Breaking News

รีวิว ทดสอบรถ: All-new Toyota Commuter

รีวิว ทดสอบรถ: All-new Toyota Commuter เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ รหัส 1GD-FTV ในพิกัด 2.8 ลิตร ซึ่งให้กำลัง 163 แรงม้าที่ 3,600 รอบต่อนาที

All-new Toyota Commuter
All-new Toyota Commuter

รีวิว ทดสอบรถ: All-new Toyota Commuter เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ 163 แรงม้า

หากคุณกำลังค้นหา Wallpaper รูปรถสวยๆ

เราขอแนะนำ Wallpaper รูปรถสวยๆ Download wallpaper ที่นี้

All-new Toyota Commuter

All-new Toyota Commuter
All-new Toyota Commuter

“ผมเป็นคนชอบขับรถก็จริง และก็ไม่เคยปฏิเสธซักครั้ง เมื่อได้โอกาสลองขับรถใหม่ ๆ แต่ครั้งนี้ผมแอบหวั่นใจไม่น้อยทีเดียว เมื่อคู่ปรับในครั้งนี้ คือ “พี่ยักษ์” อย่าง All-new Toyota Commuter โมเดลล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวไป”

All-new Toyota Commuter
All-new Toyota Commuter

จำได้ว่าเมื่อครั้งเดินผ่าน ๆ ตอนงานเปิดตัว All-new Toyota Commuter รู้สึกว่า “ใหญ่” แล้ว วันนี้ได้เจอตัวเป็นบอกเลยว่า “มโหฬาร” มาก ๆ จนแอบหวั่นใจไม่น้อยว่าจะรับมือไหว หรือไม่ กับภารกิจในการทดลองขับครั้งนี้

All-new Toyota Commuter
All-new Toyota Commuter

โดย All-New Toyota Commuter ได้รับการพัฒนา และออกแบบ โดยมีวัตุประสงค์เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ทั้งผู้ขับขี่ และผู้โดยสาร พร้อมทั้งตอบสนองนโยบายภาครัฐที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยบนท้องถนน ซึ่งเราจะบอกว่า All-new Toyota Commuter ใหม่ มากับจุดเด่นสำคัญทั้งหมด 5 ประการ คือ

1. การพัฒนาทางด้าน “คุณภาพ” (Quality), “ความทนทาน” (Durability) และ “ความน่าเชื่อถือ” (Reliability)

All-new Toyota Commuter
All-new Toyota Commuter

2. ความนุ่มนวล และความคล่องตัวที่ดียิ่งกว่า ด้วยงานดีไซน์ใหม่แบบ Semi-Bonnet และการวางอุปกรณ์ซับเสียงที่พิถีพิถัน เพื่อเพิ่มความเงียบภายในห้องโดยสาร ตามด้วยโครงสร้างแบบวงแหวน (Ring frame) ที่มีความแข็งแรง

ลดการสั่นสะเทือนได้ดี ตลอดจนระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สัน สตรัท และด้านหลังแบบแหนบใหม่ ปิดท้ายด้วยองศาล้อที่หันได้มากยิ่งขึ้น เพื่อทำให้เกิดการคล่องตัวทั้งในขณะกลับรถ หรือการถอยจอด

All-new Toyota Commuter
All-new Toyota Commuter

ส่วนข้อ 3. คือ สมรรถนะด้านความปลอดภัยล่าสุด ที่ประกอบด้วยตำแหน่งเครื่องยนต์วางด้านหน้า พร้อมคานเหล็กที่ช่วยดูดซับแรงกระแทก เสริมด้วยถุงลมนิรภัยที่พร้อมปกป้องผู้ขับ และผู้โดยสารด้านหน้า

All-new Toyota Commuter
All-new Toyota Commuter

ไปจนถึงระบบมาตรฐานความปลอดภัยที่ครบครัน เช่น ระบบป้องกันล้อล็อก ABS, ระบบควบคุมการทรงตัว VSC, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC และระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC

All-new Toyota Commuter
All-new Toyota Commuter

ข้อ 4. คือ สมรรถนะเครื่องยนต์อันทรงพลัง ซึ่งได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น ทั้งกำลังแรงม้า และแรงบิดสูงสุด พร้อมด้วยความสามารถในการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง โดยมีระบบขับเคลื่อนให้เลือก 2 รูปแบบ คือ

แบบอัตโนมัติ 6 สปีด และแบบธรรมดา 6 สปีด ทั้งยังสามารถรองรับการใช้น้ำมันไบโอดีเซล B20 ได้อีกด้วย สุดท้ายกับข้อ 5. คือ อุปกรณ์อำนวยความสะดวก สำหรับอรรถประโยชน์ด้านการใช้งานอย่างแท้จริง

All-new Toyota Commuter
All-new Toyota Commuter

ซึ่งจุดเด่นทั้งหมดนั้น ก็เพื่อเอื้ออำนวยให้ All-new Toyota Commuter มีประสิทธิภาพ และสามารถใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย คล่องตัวมากขึ้น … แต่ไหน ๆ มาแล้วก็ขอลองดูสักตั้ง ด้วยการคว้ากุญแจรีโมทปลดล็อคประตู โดดขึ้นประจำการในตำแหน่งหลังพวงมาลัย สตาร์ทเครื่องแล้วออกไปลุยให้รู้แล้วรู้รอด

All-new Toyota Commuter
All-new Toyota Commuter

ด้วยการขับเคลื่อนของเครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ รหัส 1GD-FTV ในพิกัด 2.8 ลิตร ซึ่งให้กำลัง 163 แรงม้าที่ 3,600 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตร ที่ 1,600-2,200 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมระบบ Sequential Shift

All-new Toyota Commuter
All-new Toyota Commuter

โดยอันดับแรกที่เราต้องทำเลย คือ การทำความคุ้นเคยกับตัวรถขนาด “มโหฬาร” ทั้งจากการกะระยะผ่านกระจกมองข้าง และกระจกมองหลัง ไปจนถึงการคำนวณวงเลี้ยวให้เหมาะสม โดยเฉพาะในตรอกซอกซอยแคบ ๆ ทั้งนี้ ทั้งนั้นก็เพื่อความปลอดภัยของทรัพย์สินที่เรายืมเค้ามา

All-new Toyota Commuter
All-new Toyota Commuter

หลังจากสร้างความมั่นใจด้วยการเคลื่อนตัวช้า ๆ บนการจราจรที่แน่นหนาจนรู้สึกว่าเริ่มมีความมั่นใจมากขึ้น แต่มันคงไม่ดีแน่ ถ้าจะต้องจมอยู่กับชีวิตในเมืองที่รถราหนาแน่นระดับนี้ เพราะฉะนั้นตัวเลือกที่ดีที่สุด คือการออกนอกเมือง ด้วยเส้นทางที่เร็วที่สุด ซึ่งจากฐานทัพของ Torque Magazine แล้ว “พัทยา” ดูจะเป็นทางเลือกที่ดี

All-new Toyota Commuter
All-new Toyota Commuter

และในระหว่างทางที่เคลื่อนตัวออกไปหาทางด่วนที่ใกล้ที่สุด เราก็ตกเป็นเป้าสายตาของเพื่อนร่วมท้องถนนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ด้วยความใหญ่โตของตัวถัง และงานดีไซน์สุดล้ำสมัย ที่เป็นจุดสนใจจากรายละเอียดต่าง ๆ

All-new Toyota Commuter
All-new Toyota Commuter

เช่น ชุดกระจังหน้าโครเมียม ประกบด้วยชุดไฟหน้ามัลติรีเฟล็กเตอร์ ไปจนถึงล้ออัลลอยแบบใหม่ขนาด 16 นิ้ว และไฟเบรกดวงที่ 3 ในด้านหลัง เสริมด้วยความปลอดภัยจาก กระจกมองข้าง, กระจกมองล้อด้านหลัง และกระจกมองหลัง

All-new Toyota Commuter
All-new Toyota Commuter

เรายังคงตั้งหน้าตั้งตาขับ All-new Toyota Commuter ต่อไป แต่ก็เริ่มผ่อนคลายมากขึ้น ด้วยการจราจรที่เบาบางลง หลังจากขึ้นทางด่วนยกระดับบางนา ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นการช่วยเพิ่มความคุ้นเคยได้ค่อนข้างดี ตลอดจนเริ่มสังเกตได้ถึงจุดดีมากขึ้น ตั้งแต่ทัศนวิสัยเบื้องหน้าที่โปร่งโล่งสบาย ด้วยความสูงของตัวรถ ที่ช่วยให้ประเมินสถานการณ์ และตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

All-new Toyota Commuter
All-new Toyota Commuter

ส่วนเรื่องของขุมพลังที่มากับแรงบิดสูงส่งระดับ 420 นิวตันเมตร ในรอบต่ำตั้งแต่ 1,600-2,200 รอบต่อนาที นั้นก็ช่วยให้ “ลดข้อจำกัด” ของ “รถใหญ่” ได้มาก ทั้งจากความมั่นใจในการเร่งแซงแบบปกติด้วยการ Kick Down หรือ การลดเกียร์ลงต่ำ เพื่อกรอคันเร่งในรอบเครื่องยนต์ที่มีแรงบิดสูงสุด สำหรับรอจังหวะเหมาะ ๆ ในการกระแทกคันเร่งส่งพลังออกไปฉุดลากตัวถังขนาดใหญ่

All-new Toyota Commuter
All-new Toyota Commuter

ซึ่งท้ายที่สุดก็สามารถทำให้เราสามารถปรับตัวเข้ากับรถคันใหญ่อย่าง All-new Toyota Commuter ได้อย่างสบาย ๆ และพร้อมที่จะมาลองขับในสไตล์คนเมือง แต่ก่อนหน้านั้นเราขอสนุกอีกพักกับการเดินทางบนถนนโล่ง ๆ เนื่องจากยังคงอยาก “ลองของ” ด้วยการขับสไตล์ซิ่งเบา ๆ เพื่อซึมซับสัมผัสของพวงมาลัย ที่บอกได้เลยว่า “เฉียบ” และให้ความคล่องตัวได้ดีมาก ๆ

All-new Toyota Commuter
All-new Toyota Commuter

ขณะที่ระบบช่วงล่างนั้นก็มีการปรับเซ็ทมาให้ค่อนข้าง “เฟิร์ม” เต็มไปด้วยหนักแน่น และนุ่มนวล ชนิดที่สามารถ “รูด” ได้แบบสบาย ๆ เพราะงั้นเราก็เลย “ไป” ได้แบบไร้ขีดจำกัด แถมด้วยความดุดัน ในชนิดที่รถเบื้องหน้าต้องยอมหลบทาง

All-new Toyota Commuter
All-new Toyota Commuter

ซึ่งน่าจะมาความ “เกรง” จากการมองกระจกหลัง แล้วเห็น “รถตู้ยักษ์” ไล่บี้มาในด้านหลัง และหลังจากที่เติมความมั่นใจในการขับขี่ All-new Toyota Commuter จากการขับขี่นอกเมืองมาจนเต็มกราฟ ก็ถึงเวลาซักทีที่เราจะเดินทางกลับเข้าเมือง เพื่อลองขับอีกครั้ง ด้วยความรู้สึกที่ต่างออกไป

All-new Toyota Commuter
All-new Toyota Commuter

โดยในอีกอึดใจต่อมา เราก็เข้ามาเจอสถานการณ์ย่ำแย่แถวสนามบินสุวรรณภูมิ ด้วยการจราจรที่หนาแน่น แต่ด้วยความมั่นใจของเรา ซึ่งฝึกปรือฝีมือมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อพบว่ายักษ์ใหญ่อย่าง All-new Toyota Commuter ก็สามารถเคลื่อนตัวในเมืองได้อย่างไม่มีปัญหา

All-new Toyota Commuter
All-new Toyota Commuter

ด้วยสมรรถนะของเครื่องยนต์ที่พกพาแรงบิดมหาศาลระดับ 420 นิวตันเมตรมาให้ใช้ตั้งแต่รอบต่ำเพียง 1,600-2,200 รอบต่อนาที ฉะนั้นเค้าจึงมีความปราดเปรียว ด้วยแรงตอบสนองที่ทำให้การขับเคลื่อนรถตู้ขนาดใหญ่ในเมืองไม่ใช่ปัญหา

All-new Toyota Commuter
All-new Toyota Commuter

รวมไปถึงการตอบสนองของพวงมาลัยที่ “เฉียบคม” และ “เบาแรง” ในความเร็วต่ำ เพราะฉะนั้นจึงสร้างความคล่องตัวในการควบคุมได้ดี ผสานด้วยแรงบิดที่มากพอสำหรับการตอบสนอง ฉะนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยว่าทำไม All-new Toyota Commuter จึงมอบความคล่องตัวในการใช้งานในเมืองได้ดี จนเราเองยังเริ่มสนุกไปกับการขับขี่แบบไม่รู้ตัว

All-new Toyota Commuter
All-new Toyota Commuter

โดยสิ่งที่เราชื่นชอบก็คือ ตำแหน่งของผู้ขับขี่ที่ไม่ได้นั่งอยู่บนล้อหน้าเหมือน Commuter เจเนอเรชันที่ผ่าน แต่เป็นการนั่งอยู่หลังล้อหน้า เพราะฉะนั้นฟิลลิ่ง หรือความรู้สึกในการขับ มันจึงเหมือนรถอเนกประสงค์ SUV ขนาดใหญ่ ซึ่งสิ่งที่ควรระมัดระวังก็คือการคำนวนความยาวของตัวรถ เพื่อไม่ให้ล้อหลังต้อง “ปีน” หรือ “เบียด” ในจังหวะเลี้ยว หรือกลับรถนั่นเอง

All-new Toyota Commuter
All-new Toyota Commuter

นอกจากเรื่องของสมรรถนะที่ถูกยกระดับแล้ว ระบบความปลอดภัยก็เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของ All-new Toyota Commuter ด้วยเช่นกัน เพื่อสนองนโยบายภาครัฐ เลยจัดมาให้แบบชุดใหญ่ ด้วย ถุงลมเสริมความปลอดภัย 3 ตำแหน่ง คือ ด้านคนขับ 2 ตำแหน่ง และผู้โดยสารด้านหน้า 1 ตำแหน่ง

All-new Toyota Commuter
All-new Toyota Commuter

ตามด้วยสัญญาณไฟกระพริบเมื่อเบรกกระทันหัน (Emergency Stop Signal), ระบบป้องกันการโจรกรรม (Immobilizer Alarm) ไปจนถึงระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC (Hill-start Assist Control), ระบบป้องกันล้อล็อก ABS (Anti-lock Braking System),

All-new Toyota Commuter
All-new Toyota Commuter

ระบบควบคุมการทรงตัว VSC (Vehicle Stability Control) และระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC (Traction Control) ซึ่งทั้งหมดถูกครอบคุลมด้วย Annular Frame Structure โครงสร้างห้องโดยสารที่ได้รับการพัฒนาเป็นพิเศษ

เพื่อช่วยป้องกันการยุบตัวของห้องโดยสารเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งบอกเลยว่า “คุ้ม” ขนาดนี้ บรรดาผู้ประกอบการรถขนส่งสาธารณะ หรือ คนที่อยากจะหารถตู้ไว้ใช้ซักคัน ควรต้องหันมองแล้วล่ะครับ

All-new Toyota Commuter
All-new Toyota Commuter

Specification: All-new Toyota Commuter

  • Price: 1,299,000 BHT
  • Engine: 2,755 CC / Diesel Turbo / 4 Cylinder 16 Valve
    163 hp @ 3,600 rpm / 420Nm @ 1,600-2,200 rpm
  • Transmission: 6A/T / Rear Wheel Drive
  • Performance: 0 – 100 Km/h @ N/A / Top Speed @ N/A
  • Weight: N/A

Check Also

ISUZU MU-X 4x2 3.0 RS 2024

รีวิว ลองขับ ISUZU MU-X 4×2 3.0 RS ลุคใหม่ที่สปอร์ตยิ่งกว่าเดิม เสริมความปลอดภัย ที่ยังคงเด่นในสมรรถนะและความประหยัดเฉกเช่นเดิม

รีวิว ลองขับ ISUZU MU-X 4×2 3.0 RS A/T เครื่องยนต์ 3.0 Ddi Blue Power 190 แรงม้า …