รีวิว ทดสอบ BMW 430i Coupe’ M Sport … การโฟกัสไปยังความสนุกขณะขับขี่ ส่งให้รถรุ่นใหม่ถอดด้ามจาก BMW คันนี้ยอดเยี่ยมกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด
แม้จะเปลี่ยนรูปทรงของกระจังหน้าไปมาก แต่ส่วนหน้ายังคงบรรยากาศแบบ BMW เอาไว้ได้อย่างครบถ้วน… บวกด้วยสัมผัสแบบ Alfa Romeo อีกเล็กน้อย… ความกว้างของฐานล้อหน้าเพิ่มขึ้นจากรุ่นที่แล้ว 28 มม. และ 18 มม. สำหรับล้อคู่หลัง นอกจากนั้นมันยังมีฐานล้อยาวขึ้นกว่าเดิม 41 มม. อีกด้วย
รีวิว ทดสอบ BMW 430i Coupe’ M Sport แก่นแท้ของความเป็นสปอร์ตคูเป้
BMW 430i Coupe’ M Sport
มุมมองจากด้านท้ายงดงามเกินบรรยาย คุณจะเห็นเส้นสายที่พลิ้วไหวนุ่มนวลได้ตลอดแนวด้านข้างของรถ ให้สัมผัสแบบคูเป้ขนานแท้ที่หมอบต่ำและโน้มตัวไปข้างหน้า ตัวถังโดยรวมมีขนาดใหญ่ขึ้นทุกมิติเมื่อเทียบกับโมเดลที่แล้ว และแม้จะใช้แพลทฟอร์มร่วมกับ 3-series แต่รุ่นคูเป้มีฐานล้อหลังกว้างกว่า 23 มม. ทั้งยังเตี้ยกว่า 57 มม. และมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำลงถึง 23 มม.
เรื่องราวความรักระหว่างผมกับ 4-series เริ่มต้นขึ้นเมื่อช่วงกลางปี 2019 วิธีที่มันรับมือกับการกระหน่ำเส้นทางคดเคี้ยวที่ความเร็วสูง, แรงยึดเกาะของยาง Cup2 และระบบบังคับเลี้ยวเฉียบคม ของรุ่น “M4 CS”
เป็นเดทแรกที่สมบูรณ์แบบ และไม่อาจลืมเลือน ผมเฝ้ารอรถสักคันที่จะให้ความกลมกล่อมได้ดีกว่าคูเป้รุ่นพิเศษจาก BMW คันนั้น แต่ผ่านไปเกือบสองปี ยังไม่มีรถคันใดที่เข้าใกล้ความยอดเยี่ยมที่ M4 CS ทำไว้
เวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์หลังจาก BMW ประเทศไทย ส่ง 430i M Sport ที่คุณเห็นอยู่ตรงนี้ มาให้เราได้ขับทดสอบ พวกเขาก็เปิดตัว M4 รุ่นใหม่ตามออกมา… ประเด็นก็คือ
ผมคาดหวังกับมันค่อนข้างมากและยิ่งมากขึ้นไปอีกเมื่อได้อยู่หลังพวงมาลัยของ 4-series “รุ่นมาตรฐาน” คันนี้ เนื่องจากมันทำได้ดีกว่าเดิมชนิดที่คุณสามารถสัมผัสถึงความแตกต่างได้ชัดเจนตั้งแต่โค้งแรกที่อัดมันใส่เข้าไป
และอย่าลืมว่า นี่เป็นแค่รุ่นมาตรฐานเท่านั้น!
น่าเสียดายเล็กน้อยที่ BMW ประเทศไทย เลือกไฟหน้าแบบ LED มาตรฐาน แทนที่จะเป็น Laserlight ซึ่งมีลูกเล่นแพรวพราวกว่า อย่างไรก็ตาม ชุดไฟมาตรฐานก็ให้ความสว่างได้เพียงพอสำหรับการขับขี่ และมาพร้อมกับ DRL ทรงตัว U ที่เป็น Fibre-optic รวมถึงไฟเลี้ยวที่ใช้แผ่นกระจก 3 แถบ เป็นตัวสะท้อนแสงไฟ ดูน่าประทับใจมากทีเดียว
กันชนหน้า M Sport มีพื้นที่สีดำมากกว่ากันชนมาตรฐาน แต่พวกมันก็ไม่ได้มีหน้าที่อะไรนอกจากเพื่อความสวยงาม เว้นแต่ช่องแนวตั้งด้านข้างที่เป็นช่องเปิดสำหรับเรียงอากาศให้ผ่านไปข้างตัวรถ สปอตไลต์เป็น LED เช่นกัน
ชุดไฟท้ายแบบ LED เต็มระบบ พร้อมแถบเรืองแสงตัว L รูปทรงโดยรวมของไฟจะสอดคล้องใกล้เคียงกับชุดไฟหน้า และช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้กับมุมมองด้านท้ายได้เป็นอย่างดี
กุญแจสำคัญอยู่ที่การเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับโครงสร้างตัวถังเพื่อลดการบิดตัว ซึ่งหมายถึงเปิดโอกาสให้ช่วงล่างสามารถแสดงศักยภาพของมันออกมาได้เต็มที่ยิ่งขึ้น เนื่องจากปัจจัยเรื่องการขยับตัวของโครงสร้างตัวถังลดลงนั่นเอง ผลลัพธ์ก็คือระดับการยึดเกาะขั้นสูง
คุณจะสัมผัสถึงสิ่งนี้ได้ทันทีที่เริ่มหักเลี้ยว 430i เบนหัวเข้าสู่โค้งอย่างห้าวหาญ มันเอียงตัวเล็กน้อยร่วมด้วยอาการอันเดอร์สเตียร์บางๆ ต้องขอบคุณการปรับองศาแคมเบอร์ให้เป็นลบมากขึ้นและระบบบังคับเลี้ยวที่เซ็ตมาไวเป็นพิเศษ
ทำให้สามารถควบคุมพวงมาลัยได้ด้วยการขยับไปมาเพียงเล็กน้อย คุณผ่านเอเปกซ์มาจนถึงทางออก, เติมคันเร่ง และจบซีนนี้ด้วยการกดจนมิดพรมอีกครั้ง นั่นคือทั้งหมดที่จะได้รับจากรถรุ่นใหม่คันนี้… “ยอดเยี่ยม” คงเป็นคำนิยามสมรรถนะของ 430i ได้ตรงประเด็นที่สุด
ล้อขนาด 19 นิ้ว และยางขนาด 225/40 คู่หน้า กับ 255/35 ที่ล้อหลัง 430i เกาะถนนได้ดีเยี่ยมด้วยช่วงล่าง M Sport ซึ่งทั้งแดมเปอร์, สปริง ตลอดจนเหล็กกันโคลง มีค่าความแข็งมากกว่าช่วงล่างรุ่นมาตรฐาน นอกจากนั้น ยังติดตั้งคานค้ำสตรัท, เพิ่มความแข็งแรงของจุดยึด รวมถึงปรับมุมแคมเบอร์ล้อหน้าให้เป็นลบมากขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะอีกด้วย
ระบบเบรกจาก M Sport เช่นกัน ไม่เพียงแค่การเปลี่ยนมาใช้คาลิเปอร์คู่หน้าแบบ Fixed 4 ลูกสูบ (และแบบ Floating 1 ลูกสูบ ที่ล้อหลัง) เท่านั้น แต่ยังปรับการตอบสนองให้ไดเรกท์ยิ่งขึ้น และมีระยะเดินทางของแป้นเบรกน้อยลงกว่าชุดเบรกมาตรฐานอีกด้วย
4-series ใหม่ มุ่งเน้นไปยังประสิทธิภาพการขับขี่เป็นพิเศษ ด้วยการเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับโครงสร้าง เห็นได้ชัดจากการค้ำยันเบ้าสตรัทเชื่อมต่อไปยังส่วนหน้ารถด้วยท่ออลูมิเนียม บวกด้วยการค้ำยันบริเวณองค์ประกอบต่างๆ ของช่วงล่างหลัง นอกจากนั้น ยังลดน้ำหนักฝากระโปรงหน้า, แก้มหน้า และประตู ด้วยการใช้โครงสร้างอลูมิเนียม ในขณะที่แผ่นปิดใต้ฝาท้ายทำจากเส้นใยไฟเบอร์ธรรมชาติเพื่อตัดน้ำหนักออกอีกทางหนึ่ง คูเป้รุ่นใหม่มีอัตราส่วนน้ำหนักหน้าหลังเท่ากันที่ 50:50
เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ ความจุ 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 258 แรงม้า หรือเพิ่มขึ้น 6 แรงม้าเมื่อเทียบกับโฉมที่แล้ว และสร้างแรงบิดได้ 400 นิวตันเมตร ตั้งแต่ 1,550 ไปจนถึง 4,400 รอบ/นาที ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ใน 5.8 วินาที และความเร็วสูงสุดจำกัดที่ 250 กม./ชม. มันให้การตอบสนองที่ยอดเยี่ยมเมื่อใช้รอบสูงๆ ซึ่งต้องยกความดีความชอบส่วนหนึ่งให้กับอัตราทดเกียร์ที่เซ็ตมาอย่างเข้าขากับเครื่องยนต์ ส่งให้ 430i เป็นรถที่ขับสนุก, กระตือรือร้น และมีชีวิตชีวาอย่างยิ่ง
แต่ทุกเหรียญมีสองด้านเสมอ เช่นเดียวกับใน 430i พวงมาลัยที่ตรงไปตรงมาแบบนี้ ให้ผลที่เลวร้ายได้ง่ายๆ เพียงคุณหมุนมันมากไปแค่เล็กน้อย ออกแรงขยับเพิ่มและระบบควบคุมการยึดเกาะจะเข้ามาแทรกแซง
เนื่องจากยางเริ่มลื่นไถล แถมมันยังน่ากลัวอย่างยิ่งหากเปลี่ยนทิศทางขณะใช้ความเร็วสูง แม้เปลี่ยนมาใช้โหมด Sport ที่ให้น้ำหนักมากขึ้นแล้วก็ตาม
และแน่นอนว่า การเสริมความแข็งแกร่งให้กับโครงสร้างตัวถัง หมายถึงความกระด้างที่เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว ลืม 4-series ที่นุ่มนวลในเวอร์ชั่นที่แล้วไปได้เลย ทายาทลำดับล่าสุดของมันกระเด้งกระดอนกว่าเดิมจนสัมผัสได้ โดยเฉพาะเมื่อมาพร้อมกับช่วงล่างแบบสปอร์ตจากแผนก M เช่นนี้
แต่คุณก็ยังสามารถใช้มันเป็นพาหนะสำหรับเดินทางไกลได้ เพียงแต่ไม่สบายเท่ากับโฉมที่แล้วเท่านั้นเอง คันทดสอบของเราเป็นรุ่นนำเข้าซึ่งมีอุปกรณ์ต่างๆ มาให้พอสมควร ไม่เพียบพร้อมเต็มพิกัดแต่ก็เหลือเฟือสำหรับการใช้งานทั่วไป เนื้อที่โดยรวมภายในห้องโดยสารมีให้สมน้ำสมเนื้อกับความเป็นรถคูเป้
ในขณะที่ตัวถังภายนอกเปลี่ยนไปจากรุ่นที่แล้วโดยสิ้นเชิง ห้องโดยสารกลับมีดีไซน์ที่จำเจจนน่าเบื่อ อย่างไรก็ตาม คุณภาพวัสดุและการประกอบยังคงยอดเยี่ยมตามมาตรฐานระดับสูงของ BMW ที่ด้านข้างของคอนโซลกลาง (ส่วนที่ต่อเนื่องมาจากแดชบอร์ด) บุด้วยนวมเพื่อรองรับช่วงเข่า มีมาให้พิเศษเฉพาะในแพคเกจ M Sport มีการลดเสียงรบกวนจากภายนอกโดยใช้กระจกหน้าแบบ Acoustic และปรับซีลรอบประตูให้แน่นหนาขึ้นเพื่อลดเสียงลมลอดผ่านประตู
แม้จะใช้พื้นฐานจาก 3-series ตัวถังสี่ประตู แต่ระบบบังคับเลี้ยวของรุ่นคูเป้นั้นแตกต่างออกไป มันฉับไวกว่า และตรงไปตรงมายิ่งขึ้น นั่นดีมากๆ สำหรับทางคดเคี้ยวหรือในสนามแข่ง แต่ไวเกินไปในทางตรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ความเร็วสูง พวงมาลัยหุ้มด้วยหนัง มีขนาดพอเหมาะและอวบอ้วนจับได้ถนัดมือมากๆ
เมื่อติดตั้งแพคเกจ M Sport มาให้ จึงได้ชุดเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ “Steptronic Sport” ซึ่งพิเศษยิ่งขึ้นด้วยการปรับให้เปลี่ยนเกียร์ขึ้นลงได้รวดเร็วกว่าเกียร์มาตรฐาน (8 จังหวะเช่นกัน) พร้อมแพดเดิลหลังพวงมาลัย มันทำงานได้อย่างน่าประทับใจ ฉับไวทว่านุ่มนวลด้วยการลดอัตราการลื่นของชุดล็อคอัพคลัตช์ในทอร์คคอนเวอร์เตอร์ให้น้อยลง นอกจากนั้น เกียร์ที่เพิ่มขึ้นยังหมายถึงอัตราสิ้นเปลืองที่ดีขึ้นตามไปด้วย
ระบบแอคทีฟครูสคอนโทรลพร้อมฟังก์ชั่น Stop & Go นั่นหมายถึงมันสามารถขับเคลื่อน, ลดความเร็ว, หยุดนิ่ง และขับเคลื่อนอีกครั้ง ได้อัตโนมัติ ระบบสามารถทำงานได้เป็นอย่างดี แต่ยังไม่เป็นธรรมชาติเท่ากับรถรุ่นใหญ่อย่าง 7-series
ซึ่งคงทราบกันดีว่าเบาะหลังมีเฮดรูมเหลือให้ไม่มากนัก อย่างไรก็ตาม ห้องเก็บสัมภาระท้ายรถนั้นกว้างใหญ่เพียงพอสำหรับกระเป๋าเดินทางขนาดกลางๆ 3 ใบ บวกด้วยถุงกอล์ฟอีก 1 ใบ… นั่นคงทำให้คุณสบายใจขึ้นได้บ้างใช่ไหมครับ?
ถึงความสะดวกสบายจะถูกลดทอนไป แต่ก็ไม่อาจทำให้ผมรักมันน้อยลงกว่าเดิมได้ เหตุเพราะสิ่งที่ได้มาแทนนั้นคุ้มค่ามากพอที่จะยอมแลกด้วย BMW นำความสปอร์ตกลับมาสู่รถแบบคูเป้อีกครั้ง นั่นเป็นรากเหง้าของรถประเภทนี้ซึ่งนับวันยิ่งจางหายไปเรื่อยๆ
จอสำหรับผู้ขับมีขนาด 12.3 นิ้ว ใช้พื้นหลังสีดำเพื่อให้สามารถอ่านค่าต่างๆ ได้ชัดเจนขึ้น สามารถเรียกดูข้อมูลได้หลากหลาย แต่ปรับเปลี่ยนรูปแบบการแสดงผลได้ไม่มากนัก วัดรอบแบบแสดงค่าจากล่างขึ้นบน ค่อนข้างขัดความรู้สึก แต่ใช้ไปสักพักก็จะชินไปเอง
รุ่นจำหน่ายในไทย ติดตั้ง “BMW Live Cockpit Professional” มาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน (ออปชั่นในตลาดต่างประเทศ) ใช้ระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่น 7.0 ที่ชาญฉลาดและทำงานได้ฉับไว หน้าจอขนาด 10.25 นิ้ว สามารถแสดงข้อมูลพร้อมกันได้หลายรายการในหน้าจอเดียว และนอกจาก Apple CarPlay แล้ว ตอนนี้ยังรองรับ Android Auto ได้อีกด้วย หากสามารถใช้งานในไทยได้ ก็จะสามารถเข้าถึงบริการดิจิตอลต่างๆ ได้จากรถ เช่นเดียวกับที่ทำได้ในสมาร์ทโฟน
เมื่อติดตั้งแพคเกจ M Sport มาให้ จึงได้ชุดเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ “Steptronic Sport” ซึ่งพิเศษยิ่งขึ้นด้วยการปรับให้เปลี่ยนเกียร์ขึ้นลงได้รวดเร็วกว่าเกียร์มาตรฐาน (8 จังหวะเช่นกัน) พร้อมแพดเดิลหลังพวงมาลัย มันทำงานได้อย่างน่าประทับใจ ฉับไวทว่านุ่มนวลด้วยการลดอัตราการลื่นของชุดล็อคอัพคลัตช์ในทอร์คคอนเวอร์เตอร์ให้น้อยลง นอกจากนั้น เกียร์ที่เพิ่มขึ้นยังหมายถึงอัตราสิ้นเปลืองที่ดีขึ้นตามไปด้วย
เนื่องจากความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนไป จนทำให้ “คูเป้” แทบจะเหลือเพียงเปลือกนอกของมันเท่านั้น เหนือสิ่งอื่นใด การโฟกัสไปที่ความสนุกในการขับขี่เป็นสัญญาณอันดีที่ถูกส่งออกมาจากมิวนิก เหมือนพวกเขายกไหล่แล้วพูดว่า “นี่น่ะเหรอ? ก็แค่รุ่นมาตรฐานเท่านั้นเอง”…
… และตอนนี้ผมกำลังจินตนาการถึงเวอร์ชั่น M
SPECIFIACTIONS : BMW 430i Coupe’ M Sport
Price : ฿3,969,000 (with BSI)
Engine : 1998cc inline-4 turbocharged, 258hp @ 5000-6500rpm, 400Nm @ 1550-4400rpm
Transmission : 8-speed Steptronic Sport, rear-wheel drive
Performance : 5.8sec 0-100km/h, 250km/h top speed (limit), 150g/km Co2
Weight : 1545kg
NCAP rating : n/a
—————————————————————————–
ระบบ ConnectedDrive ใช้กล้องหน้า ร่วมกับเรดาร์และเซนเซอร์บนกันชนเพื่อนำข้อมูลมาประมวลผลและสั่งการไปยังระบบช่วยเหลืออัตโนมัติต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเบรก, ออกนอกเลน ตลอดจนเตือนการชนด้านหน้าและหลัง นอกจากนั้น ยังใช้เพื่อควบคุมความเร็วให้กับระบบครูสคอนโทรลอีกด้วย
เมื่อพูดถึงการโฟกัสไปยังการขับขี่ เบาะนั่งจึงเข้ามาเป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญ ปีกเบาะสามารถปรับให้เข้าหา (หรือออกจาก) ลำตัวได้ด้วยสวิตช์ เพื่อเพิ่มความกระชับในขณะขับขี่ให้มากยิ่งขึ้น
หลังคากระจกได้รับการขยายความยาวออกไปอีก 24 มม. ทำให้มันมีขนาดรวมถึงเกือบครึ่งเมตร สามารถยกกระดกขึ้นหรือสไลด์เปิดทั้งหมดได้
ระบบไฟส่องสว่างในห้องโดยสารเป็นแบบ LED หมดทุกจุด พร้อมด้วย Mood Light และเส้นแถบไฟ fibre-optic ที่ส่องแบบ indirect โอบล้อมจากแผงประตูด้านหนึ่งผ่านแดชบอร์ดไปยังประตูอีกด้าน มันจะกระพริบที่แผงประตูซึ่งกำลังเปิดอยู่ในขณะที่เครื่องยนต์ทำงาน และกระพริบที่แดชบอร์ดเมื่อมีสายเรียกเข้า
ลำโพง 16 ตัวรอบทิศทาง จาก harman/kardon พร้อมแอมปริไฟเออร์ 7 ชาแนล กำลังขับ 464 วัตต์ ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน (ออปชั่นในตลาดต่างประเทศ)
เมื่อพูดถึงการโฟกัสไปยังการขับขี่ เบาะนั่งจึงเข้ามาเป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญ ปีกเบาะสามารถปรับให้เข้าหา (หรือออกจาก) ลำตัวได้ด้วยสวิตช์ เพื่อเพิ่มความกระชับในขณะขับขี่ให้มากยิ่งขึ้น
BMW 430i Coupe’ M Sport
ระบบปรับอากาศได้รับการปรับปรุงทั้งในส่วนของการกระจายลม, การไหลเวียน และลดเสียงการทำงานของพัดลมลง ทำงานแบบแยก 3 ตำแหน่ง สำหรับผู้ขับ, ผู้โดยสาร และผู้โดยสารด้านหลัง