รีวิว ลองขับ All-new Honda CR-V ES 4WD เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC VTEC พร้อมเทคโนโลยี Direct Injection และ Turbocharger
รีวิว ลองขับ All-new Honda CR-V ES 4WD สปอร์ตพรีเมียมเอสยูวี 190 แรงม้า
All-new Honda CR-V ES 4WD (5 Seats)
“การมาของ Honda CR-V ใหม่ กับ 2 ขุมพลัง คือ e:HEV และ เบนซิน เทอร์โบ ทำให้เกิดคำถามบางอย่างขึ้นในใจเรา ว่ายนตรกรรมกลุ่มรถอเนกประสงค์ จากค่าย Honda จะเดินหน้าต่อไปใน “ทิศทาง” ใดกันแน่”
อย่างที่เกริ่นนำไปข้างต้น ตามความคิดที่ตรงไป ตรงมาของเรา เอาแค่กลุ่มตลาดรถอเนกประสงค์ของ Honda อย่างเดียว จะเห็นว่าความน่าสนใจส่วนใหญ่จะตกอยู่กับขุมพลังเพียงอย่างเดียว แค่เฉพาะในตระกูล Honda CR-V เจเนอเรชั่นล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวไป ก็มีเครื่องยนต์ให้เลือกคบหาถึง 2 สไตล์ด้วยกัน คือ Full Hybrid แบบ e:HEV และ เบนซิน 1.5 ลิตร พ่วง VTEC Turbo
ซึ่งหากจำกันได้ ในเจเนอเรชั่นก่อนหน้านี้ หลายคนน่าจะมีคำถามว่า แล้ว i-DTEC DieselTurbo ล่ะ อยู่ๆ หายไปไหน … ก็นั่นแหละครับ ด้วยความสงสัย ก็เลยกลายมาเป็นคำถามพาดหัวข้างต้น เพราะลองมาดูกันว่า ถ้าไล่ลำดับญาติ ยนตรกรรมอเนกประสงค์ จากค่าย Honda ออกมาจะพบว่า
Honda CR-V ในฐานะพี่ใหญ่สุด โฉมปัจจุบัน เจเนอเรชั่น 6 มีขุมพลัง 2 ทางเลือก คือ Full Hybrid e:HEV และ เบนซิน 1.5 ลิตร พ่วง VTEC Turbo … จากที่เดิม เจเนอเรชั่น 5 มากับเครื่องยนต์เบนซิน และดีเซล เทอร์โบ
ไล่ลงมาที่น้องคนกลาง Honda HR-V โฉมปัจจุบัน 3 รุ่นย่อย เหลือเพียง Full Hybrid e:HEV … จากเดิมเจเนอเรชั่นแรก ที่มีเพียงเครื่องยนต์เบนซิน
ล่าสุดน้องคนเล็ก Honda WR-V เจเนอเรชั่นแรก เปิดตัวมาให้เลือก 2 รุ่นย่อย ที่มีให้เลือกเพียงเครื่องยนต์เบนซินล้วนๆ
ฉะนั้นเมื่อมองจากจุดนี้แล้ว มันทำให้เราอดคิดไม่ได้ว่า เครื่องยนต์ เจเนอเรชั่นต่อๆ ไปของยนตรกรรมอเนกประสงค์ กลุ่มนี้จะเคลื่อนไหวไปในทิศทางใดกัน เพราะที่แน่ๆ ผู้บริโภคชาวไทยเรานี่แหละที่น่าปรับตัวไม่ทัน เช่น สาวก Honda HR-V ที่มีความหวังว่า เจเนอเรชั่น 2 จะมาพร้อมขุมพลังเบนซิน … แต่ก็เปล่า เพราะเหมามาเป็น Full Hybrid e:HEV ซะหมด
รวมถึงสาวกของ Honda CR-V ซึ่งก็น่าจะมีกลุ่มที่ ตั้งหน้า ตั้งตา “รอ” เครื่องยนต์ ดีเซล เทอร์โบ แต่ก็อาจต้องรู้สึกฟาวล์ เหมือนกัน เพราะงวดนี้เค้ามีแค่ Full Hybrid e:HEV และ เบนซิน 1.5 ลิตร พ่วง VTEC Turbo … ฉะนั้นถ้ามาทรงนี้ ก็ไม่ควรแปลกใจ
หากหลายๆ คนจะเดาไม่ออกว่า Honda WR-V เจเนอเรชั่น 2 จะมากับขุมพลังอะไร ถึงขั้นสร้างความสงสัยแบบจริงๆ จังๆ เลยทีเดียวกับ ” ทิศทาง” ของรถอเนกประสงค์ จากค่าย Honda ในไลน์อัพนี้
ลืมตัว นอกเรื่องมาซะเยอะ เอาเป็นว่าเรากลับมาที่เป้าหมายหลักดีกว่า กับ Honda CR-V ใหม่ แล้วก็ไม่ใช่รุ่นสูงๆ อย่างขุมพลัง Full Hybrid e:HEV ด้วย เพราะครั้งนี้เราขอเลือกเป็นรุ่น ES 4WD คนกลางจากฝั่งของกลุ่มเครื่องยนต์สันดาปภายใน ค่าตัวสบายๆ ที่ 1,599,000 บาท
โดยรุ่น ES 4WD เค้าจะเป็นรองรุ่นสูงสุด EL 4WD หลักๆ ก็คือ จำนวนที่นั่ง ซึ่งรองรับได้ 5 ตำแหน่ง ขณะที่รุ่น EL 4WD จะรองรับได้ 7 ตำแหน่ง ขณะที่ “ออปชั่น” ทั้งหมด บอกได้เลยว่า “เหมือนกัน” ยกเว้นบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับผู้โดยสารแถวที่ 3 ซึ่งในรุ่น ES 4WD เค้าจะไม่มีมาให้ เช่น เบาะนั่ง หรือ ระบบปรับอากาศ
ขุมพลังมากับเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร แบบ 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC VTEC พร้อมเทคโนโลยี Direct Injection และ Turbocharger มีกำลังสูงสุดให้ใช้ที่ 190 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 240 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ CVT สู่ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ
ภายใต้การควบคุมจากระบบพวงมาลัย ดูอัล พิเนียน พร้อมเพาเวอร์ผ่านแรงแบบไฟฟ้า (DE – EPS) ตามด้วยการรองรับจากช่วงล่างด้านหน้าแบบ อิสระ แม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง จับคู่กับ ด้านหลังแบบ มัลติลิงค์ พร้อมเหล็กกันโคลง ก่อนปิดท้ายด้วยระบบเบรกที่ติดตั้งมาให้แบบดิสก์ 4 ล้อ
ซึ่งในภาพรวมของการขับ สารภาพตรงๆ ว่าเห็นน้ำหนักตัวรถ 1,683 กก. ที่แรงม้า 190 ตัว ต้องรับมือ คือ ทำเราแอบหวั่นไม่เบา แต่เอาจริงๆ ก็ต้องเปลี่ยนใจหลังจากลองสัมผัส เพราะทุกอย่างนั้นลงตัวกว่าที่คิด โดยมีแรงบิดรอบต่ำ 240 นิวตันเมตร ที่ 1,700 – 5,000 รอบต่อนาที เป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนบุคลิก “รถใหญ่” ให้มีความคล่องตัวแบบคาดไม่ถึง
โดยส่วนหนึ่งต้องยอมรับการปรับเซ็ทน้ำหนักพวงมาลัย ดูอัล พิเนียน พร้อมเพาเวอร์ผ่านแรงแบบไฟฟ้า ผสมผสานเขากับจุดที่เราชื่นชอบก็คือ ความสามารถในการถ่ายทอดพละกำลังอย่างนุ่มนวล ราบเรียบ แม้จะเป็นการขับขี่ในเมืองที่ต้องการใช้คันเร่งบ่อยครั้ง แต่ก็ยังสามารถควบคุมความเร็วได้ง่าย ไร้อาการกระชาก กระชั้นให้เสียอารมณ์ ซึ่งแน่นอนล่ะ ว่าเหล่าแม่บ้านน่าจะถูกอกถูกใจ
การขับทางไกล ต้องบอกว่าเป็นอารมณ์ของรถเดินทางอย่างแท้จริง เพราะมีกำลังให้ใช้อย่างเต็มเม็ด เต็มหน่วย แต่ไม่ได้มาในรูปแบบของการดึงอยากหนักหน่วง แต่ก็สามารถสัมผัสได้ถึงแรงตอบสนองที่ให้ความมั่นใจได้ดีในการขับขี่ หรือการเร่งแซง ซึ่งเราแนะนำว่าควรเรียนรู้จังหวะการทำงานซักนิด
แล้วจะพบว่า Honda CR-V เครื่อง 1.5 ลิตร VTEC Turbo เป็นรถอเนกประสงค์พิกัดใหญ่ ที่ให้ความสนุกในการขับขี่ได้เกินคาดหมาย หรือถ้าอยากได้มากกว่านี้ในโหมด S หรือการใช้ Paddle Shift ก็เป็นอีกหนึ่งหนทางที่สร้างความมันส์เพิ่มเติมได้เช่นกัน
ช่วงล่าง ไม่พูดถึงไม่ได้ เพราะการปรับเซ็ทถือเป็นอะไรที่ถูกใจเราอย่างมาก เพราะเน้นไปในทางแน่นหนึบ ให้รู้สึกสนุกในการขับขี่ และควบคุม ภายใต้ความมั่นใจที่ประกอบขึ้นทั้งจาก มาตรฐานของการปรับเซ็ทช่วงล่าง ตลอดจนระบบขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ
นอกจากนี้ ยังมีการซับแรงสั่นสะเทือนค่อนข้างเป็นมิตร แม้จะติดตั้งล้ออัลลอยขนาดใหญ่ถึง 18 นิ้วก็ตาม แต่ยังซีรี่ส์ 235/60 ถือว่าจัดการได้อยู่หมัด โดยเฉพาะถ้าลองจับสัมผัสช่วงความเร็วต่ำ หรือการขับขี่ในเมือง จะพบว่าสอบผ่านได้ตามมาตรฐานของ Honda CR-V เลยทีเดียว
หลังจากผ่านการขับขี่มาทั้งในเมือง และนอกเมืองมาทั้งวัน เราสรุปได้ว่า Honda CR-V ES 4WD เจเนอเรชั่นใหม่ ยังคงรักษามาตรฐานของความเป็นรถอเนกประสงค์ได้ดี ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันได้ไม่ขาดตกบกพร่อง ทั้งในเรื่องของอรรถประโยชน์ใช้สอย
ซึ่งส่วนตัวเราพอใจกับรุ่น ES 5 ที่นั่ง เพราะน่าจะบาลานซ์การบรรทุกระหว่าง ผู้โดยสาร และสัมภาระได้ดี เมื่อต้องเดินทางไปพักผ่อนต่างจังหวัด
อีกอย่างคือ Honda CR-V ยังคงเป็นยนตรกรรมอเนกประสงค์ที่ มีความเข้าถึง และใช้งานได้ง่ายในทุกมิติ ซึ่งทำให้เรารู้สึกว่าเหมาะสมมากๆ ที่จะเป็นรถครอบครัว ชนิดที่ว่า “แม่บ้าน” ก็จะรู้สึกยินดี ไม่มีอารมณ์เสีย หากต้องรับหน้าที่หลังพวงมาลัย ต่อให้ “พ่อบ้าน” ไม่สะดวกก็ตาม
แถมนอกจากสมรรถนะที่น่าประทับใจแล้ว ระบบความปลอดภัยที่ครบเครื่อง ก็ยังเป็นอีกเรื่องที่ช่วยให้ทุกๆ คน รู้สึกมั่นใจได้เป็นอย่างดีเช่นกัน
Specification: All-new Honda CR-V ES 4WD (5 Seats)
- Price: 1,599,000 BHT
- Engine: 1,498 CC / 4 Cylinder / 16 Valve / VTEC Turbocharger 190 hp @ 6,000 rpm / 240 Nm @ 1,700 – 5,000 rpm
- Transmission: CVT / Real Time All Wheel Drive
- Performance: 0 – 100 Km/h @ N/A / Top Speed @ N/A
- Weight: 1,683 Kg.