รีวิว New NISSAN TERRA 2.3 VL 4WD 7AT ขับสนุก และปราดเปรียวขึ้น

Torque Thailand December 12, 2021 Road Test, Torque Scoop, รีวิว ทดลองขับ

รีวิว ทดสอบ New NISSAN TERRA 2.3 VL รถอเนกประสงค์ PPV สำหรับครอบครัวทั้งระบบความบันเทิงที่จัดเต็ม พื้นที่ใช้สอยในห้องโดยสารและระบบความปลอดภัย

รีวิว ทดสอบ New NISSAN TERRA 2.3 VL 4WD 7AT ตัวท็อปสุด ออปชั่นจัดเต็ม

New NISSAN TERRA 2.3 VL

เมื่อพูดถึงยนตรกรรมในกลุ่มตลาด PPV หลายคนอาจคิดไปถึงแบรนด์ใหญ่เจ้าตลาด จนลืมไปว่า นิสสัน ประเทศไทย ก็มีตัวเลือกที่น่าสนใจ คือ Terra ที่แม้ว่า เจเนอเรชั่นแรก จะยังไม่ “ปัง” มากเท่าไหร่ แต่บอกเลยว่าเวอร์ชั่นปรับปรุงใหม่นี้ “น่าสนใจ” ไม่น้อย

ย้อนกลับไปในเจเนอเรชั่นแรกของ NISSAN TERRA … ในมุมมองของเราไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม บอกเลยว่าดูราวกับเป็น “ม้านอกสายตา” ซึ่งถ้าเราจำไม่ผิดนี่คือ “ก้าวแรก” ของการเข้ามาทำตลาดในส่วนของรถอเนกประสงค์ PPV เมืองไทย

จนกระทั่งเมื่อได้ลองสัมผัส จึงพบว่าก่อนจะเริ่มเดิมหมากตัวแรกในตลาดนี้ นิสสัน ประเทศไทย ทำการบ้านมา “ดี” ไม่น้อย ด้วยเพราะความประทับใจในภาพรวมทันทีที่ได้ลองสัมผัส ซึ่งจะขาดก็เพียงแค่การ “ปรับ” รายละเอียดบางอย่างเล็กน้อยให้ทันตามยุคตามสมัยเท่านั้น

กระทั่งในที่สุดเวอร์ชั่นปรับโฉมใหม่ New NISSAN TERRA ก็มาถึงในราวกลางปีที่ผ่านมา พร้อมการเคลมว่าเพียบพร้อมไปด้วยจุดเด่น สำหรับตอบโจทย์สไตล์ความบันเทิงได้แทบจะทุกคนในครอบครัว ภายใต้การดูแลของระบบความปลอดภัยที่อัพเกรดขึ้นไปอีกระดับ และนั่นล่ะครับ คือ สาระสำคัญที่ทำให้เรา และ New NISSAN TERRA ได้กลับมาเจอกันอีกครั้งในวันนี้

สำหรับรายละเอียดการปรับโฉมของ New NISSAN TERRA แน่นอนล่ะว่าประเด็นแรกเลยคงทำให้มองแล้ว “เลิก” นึกถึง NISSAN NAVARA โดยเฉพาะมุมมองในด้านหน้าที่ให้ความรู้สึกว่าไฮโซมากขึ้น ซึ่งคร่าวๆ ก็ประกอบด้วยชุดไฟหน้าที่จัดแบบ Quad LED มาให้ พร้อมชุดไฟ DRL ในรูปทรง C-Shape ที่ว่ากันว่าเพิ่มความสว่างมากขึ้นถึง 34 %

ขณะที่ด้านหลังเค้ามีการออกแบบใหม่ทั้งหมด ตั้งแต่สปอยเลอร์หลังคาไปจนถึงชุดกันชน ก่อนจะโปรยวัสดุโครเมียม และวัสดุสีเงินเข้ามา เพื่อเติมเต็มความรู้สึกพรีเมียม ซึ่งรวมไปถึงลวดลายของล้ออัลลอยมาตรฐานขนาด 18 นิ้วด้วยเช่นกัน

รีวิว ทดสอบ New NISSAN TERRA 2.3 VL 4WD 7AT ตัวท็อปสุด ออปชั่นจัดเต็ม — New NISSAN TERRA 2.3 VL 4WD 7AT

จุดเด่นจริงๆ ที่สัมผัสได้ชัดเจนก็คือ ภายในห้องโดยสารซึ่งนอกจากสไตล์งานออกแบบที่โดดเด่น ภายใต้การบริหารจัดการมิติของโดยสาร เพื่อสร้างความรู้สึกกว้างขวางกว่าเดิมแล้ว ออปชั่นต่างๆ ถือว่าให้มาแบบ “ครบๆ เหลือๆ” ตามที่เคลมไว้ ทั้งชุดพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนังรูปทรง D-Shape แบบสปอร์ต, เบาะนั่งดีไซน์ใหม่ที่ปรับเปลี่ยนให้ทั้งเบาะรองนั่ง และพนักพิงหลัง รับกับสรีระ พร้อมกับนำเสนอลวดลายการตัดเย็บอย่างสวยงาม

และที่ “สุด” มากๆ ก็คือ ระบบความบันเทิงที่ยก Bose Premium Audio System มาติดตั้งให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน พร้อมการเพิ่มความสุนทรีย์มากขึ้น ด้วยความหนาแน่นของฉนวนลดเสียง และกระจกแบบ Acoustic Glass มาให้ในส่วนของครึ่งคันหน้า ขณะที่ความบันเทิงก็สามารถสั่งการได้ทั้งจาก

ระบบ Voice Recognition หรือบนหน้าจอสัมผัส Display Audio ใหม่ ขนาด 9 นิ้ว ความละเอียดสูง ที่มากับเทคโนโลยี Nissan Connect รองรับการเชื่อมต่อ Apple Car Play แบบไร้สายเป็นครั้งแรก ตลอดจนระบบ Android Auto, ระบบนำทาง (Navigation System) และระบบ Wireless Charger แบบไร้สาย

นอกจากนี้ผู้โดยสารในแถว 2 และแถว 3 ก็ยังสามารถเต็มอิ่มกับความบันเทิงได้เช่นกัน จากหน้าจอมอนิเตอร์ขนาด 11 นิ้วบนหลัวคา ที่เชื่อมต่อออนไลน์ได้ง่ายดาย โดยช่อง HDMI ไปจนถึงการเชื่อมต่อ Smart TV Stick แถมด้วยช่องชาร์จไฟ ซึ่งรองรับได้ทั้งประเภท A และ C มีให้ทั้งหมดถึง 5 จุดแบบไม่ต้องแย่งกันเลยทีเดียว

ท้ายที่สุด สำหรับครอบครัวใหญ่ คือ ความอเนกประสงค์ ซึ่งปรับรูปแบบพื้นที่ห้องโดยสารได้หลากหลาย เช่น การปรับแถวที่นั่งแบบ Theatre Style Seating ด้วยฟังก์ชัน Auto Tumble Seat เพื่อพับเบาะแถวที่ 2 อัตโนมัติ แค่เพียงกดปุ่มแบบ 1-Touch Remote Fold & Tumble ที่คอนโซลกลาง ไปจนถึงความสะดวกสบายจากฝาประตูท้ายที่เปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า หรือจะเลือกสั่งงานผ่านเซ็นเซอร์ด้านใต้กันชนหลัง (Auto Lift Gate) ก็ทำได้ง่ายๆ อีกด้วย

ขุมพลังของ New NISSAN TERRA จะบอกว่าไม่ใช่ “ของใหม่” ก็คงได้ เพราะยังคงใช้รหัส YS23DDTT ของเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.3 ลิตร ทวินเทอร์โบ ที่มีกำลังสูงสุด 190 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด ซึ่งรุ่นที่อยู่กับเราคือเวอร์ชั่นท็อปสุดขับเคลื่อน 4 ล้อ

… และใช่ครับ มันดูเหมือนไม่มีอะไรใหม่ แต่ลึกๆ แล้ว มีการปรับแต่งบางอย่างให้เซอร์ไพรส์มากขึ้น เช่น เครื่องยนต์ และพวงมาลัยมีการตอบสนองที่เร็วขึ้น รวมถึงระบบช่วงล่างด้านหลังแบบ 5-Link ที่ให้เสถียรภาพมากขึ้น ต่อเนื่องด้วยระบบเบรกที่อัพเกรดจานหน้าให้ใหญ่ขึ้นเป็น 350 มม. และด้านหลัง 330 มม.

เพราะงั้นอารมณ์ของการขับขี่หลายๆ คนน่าจะพอคาดเดาได้ ว่าจากจุดหยุดนิ่งของ New NISSAN TERRA จากที่เคย “ตื้อๆ” ครั้งนี้มีความกระฉับกระเฉงอย่างเห็นได้ชัด รวมไปถึงการเริงระบำบนถนนที่ฉับไวจากอัตราทดพวงมาลัยใหม่ จนได้มาซึ่งความปราดเปรียว และเฉียบคมขึ้น

แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็ตั้งอยู่บนบรรทัดฐานของรถอเนกประสงค์ PPV ที่มีขนาดตัวค่อนข้างใหญ่ … กล่าวง่ายๆ ก็คือ “ยาก” ที่จะให้ “คม” เหมือนรถสปอร์ต แต่ก็ “ปราดเปรียว” มากพอ ที่จะไม่ทำให้หงุดหงิดเมื่อใช้งานในเมือง

แต่ความดีงาม ต้องยกให้กับการขับขี่นอกเมือง แบบที่ได้กดคันเร่งยาวๆ เพลินๆ คือ New NISSAN TERRA ยังคงทำได้ดีมาก จนต้องยกนิ้วให้ ทั้งพละกำลังที่มีให้ใช้อย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงเรื่องของช่วงล่างที่ในความเร็วต่ำตอบโจทย์ด้วยความแน่นนุ่ม แต่บนความเร็วสูงเปลี่ยนผันเป็นแน่นหนึบ ซึ่งรวมไปถึงเรื่องของระบบเบรกที่คมขึ้น ทำงานไวขึ้น เพื่อสร้างความมั่นใจ จนได้ภาพรวมคือความนั่งสบาย ภายใต้ความสบายใจ ที่ไม่ว่าจะผู้ขับขี่ หรือผู้โดยสารก็สามารถสัมผัสได้

แม้กระทั่งอยากได้ความมั่นใจที่มากกว่า เมื่อเจอกับสภาพอากาศเมืองไทยที่เปลี่ยนไปแบบไร้การคาดเดา โหมดขับเคลื่อนแบบ Part Time ที่สับจาก 2 ล้อไปเป็น 4 ล้อ ก็ถือเป็นตัวช่วยชั้นดีที่ไม่ควรพลาด เพราะคุณสามารถสัมผัสได้ถึงบุคลิกที่เปลี่ยนไปเป็นเคร่งขรึม ตึงมือขึ้นทันทีเมื่อ Shift-on-the-Fly จาก 2H ไปเป็น 4H

จนเราสารภาพเลยว่าส่วนใหญ่ของการลองขับ เราเลือกที่จะใช้โหมด 2H ยามเคลื่อนกลายในเมืองเป็นหลัก ด้วยเพราะหัวใจสำคัญ คือ ความคล่องตัว และความประหยัด ขณะที่บนเส้นทางโล่งๆ ไกลๆ เรามักใช้โหมดการขับเคลื่อนแบบ 4H มากกว่า ด้วยความที่สัมผัสหลายอย่างนั้นเข้าถึงอารมณ์ความสปอร์ต

ที่มาพร้อมการเติมเต็มความมั่นใจ จากอีกหนึ่งสิ่งที่เราต้องยกนิ้วยอมรับ คือ มาตรฐานระบบความปลอดภัยที่บอกเลยว่า “เตือน” ทุกอย่าง ที่ทำได้ เพราะเค้ามีเทคโนโลยีล้ำๆ จัดมาให้เต็มเหนี่ยว ซึ่งจะมีอะไรบ้างเราแนะนำให้ลองไปดูที่โชว์รูมใกล้บ้านดีกว่า

ส่วนใครที่มีคำถามเรื่องการขับขี่ของ New NISSAN TERRA เราขอตอบแบบสรุปเลยว่า “สนุก และปราดเปรียวขึ้น” ในความเร็วต่ำ ถึงปานกลาง หรือง่ายๆ ก็ใช้งานในเมืองได้สบายขึ้นนั่นแหละ ส่วนนอกเมืองก็ยังคงเป็นอารมณ์ของยนตรกรรมสไตล์ Cruiser ที่ผู้ขับขี่ก็สบายๆ ได้แบบไม่เครียด ส่วนคนอื่นก็เพลิดเพลินไปได้ทั้งการโดยสาร และระบบความบันเทิงที่จัดเต็ม ภายใต้ความมั่นใจทั้งเสถียรภาพการขับขี่ แล้วก็ระบบความปลอดภัยแบบแน่นๆ ที่ใส่มาให้

ท้ายที่สุดแล้วก่อนจะจากกันไป เราเชื่อว่า “ความพึงพอใจ” ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ฉะนั้นทั้งหมดที่ผ่านมา มันคือ “ความรู้สึก และความคิดเห็นส่วนตัวของเรา” ส่วนใครจะเห็นต่างอย่างไรอันนี้ไม่ว่ากัน … แต่เอาจริงๆ แล้ว เราแนะนำให้ลองแวะไปที่โชว์รูมใกล้บ้านเถอะครับ เพื่อสัมผัสกับความ “ชัวร์”

ทั้งในเรื่องของ “ออปชั่น” ต่างๆ แล้วก็รวมไปถึงโอกาสที่จะได้ “ลองขับ” อย่างเต็มเม็ด เต็มหน่วย … เพราะนั่นแหละครับ คือ สิ่งที่น่าจะตอบโจทย์ได้ชัดกว่าว่า New NISSAN TERRA เติมเต็มในสิ่งที่คุณต้องการได้ครบถ้วนหรือไม่ ? … (แต่เราว่าครบนะ ถ้าไม่นับแบรนด์เป็นที่ตั้ง)

Specification : New NISSAN TERRA 2.3 VL 4WD 7AT

Price : 1,499,000 BHT
Engine : Diesel Turbo Intercooler / 2,298 CC / 4 Cylinder / 16 Valve 190 hp @ 3,750 rpm / 450 Nm @ 1,500 – 2,500 rpm
Transmission : 7A/T / Part-Time Four Wheel Drive
Performance : 0 – 100 Km/h @ N/A / Top Speed @ N/A
Weight : 2,150 Kg.