TorqueThailand.com
รีวิว ลองขับ All New GWM HAVAL H6 เครื่องยนต์ 1.5 เทอร์โบ ไฮบริด ชาร์จครั้งเดียว วิ่งไกลถึง 150 กม.* ราคาเริ่มต้นที่ 929,000 – 1,149,000 บาท
รีวิว ลองขับ All New GWM HAVAL H6 (2025) รถเอสยูวี Plug in Hybrid
All New GWM HAVAL H6
“หลังจากส่ง HAVAL H6 เจเนอเรชั่นแรก ลุยทำตลาดในเมืองไทยมาตั้งแต่ปี 2021 … ในที่สุดปี 2025 เราก็ได้ยินข่าวแพร่สะพัดเต็มโลกโซเชียลเกี่ยวกับ “เจเนอเรชั่นใหม่” จนกระทั่งหมายเชิญจาก เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) ถูกส่งมาถึง …. และนี่คือ One Day Trip ครั้งแรก กับ All New GWM HAVAL H6”
“GWM ลาดกระบัง” คือ สถานที่ซึ่งถูกเซ็ทไว้ให้เป็นจุดเริ่มต้น One Day Trip โดยมี All New GWM HAVAL H6 MY 2025 เรียงรายรอต้อนรับ อยู่บริเวณด้านหน้าโชว์รูม และศูนย์บริการ … ที่สำคัญ คือ การมาของ All New GWM HAVAL H6 MY 2025 ในครั้งนี้ ไม่ได้มีเพียงเวอร์ชั่น HEV เท่านั้น หากแต่พาเวอร์ชั่น PHEV มาร่วมทัพอีกด้วยเช่นกัน
ฉะนั้นเท่ากับว่า One Day Trip ครั้งนี้ เราจะได้สัมผัสทั้งเวอร์ชั่น HEV และเวอร์ชั่น PHEV พร้อมๆ กันเลยทีเดียว แต่ก่อนจะไปว่ากันที่เรื่องราวหลังจากได้ลองสัมผัส “สมรรถนะ” มารู้ก่อนดีกว่า ว่าอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปบ้างใน All New GWM HAVAL H6 MY 2025
ตามข้อมูลที่ได้รับ ว่ากันว่า All New GWM HAVAL H6 MY 2025 ได้รับการอัพเกรดแบบรอบด้าน ตั้งแต่งานดีไซน์ที่ปรับโฉมให้ทันสมัยยิ่งขึ้น เช่น โทนสี Smoke Chrome ในส่วนของชุดกระจัง และกันชนหน้า เสริมด้วยชุดไฟหน้า LED อัจฉริยะแบบรมดำ
พร้อมระบบไฟ Signature Light แบบ Waterfall ประกบทั้ง 2 ฝั่ง ช่วยเพิ่มคาแร็คเตอร์ในมุมมองด้านหน้าให้โดดเด่นขึ้นอย่างชัดเจน เช่นเดียวกับในมุมมองด้านหลัง ซึ่งมากับชุดไฟท้ายแบบ LED Light Strip รมดำ ซึ่งลงตังวกับล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว ลายสปอร์ตรมดำ ตัดกับชุดคาลิเปอร์เบรกโทนสีแดงเฉพาะเวอร์ชั่น PHEV รุ่น Ultra
All New GWM HAVAL H6 MY 2025 เปิดตัว 3 รุ่นย่อย ประกอบด้วย PHEV รุ่น Pro และ รุ่น Ultra / HEV รุ่น Pro) ก่อนเก็บรายละเอียดปิดท้าย ด้วย การเลือกใช้โทนสีดำ Piano Black ในส่วนของ คิ้วประตู คิ้วฝาท้าย หน้าต่าง ด้านข้างของรถ และราวหลังคา รวมถึงโลโก้ใหม่ในด้านหลังจากเดิมคำว่า “HAVAL” กลายเป็น “GWM” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แบรนด์ภายใต้ “ONE GWM” ที่ใช้เหมือนกันทั่วโลก
สำหรับงานดีไซน์ ภายในห้องโดยสาร เรียกได้ว่า “ค่อนข้าง” ที่จะ “คุ้นเคย” กันพอประมาณ … “ใช่ครับ เราพยายามจะบอกว่ามีการเปลี่ยนแปลงในรายละเอียดเล็กๆ น้อยเท่านั้น เพราะความประทับใจที่เค้าเพิ่มมาให้ในเจเนอเรชั่นที่ 2 ก็คือ “หน้าจอ” มัลติมีเดียแบบสัมผัสที่ขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 14.6 นิ้ว รองรับได้ทั้ง Apple CarPlay, Android Auto การเชื่อมต่อ Wifi และ Wireless Charger
ขณะที่ส่วนความบันเทิงเรียกได้ว่าจัดด้วยเครื่องเสียง Amor Luxury HiFi System พร้อมลำโพงจำนวน 8 ตำแหน่ง โดยจะมีการเพิ่ม Sub-Woofer เข้ามาให้ในรุ่นย่อย Ultra
นอกจากนี้ “หน้าจอ” มัลติมีเดียแบบสัมผัสที่ขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 14.6 นิ้ว ยังมาพร้อมการอัพเกรดระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ Coffee OS 3.0 + QUALCOMM Snapdragon 8155 ใหม่ ทำให้สามารถใช้การ และงานได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ง่ายดาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบนำทางของ Huawei Petal Map ที่ค้นหาได้แม่นยำ
ฝั่งผู้ขับขี่มากับพวงมาลัยหุ้มหนังแบบมัลติฟังก์ชัน, เกียร์แบบ Electronic Shifter อยู่ด้านหลังพวงมาลัย, หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบดิจิตอลขนาด 10.25 นิ้ว มาพร้อมระบบนำทาง และระบบสั่งการด้วยเสียง (Voice Command) มีระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบแยกอิสระซ้าย-ขวา
พร้อมตัวกรองอากาศ CN95 มาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน พร้อมด้วยช่องแอร์ด้านหลัง, ประตูหลังเปิด-ปิดไฟฟ้า โดยในเวอร์ชั่น PHEV รุ่น Ultra จะเพิ่มระบบแฮนด์ฟรี และหลังคา Panoramic Sunroof มาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
ท้ายสุดของความดีงามทั้งหมด คือ ขุมพลังของ All New GWM HAVAL H6 MY 2025 ซึ่งยังคงใช้พื้นฐานของเครื่องยนต์ เบนซิน เทอร์โบ ขนาด 1.5 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า เพื่อสร้างพละกำลังสูงสุดที่ 243 แรงม้า
พร้อมแรงบิด 530 นิวตันเมตร ให้เวอร์ชั่น HEV และ 326 แรงม้า พร้อมแรงบิด 530 นิวตันเมตร ให้เวอร์ชั่น PHEV แถมยังการันตีระยะทางการขับขี่ ว่าสามารถด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% ไกลที่สุดในเซกเมนต์ ถึงราวๆ 150 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (มาตรฐาน NEDC)
จากแบตเตอรี่ Lithium Ion ที่มีความจุถึง 27.54 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง พร้อมด้วยหัวชาร์จ CCS Type 2 combo ที่รองรับการชาร์จ DC ได้สูงถึง 41 กิโลวัตต์ ซึ่งการันตีได้เลยว่า “ชาร์จ” ได้รวดเร็วว่า PHEV ในเซกเมนต์เดียวกันแน่นอน
ด้านระบบส่งกำลังยังคงเป็นเกียร์อัตโนมัติ DHT (Dedicated Hybrid Transmission) ที่สลับการทำงานระหว่างเครื่องยนต์ และมอเตอร์ไฟฟ้าอย่างราบรื่น เช่นเดียวกับระบบช่วงล่างที่มีด้านหน้าเป็นแบบอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัท และด้านหลังแบบมัลติลิงค์ แต่ได้รับการปรับแต่งขึ้นใหม่ เพื่อยกระดับทั้งความนุ่มนวล นั่งสบาย ควบคู่ไปกับประสิทธิภาพการทรงตัว และการยึดเกาะถนนที่มั่นใจมากยิ่งขึ้น
โดยมีโหมดการขับขี่ 4 รูปแบบ คือ Normal, Sport, Eco และ Snow ให้เลือกใช้ สำหรับเวอร์ขั่น HEV ขณะที่เวอร์ชั่น PHEV จะเพิ่มเติมมาให้อีก 2 ระบบ คือ Hybrid และ EV
ระบบความปลอดภัยเรียกว่ามีมาให้อย่างครบครัน ด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะกว่า 31 รายการ ซึ่งมาพร้อมกล้องความละเอียดสูง สำหรับมองภาพรอบคัน 540 องศา จนถึงขั้นมองได้กระทั่งใต้ท้องรถ เลยทีเดียว เพราะฉะนั้นมั่นใจได้แน่นอนในทุกการเดินทาง
สำหรับในส่วนของความรู้สึกหลังจากที่ได้สัมผัสสมรรถนะ ต้องขอบอกว่า เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) ทำการบ้านมาได้ดีทีเดียว ให้ความรู้สึกดีตั้งแต่เริ่มจับพวงมาลัยซึ่งออกแบบใหม่ให้มีขนาดใหญ่ จับได้กระชับมือ สร้างความมั่นใจได้มากขึ้นเมื่อควบคุม
ส่วนพละกำลังแรงบิด 530 นิวตันเมตร ทั้งในเวอร์ชั่น HEV และ PHEV ต้องเรียกว่ามีให้ใช้งานกันอย่างต่อเนื่อง ตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างทันใจ และจะเลยไปถึงความเร้าใจได้ไม่ยาก เมื่อทั้งเครื่องยนต์ และมอเตอร์ไฟฟ้าทำงานร่วมกัน
ส่วนต่อมาที่รับรู้ได้ถึงการเปลี่ยนแปลง คือ ระบบช่วงล่างที่ไม่เพียงนุ่มนวล และดูดซับแรงสั่นสะเทือนได้ดีขึ้นเท่านั้น หากแต่ยังเพิ่มขีดความสามารถในการทรงตัว และการยึดเกาะถนนมากขึ้นอย่างน่าประทับใจ ทำให้การเคลื่อนตัวบนท้องถนนเป็นไปอย่างคล่องตัว และมั่นใจ ซึ่งเป็นผลมาจากทั้งพละกำลังที่ตอบสนองได้ดีขึ้น และทัศนวิสัยของความเป็นยนตรกรรมอเนกประสงค์ SUV
นอกจากนี้ การที่ All New GWM HAVAL H6 ส่งออกมาทำตลาดทั้งเวอร์ชั่น HEV และเวอร์ชั่น PHEV นั้นถือได้ว่าเป็นสิ่งที่ช่วยขยายกลุ่มผู้บริโภคได้มากขึ้นอีกด้วย เพราะในเวอร์ชั่น PHEV นั้นสามารถขับเคลื่อนได้ด้วยพลังงานไฟฟ้าล้วน 100% ได้ไกลถึงราวๆ 150 กม. ต่อการชาร์จต็มครั้ง (มาตรฐาน NEDC)
โดยหลังจากได้ทดลองแล้ว พบว่าหากใข้ความเร็วเดินทางปกติซักราวๆ 100-120 กม. จะสามารถทำได้ “ใกล้เคียง” กับที่เคลมไว้ ทั้งนี้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจร และพฤติกรรมคนขับ
เพราะฉะนั้นเมื่อมองในภาพรวมแบบการใช้งานจริง All New GWM HAVAL H6 เวอร์ชั่น PHEV สามารถขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าล้วนได้ซักประมาณ 130 กม. นั่นก็ถือว่าช่วยประหยัดเชื้อเพลิงได้มากพอตัวทีเดียว
ฉะนั้นโดยสรุป All New GWM HAVAL H6 จึงถือเป็นยนตรกรรมอเนกประสงค์ SUV ที่ผ่านการปรับปรุงมาได้อย่างดีเยี่ยมทีเดียว เหมาะสมทั้งการใช้งานในเมือง และนอกเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าระยะทางจากบ้าน และออฟฟิศ ไป-กลับ รวมแล้วๆ ไม่เกิน 100 กม. … นั่นหมายถึง “น้ำมัน” แทบจะไม่ต้องใช้กันเลยทีเดียว
Specification: All New GWM HAVAL H6
- Price : (HEV) 999,000 / (PHEV ULTRA) 1,229,900 BHT
- Engine : 1,499CC / 4 Cylinder / 16 Valve / Turbo , (HEV) 243 hp / 530 Nm , (PHEV) 326 hp / 530 Nm
- Electric Motor : 177 PS / 300 Nm
- Transmission : DHT / Front Wheel Drive
- Performance: 0 – 100 Km/h @ N/A / Top Speed @ N/A
- Weight : N/A
