รีวิว ทดสอบรถ: Toyota Sienta

รีวิว ทดสอบรถ: Toyota Sienta ยนตรกรรมอเนกประสงค์ขนาด Compact ที่มีช่วงล่างที่ผสมผสานความนุ่มนวล ความสปอร์ตเบา ๆ เพื่อให้คุณได้สนุกกับการขับขี่

รีวิว ทดสอบรถ: Toyota Sienta ยนตรกรรมอเนกประสงค์ขนาด Compact

หากคุณกำลังค้นหา Wallpaper รูปรถสวยๆ เราขอแนะนำ Wallpaper รูปรถสวยๆ Download wallpaper ที่นี้

Toyota Sienta

“เป็นรถขับสนุก ลุกนั่งสบาย ที่น่าจะกลายเป็นอีกหนึ่งทางเลือกอันน่าสนใจ สำหรับใครที่มองหารถอเนกประสงค์พิกัดเล็ก สำหรับชีวิตครอบครัวที่ไม่ใหญ่มาก ”

ย้อนกลับไปในปี พ.ศ. 2559 บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ได้เปิดตัวรถยนต์นั่งอเนกประสงค์รูปแบบใหม่ประเภท Compact Multi-purpose Vehicle ในชื่อ “All New Sienta” ที่ถูกออกแบบให้มี 3 แถว 7 ที่นั่ง สามารถปรับเปลี่ยนตำแหน่งเบาะนั่งเพื่อบรรทุกสัมภาระ

และสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างคุ้มค่าด้วยประตูข้างสไลด์อัตโนมัติ แถมขับเคลื่อนด้วยสมรรถนะที่น่าประทับใจหลังจากที่ได้ลองมาแล้วในอีกไม่กี่สัปดาห์ต่อมา ซึ่งเราคือหนึ่งในผู้ที่ได้ไปร่วมทดลองขับ จากการเชิญโดย บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด

จากวันเปิดตัว จนมาถึงปัจจุบัน Toyota Sienta ยังคงเป็นหนึ่งในโมเดลที่ทำตลาดอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้จะไม่ได้หวือหวา แต่ก็ประมาทไม่ได้ เพราะหลายคนที่กำลังเริ่มต้นชีวิตครอบครัวเล็ก ๆ มักมีบทสนทนาในหัวข้อการเลือกซื้อรถ ซึ่งชื่อ Toyota Sienta คือ อันดับต้น ๆ ที่ถูกเอ่ยถึงขึ้นมาตลอด ด้วยขนาดของตัวรถที่เหมาะสม ตลอดจนระดับราคา

โดยจุดเด่นของ Toyota Sienta นั้นเริ่มตั้งแต่ขนาดของตัวถังที่มากับความยาว 4,235 มม. ความกว้าง 1,695 มม. เช่นเดียวกับความสูงที่ 1.695 มม. บนความยาวฐานล้อที่ 2,750 มม. และความกว้างแทรคล้อหน้าที่ 1,465 มม. และล้อหลังที่ 1,470 มม.

ปูพรมด้วยงานดีไซน์อันสดใส แถมด้วยการอัพเกรดความสดใหม่สู่โมเดล 2019 ด้วย ด้านหน้าที่มากับกระจังหน้าคาดโครเมียม และกันชนหน้าสไตล์สปอร์ต ประกบด้วยชุดไฟหน้าโปรเจคเตอร์ Bi-Beam LED พร้อมด้วยไฟหรี่แบบ LED และไฟส่องสว่างเวลากลางวัน Daytime Running Lights แบบ LED

ตามด้วยมุมมองด้านข้างที่โดดเด่นด้วยล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว พร้อมกระจกมองข้างพับ/ปรับไฟฟ้า ที่มากับชุดไฟเลี้ยว และการติดตั้งกล้องมองภาพรอบทิศทางมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ในขณะที่ด้านหลังสะดุดตาด้วยชุดไฟท้าย LED แบบ Light Guiding และปลอกหุ้มท่อไอเสีย

ด้านภายในจัดให้ครบครันทุกฟังก์ชั่น สมฐานะของความเป็นยนตรกรรมอเนกประสงค์ เริ่มจากเบาะนั่งด้านคนขับปรับได้ 6 ทิศทาง พร้อมที่พักแขน ส่วนเบาะนั่งฝั่งผู้โดยสารปรับได้ 4 ทิศทาง ตามมาด้วยเบาะนั่งแถวที่ 2 ปรับได้แบบ 50:50 แบบ 1-Touch Tumble พร้อมที่พักแขนด้านข้าง ปิดท้ายด้วยเบาะนั่งแถว 3 ที่แยกพับได้ 50:50 แบบ Dive-in

ส่วนออฟชั่นมาตรฐานที่จัดมาให้ ประกอบด้วย ระบบสตาร์ทอัจฉริยะ (Push Start), ระบบเปิดประตูอัจฉริยะ (Smart Entry), ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ ควบคุมอุณหภูมิแบบ Digital, มาตรวัดเรืองแสงแบบ Optitron, หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID (Multi-information display) แบบ TFT ขนาด 4.2 นิ้ว พร้อมด้วยความบันเทิงจากเครื่องเล่น DVD พร้อมรองรับ USB และฟังก์ชั่น T-Link

ที่สามารถเชื่อมต่อแอพพลิเคชั่นการนำทาง และการฟังเพลงออนไลน์ ควบคุมได้จากหน้าจอสัมผัสขนาด 6.8 นิ้ว หรือจากบนพวงมาลัยไฟฟ้า พร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียง อีกทั้งยังสามารถรองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth และโทรศัพท์

ซึ่งสั่งการได้จากระบบโทรออกด้วยเสียง ขณะที่ด้านหลังก็สามารถเพลิดเพลินได้จากจอ LED ขนาด 8 นิ้ว สุดท้ายที่ขาดไม่ได้กับไฮไลท์ของ Sienta อย่างประตูสไลด์ที่สามารถเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าได้ทั้งด้านซ้าย และด้านขวา เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการเข้า-ออก ห้องโดยสารมากขึ้น

สำหรับสมรรถนะของ Toyota Sienta ยังคงเป็นรหัส 2NR-FE พิกัด 1.5 ลิตร แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว DUAL VVT-I ให้กำลังสูงสุด 108 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 140 นิวตันเมตรที่ 4,200 รอบต่อนาที

ส่งกำลังสู่ล้อหน้าด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT พร้อม Sport Sequential Shift 7 สปีด พร้อมระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระแท็คเฟอร์สันสตรัท และด้านหลังแบบทอร์ชั่นบีม คอยล์สปริง เสริมด้วยเหล็กกันโคลงทั้งด้านหน้า และด้านหลัง

โดยความรู้สึกจากการขับ ต้องบอกเลยว่าเป็นอะไรที่น่าคบหา ตั้งแต่ทัศนวิสัยที่ดีในการขับขี่ จากตำแหน่งเบาะนั่งที่ค่อนข้างสูง พร้อมด้วยองค์ประกอบสำคัญอย่าง เครื่องยนต์ เกียร์ พวงมาลัย และระบบช่วงล่างที่ถูกเซ็ทมาให้อย่างลงตัว จนกลายเป็นยนตรกรรมที่ควบคุมง่าย เชื่องมือ และนำเสนอความปราดเปรียวได้อย่างชัดเจน ตอบโจทย์ความเป็นยนตรกรรมที่เหมาะสมสำหรับชีวิตคนเมือง

เรียกว่าไม่ได้แรงจนหวือหวาหลังติดเบาะ หรือเฉียบคมราวรถสปอร์ต หรือช่วงล่างสุดเฟิร์มระดับรถยุโรป หากแต่รวม ๆ กันแล้ว มันคือยนตรกรรมอเนกประสงค์ขนาด Compact ที่มีรสชาติในการขับขี่ สั่งการได้ง่าย ทั้งจากการควบคุมพวงมาลัย ตลอดจนเครื่องยนต์

และเกียร์ที่คุณสามารถเรียกใช้กำลังได้ทุกครั้งที่ต้องการ เพราะฉะนั้นในทุก ๆ การขับขี่ตั้งแต่ความเร็วต่ำ ไปจนถึงความเร็วเดินทางตามกฎหมายกำหนด จึงมั่นใจได้ว่า Toyota Sienta จะไม่สร้างความรู้สึกน่าเบื่อหน่ายให้เกิดขึ้นแต่ประการใด

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงความเร็วไหล ๆ และมีช่องว่างพอให้แทรกตัวไประหว่างเพื่อร่วมท้องถนน ที่คุณจะสามารถสนุกไปกับความคล่องตัวอย่างเต็มอรรถรส ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่เราชอบมาก เมื่อต้องใช้ชีวิตในเมืองเป็นส่วนใหญ่ ขณะเดียวกันเมื่อเดินทางออกนอกเมือง

Toyota Sienta ก็ยังคงให้ความมั่นใจได้ดี จากระบบช่วงล่างที่ผสมผสานความนุ่มนวล แต่เจือปนด้วยความสปอร์ตเบา ๆ เพื่อให้คุณได้สนุกกับการขับขี่ โดยเฉพาะในจังหวะเข้าโค้ง ที่รับรู้ได้ถึงเสถียรภาพการทรงตัว ซึ่งยั่วยุให้คุณกล้าที่จะซิ่ง

หรือกล้าที่จะเพิ่มความเร็วขณะอยู่ในโค้งได้อย่างสบาย ๆ เพราะหากเกิดการผิดพลาดประการใดก็ยังมี ระบบช่วยควบคุมการทรงตัว VSC (Vehicle Stability Control) เป็นอีกปราการที่จะช่วยจัดทรงทุกอย่างให้อยู่กับร่องกับรอย

แต่ถ้ามองถึงลักษณะของตัวรถที่มากับความเป็นครอบครัว ฉะนั้นเราจึงลองขับในสไตล์พ่อบ้าน แม่บ้าน เน้นการใช้ชีวิตในเมือง และเดินทางต่างจังหวัดเป็นครั้งคราว

ยาวไป กลับรถถึงแยกวังมะนาว ด้วยความเร็วระดับ 100-120 กม./ชม. นั้น บอกได้เลยว่าตอบโจทย์ได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งจากการตอบสนองด้านพละกำลัง และการเคลื่อนตัวผ่านเพื่อนร่วมท้องถนน จนกระทั่งเดินทางเข้ามาใช้ชีวิตในเมืองที่กลายเป็นเรื่องไม่น่าเบื่อ

รวมถึงสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสะดวก และง่ายขึ้น ด้วยการติดตั้งระบบความปลอดภัยเพิ่มเติม เช่น กล้องมองหลัง พร้อมเส้นกะระยะ ควบคุมมากับอุปกรณ์มาตรฐาน อาทิ ถุงลมเสริมความปลอดภัยด้านหน้า (SRS Airbags) 3 ตำแหน่ง พร้อมเข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุดทุกที่นั่ง และกุญแจป้องกันการโจรกรรม Immobilizer

ตลอดจนตัวช่วยสำหรับการขับขี่ ตั้งแต่ ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน HAC (Hill-start Assist Control), ระบบป้องกันการออกตัวแบบผิดวิธี (Drive Start Control) ไปจนถึงระบบเบรกที่มาพร้อม ABS (Anti-lock Braking System), ระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake-force Distribution) และระบบเสริมแรงเบรก BA (Brake Assist)

และด้วยทั้งหมดของ Toyota Sienta คือ องค์ประกอบที่ในความคิดเรารู้สึกว่า “คุ้มค่า” โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับราคา ซึ่งเวอร์ชั่นท็อปสุดอย่าง 1.5V ถูกตั้งไว้ที่ 875,000 บาท หรือถ้าไม่ซีเรียสเรื่องออฟชั่นที่ถูกลดทอนลงไปบ้าง แต่เน้นเรื่องการใช้งานเป็นหลักรุ่นเริ่มต้นอย่าง 1.5G ก็ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจด้วยราคาเพียง 765,000 บาทเท่านั้น

Specification: Toyota Sienta

• Price: 875,000 BHT
• Engine: 1,496 CC / 4 Cylinder 16 Valve 108 hp @ 6,000 rpm / 140 Nm @ 4,200 rpm
• Transmission: CVT / Front Wheel Drive
• Performance: 0 – 100 Km/h @ N/A / Top Speed @ N/A
• Weight: 1,350 Kg.