รีวิว ทดสอบ PORSCHE TAYCAN TURBO ให้พละกำลังถึง 625 แรงม้า แบตเตอรี่ขนาด 93 กิโลวัตต์ สามารถวิ่งได้ราว 380-450 กม. ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง
รีวิว ทดสอบ PORSCHE TAYCAN TURBO เร็ว, ทรงพลัง และเร้าใจ!
PORSCHE TAYCAN TURBO
สรรพสิ่งรอบตัวสงบนิ่งและเงียบงัน จะมีก็แต่เสียงลมที่เป่าออกมาจากช่องแอร์บนแดชบอร์ดกับเสียงสูดลมหายใจลึกของคุณเท่านั้น หมุนปุ่มควบคุมใต้ก้านพวงมาลัยฝั่งขวาจนโหมดการขับขี่บนจอแสดงผลทรงโค้งเบื้องหน้าไฮไลท์ที่ “SPORT” ใช้เท้าซ้ายเหยียบเบรกค้างเอาไว้ให้สุด, เข้าเกียร์ D จากนั้นกดคันเร่งให้มิดพื้น กระทั่งหน้าจอขึ้นข้อความ “Launch Control Activated” คุณสูดหายใจลึกสุดแรงอีกครั้ง, ปล่อยเบรก
แล้วรถซีดานน้ำหนักกว่า 2.3 ตัน ก็ดีดตัวออกจากจุดหยุดนิ่งพร้อมด้วยเสียงสังเคราะห์กรีดแหลมเพื่อเป็นตัวแทนของมอเตอร์ไฟฟ้า, แรงฉุดมหาศาล, หนักหน่วง และรวดเร็วต่อเนื่องจนวิญญาณของคุณแทบจะเร่งตามร่างกายไม่ทัน วิวเบื้องหน้าพุ่งเข้าหาคุณราวกับกำลังวาร์ปข้ามมิติ ตัวเลขบอกความเร็วบนหน้าจอเปลี่ยนรัว กระทั่งอีก 3.2 วินาทีต่อมา
มันแสดงที่ “100” และทิ้งจุดเริ่มต้นไว้ไกลลิบจนไม่อาจมองเห็นได้จากกระจกหลังอีกต่อไป หรือถ้าร่างกายของคุณยังทนรับ G-force ระดับสูงได้ไหว กดคันเร่งให้จมดิ่งไว้, นับไปอีก 7.4 วินาที (หรือ 10.6 วินาที จากจุดหยุดนิ่ง) แล้วคุณจะพบว่าตัวเองกำลังเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว 200 กม./ชม.!
เราขับทดสอบรุ่นเริ่มต้นอย่าง “Taycan 4S” ไปไม่กี่สัปดาห์ก่อนที่ Taycan Turbo จะถูกส่งมาถึงออฟฟิศของ Torque Magazine นี่คืออีกหนึ่งผลผลิตยนตรกรรมพลังไฟฟ้าของ Porsche โดยรุ่น Turbo จะมีพละกำลัง 625 แรงม้า, 850 นิวตันเมตร มากกว่า 4S อยู่ 190 แรงม้า, 210 นิวตันเมตร ในขณะที่รุ่นท้อปสุด Turbo S มี 625 แรงม้าเท่ากัน แต่ให้แรงบิด 1,050 นิวตันเมตร และที่โอเวอร์บูสต์ (เมื่อใช้ Launch Control) จะเบ่งพลังขึ้นไปถึง 761 แรงม้า เทียบกับ 680 แรงม้า ใน Turbo
ถึงจะไม่ใช้ Launch Control ในการออกตัว ทว่า Taycan Turbo ก็ยังเร็วจนน่าทึ่งอยู่ดี ด้วยคุณสมบัติพื้นฐานอย่าง Instant Torque และจุดศูนย์ถ่วงต่ำ ส่งให้มันเป็นรถที่ขับสนุกอย่างยิ่ง ยังคงสัมผัสแฮนด์ลิ่งอันเป็นเอกลักษณ์ของรถสปอร์ตชั้นเลิศจาก Stuttgart ได้ครบถ้วน พวงมาลัยที่หนักมือแต่เฉียบขาด, ระดับการยึดเกาะถนนขั้นสูง
และวิธีที่มันตอบสนองต่อคันเร่ง จะขาดก็แต่เสียงกระหึ่มทุ้มแน่นของขุมพลัง Boxer และอาการโอเวอร์สเตียร์หนักๆ เท่านั้น สิ่งที่เข้ามาทดแทนก็คือเสียงหวีดของมอเตอร์ไฟฟ้า และการสไลด์ทั้งสี่ล้อเมื่อเข้าโค้งแรงๆ … ไม่ต้องกังวล… สำหรับรถขับเคลื่อนสี่ล้อแล้ว นั่นดีและไปได้เร็วกว่าการดริฟต์ด้วยล้อคู่หลังแน่นอน…
ต้องยกความดีความชอบส่วนหนึ่งให้กับกันโคลงแบบแอคทีฟที่คอยช่วยปรับสมดุลรถไม่ให้เอียงตัวมากเกินไป มันทำงานได้อย่างเป็นธรรมชาติจนคุณแทบไม่รู้สึกว่าระบบกำลังยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ เช่นเดียวกับขณะที่คุณเหยียบเบรกเพื่อชะลอความเร็ว ซึ่งไม่ได้เกิดจากการทำงานของคาลิเปอร์
แต่เป็นแรงฉุดจากมอเตอร์ไฟฟ้าที่ทำให้รถช้าลง จนกว่าคุณจะเหยียบมันแรงขึ้น ระบบเบรกจริงๆ จึงเริ่มทำงาน มันให้ความรู้สึกไม่ต่างจากการเบรกปกติมากนัก และไม่แตกต่างเลยหากกำลังเล่นบทโหดในแทร็ค ที่ต้องใช้แรงเบรกอย่างหนักหน่วงทุกครั้ง
แดมเปอร์ควบคุมด้วยไฟฟ้า ทำงานร่วมกับแอร์สปริงแบบ 3 ชั้น สามารถปรับความสูงของรถได้ 3 ระดับ โดยคุณเลือกได้ว่าจะปล่อยให้มันทำงานอัตโนมัติหรือปรับเองด้วยการกดเลือกจากขอบหน้าจอมาตรวัด การใช้อลูมิเนียมในองค์ประกอบหลักของช่วงล่าง ช่วยให้ Taycan เกาะถนนได้อย่างยอดเยี่ยม และถ้าคุณกำลังคิดว่ามันจะกระเด้งกระดอนตามประสารถสปอร์ตล่ะก็… ผิดถนัด! แม้จะเป็นรุ่น Turbo ที่แรงกว่า
แต่ก็ให้ความนุ่มนวลในแบบเดียวกับยนตรกรรมระดับเอ็กซ์ครูซีฟทั่วไป เช่นเดียวกับใน 4S มันเดินทางด้วยความเร็ว 120 กม./ชม. บนมอเตอร์เวย์ได้ราวกับพรมวิเศษ “เงียบ” ตามคุณสมบัติของรถไฟฟ้า และ “เงียบ” ตามคุณสมบัติของ Porsche ยุคใหม่ ที่ใส่ใจกับเรื่องการลดเสียงรบกวนขณะขับขี่มากขึ้นกว่าที่ผ่านมา
ห้องโดยสารกว้างขวางเช่นเดียวกับเบาะที่โอบกระชับทว่ายังคงนั่งสบายในการเดินทางไกล เบาะหลังก็มีพื้นที่ช่วงไหล่และวางขาเหลือเฟือ แต่ถ้าคุณสูงกว่า 175 ซม. อาจมีปัญหากับเฮดรูม จากรูปทรงของหลังคาที่ลาดต่ำ… ออเดอร์หลังคากระจกแบบคันทดสอบของเรา จะช่วยบรรเทาความรู้สึกอึดอัดลงไปได้
Taycan Turbo ใช้แบตเตอรี่ขนาด 93 กิโลวัตต์ สามารถวิ่งได้ราว 380-450 กม. ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง รองรับเครื่องชาร์จแบบ 800 โวลท์ และมีความสามารถในการชาร์จสูงสุดถึง 270 kW นั่นหมายถึง การชาร์จจาก 5-80% ในเวลา 22 นาที หรือชาร์จ 5 นาที เพื่อให้วิ่งใช้งานได้ 100 กม. โดย Porsche รับประกันแบตเตอรี่ให้นานถึง 8 ปี นอกจากนั้น คุณยังได้รับข้อได้เปรียบในเรื่องของการบำรุงรักษาที่น้อยนิดตามคุณสมบัติปกติของรถไฟฟ้าที่มีชิ้นส่วนไม่มากนักอีกด้วย
ราคาเริ่มต้นที่ 9.9 ล้านบาท สำหรับ Taycan Turbo เทียบกับ 4S ที่ 7.1 ล้าน หรือถูกกว่า 2.8 ล้านบาท ทำให้ Turbo เป็นรถที่แพงพอสมควร หากคุณต้องการรถไฟฟ้าสำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน 4S ตอบโจทย์ได้ดีกว่า ด้วยอุปกรณ์หลักๆ ที่ไม่แตกต่างกันนัก และสมรรถนะที่แม้จะเป็นรอง แต่ก็ไม่มาก
ทั้งยังควบคุมได้ง่ายดายกว่าเมื่อเทียบกับรุ่น Turbo โดยอาจเพิ่มเงินกับออปชั่นแบตเตอรี่ 93 กิโลวัตต์ (จากมาตรฐาน 79 กิโลวัตต์) เพื่อการใช้งานได้ไกลขึ้น และได้ความสามารถในการชาร์จ 270 กิโลวัตต์มาด้วย
แต่ถ้าคุณมุ่งเน้นไปที่สมรรถนะ และมีสุขภาพสมุดบัญชีที่แข็งแรง Turbo (หรือ Turbo S ที่ 11.7 ล้าน) คือตัวเลือกที่ดีสำหรับประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือชั้น
PORSCHE TAYCAN TURBO
- Price: From 9,900,000 Baht
- Engine: Two permanent magnet synchronous motors, 625hp (680hp Overboost), 850Nm
- Transmission: Single speed front and two speed rear, all-wheel drive
- Performance: 3.2sec 0-100km/h, 10.6sec 0-200km/h, 260km/h, 381-450km range
- NCAP rating: 5-star