Breaking News

รีวิว ทดสอบรถ: Toyota Hilux Revo Rocco ตัวท็อปที่สุดในสาย

รีวิว ทดสอบรถ: Toyota Hilux Revo Rocco เพิ่มศักยภาพความเป็นยนตรกรรม Off-Road มากขึ้น ด้วยการปรับความเร็วรอบเดินเบาใหม่

Toyota Hilux Revo Rocco
Toyota Hilux Revo Rocco

รีวิว ทดสอบรถ: Toyota Hilux Revo Rocco ตัวท็อปที่สุดในสาย

Toyota Hilux Revo Rocco

Toyota Hilux Revo Rocco
Toyota Hilux Revo Rocco
Toyota Hilux Revo Rocco
Toyota Hilux Revo Rocco

“เรายังคงมองว่าดีไซน์ของ Toyota Hilux Revo นั้นยังคงไม่ใช่อะไรที่น่าโดดเด่น สะดุดตามากซักเท่าไหร่ เว้นแต่หนึ่งเดียวในรุ่นที่ทำให้เราร้อง “ว้าว” ได้ทุกครั้งที่มอง และนั่นคือ Toyota Hilux Revo Rocco ตัวท็อปที่สุดในสาย ที่เราเชื่อว่าหลายๆ คนก็อยากจะได้มาครอบครองเช่นกัน”

Toyota Hilux Revo Rocco
Toyota Hilux Revo Rocco
Toyota Hilux Revo Rocco
Toyota Hilux Revo Rocco

“The Unbeatable” คือ นิยามคุณลักษณะของการเปิดตัว 2 ยนตรกรรมจากโครงการ IMV เจนเนอเรชั่นล่าสุดไปทั่วโลก ทั้งโมเดล Revo และ Fortuner ซึ่งส่วนตัวแล้วเราสะดุดตากับเจ้ายักษ์ใหญ่สายดุอย่าง Toyota Hilux Revo รุ่นท็อปอย่าง Rocco โดยเฉพาะกับตัวถังโทนสีเขียว Oxide Bronze Metallic ที่ดูลงตัวกับอารมณ์ของฐานะยนตรกรรมสายลุยเอามากๆ จนต้องยกโทรศัพท์ติดต่อไปยัง บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เลียบๆ เคียงๆ หยิบยืม Toyota Hilux Revo Rocco มาลองขับซักครั้ง

Toyota Hilux Revo Rocco

Toyota Hilux Revo Rocco

แต่ปรากฏว่าไม่มีสีโปรดของเราให้ เลยได้สีขาว White Pearl CS สะอาดสะอ้านมาแทน ซึ่งมองไป มองมาก็ดูให้อารมณ์เรียบหรู ในแบบที่แอบซ่อนความร้ายของสายลุยเอาไว้ได้อย่างลงตัวทีเดียว และก่อนจะออกไปซน เราว่าควรต้องมาชมกันซักนิดว่าเจ้า Toyota Hilux Revo Rocco ในฐานะตัวท็อปสุดของสาย เค้ามีอะไรเป็นจุดเด่นบ้าง

Toyota Hilux Revo Rocco

Toyota Hilux Revo Rocco

สำหรับ Toyota Hilux Revo ใหม่ มากับการพัฒนาภายใต้แนวคิด Toughness for Everyone เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ผู้ใช้ทั่วโลกได้อย่างสมบูรณ์แบบ ผ่านจุดขายหลักๆ ตั้งแต่การออกแบบที่มีความแข็งแกร่ง และล้ำสมัยมากยิ่งขึ้น เช่น รูปลักษณ์ภายนอกใหม่ที่ให้ความแข็งแกร่งแฝงความล้ำสมัย ด้วยชุดไฟหน้าดีไซน์ใหม่แบบ Bi-Beam พร้อมชุดไฟ LED Daytime Running Light และไฟท้ายแบบ LED Light Guiding

Toyota Hilux Revo Rocco

Toyota Hilux Revo Rocco
Toyota Hilux Revo Rocco

โดยในเวอร์ชั่นพิเศษรุ่น Rocco นั้นยกระดับความดุดันเพิ่มขึ้น ด้วยชุดแต่งรอบคัน ที่ประกอบด้วย สปอร์ตบาร์ และล้ออัลลอยดีไซน์พิเศษ พร้อมยางแบบ White Letters ทั้งยังอัพเกรดความสะดุดตาด้วยการออกแบบชุดกระจังหน้า และชุดกันชนหน้าที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ซึ่งจะมีความแตกต่างจากรุ่นมาตรฐานอย่างชัดเจน

Toyota Hilux Revo Rocco

Toyota Hilux Revo Rocco

ขณะที่ภายในห้องโดยสารนั้นได้รับการตกแต่งในรายละเอียดต่างๆ ให้สอดรับกับการออกดีไซน์ภายนอก เพื่อนำเสนอภาพลักษณ์ความแข็งแกร่ง และดุดัน ควบคู่ไปกับการยกระดับความพรีเมี่ยม ผ่านการเลือกสรรวัสดุตกแต่งแบบพิเศษ ตลอดจนไฟส่องสว่างภายใน และออฟชั่น มาตรฐานต่างๆ ที่จัดมาให้อย่างครบครัน

Toyota Hilux Revo Rocco

Toyota Hilux Revo Rocco

โดยมีไฮไลท์เป็นชุดหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว ซึ่งรองรับ Apple CarPlay สำหรับการเชื่อมต่อทุกความบันเทิงได้อย่างอิสระ รวมถึงระบบการเชื่อมต่อรถ และผู้ใช้รถให้เป็นหนึ่งเดียวกันอย่างระบบ T-Connect  หรือพูดง่ายๆ ว่าบรรดาออฟชั่นอำนวยความสะดวกต่างๆ นั้นยังคงเป็นอะไรที่คุ้นเคยกันดี เพราะไม่ได้มีอะไรใหม่เพิ่มเติมเข้ามา ฉะนั้นจึงไม่ใช่เรื่องยากมากมายนัก ที่จะทำการเรียนรู้ และใช้งาน

Toyota Hilux Revo Rocco

Toyota Hilux Revo Rocco

ส่วนสิ่งที่น่าสนใจที่สุดของการปรับโฉม Toyota Hilux Revo ในครั้งนี้ ก็คือ สมรรถนะการขับขี่ที่มาจากพื้นฐานของเครื่องยนตร์ดีเซล รหัส 1GD-FTV (High) พิกัด 2.8 ลิตร แบบ 4 สูบ 16 วาล์ว พ่วงระบบอัดอากาศ VN Turbo และระบบระบายความร้อน Intercooler ซึ่งอัพเกรดให้มีพละกำลังสูงสุดถึง 204 แรงม้าที่รอบเครื่องยนต์ 3,400 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดที่ 500 นิวตันเมตร ตั้งแต่ 1,600-2,800 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม Sequential Shift สู่ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่มาพร้อมชุดเฟืองท้าย Differential Lock

Toyota Hilux Revo Rocco

Toyota Hilux Revo Rocco

และที่สำคัญ ก็คือ มีการเพิ่มศักยภาพความเป็นยนตรกรรม Off-Road มากขึ้น ด้วยการปรับความเร็วรอบเดินเบาใหม่จากเดิม 850 รอบต่อนาที ให้ลดลงเหลือ 680 รอบต่อนาที ทั้งยังมากับชุดหน้าจอ TFT ที่แสดงข้อมูลตำแหน่งองศาของล้อ พร้อมการติดตั้งสัญญาณเตือนกะระยะทั้งด้านท้าย และบริเวณมุมกันชนหน้า-หลัง เพื่อทำหน้าที่ช่วยตรวจสอบสิ่งกีดขวางรอบข้างในขณะขับขี่อีกด้วย

Toyota Hilux Revo Rocco

Toyota Hilux Revo Rocco

นอกจากนี้ยังมีการปรับระบบบังคับเลี้ยวแบบ VFC (Variable Flow Control) ใหม่ให้มีน้ำหนักพวงมาลัยเหมาะสมในทุกย่านความเร็ว เพื่อช่วยลดความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่ เช่นเดียวกับระบบช่วงล่างที่ถูกปรับปรุงและพัฒนาขึ้นใหม่แบบ Super Flex Suspension ให้มีการดูดซับแรงกระแทกที่ดี และมอบความนุ่มสบายให้สัมผัสได้มากขึ้น ราวกับนั่งอยู่ในรถ SUV ระดับหรู ขณะที่ยังคงมอบการใช้งานที่แข็งแกร่ง และทนทาน ในรูปแบบที่คุ้นเคยกันดี

Toyota Hilux Revo Rocco

Toyota Hilux Revo Rocco

แต่เนื่องจากวันนี้ Toyota Hilux Revo Rocco ที่อยู่กับเรา คือ สีขาว White Pearl CS ที่ให้ความรู้สึกสะอาด สะอ้าน และเรียบหรูมากกว่าจะเตรียมตัวมาเป็นสายลุยเต็มขั้น ฉะนั้นเราจึงขอเลือกลุยในป่าคอนกรีต และบนถนนดำเป็นส่วนใหญ่ เพราะลึกๆ ในใจเราเสียดายความรูปหล่อ เลยขอเอามาอวดชาวบ้าน ชาวเมืองดีกว่า

Toyota Hilux Revo Rocco

Toyota Hilux Revo Rocco

เริ่มต้นจากการลัดเลาะไปตามถนนที่ว่ากันว่าการจราจรสาหัสเพื่ออวดโฉม เพราะแม้รถราจะหนาแน่นจนบางครั้งจอดนิ่งมากกว่าขยับ เราก็ยังไม่เดือดร้อนเรื่องความอึดอัดมากเท่าไหร่ เนื่องด้วยคุณสมบัติของความเป็น “ยกสูง” เต็มขั้น แถมด้วยตัวถังแบบ 4 ประตู ฉะนั้นเราจึงมีพื้นที่เหลือเฟือ สำหรับสร้างความปลอดโปร่งโล่งสบาย ไม่ว่าจะมองซ้าย หรือมองขวา ด้านหน้า หรือด้านหลัง แถมยังสามารถเพลิดเพลินไปกับอุปกรณ์อำนวยความบันเทิงจากหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว ที่รองรับ Apple CarPlay ให้เราเลือกฟังเพลงโปรดได้อย่างสบายๆ

Toyota Hilux Revo Rocco

ขณะที่เมื่อเราว่าง และลองกวาดสายตาไปรอบๆ กลับพบว่า เพื่อร่วมท้องถนนทั้งหลายต่างก็ให้ความสนใจในยานพาหนะของเราไม่น้อย ทั้งจากฐานะของ Toyota Hilux Revo Rocco รุ่นใหม่ล่าสุด และการปูพรมความหล่อเข้มสไตล์สายลุยทั่วทั้งคัน ซึ่งคงปฏิเสธไม่ได้ว่าตัวถังโทนสีขาว White Pearl CS นั้นมันช่างลงตัวกับยางที่มีตัวอักษรสีขาวแบบ White Letters แถมถ้ามองในภาพรวมดีๆ จะสังเกตว่านี่คือการ “คุมโทนสี” ที่เฉียบขาด ด้วยพื้นที่ส่วนใหญ่ที่ประกอบด้วยโทนสีขาว และโทนสีดำ พร้อมกับรายละเอียดที่ตกแต่งด้วยวัสดุโครเมี่ยม จนกลายเป็นจุดเด่นสร้างความน่าสนใจได้ดีเกินคาดก็ว่าได้

Toyota Hilux Revo Rocco

ก่อนที่จะภูมิใจในเรื่องสีไปมากกว่านี้ เรามาลองดูเรื่องของสมรรถนะกันบ้าง โดยเริ่มจากความคล่องตัวที่เกิดขึ้นจาก ระบบพวงมาลัยที่ถูกปรับเซ็ทขึ้นใหม่ ที่เข้าคู่กับแรงบิดรอบต่ำระดับ 500 นิวตันเมตร ที่มีมาให้ใช้ตั้งแต่ 1,600 รอบต่อนาที เพื่อสร้างความกระฉับกระเฉง คล่องตัว และเอื้ออำนวยให้การขับขี่ในเมืองเป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายขึ้น แต่อย่าเข้าใจผิดว่ามันมากับความคล่องตัวในระดับเทียบเท่ากับรถยนต์นั่งขนาดกลาง เพราะสรุปก็คือ มีความใช้งานที่ง่ายขึ้นในระดับซึ่งมากกว่ารถปิคอัพ 4 ประตู บนพื้นฐานคู่แข่งในระดับเดียวกันนั่นเอง

Toyota Hilux Revo Rocco

ส่วนเรื่องของการตอบสนองเมื่อกดคันเร่งแบบเต็มๆ นั้นยังคงอยู่ในระดับที่ให้ความเร้าใจได้เช่นเดิม เพราะการปรับลดรอบเดินเบานั้นเราต้องใช้กับสถานการณ์การขับขี่แบบ Off-Road ถึงจะเห็นผลชัด เพราะงั้นกับการขับขี่ในชีวิตประจำวันปกติทั่วไป จึงยังไม่ได้รู้สึกอะไรมากมายพอสมควร เท่ากับระบบช่วงล่างที่แสดงออกถึงความนุ่มนวลมากขึ้น ซึ่งก็ถือว่าตอบโจทย์ได้ตรงจุดกับฐานะของยนตรกรรมปิคอัพแบบ 4 ประตูที่เน้นเรื่องการโดยสาร มากกว่าการบรรทุกหนัก ซึ่งหากถามว่าทำได้หรือไม่ เราบอกได้เลยว่าทำได้แน่ๆ

Toyota Hilux Revo Rocco

แต่หากเมื่อดูจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปในยุคปัจจุบัน รถปิคอัพ 4 ประตู จึงเปรียบเสมือนอีกหนึ่งรุ่นรถอเนกประสงค์ที่คนไทยเลือกเป็นเจ้าของมากที่สุดเช่นกัน ฉะนั้นในฐานะรุ่นท็อปสุดของ Revo ออฟชั่นอำนวยความสะดวกสบายจึงถูกจัดมาให้เต็มๆ เช่นเดียวกับเรื่องของระบบความปลอดภัยที่ติดตั้งมาตรฐานระดับโลกมาให้ในชื่อ Toyota Safety Sense

Toyota Hilux Revo Rocco

และโดยสรุปจากความรู้สึกของเรา อย่างที่บอกไว้ข้างต้นว่า Toyota Hilux Revo Rocco ถือเป็นอีกหนึ่งรุ่นรถอเนกประสงค์ ที่เพียบพร้อมด้วยความโดดเด่น สง่างาม ตอบโจทย์การใช้งานได้ทั้งในเมือง หรือทำกิจกรรมกลางแจ้งในยามว่าง ซึ่งเราเดาว่าน้อยคนนักที่จะนำรถปิคอัพราคากว่า 1.2 ล้านเข้าป่าไปลุย ฉะนั้นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่เรามั่นใจว่า “ลุย” ได้ จึงน่าจะเหมาะกับการขับขี่ในสถานการณ์ย่ำแย่ เช่น ทางฝุ่น ทางดิน หรือ ฝนตกหนักที่จำเป็นต้องลุยน้ำมากกว่า ทั้งนี้ก็เพื่อสร้างความมั่นใจ และปลอดภัยในการขับขี่ เพราะถ้าเป็นเราเอง เราก็คงทำเช่นนั้น เพราะบอกตรงๆ ว่าเรา “เสียดาย” ความหล่อ

Toyota Hilux Revo Rocco
Toyota Hilux Revo Rocco

Specification: Toyota Hilux Revo Rocco

  • Price :   1,239,000 BHT
  • Engine :   Diesel / Turbo / Intercooler / 2,755 CC / 4 Cylinder / 16 Valve 204 hp @ 3,400 rpm / 500 Nm @ 1,600-2,800 rpm 
  • Transmission :   6A/T / Part-Time Four Wheel Drive
  • Performance :   0 – 100 Km/h @ N/A / Top Speed @ N/A
  • Weight :    N/A

Check Also

ISUZU MU-X 4x2 3.0 RS 2024

รีวิว ลองขับ ISUZU MU-X 4×2 3.0 RS ลุคใหม่ที่สปอร์ตยิ่งกว่าเดิม เสริมความปลอดภัย ที่ยังคงเด่นในสมรรถนะและความประหยัดเฉกเช่นเดิม

รีวิว ลองขับ ISUZU MU-X 4×2 3.0 RS A/T เครื่องยนต์ 3.0 Ddi Blue Power 190 แรงม้า …