รีวิว ทดสอบ Subaru Forester 2.0i-S GT Lite มาพร้อมอุปกรณ์ชุดแต่ง GT Lite โดยเฉพาะ เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับแฟนดาวลูกไก่ชาวไทย
รีวิว ทดสอบ Subaru Forester 2.0i-S GT Lite เสริมหล่อด้วยชุดแต่ง GT Lite
Subaru Forester 2.0i-S GT Lite
ถ้า Subaru Forester 2.0i-S EyeSight GT ในฐานะรุ่นท็อปสุดที่ครบครัน คือ สิ่งเติมเต็มคุณค่าทางจิตใจ … แต่ติดอย่างเดียวว่า “ปัจจัย” ในกระเป๋าไม่เอื้อ ฉะนั้นทางเลือกที่ดีที่สุด คือ รุ่นใหม่อย่าง Subaru Forester 2.0i-S GT Lite ที่ตอบโจทย์ ตรงจุดสำหรับคนชอบแต่ง “น้อยแต่มาก” สไตล์
อย่างที่ได้จั่วหัวไปข้าง ในเรื่องจุดยืนของเจ้า Subaru Forester 2.0i-S GT Lite ซึ่งจุดเด่นของรุ่นนี้ก็คือ รายละเอียดของการแต่งองค์ทรงเครื่องที่เคยเห็นกันมาจากรุ่นท็อปสุด Subaru Forester 2.0i-S EyeSight ที่ใส่ชุดแต่ง GT มาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
ซึ่งเราเดาว่าเพื่อสร้างจุดเด่น และส่งให้กลายเป็นเสาหลักในการทำยอดจำหน่ายด้วยความ “ครบครัน และคุ้มค่า” แต่กลับกลายเป็นดูเหมือนรุ่นย่อย Subaru Forester 2.0i-S ได้กลายเป็น “เรือธง” ที่สร้างตัวเลขยอดจำหน่ายได้สูงกว่า และมาพร้อมเสียงเรียกหาจากผู้บริโภคที่อยากได้ชุดพาร์ท GT Edition บ้าง
ทำให้เราคิดว่านั่นน่าจะเป็นเหตุผลที่ทำให้บริษัท ทีซี ซูบารุ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ซูบารุอย่างเป็นทางการในประเทศไทย ได้เลือกเปิดตัว ชุดอุปกรณ์ตกแต่ง GT Lite ขึ้นมา สำหรับ Subaru Forester 2.0i-S โดยเฉพาะ เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับแฟนดาวลูกไก่ชาวไทย
โดย ชุดแต่ง GT Lite จะประกอบด้วย 6 ชิ้นงาน คือ ชุดสเกิร์ตด้านหน้า และด้านหลัง ตามด้วยด้านซ้าย และด้านขวา ไปจนถึงสปอยเลอร์หลังคา และปลายท่อไอเสียทำจากวัสดุสเตนเลส ซึ่งทั้งหมดคือผลงานการออกแบบของคุณ มาซาฮิโกะ โคบายาชิ หรือ แจ็ค (Mr. Masahiko “Jack” Kobayashi)
อดีตหัวหน้านักออกแบบ (หัวหน้าทีม Global Advanced Design Studio) ของ Subaru Corporation ทำหน้าที่รับผิดชอบด้านการออกแบบภายนอกของรถยนต์ Subaru กว่า 12 รุ่น รวมถึง Subaru WRX STI รถแรลลี่ระดับตำนานอีกด้วย
ส่วนอุปกรณ์มาตรฐานต่างๆ นั้นยังคงติดตั้งมาให้แบบครบๆ ไล่มาตั้งแต่ภายนอก เช่น ชุดไฟหน้าแบบ LED พร้อมระบบปรับระดับอัตโนมัติ ตลอดจนปรับองศาไฟหน้าตามการเลี้ยวของพวงมาลัย (SRH), ระบบหัวฉีดล้างทำความสะอาดไฟหน้าแบบ Pop-up และชุดไฟตัดหมอกหน้าแบบ LED โดยมีด้านหลังที่สะดุดตาด้วยชุดไฟท้าย และชุดไฟตัดหมอกแบบ LED
ด้านอุปกรณ์ภายในห้องโดยสารมากับความสะดวกสบาย ด้วยชุดหน้าจอแสดงผลขนาด 8 นิ้ว สำหรับระบบความบันเทิง ผ่านลำโพง 6 ตำแหน่ง รองรับระบบเชื่อมต่อ Bluetooth, Apple Car Play, Android Auto และของใหม่ล่าสุด คือ ระบบกล้องมองรอบทิศทาง 360 องศา ควบคุมได้ง่ายดายจากปุ่มมัลติฟังก์ชั่นบนพวงมาลัย ตามด้วยระบบปรับอากาศแบบอิสระ พร้อมระบบกรองฝุ่น และระบบปรับอากาศ พร้อมช่องกระจายลม สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
แต่ถ้าจะให้พูดจริงๆ สำหรับสาวก Subaru การให้ออปชันมาแบบท่วมๆ น่าจะเป็นประเด็นรอง เพราะต้องยกพื้นที่ให้กับสมรรถนะเป็นเรื่องหลัก ที่ประกอบขึ้นจาก 3 ไฮไลท์หลักๆ คือ โครงสร้าง Subaru Global Platform, เครื่องยนต์ Boxer แบบ 4 สูบ 16 วาล์ว บนพิกัดเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร พร้อมระบบฉีดจ่ายเชื้อเพลิงแบบ Direct Injection ให้กำลังสูงสุด 156 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 196 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที
ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบ Lineartronic CVT และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบสมมาตร (Symmetrical All-Wheel Drive) พร้อมด้วยระบบ SI-Drive ที่ปรับการขับขี่ได้ 2 รูปแบบ คือ Intelligent Mode และ Sport Mode ทั้งยังเสริมขีดความเสริมในการขับเคลื่อนด้วยระบบ Special X-Mode ให้เลือกปรับตามความเหมาะสม
โดยในเรื่องของ “สมรรถนะ” จากเจ้า Subaru Forester 2.0i-S GT Lite ก็ยังคงเป็นพื้นฐานของรุ่น 2.0i-S ที่น่าจะคุ้นเคยกันมาบ้าง โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นของยนตรกรรมยุคใหม่ๆ จากแบรนด์ Subaru ที่ “ลด” ความดิบลงมาด้วยเครื่องยนต์ไร้ระบบอัดอากาศ เพื่อเพิ่มการเข้าถึงให้กับผู้บริโภคมากขึ้น รวมไปถึงเรื่องของการใช้ระบบส่งกำลังแบบเกียร์อัตโนมัติ CVT เป็นหลักเพียงหนึ่งเดียว ในการสร้างความสบายในการขับขี่มากกว่า
ซึ่ง “ความสบาย” ที่ว่านั้นยังถูกเพิ่มเติมด้วยทัศนวิสัยที่ดีในการขับขี่ จากความสูงของตัวรถ, การควบคุมผ่านระบบพวงมาลัยแบบที่เชื่องมือ ในการสร้างความคล่องตัว รวมถึงระบบช่วงล่างที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพจากความนุ่มหนึบ ที่สร้างความมั่นใจได้ดีในความเร็วสูง
โดยมีความสามารถของระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบสมมาตร (Symmetrical All-Wheel Drive) เป็นส่วนหนึ่งของความมั่นใจ ขณะที่ในความเร็วต่ำก็ไมได้ออกอาการ “ดีดดิ้น” ให้รู้สึกหงุดหงิดเท่าไหร่
สรุปง่ายๆ บุคลิกทั้งหมด ทั้งมวลของ Subaru Forester 2.0i-S GT Lite นั้นแสดงออกไปในแนงทางของ “ยนตรกรรมสมรรถนะสูง” ที่ทำให้รวมๆ แล้วคุณจะรู้สึกถึงความ “เหนือกว่า” รถอเนกประสงค์ SUV ทั่วไป เช่น การตอบสนองของเครื่องยนต์ และระบบส่งกำลังที่แข็งแกร่ง จนสร้างความกระฉับกระเฉงให้โดดเด่นออกมาอย่างเห็นได้ชัด ที่หากอยาก “สนุก” กับการขับขี่มากขึ้น ก็แค่ Kick Down
หรือถ้าต้องการความมันส์มากกว่านั้น การปรับโหมด SI-Drive ไปสู่โหมด Sport พร้อมกับเลือกโหมด M เป็นเมนูหลัก เพื่อปรุงรสชาติตามใจชอบด้วยการเพิ่ม หรือ ลด ตำแหน่งเกียร์สไตล์ Manual ผ่านแป้นเปลี่ยเกียร์ Paddle Shift หลังพวงมาลัย
ก็เป็นอีกหนึ่งความน่าสนใจ และทำให้ Subaru Forester 2.0i-S GT Lite เป็น SUV ที่ปราดเปรียวได้ไม่ยาก แถมยังมั่นคงด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Symmetrical All-Wheel Drive โดยเฉพาะใน “โค้ง” ที่มีทั้งการ “ดึง และดัน” เป็นตัวช่วยที่ทำให้คุณกล้าปล่อยเท้าขวา “คา” อยู่บนแป้นคันเร่งนานขึ้น
โดยที่มาของความกล้านั้นไม่ได้เกิดขึ้นเพราะเรื่องของ “สมรรถนะ” เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงเหล่าออปชันจากระบบความปลอดภัยที่แน่นหนา ไม่ว่าจะเป็นขั้นพื้นฐาน หรือระดับ Advance ในแบบคุณสามารถใช้มันเพื่อ “ลุย” ออกนอกถนนหลักได้ แต่แน่ล่ะว่าด้วยค่าตัวคิดง่ายๆ กลมๆ ที่ 1.5 ล้านบาท คงไม่ค่อยมีใครที่คิดจะอยากเอาไปลุย ฉะนั้นเหล่าระบบความปลอดภัยต่างๆ จึงกลายเป็นตัวช่วยชั้นดี ที่ทำให้ทุกการขับขี่ในชีวิตประจำวันของคุณเต็มไปด้วยความง่ายดาย และปลอดภัย
ส่วนสิ่งที่อาจจะทำให้คุณอาจจะคิดเล็ก คิดน้อย หรือคิดมาก ในการเลือกเป็นเจ้าของ Subaru Forester 2.0i-S GT Lite เราเดาว่าน่าจะเป็นเรื่องของ “บริการหลังการขาย” ซึ่ง ณ ปัจจุบันได้กลายเป็นสิ่งสำคัญในการตัดสินใจเลือกเป็นเจ้าของรถซักคัน แต่ถ้าในองค์รวมแล้วคุณมองว่า “ไม่ใช่ปัญหา” และรู้สึกสนใจเจ้า Subaru Forester 2.0i-S GT Lite ขึ้นมาจริงๆ จังๆ ล่ะก็ … เราอยากบอกว่าให้ออกนอกบ้านไปหา “ลองขับ” ดูซักครั้ง
แล้วคุณจะพบว่าพื้นฐานสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมเหนือกว่า SUV ทั่วไปนั้น ให้ความรู้สึกอย่างไร ทั้งยังแถมมาด้วยความภูมิใจจากสายตาคนรอบข้างที่กำลังจับจ้องสไตล์ที่หล่อเหลาของตัวรถ ไปจนถึงความนิยมชมชอบเจ้าของรถเบาๆ ในฐานะนักเล่นรถตัวจริง ที่โดดเด่นด้วยแนวคิดแตกต่าง สำหรับเลือกสรรยนตรกรรมอเนกประสงค์ซักรุ่น เพื่อเข้ามาเติมเต็มการใช้ชีวิต
Specification: Subaru Forester 2.0i-S
- Price : 1,425,000 BHT ( GT LITE Body Part ราคา 25,000)
- Engine : 1,995 CC / 4 Cylinder 16 Valve 156 hp @ 6,000 rpm / 196 Nm @ 4,000 rpm
- Transmission : Lineartronic CVT / All-Wheel Drive
- Performance : 0 – 100 Km/h @ N/A / Top Speed @ N/A
- Weight : N/A