รีวิว ทดสอบรถ: Suzuki Swift GL MAX EDITION พร้อมชุดแต่งใหม่รอบคัน กับการขับในแบบ Mini Gymkhana ณ สนาม Motor Sport Park Suvarnabhumi
รีวิว ทดสอบรถ: Suzuki Swift GL MAX EDITION ปรับโฉมให้มีสไตล์มากยิ่งขึ้น
Suzuki Swift GL MAX EDITION
หลังเปิดโฉมไปสักพัก ทาง Suzuki ได้เชิญสื่อมวลชนมาร่วมทดสอบสมรรถนะ ของ Suzuki Swift รุ่นตกแต่งพิเศษ Swift GL Max Edition ถูกพัฒนาบนพื้นฐาน Suzuki Swift รุ่น GL โดยได้เสริมชุดแต่งพิเศษสปอร์ตรอบคัน ทำให้ดูสปอร์ตมากยิ่งขึ้น ซึ่งถือเป็นรุ่นกลางของ Swift ในเรื่องของออฟชั่น ซึ่งทาง Suzuki มีการปรับเพิ่มในส่วนของรูปโฉมให้มีความสปอร์ตมากยิ่งขึ้น ถึงแม้ Suzuki Swift จะออกมาสู่ตลาดเป็นระยะเวลายาวนานแล้วก็ตาม แต่ก็ยังคงเป็นรถที่คุ้มค่าและเหมาะสมกับราคาอยู่ ด้วยรูปโฉมที่ดูเข้ากับยุคสมัย ภายในที่กว้างขวางซึ่งเป็นอีกจุดเด่นที่ทำให้คนชื่นชอบในรถรุ่นนี้
Suzuki Swift GL Sport Edition โดดเด่นด้วยสเกิร์ตลิ้นหน้าที่เป็นสีดำ ตัดกับสีเทาแบบอลูมิเนียม รวมถึงสเกิร์ตด้านข้าง บริเวณกันชนหลังสีดำพร้อมเล่นลวดลายด้วยเส้นสายสีเงินอลูมิเนียมที่โดดเด่น พร้อมกับติดตั้งไฟทับทิมขนาดใหญ่ไว้ที่กลางกันชนด้านหลังตรงกลาง เสริมความโฉบเฉี่ยวให้สะดุดตามากยิ่งขึ้นด้วยสปอยเลอร์สีดำที่ด้านหลัง
เล่นลวดลายความสปอร์ตด้วยสติกเกอร์ Sport Edition สีดำ-แดง ที่ประตูด้านข้างทั้ง ซ้าย-ขวา ที่เสริมความสปอร์ตในทุกมิติ, พร้อมกับปรับเปลี่ยนเสาอากาศมาเป็นแบบครีบฉลามสีเดียวกับตัวรถทำให้ดูมีความปราดเปรียวมากยิ่งขึ้น พร้อมปลายท่อไอเสียคู่ และสติกเกอร์ลายพิเศษ Suzuki Swift GL Sport Edition รุ่นตกแต่งพิเศษ จะมีเฉดสีให้เลือกถึง 6 เฉดสี ได้แก่
- สีแดง Ablaze Red Pearl,
- สีนำเงิน Speedy Blue Metallic
- สีบรอนซ์เงิน Star Silver Metallic
- สีเทา Mineral Gray Metallic
- สีดำ Super Black Pearl
- สีขาว Pure White Pearl
โดยจะมากับราคาเพียง 541,000 บาท ซึ่งจะมีราคาเพิ่มขึ้นจากในรุ่น GL CVT เพียง 5,000 บาท แต่ถ้าต้องการสีขาวจะเพิ่มอีก 5,000 บาท ที่สำคัญ Suzuki Swift GL Sport Edition รุ่นตกแต่งพิเศษผลิตในจำนวนจำกัด
ส่วนภายในห้องโดยสารนั้นยังคงเดิมไม่ได้มีการตกแต่งเพิ่มเติม ภายในยังคงดีไซน์กับอุปกรณ์ต่างๆ ยังเหมือนกับสวิฟ GL ตัวปกติทุกสิ่ง รวมถึงพวงมาลัยทรงท้ายตัดที่ช่วยให้การเข้าออกตำแหน่งขับขี่ทำได้คล่องแคล่ว ทั้งนี้ ระบบอินโฟเทนเมนท์เป็นแบบปุ่มกดไม่มีจอสัมผัสใส่มา และระบบเครื่องปรับอากาศยังคงหมุนด้วยมือ
ในการทดสอบทาง Suzuki เนรมิตสนามมอเตอร์สปอร์ตพาร์ค สุวรรณภูมิ ให้เป็นสนามทดสอบในรูปแบบ Gymkhana โดยมีภารกิจท้าทายให้สื่อมวลชนแข่งขันกัน โดยวิ่งรอบสนามนี้แบบไปกลับทางเดิม แต่มีการวางไพลอนให้มีอุปสรรคในการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นแนวไพลอนที่แคบ มีสถานีสลาลม กับทางโค้งหักศอก เตรียมรอไว้ ซึ่งทำให้เส้นทางมีความท้าทายสุดๆ โดยมีการจับเวลาผู้ขับรถทำเวลาได้รวดเร็วที่สุด ซึ่งทางทีมงานให้เราขับดูไลน์สนามก่อนหนึ่งรอบแล้วค่อยจับเวลาจริง ซึ่งขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 83 แรงม้า 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 108 นิวตัน-เมตร ที่รอบเครื่องยนต์ 4,400 รอบต่อนาที
มาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ หัวฉีดคู่ DUALJET ที่มอบการตอบสนองในการขับขี่ได้ดีเยี่ยม มากับแพลตฟอร์มใหม่ HEARTECT ที่จะมาช่วยให้ตัวรถมีน้ำหนักน้อยลง แต่ยังคงความแข็งแกร่ง อีกทั้งยังช่วยประหยัดน้ำมันได้อีกด้วย ทำงานควบคู่กับระบบเกียร์แบบ CVT กับทำงานได้อย่างน่าทึ่ง เครื่องยนต์ให้การตอบสนองไม่ด้อยกว่าเครื่องยนต์ระดับ 1.5 ลิตร กับเปลี่ยนเกียร์และดึงรอบช่วยของระบบเกียร์ก็ทำงานได้อย่างลงตัว
ในการทดสอบรอบแรกเราได้ใช้ความเร็วพอสมควร เพื่อทำความคุ้นเคยกับรถและพวงมาลัยให้เกิดความคุ้นชิน ซึ่งความเร็วที่เราใช้อยู่เฉลี่ยตั้งแต่ 40-70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งอาจดูไม่มากแต่ถ้าเอารถมาขับในทางแคบๆ แบบนี้ถือว่าท้าทาย เพราะถ้าชนโดนไพลอนจะถูกบวกเพิ่มอีก 2 วินาทีต่อหนึ่งไพลอนกันทีเดียว พระเอกของงานนี้คงไม่พ้นระบบพวงมาลัยที่มีความเฉียบคม ทั้งน้ำหนักที่ดี เมื่อต้องหักเลี้ยวหลบหลีกสิ่งกีดขวาง
ส่งผลมาถึงระบบช่วงล่างที่แม้จะนุ่มนวลในยามการใช้งานปรกติ แต่พอมาใช้ในรูปแบบนี้ ก็ไม่ได้โยนตัวย้วยควบคุมยาก โดยช่วงล่างของรุ่น GL Max Edition ไม่ต่างกับรุ่นอื่นที่มีขายอยู่ แต่จะนุ่มกว่าอาจจะมาจากยางที่หนาขึ้นกับล้อกระทะพร้อมฝาครอบขอบ 15 นิ้ว ซึ่งโดยส่วนตัวน่าจะมีการปรับเป็นล้อแบบพิเศษขอบ 16 นิ้วในโฉมก่อนอย่างรุ่น RX ที่เคยทำออกมาน่าจะดูน่าสนใจยิ่งขึ้น
ซึ่งตลอดเส้นทางการขับขี่ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TCS ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP ช่วยในการทำงานได้อย่างดี ในบางโค้งที่เราเข้าเร็วไประบบเหล่านี้ก็ช่วยประครองให้รถไม่ไถลหลุดออกนอกเลน ทำให้การขับขี่ที่เค้นสมรรถนะของรถทำได้อย่างเต็มที่ โดยเวลาเฉลี่ยของการวิ่งของสื่อจะอยู่ที่ 120 วินาทีปลายๆ จนถึง 150 วินาที ซึ่งทางทีม Torque ทำได้ดีสุดที่ 134 วินาที
การขับขี่สไตล์ Gymkhana เป็นอีกรูปแบบการแข่งขันที่ผู้ขับขี่ต้องใช้ความจำในการขับขี่ เพื่อจดจำเส้นทาง รวมไปถึงรถยังต้องมีสมรรถนะที่คล่องตัว และสามารถตอบสนองได้ดีซึ่ง Suzuki Swift GL Max Edition 2020 ใหม่ ได้ท้าทายโจทย์นี้ได้อย่างเกินคาด ซึ่งแม้ในตลาดนี้อาจจะมีตัวเลือกมากมาย ซึ่งหลายๆ ค่ายอาจจะมีออฟชั่นที่น่าสนใจกว่า แต่ Suzuki Swift ก็ยังเป็นอีกหนึ่งในรถที่ทางทีมงานยอมรับในความประหยัด และความสะดวกสบายจากห้องโดยสารที่มีขนาดที่กว้างขวาง และการขับขี่ที่คล่องแคล่ว จนมีความคุ้มค่าในระดับต้นๆ ที่น่าสนใจไม่น้อยทีเดียว