง RS มาพร้อมความสปอร์ตเร้าใจอีกขั้น ด้วยชุดแต่งสไตล์สปอร์ตรอบคัน ไฟหน้าดีไซน์ใหม่แบบ LED
พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED ไฟตัดหมอกแบบ LED และล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 16 นิ้ว ภายในห้องโดยสารสปอร์ตยิ่งขึ้นด้วยเบาะหนังกลับดีไซน์ใหม่ตกแต่งด้วยด้ายสีแดง พร้อมฟังก์ชันการใช้งานระดับพรีเมียม
อาทิ มาตรวัดเรืองแสงพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และระบบสั่งการด้วยเสียง SIRI พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน พร้อมปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียง และปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ เป็นต้น
นอกจากนี้ตัวเบาะมีการเสริมความหนาขึ้นถึง 10 มม. ทำให้การนั่งนุ่มนวลสบายไม่เมื่อยล้าง่าย ๆ พร้อมกับครั้งแรกของฮอนด้ามีการฉีดโฟมตามจุดรอยต่อหนาเป็นพิเศษถึงสามชั้น ช่วยให้เสียงภายในห้องโดยสารเงียบลงยิ่งขึ้น
ขุมพลังเทอร์โบใหม่ เครื่องยนต์ 1.0 ลิตร DOHC VTEC TURBO 3 สูบ 12 วาล์ว มาพร้อม Turbo Charger ที่อัดอากาศเข้าสู่ห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์ได้เร็วขึ้น โดยมีอัตราแรงดันของบูสต์อยู่ที่ 14.7 ปอนด์ หรือ 1 บาร์ ถือว่าเยอะเอาเรื่อง ให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที ตอบสนองได้ทันใจ
ด้วยแรงบิดสูงสุด 173 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 – 4,500 รอบต่อนาที ให้สมรรถนะการขับขี่ที่เหนือกว่าเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร (เมื่อเทียบกับรุ่นเดิม) และแรงบิดเทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร ผสานการทำงานกับระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง (CVT) ให้อัตราเร่ง และอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยมสูงถึง 23.8 กิโลเมตร/ลิตร
ตอบสนองทุกการขับขี่ด้วยระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยแบบ 7 สปีด ยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐานไอเสียยูโร 5 (EURO 5) ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ 99 กรัม/กิโลเมตร และสามารถรองรับน้ำมัน E20 ได้อีกด้วย ซึ่งเมื่อเทียบกับเครื่องในรุ่นก่อนได้ดีกว่าเดิมถึง 30 %
ก่อนเริ่มกิจกรรมการทดสอบสมรรถนะ ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ คณะสื่อมวลชนได้ร่วมรับฟังข้อมูล และรายละเอียดของการพัฒนาฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ จาก มร. ซาโตรุ อะซุมิ หัวหน้าทีมวิศวกรผู้พัฒนา ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ บริษัท ฮอนด้า อาร์แอนด์ดี จำกัด ประเทศญี่ปุ่น
เส้นทางวันนี้มุ่งตรงจากเชียงรายสู่เชียงของ ซึ่งมีทั้งทางราบไปจนขึ้นเขาลงเขาที่คดเคี้ยว ซึ่งผู้ขับจะได้ทดสอบสมรรถนะของรถ และเครื่องยนต์เต็มรูปแบบ
จากสัมผัสแรกถือว่าน่าประทับใจ ถ้าเทียบว่ามันคือเครื่อง 1.0 ลิตรแล้ว มีสมรรถนะนี้ ถือว่าเกินตัว อัตราเร่งเหมือนเครื่อง 1.8 ลิตรทีเดียว การตอบสนองของรอบมาทันใจกำลังไม่มีตก เราได้มีโอกาสลองจอดนิ่งแล้วกดเร่งจนสุดเพื่อดูอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ซึ่งผลที่ออกมาอยู่ที่ประมาณ 10 วินาทีเท่านั้น ซึ่งถือว่าดุดันพอสมควร
โดดเด่นเมื่อรอบกวาดไปถึง 5,500 รอบ/นาที เกียร์จะตัดรอบให้เองเหมือนเกียร์อัตโนมัติทั่วไป ทั้งที่เป็นเกียร์แบบ CVT ซึ่งในเกียร์ลูกนี้มีการพัฒนาเพิ่มสายพานเหล็กที่มีความทดทานรองรับแรงบิดจากเทอร์โบที่ดียิ่งขึ้น แถมมีการเสริมคลัซต์เพิ่มขึ้นอีก 1 แผ่น เพื่อให้การถ่ายทอดแรงม้าสู่พื้นเป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบ
ซึ่งในทางตรงเรามีการลองอัตราเร่งเครื่องยนต์สามารถทำความเร็วปลายได้น่าเหลือเชื่อเมื่อเทียบกับความจุ แต่เมื่อเกิน 140 กม./ชม.ขึ้นไป ช่วงล่างเริ่มมีอาการย้วย ๆ หน่อย เป็นผลจากการปรับเซ็ตช่วงล่างให้เหมาะกับการขับขี่ในเมืองมากกว่าการมาใช้ในความเร็วสูง ซึ่งคุณอาจจะไม่ปลื้มถ้าขับเร็วจนเกินลิมิตที่กฎหมายกำหนด
ส่วนพวงมาลัย Handling คมกริบ น้ำหนักกำลังดี นี่คือความสมบูรณ์แบบตามแบบฉบับของฮอนด้าที่มีความแม่นยำ และเฉียบคม โดยเฉพาะกับทางโค้งที่คดเคี้ยวถือว่ายอดเยี่ยมมาก แม้นช่วงล่างจะนิ่มนวลแต่ในโค้งก็ยังเอาอยู่ แม้เสียงยางอาจจะลั่นไปบ้างถ้าใช้ความเร็วที่สูงเกินไปในโค้ง อาจจะต้องตัดโค้งช่วยบ้างในบางที ก็สามารถผ่านไปได้อย่างฉลุย ระบบเบรกแม้ข้างหลังจะเป็นดรัมเบรกแต่ก็ถือว่ารองรับสยบแรงม้าอยู่
All-New Honda City… ตามแนวคิดที่ทางฮอนด้าได้บอกกับเราว่า Eco car นั่นไม่ใช่แค่ประหยัดแต่ต้องมีสมรรถนะที่ดีได้ด้วย
All-New Honda City ถือว่าเป็น Eco car ที่แรงที่สุดในตลาดตอนนี้ ตามแนวคิดที่ทางฮอนด้าได้บอกกับเราว่า Eco car นั่นไม่ใช่แค่ประหยัดแต่ต้องมีสมรรถนะที่ดีได้ด้วย ซึ่ง All-New Honda City นั่นก็ทำให้เราไม่ผิดหวังแม้ต้องยอมรับว่าตลาดนี้ถือว่ามีการแข่งขันสูงมาก และก็เป็นตลาดที่มียอดขายสูงมากเช่นกัน
แต่ All-New Honda City อาจจะด้อยในเรื่องระบบความปลอดภัยที่อาจจะไม่ได้มีมากมายแต่ก็ถือว่าเท่าที่มีมาก็ครบครันต่อการใช้งาน เมื่อเทียบกับคู่แข่งในตลาดกับราคาค่าตัวที่อาจจะสูงกว่าคู่แข่ง แต่ก็ได้การันตีเรื่องบริการที่น่าประทับใจ และราคาขายต่อที่สูง นั่นคือจุดเด่นที่สำคัญจากแบรนด์รถฮอนด้าที่ทุกคนยอมรับ
โดยฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่น ได้แก่รุ่น
- รุ่น RS ราคา 739,000 บาท (สีแดงมีเฉพาะในรุ่นี้)
- รุ่น SV ราคา 665,000 บาท
- รุ่น V ราคา 609,000 บาท
- รุ่น S ราคา 579,500 บาท