รีวิว ทดสอบรถ: BMW M5 ทายาทลำดับล่าสุดของ M5 มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อเป็นครั้งแรก! มันยังคงเป็นซูเปอร์ซาลูนที่คุณเคยหลงรักอยู่ หรือไม่?
รีวิว ทดสอบรถ: BMW M5 มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อเป็นครั้งแรก!
หากคุณกำลังค้นหา Wallpaper รูปรถสวยๆเราขอแนะนำ Wallpaper รูปรถสวยๆ Download wallpaper ที่นี้ |
รีวิว ทดสอบรถ: BMW M5
เรื่องแรกที่ผมอยากจะบอกก็คือ ไม่มีการตกแต่งแบบ M-Town Taxi จำหน่ายจริง… M5 คันที่คุณเห็นอยู่นี้ถูกหุ้มด้วยสติกเกอร์เพื่อใช้โปรโมทในแคมเปญของ BMW พวกเขาส่งมันมาให้เราทำเทสต์ไดร์ฟก่อนที่จะนำกลับไปโชว์ตัวในอีเว้นต์ M Town อีกครั้ง
เรื่องต่อมาก็คือ ไม่มีเวอร์ชั่นขับเคลื่อนล้อหลังอีกต่อไป! ด้วยเหตุที่มันมีพละกำลังมหาศาล M5 รุ่นใหม่จึงมาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ “M x-Drive” ทีมวิศวกรของ BMW เล็งเห็นว่า คงเป็นเรื่องไม่ดีแน่หากปล่อยให้ลูกค้าของพวกเขาต้องรับมือกับ 600 แรงม้า ด้วยการใช้เพียงล้อคู่หลัง สองล้อหน้าจึงเข้ามาช่วยแบ่งเบาพลังบางส่วนในยามจำเป็น เพื่อให้ซาลูนขนาดร่วม 5 เมตร ผ่านโค้งได้อย่างสวยงาม
อย่างไรก็ตาม เราอาจเรียกว่าระบบขับเคลื่อนสี่ล้อได้ไม่เต็มปากนัก ในภาวะปกติ M5 จะขับเคลื่อนจากล้อหลังเป็นหลัก และอย่างที่กล่าวไปข้างต้น ระบบจะส่งกำลังมายังล้อคู่หน้าเพียงเพื่อจัดสรรการยึดเกาะถนนให้เหมาะสมเท่านั้น ความจริงแล้ว หน้าที่หลักของมันคือช่วยประคับประคองให้แทร็คชั่นคงเส้นคงวาในขณะขับขี่บนผิวทางลื่น ๆ เพื่อลดโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุ คุณยังสามารถส่งท้ายรถสวนทางโค้งได้เช่นเดียวกับที่เคยทำในเหล่าบรรพบุรุษ M5 ของมัน ด้วยการปรับไปที่โหมด “ขับเคลื่อนล้อหลัง”
และต้องขอบคุณเฟืองท้าย “Active M” ควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ที่ช่วยให้รถคันนี้ยังคงมีบุคลิกบ้าระห่ำดังเดิม มันทำงานร่วมกับชุดแบ่งถ่ายแรงบิด (ระหว่างล้อหน้าและหลัง), ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว, ABS และระบบควบคุมไดนามิกส์อื่น ๆ โดยทั้งหมดนั้นได้รับการประมวลผล และสั่งการผ่านกล่องควบคุมเพียงตัวเดียว! คอมพิวเตอร์สามารถคำนวณข้อมูลที่ได้รับออกมาได้อย่างรวดเร็วจนน่าทึ่ง ไร้รอยต่อ และเป็นธรรมชาติอย่างยิ่ง
แผนก M เริ่มพัฒนาระบบขับเคลื่อนสี่ล้อให้กับซูเปอร์ซาลูนคันนี้ตั้งแต่เมื่อราว 5 ปีก่อน โดยทดสอบกับ M5 เวอร์ชั่นก่อนหน้านี้ รวม ๆ แล้ว รถรุ่นนี้ใช้เวลาในการปรับระบบขับเคลื่อนถึงกว่า 3 ปี และผลลัพธ์ที่ได้นั้น น่าพอใจเป็นอย่างยิ่ง ทายาทลำดับล่าสุดยังคงให้สัมผัสแบบรถขับเคลื่อนล้อหลังเช่นเดิม เพียงแต่คราวนี้คุณจะได้รับโบนัสเป็นการยึดเกาะถนนที่เพิ่มมากขึ้นจากความช่วยเหลือของล้อหน้า
แรงบิดมหาศาลที่ 750 นิวตันเมตร กับ 600 แรงม้า ที่ผลิตออกมาจากเครื่องยนต์แบบ V8 ความจุ 4.4 ลิตร ทวินเทอร์โบ ทำให้เราตระหนักว่า จะน่ากลัวเพียงใดหากปล่อยให้ล้อคู่หลังรับมือเพียงลำพัง M5 กับน้ำหนักตัวถังเกือบ 2 ตัน สามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 3.4 วินาที และใช้ไป 11.1 วินาที สำหรับการพุ่งจากจุดหยุดนิ่งสู่ 200 กม./ชม. นอกจากนั้น หากคุณปลดล็อคระบบจำกัดความเร็ว มันจะทำได้แตะ 305 กม./ชม. เลยทีเดียว
เทอร์โบที่นำมาใช้กับเครื่องยนต์ V8 ตัวนี้ ถูกพัฒนาให้สามารถตอบสนองได้ฉับไวยิ่งขึ้น ทั้งคู่ถูกติดตั้งไว้กับท่อร่วมไอเสียแบบใหม่ที่จะจัดเรียงกระแสไอเสียให้สามารถสร้างแรงดันไปหมุนเทอร์ไบน์ได้รุนแรงกว่าเดิม นอกจากนั้น หัวฉีดแบบใหม่ที่สร้างแรงดันได้มากถึง 350 บาร์ ยังช่วยให้การเผาไหม้ในกระบอกสูบทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย ในขณะที่ระบบหล่อลื่นก็ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่เช่นกัน โดยส่วนหน้าของอ่างน้ำมันเครื่องออกแบบให้มีขนาดเล็กลง ทำงานร่วมกับปั๊มน้ำมันเครื่องแบบแปรผันควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อรักษาแรงดันให้เหมาะสมแม้คุณกำลังเหวี่ยงเจ้า M5 ไปมาอย่างรุนแรงในสนามแข่งก็ตาม
แทนที่จะเป็นเกียร์แบบคลัทช์คู่ ระบบส่งกำลังของ M5 กลับใช้แบบทอร์คคอนเวอร์เตอร์ 8 จังหวะ ด้วยเหตุผลเรื่องการทำงานที่ราบเรียบนุ่มนวลกว่า นั่นหมายถึง คุณสามารถขับฉุยฉายในเมืองได้อย่างไร้ปัญหา ทว่ายังคงโลดเล่นในแทร็คได้เต็มประสิทธิภาพเช่นเดิม ความรวดเร็ว และระยะเวลาในการเปลี่ยนเกียร์ ขึ้น-ลง สามารถเลือกได้ 3 ระดับ จากช้าไปเร็ว และถ้าคุณเลือกเปลี่ยนเองผ่านแพดเดิลหลังพวงมาลัย ระบบจะไม่เปลี่ยนเกียร์สูงขึ้นอัตโนมัติแม้รอบเครื่องจะถึงลิมิตสูงสุดก็ตาม… คุณและคุณเท่านั้น คือผู้กุมชะตาของ M5 ในโหมดนี้
ด้วยความเอาใจใส่ของระบบ x-Drive การหวด M5 จึงเป็นไปด้วยความง่ายดายยิ่งขึ้น ระบบบังคับเลี้ยวที่เฉียบคม, สื่อสาร และตอบสนองเป็นอย่างดี คือกุญแจสำคัญที่ส่งให้การบังคับควบคุมเชื่องมือ เมื่อผนวกเข้ากับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ และช่วงล่างแบบดับเบิลวิชโบนที่มาพร้อมกับแดมเปอร์แบบแปรผันซึ่งควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ ซูเปอร์ซาลูนจาก BMW เกาะโค้งได้ราวกับวิ่งอยู่บนราง คุณจะสัมผัสถึงระดับแรงยึดเกาะขั้นสูงได้แม้กระทั่งในโหมด Comfort ที่นุ่มนวล และเพิ่มมากขึ้นเมื่อขยับเป็น Sport ส่วนโหมด Sport Plus เราแนะนำให้เอาไว้ใช้ในสนามจะดีกว่า เพราะมันแข็งกระด้างเอาเรื่องทีเดียว
ค่าเริ่มต้นของโหมดการขับขี่จะถูกตั้งไว้ที่ขับเคลื่อนสี่ล้ออัตโนมัติเสมอ ระบบช่วยเหลือต่าง ๆ จะทำหน้าที่ของมันแบบไม่คลาดสายตา กระหน่ำมันด้วยโหมดนี้หากคุณอยากรับรู้ว่า ความสามารถของคอมพิวเตอร์ใน M5 ชาญฉลาดแค่ไหน ทุกอย่างจะอยู่ภายใต้การควบคุมที่เข้มงวด ไม่ปล่อยให้คุณต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่สุ่มเสี่ยง ทว่ามันยังคงเร็วในระดับที่ทำให้หัวใจของคุณเต้นรัว หรืออยากได้ความรู้สึกแบบขนลุกขนพอง ปรับไปที่โหมด Sport Plus และระบบไดนามิกส์จะถูกผ่อนปรนเพื่อเปิดโอกาสให้คุณสนุกกับการบังคับควบคุมด้วยตัวเองมากขึ้น พละกำลังส่วนใหญ่จะถูกย้ายไปยังล้อคู่หลัง เปลี่ยนบุคลิกของ M5 ให้ใกล้เคียงกับบรรดาทายาทขับหลังของมันมากยิ่งขึ้น
ราวกับเป็นรถคนละคันเมื่ออยู่ในโหมดนี้ ทั้งเครื่องยนต์, เกียร์ และระบบขับเคลื่อน จะถูกปลดเปลื้องเพื่อเผยให้เห็นความดิบเถื่อนของสมรรถนะที่ซ่อนอยู่ใน M5 มีอาการโอเวอร์สเตียร์บาง ๆ เสมอเมื่ออยู่ในโค้ง และคุณสามารถลดมันลงได้ด้วยการควบคุมพวงมาลัย ไม่ก็เหวี่ยงท้ายออกไปด้วยคันเร่งที่พร้อมส่งแรงบิดทั้ง 750 นิวตันเมตร ออกไปสู่ยางหลังอ้วนพีขนาด 285/40-19 ให้ปั่นฟรีพร้อมควันโขมงได้ทันทีที่คุณเรียกหา มันยังคงให้ความมั่นใจกับคุณได้เต็มที่แม้ระบบควบคุมไดนามิกส์จะถอยทัพออกมาก็ตาม พวงมาลัยจะบอกองศาหักเลี้ยวของล้อหน้ามายังมือของคุณ แรงต้านที่เกิดจากมอเตอร์ไฟฟ้าของระบบบังคับเลี้ยวอาจหนักหน่วงไปสักหน่อยหากคุณเลือกพวงมาลัยในโหมด Sport Plus ถ้ามากเกินไปสำหรับคุณ ก็สามารถลดลงได้ด้วยการเปลี่ยนลงมาที่โหมด Sport แบบเดียวกับที่ผมทำ
ทั้งพละกำลัง, การยึดเกาะถนน และการบังคับควบคุม ผมสามารถพูดได้เต็มปากว่า นี่ยังคงเป็น M5 ในแบบที่ควรจะเป็น แม้ปัจจุบันมันจะขับเคลื่อนสี่ล้อก็ตาม ทว่าสัมผัสแบบรถขับหลังยังคงอบอวลอยู่เช่นเดิม ต้องขอบคุณเทคโนโลยีอันรุดหน้าที่ BMW ใส่เข้าไปใน M5 ใหม่ ซึ่งช่วยให้มันเป็นรถสมรรถนะสูงที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าผู้ขับจะมีทักษะการขับขี่มาก หรือน้อยก็ตาม
ด้วยราคา 13,299,000 บาท (บวกด้วยแพ็คเกจ BSI แบบมาตรฐานอีก 40,000 บาท) และอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยซึ่งเราทำได้ที่ราว ๆ 6 กม./ลิตร นี่อาจไม่ใช่รถซาลูนที่สมเหตุสมผลนักสำหรับทุกวันของคุณ แต่มันควรค่าอย่างยิ่งหากมองไปที่สมรรถนะอันเหนือชั้น แม้ M5 จะอยู่ในคราบของรถแบบสี่ประตู ทว่าประสิทธิภาพของมันนั้นสามารถเทียบชั้นได้กับซูเปอร์คาร์ที่มีราคาสูงกว่าได้อย่างสูสี ด้วยแฮนด์ลิงที่เชื่องมือกว่า… ในข้อแม้ว่า ต้องเปิดระบบควบคุมเอาไว้นะครับ
SPECIFICATIONS: BMW M5
- Price: 13,299,000 Baht
- Engine: 4,395cc 32v V8 twin-turbocharged, 600ps @ 5,860-6,000 rpm, 750Nm @ 1,800-5,600 rpm
- Transmission: 8-speed auto, all-wheel drive with rear drive mode
- Performance: 3.4sec 0-100 km/h, 250 km/h, 9.5 km/l (combine, claimed), 241 g/km Co2
- NCAP rating: 5 stars