รีวิว ทดสอบ Audi A4 Avant 45 TFSI quattro S-Line Black Edition ให้สัมผัสในการขับขี่ที่ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด เกาะหนึบ, เฉียบคม และกลมกล่อม
รีวิว ทดสอบ Audi A4 Avant 45 TFSI quattro S-Line Black Edition
Audi A4 Avant 45 TFSI quattro S-Line Black Edition
Audi คือแบรนด์ที่มีรถแบบเอสเตทที่งดงามที่สุด โดยเฉพาะกับเวอร์ชั่น “Black Edition”… เมื่อรวมกับประสิทธิภาพการเกาะถนน, แฮนด์ลิ่ง และพละกำลัง A4 Avant ทำให้เราตกหลุมรักมันเข้าอย่างจัง
ผมพยายามหลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงเรื่องของความสวยงาม ในทุกบทความที่เขียน เพราะมันขึ้นอยู่กับ “รสนิยม” ส่วนบุคคล แต่กับ A4 Avant ผมคงต้องกล่าวถึงสักเล็กน้อย เรื่องแรกก็คือรถแบบ Avant ของ Audi มีดีไซน์ที่กลมกลืนลงตัวมาแต่ไหนแต่ไร
พวกเขาเชี่ยวชาญในการดีไซน์รถประเภทนี้และรู้ดีว่าจะทำอย่างไรจึงไม่รู้สึกว่า “ก็แค่รถซีดาน ที่มีกระจกหลังและฝาท้ายเพิ่มขึ้นมา” ผลลัพธ์ที่ได้คือรถเอสเตทที่ดูราวกับถูกออกแบบขึ้นอย่างเฉพาะเจาะจง มีสัดส่วนที่ลื่นไหลต่อเนื่องจากหัวจรดท้าย
ผู้คนที่ผ่านไปผ่านมาระหว่างที่เราเซ็ตอุปกรณ์เพื่อเตรียมถ่ายภาพสวยๆ มาให้แฟนๆ ของ Torque Magazine ได้ชม น่าจะยืนยันความโดดเด่นของ A4 Avant ได้เป็นอย่างดี พวกเขาจอดรถเพื่อถามราคาของมัน, ความแรงของเครื่องยนต์ หรืออย่างน้อยที่สุดก็ชะลอเพื่อมองมันอย่างพินิจพิเคราะห์
อีกเรื่องที่ Audi โด่งดังและประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมาก็คือ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ quattro ที่เฉิดฉายอย่างยิ่งเมื่ออยู่บนถนนลื่นๆ แบบเดียวกับที่เราเผชิญฝนกระหน่ำอยู่ตอนนี้
(ก่อนที่จะเริ่มถ่ายภาพหลังฝนหยุดตก) คันทดสอบของเรามาพร้อมกับช่วงล่างแบบสปอร์ต – สปริง ไม่ใช่ถุงลม – ที่ทำให้รถเตี้ยลงถึง 23 มม. เมื่อร่วมกับ quattro
ผลที่ได้จึงออกมาน่าประทับใจอย่างยิ่ง ตัวถังเอียงตัวไม่มากนักแม้อยู่ในโค้งแคบๆ ก็ตาม คุณไม่รู้สึกถึงการทำงานอย่างทุ่มเทของระบบควบคุมแทร็คชั่น
แต่จะสัมผัสสิ่งที่พวกมันกำลังทำอยู่ได้ผ่านการยึดเกาะระดับสูง A4 Avant เข้าโค้งได้ราวกับวิ่งอยู่บนราง มีอาการอันเดอร์สเตียร์เล็กน้อย และคุณจัดการกับมันได้อย่างง่ายดายด้วยการหักเลี้ยวเพิ่มอีกนิดหน่อย
มันเร่งออกจากโค้งได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นกัน ต้องขอบคุณแรงบิดที่พร้อมส่งมอบทันทีที่คุณกดเท้าขวาลงไป สิ่งนี้ได้มาจากขุมพลังเบนซิน 2.0 ลิตร 4 สูบ เทอร์โบชาร์จ ร่วมด้วยระบบ Mild Hybrid ทำกำลังได้ 249 แรงม้า
และมีแรงบิดสูงสุด 370 นิวตันเมตร ให้ใช้เต็มเพดานตั้งแต่รอบต่ำเพียง 1,600 รอบ/นาที พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ คลัตช์คู่ ที่จัดสรรอัตราทดมาได้อย่างเข้าขากับบุคลิกของเครื่องยนต์
การตอบสนองคันเร่งเป็นไปอย่างทันอกทันใจ ให้สัมผัสใกล้เคียงกับพวกเครื่องยนต์ดีเซล 400 นิวตันเมตร เลยทีเดียว รถยังคงเร่งได้อย่างต่อเนื่องตลอด 6 เกียร์ของมัน และเริ่มแผ่วเมื่อขึ้นสู่เกียร์ 7 ที่เซ็ตอัตราทดไว้
เพื่อการลดอัตราสิ้นเปลืองโดยเฉพาะ A4 Avant ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ใน 6.0 วินาที และความเร็วสูงสุดล็อคไว้ที่ 250 กม./ชม. ไม่เลวทีเดียวสำหรับรถไซส์นี้
ที่ความเร็วเดินทางปกติ ขุมพลังเทอร์โบถ่ายทอดพละกำลังออกมาได้ตามคำสั่งของคุณ สามารถเร่งแซงหรือเพิ่มความเร็วไปสู่ 120 กม./ชม. ได้อย่างรวดเร็ว ช่วงล่างแบบสปอร์ต ร่วมด้วยระบบบังคับเลี้ยวที่เซ็ตน้ำหนักได้สอดคล้องทุกย่านความเร็ว
ทำให้คุณมั่นใจยิ่งขึ้นด้วยสัมผัสหนักแน่นและการทรงตัวที่ไม่วอกแวกแม้ขณะวิ่งผ่านถนนที่เป็นคลื่นลอนก็ตาม ความนุ่มนวลน่าพอใจ และห้องโดยสารก็ตัดเสียงรบกวนภายนอกได้ดี
คู่แข่งในคลาสเดียวกันก็คือ Volvo V60 ที่มีราคาถูกกว่าถึง 7 แสนบาท แต่มีอุปกรณ์ต่างๆ โดยเฉพาะระบบช่วยเหลือขณะขับขี่ ติดตั้งมาให้อย่างครบถ้วน และพละกำลังที่เหนือกว่าอย่างมาก (407 แรงม้า, 0-100 กม./ชม. ใน 4.8 วินาที) เทียบกับ 3.4 ล้านบาท ของ A4 Avant
แล้วมีเหตุผลใดที่ต้องจ่ายมากกว่า?
โดยรวมแล้ว Audi A4 Avant ให้สัมผัสในการขับขี่ที่ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด เกาะหนึบ, เฉียบคม และกลมกล่อม ทั้งยังมีช่วงล่างนุ่มนวลกว่า และโดยส่วนตัว
ผมรู้สึกชอบบรรยากาศภายในห้องโดยสารของ Audi มากกว่า บวกด้วยรูปโฉมที่สวยงามลงตัวและความโดดเด่นกว่า เนื่องจากคุณไม่ได้เห็นมันบนถนนบ่อยๆ อย่างแน่นอน
ถ้านั่นฟังดูเหมือนเหตุผลที่ไม่ได้เรื่อง ก็อาจเป็นเพราะผมแค่ตกหลุมรักความงามของรถคันนี้เข้าอย่างจัง… แต่บางครั้งเราก็ไม่สนใจเหตุผลหรอก แค่ทำตามที่ใจต้องการก็พอ
SPECIFICATIONS : Audi A4 Avant 45 TFSI quattro S-Line Black Edition
- Price : 3,399,000 Baht
- Engine : 1984cc 4-cyl petrol turbo, 249hp @ 5000-6000rpm, 370Nm @ 1600-4500rpm
- Transmission : 7-speed dual-clutch automatic, quattro all-wheel drive
- Performance : 6.0sec 0-100km/h, 250km/h top speed (limit), 180g/km Co2
- Weight : 1610kg
- NCAP rating : n/a