รีวิว ทดสอบรถ ใหม่ล่าสุด (20/05/19) Porsche Cayenne E-Hybrid เวอร์ชั่นปรับปรุงใหม่ ประหยัดพลังงานกว่าเดิม ในราคาเริ่มต้นที่ 6.3 ล้านบาท
รีวิว ทดสอบรถ: Porsche Cayenne E-Hybrid ในราคาเริ่มต้นที่ 6.3 ล้านบาท
หากคุณกำลังค้นหา Wallpaper รูปรถสวยๆเราขอแนะนำ Wallpaper รูปรถสวยๆ Download wallpaper ที่นี้ |
ลืมภาพ SUV คันยักษ์จอมเขมือบไปได้เลย! Porsche Cayenne E-Hybrid เวอร์ชั่นปรับปรุงใหม่ ทรงพลังยิ่งขึ้น, ประหยัดพลังงานกว่าเดิม และมันจะต้องเป็นที่รักของพวกกรีนพีซอย่างแน่นอน
ในขณะที่กำลังนั่งเอกเขนกอยู่บนเบาะขนาดใหญ่ของ Cayenne E-Hybrid คันใหม่เอี่ยมอ่อง ท่ามกลางการจราจรที่แทบจะเป็นอัมพาต และหน้าจอบนแดชบอร์ดที่แสดงอุณหภูมิภายนอก “39.5 องศาเซลเซียส” ผมครุ่นคิดว่าถึงเวลาอันเหมาะสม หรือยัง ที่พวกเราควรจะหันมาใช้รถพลังงานไฟฟ้า?
พละกำลัง 136 แรงม้า และมีแรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร
พลังงานของแบตเตอรี่ถูกใช้ไปเพียงเล็กน้อยเพราะเราเพิ่งออกมาจากโชว์รูม AAS Auto Service ได้แค่ไม่กี่กิโลเมตรโหมด “E-power” ถูกโปรแกรมให้ใช้เป็นโหมดแรกทุกครั้งที่คุณปลุก Cayenne ขึ้นจากการหลับใหล มันจะขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว
ให้พละกำลัง 136 แรงม้า และมีแรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร สามารถทำงานเพียงลำพังได้ตั้งแต่รถเริ่มเคลื่อนตัวไปจนถึงความเร็ว 135 กม./ชม. และวิ่งได้ระยะทางเฉลี่ยราว 44 กม.
ต้องขอบคุณแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่มีความจุเพิ่มขึ้นถึง 30% เมื่อเทียบกับโมเดลที่แล้ว มันยังคงมีน้ำหนักใกล้เคียงกับแบตเตอรี่ของรุ่นก่อน (130 กก. , ติดตั้งที่ใต้พื้นที่เก็บของท้ายรถ) และถูกพัฒนาให้ลดการคายประจุเมื่อไม่ได้ใช้งาน นั่นหมายถึง รถยังคงสามารถสตาร์ทด้วยระบบไฟฟ้าได้หลังจากที่จอดอยู่กับที่เป็นเวลานานก็ตาม
พลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าก็นับว่าเพียงพอกับการใช้งานในเมือง
แค่พลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าก็นับว่าเพียงพอกับการใช้งานในเมืองเช่นนี้ Cayenne คันมหึมาของเราสามารถเร่งแซงได้ตามสั่ง หากไม่กดคันเร่งจนถึง Pressure Point (ซึ่งเครื่องยนต์จะเข้ามาทำงานร่วมด้วย)
ระบบจะยังคงใช้เฉพาะไฟฟ้าในการเพิ่มความเร็วรถยนต์ มันมีแรงฉุดมากพอที่จะทำให้คุณรับรู้ถึงอัตราเร่งที่ไม่ธรรมดา ทว่าเงียบกริบ และมลพิษเป็นศูนย์ นอกจากนั้น คุณยังสามารถเล่นสนุกกับมันได้ด้วยการใช้ฟังก์ชัน “E-Launch” โดยกดเบรก พร้อมเหยียบคันเร่งไปจนถึงจุด Pressure Point เมื่อปล่อยเบรครถก็จะออกตัวด้วยพลังสูงสุดของมอเตอร์ไฟฟ้าทันที!
เครื่องยนต์ V6 ขนาด 3.0 ลิตร 340 แรงม้า
เมื่อระดับพลังงานของแบตเตอรี่ลดต่ำลงจนถึงจุดที่ระบบ E-Power เซ็ตไว้ มันจะเปลี่ยนเข้าสู่โหมด “Hybrid Auto” โดยอัตโนมัติ เพื่อเก็บพลังงานไฟฟ้าที่เหลือไว้ใช้สลับไปมาร่วมกับเครื่องยนต์ V6 ขนาด 3.0 ลิตร 340 แรงม้า
โดยเมื่อทั้งคู่ทำงานพร้อมกันจะให้พลังถึง 462 แรงม้า ที่ 5,250-6,400 รอบ/นาที มากกว่าโมเดลที่แล้ว 46 แรงม้า และเป็นรองเพียงแค่ Cayenne Turbo รุ่นท็อปเท่านั้น ปั่นแรงบิดได้ 700 นิวตันเมตร ซึ่งมีให้ใช้ตั้งแต่รอบเดินเบา 1,000 รอบ/นาที ไปจนถึง 3,750 รอบ/นาที
ใช้เวลาเพียง 5 วินาที ในการเร่งจากจุดหยุดนิ่งสู่ 100 กม./ชม.
เพียงดูจากตัวเลข คุณน่าจะจินตนาการได้ถึงความดุเดือดของสมรรถนะ… SUV พันธุ์ผสมจาก Porsche คันนี้ใช้เวลาเพียง 5 วินาที ในการเร่งจากจุดหยุดนิ่งสู่ 100 กม./ชม. และทำความเร็วสูงสุด 253 กม./ชม. ที่สำคัญก็คือ ใน Cayenne E-Hybrid โฉมใหม่ยังติดตั้ง Sport Chrono Package มาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
นั่นหมายถึง ตอนนี้คุณสามารถเลือกโหมดต่าง ๆ ได้จากการหมุนปุ่มที่ติดตั้งอยู่ด้านล่างของพวงมาลัย รวมถึงปุ่ม “Sport Response” ที่จะมอบ 20 วินาทีสุดเร้าใจให้กับคุณ ด้วยการเรียกแรงบิดทั้งหมดมารอไว้สำหรับให้คุณได้ใช้ทันทีที่กดคันเร่ง!
โหมด Hybrid Auto
โหมด Hybrid Auto ส่งให้ Cayenne เฉิดฉายบนไฮเวย์อย่างแท้จริง ที่โหมดนี้ ระบบจะควบคุมการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้า และเครื่องยนต์ให้เหมาะสมกับสภาพการขับขี่โดยอัตโนมัติ นอกจากนั้น หากคุณเซ็ตจุดหมายปลายทางจากระบบนำทาง มันจะนำข้อมูลนี้มาร่วมคำนวณเพื่อประสิทธิภาพการประหยัดพลังงานสูงสุดอีกด้วย
ระบบ PASM (Porsche Active Suspension Management)
การขับขี่ด้วยความเร็ว 100-120 กม./ชม. ดูราวกับภาพสโลว์โมชั่น มันควบคุมง่าย และตระเตรียมพละกำลังไว้ให้คุณเรียกใช้ได้ทุกเมื่อ ประสบการณ์อันยาวนานของ Porsche ในการสร้างรถสปอร์ต ถูกถ่ายทอดมาสู่ Cayenne อย่างไม่ต้องสงสัย ทุกอย่างดูดี และง่ายดายไปหมด
พวงมาลัยสื่อสารได้ชัดเจน ให้น้ำหนักเหมาะมือ ทั้งยังเฉียบคม และไม่ไว หรือ หนืดเกินไป คุณสามารถเปลี่ยนเลนแบบพรวดเดียวจากซ้ายไปขวา หรือ ตรงกันข้าม ได้อย่างมั่นใจ แม้จะมีตัวถังขนาดใหญ่ และสูงกว่ารถยนต์ทั่วไป
ทว่าไม่มีอาการเหวี่ยงไปมาให้ได้สัมผัสสักเท่าไหร่ นี่คือผลลัพธ์จากช่วงล่างแบบอิสระที่มาพร้อมกับระบบ PASM (Porsche Active Suspension Management) มันปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง เกาะหนึบแต่ยังให้ความนุ่มนวลได้น่าประทับใจจริง ๆ
โหมด Sport Plus
ไม่เพียงแค่ยอดเยี่ยมสำหรับการเดินทางไกลเท่านั้น แต่ Porsche ยังเตรียมดินแดนแห่งความระห่ำเอาไว้ให้คุณอีกด้วย! ใช่ครับ มันเร็ว!!! เร็วมากจริง ๆ !!! แรงฉุดของมันมาก จนดึงตัวคุณติดแน่นกับเบาะ แต่คุณจะไม่ยอมยกคันเร่งง่าย ๆ แน่ ปล่อยให้ทั้งเครื่องยนต์ และมอเตอร์ไฟฟ้าแสดงศักยภาพของมันต่อไป
ดื่มด่ำกับความเร็วที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และราวกับไม่มีที่สิ้นสุด ในโหมด Sport Plus เซ็ตติ้งของช่วงล่าง และการขับเคลื่อนทั้งหมดโฟกัสไปที่สมรรถนะเป็นหลัก นอกจากนั้น ระบบยังสั่งให้ชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่รวดเร็วขึ้น เพื่อให้มอเตอร์ไฟฟ้าสามารถใช้งานได้อย่างเต็มลิมิตเสมอ
Cayenne พุ่งไปข้างหน้าอย่างมั่นคง ผมอยากใช้คำว่า “บ้าคลั่ง” แทนเสียด้วยซ้ำ แม้จะมี SUV อีกหลายรุ่นที่มีพละกำลังเทียบเท่า ทว่าไม่มีคันใดให้อรรถรสได้ใกล้เคียงกับมัน นี่คือบางสิ่งที่ไม่อาจวัดด้วยทฤษฎี หรือ หลักการใด ๆ แต่คุณจะรับรู้ได้จากอะดรีนาลีนที่เดือดพล่านไปทั่วร่าง, ใจที่เต้นแรง และความปลื้มปิติที่ไม่มีประโยคใดจะบรรยายได้
เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ มีอัตราทดที่ยอดเยี่ยม
มันให้สัมผัสเหมือนกับตัวเล็กกว่าความเป็นจริงครึ่งต่อครึ่ง คล่องแคล่วว่องไว และเร่งได้ตามใจสั่ง ทุกครั้งที่คุณผ่อนคันเร่งแล้วกดลงไปใหม่ ยังคงมีพลังเหลือพอสำหรับการกระโจนไปข้างหน้า เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ มีอัตราทดที่ยอดเยี่ยม สามารถบริหารจัดการทั้ง 462 แรงม้า ได้อย่างเป็นระเบียบ
จากเกียร์สู่เกียร์ Porsche SUV ลำเลียงความเร็วได้อย่างไม่มีติดขัด บนถนนที่เต็มไปด้วยโค้ง มันจะคอยเปลี่ยนเกียร์ ขึ้น-ลง ให้สัมพันธ์กับความเร็ว และสถานการณ์ขณะนั้น ระบบเบรคก็มีพลังสูงพอที่จะควบคุมความเดือดดาลของขุมพลังได้อยู่หมัด เหยียบแป้นเบรคลึกลงไปจนหน้ารถกดต่ำ, ยกเท้าขึ้น แล้วเริ่มหักเลี้ยว คุณจะรับรู้ได้อย่างชัดเจนถึงระดับการยึดเกาะมหาศาลที่เกิดขึ้น
ไม่ใช่แค่ SUV ขนาดใหญ่ แต่ยังขับสนุกอีกด้วย
และนั่นคือจุดประสงค์ที่ Cayenne ถูกสร้างขึ้นมา ไม่ใช่แค่ SUV ขนาดใหญ่ แต่ยังขับสนุกอีกด้วย นอกจากนั้น ยังมาพร้อมกับความหรูหรา และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครันทันสมัย ผมรับประกันว่าคุณจะต้องชอบเบาะนั่งของมันแน่ ๆ เพราะไม่เพียงแค่การจัดวางอย่างลงตัว
แต่มันยังมีขนาดใหญ่ทว่าโอบกระชับ หนังที่ใช้บุหุ้มก็มีคุณภาพสูง และตัดเย็บอย่างประณีตเช่นเดียวกับแผงประตู, แดชบอร์ด และฟลอร์คอนโซล คุณภาพการประกอบก็ยอดเยี่ยมตามแบบฉบับของ Porsche เนื้อที่โดยรวมจัดว่าเหลือเฟือตามขนาดตัวที่ใหญ่โตของมัน พื้นที่เก็บของท้ายรถถูกแบ่งไปให้กับชุดแบตเตอรี่เล็กน้อย แต่ก็ยังเหลือมากพอสำหรับถุงกอล์ฟ และกระเป๋าเดินทางของคุณ
ระบบ InnoDrive
นอกจากนั้น Cayenne ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีล้ำสมัย เช่น ระบบ InnoDrive ซึ่งรวมถึงการควบคุมความเร็วอัตโนมัติอันชาญฉลาด มันจะควบคุมความเร็วโดยคำนวณจากระยะทาง 3 กิโลเมตรล่วงหน้า (รับข้อมูลมาจากแผนที่ระบบนำทาง) และปรับการทำงานของเครื่องยนต์, เกียร์ และเบรค ได้ด้วยตัวเอง, ระบบช่วยจอด, กล้องรอบทิศทางแบบ 3 มิติ เป็นต้น
ไม่เพียงแค่สมรรถนะ, ความหรูหรา และคุณภาพ แต่ยังรวมถึงอัตราสิ้นเปลืองที่น่าพอใจ
ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 6.3 ล้านบาท Porsche Cayenne E-Hybrid คือ รถที่คุณควรเก็บไว้พิจารณาในลิสต์เป็นอย่างยิ่ง ไม่เพียงแค่สมรรถนะ, ความหรูหรา และคุณภาพ แต่ยังรวมถึงอัตราสิ้นเปลืองที่น่าพอใจ เราทำได้ราว 11 กม./ลิตร จากการใช้งานรวมกันทั้งคืบคลานในเมือง และวิ่งด้วยความเร็วที่ไม่ธรรมดาบนมอเตอร์เวย์
ซึ่งนั่นเป็นอัตราสิ้นเปลืองที่ใกล้เคียงกับเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร ทั่วไปเลยทีเดียว! บวกด้วยการปราศจากมลพิษเมื่อขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว… ผมกลับเข้าสู่กรุงเทพฯ อีกครั้งในช่วงหัวค่ำ พร้อมกับพลังงานในแบตเตอรี่ที่ถูกชาร์จโดยเครื่องยนต์ตลอดทางที่เราขับกลับมาจนเพียงพอสำหรับการขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว…
…ในขณะที่กำลังนั่งเอกเขนกอยู่บนเบาะขนาดใหญ่ของ Cayenne E-Hybrid คันใหม่เอี่ยมอ่อง ท่ามกลางการจราจรที่แทบจะเป็นอัมพาต และหน้าจอบนแดชบอร์ดที่แสดงอุณหภูมิภายนอก “37 องศาเซลเซียส” ผมครุ่นคิดว่าถึงเวลาอันเหมาะสมหรือยังที่พวกเราควรจะหันมาใช้รถพลังงานไฟฟ้า?
โดยส่วนตัว ผมคิดว่า ณ เวลานี้อาจจะช้าเกินไปเสียด้วยซ้ำ เมื่อเทียบกับความบอบช้ำที่เกิดขึ้นกับโลกของเรา แต่เทคโนโลยียังคงก้าวไปไม่ถึงจุดที่ผู้คนจะใช้รถพลังงานไฟฟ้า “เพียงอย่างเดียว” ได้อย่างสะดวกสบายเหมือนกับการเติมน้ำมันเชื้อเพลิง
มันยังคงต้องใช้เวลานับชั่วโมงในการชาร์จ, วิ่งได้ระยะทางเพียงน้อยนิด และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทย ยังมีสถานีชาร์จไฟน้อยเกินกว่าที่คุณจะสามารถขับไปไหนมาไหนได้โดยไม่ต้องกังวลใจ
Plug-in Hybrid จึงยังคงเป็นคำตอบที่ใกล้เคียงที่สุดสำหรับรถยนต์ที่จะช่วยลดการปล่อยมลพิษ
รถยนต์ประเภท Plug-in Hybrid จึงยังคงเป็นคำตอบที่ใกล้เคียงที่สุดสำหรับรถยนต์ที่จะช่วยลดการปล่อยมลพิษ ชาร์จมันไว้ระหว่างคุณหลับ และตื่นไปทำงานด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ในขณะเดียวกัน คุณยังคงขับมันไปที่ใดก็ได้ในวันหยุดสุดสัปดาห์ ตราบเท่าที่ยังมีปั๊มน้ำมันให้แวะเติม บวกด้วยความสนุกสุดขั้ว หากคุณเลือก Cayenne E-Hybrid
SPECIFICATIONS: Porsche Cayenne E-Hybrid
- Price: From 6,300,000 Baht
- Engine: 2,995cc V6 turbo petrol plus electric motor, 462hp @ 5,250-6,400rpm, 700 Nm @ 1,000-3,750rpm
- Transmission: 8-speed automatic, all-wheel drive
- Performance: 5.0 sec 0-100 km/h, 253 km/h
- Weight: 2,295 kg