รีวิว ลองขับ All – New Mitsubishi Triton ขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล คอมมอนเรล ใหม่ Hyper Power พิกัด 2.4 ลิตร 184 แรงม้า ราคา 1,027,000 บาท
รีวิว ลองขับ All – New Mitsubishi Triton ขุมพลังใหม่ ดุดันยิ่งกว่าเดิม
All – New Mitsubishi Triton
“ความรู้สึกแรกหลังเปิดผ้าคลุมอย่างเป็นทางการ คือ “สวย” แต่ยังไม่สุด … เว้นแต่เมื่อได้ลอง แล้วจะรู้ว่านี่คือ “หมาป่าในคราบลูกแกะ” แม้จะเป็นเพียงเวอร์ชั่น 2WD ก็ตาม เพราะงั้นสิ่งที่ต้องทำต่อก็แค่ “รอ” เวอร์ชั่น 4WD เท่านั้น”
สมการรอคอยแฟนๆ กันซักที สำหรับการมาของ All – New Mitsubishi Triton ซึ่งเปิดตัวระดับ World Premiere อย่างยิ่งใหญ่ในประเทศไทย … และก็น่าจะทำเอาผู้บริโภคชาวไทยรู้สึกแปลกๆ กันไม่น้อย เพราะดูเหมือนทาง MMC หรือ
Mitsubishi Motors Corporation (มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น) เลือกที่จะให้ MMTh หรือ Mitsubishi Motors Thailand (บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ทำตลาดในบ้านเราด้วยรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ ซะเป็นส่วนใหญ่ ด้วยเหตุผลใดไม่อาจทราบ แทนที่จะยกมาท้าชนให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยทั้งไลน์อัพ
สำหรับ All – New Mitsubishi Triton ที่ทำตลาดในบ้านเรา จะมีระดับค่าตัวไล่เรียงมาตั้งแต่ 699,000 บาท ไล่ขึ้นมาถึงรุ่นท็อปสุด พระเอกของเราในวันนี้ คือ Double Cab Plus Ultra AT ราคา 1,027,000 บาท และทั้งหมดมากับจุดเด่นน่าสนใจ นั่นคือ การพัฒนาขึ้นใหม่ทั้งหมด จนน่าจะเรียกได้ว่าเป็นการ “ปฏิวัติ” ได้อย่างเต็มปาก เต็มคำ
เริ่มจากงานดีไซน์ภาพรวมภายใต้แนวคิดที่เรียกว่า Beast Mode สะท้อนความบึกบึน และทรงพลัง แต่ส่วนตัวเรารู้สึกว่ายังไม่ “ปัง” เท่าไหร่ โดยเฉพาะมุมมองด้านหน้า เพราะสารภาพตามตรงว่า
แม้จะยังใช้แนวทาง Dynamic Shield เหมือนที่ผ่านมา แต่เราก็ยังชื่นชอบในเส้นสายคมๆ พุ่งๆ ของเจเนอเรชั่นที่ผ่านมามากกว่า … แต่เอาเถอะเรื่องความสวยงาม อันนี้ตามศรัทธา และสไตล์
ฉะนั้นเราเลยขอข้ามไปยังส่วนที่น่าสนใจดีกว่า นั่นคือการอัพเกรดยกระบบ ตามที่กล่าวไว้ข้างต้นว่าเป็นการ “ปฏิวัติ” เพราะใน All – New Mitsubishi Triton เค้าจัดของใหม่มาตั้งแต่ขนาดตัวรถที่ประกอบด้วย ความยาว 5,320 มม.,
ความกว้าง 1,865 มม., ความสูง 1,795 มม. พร้อมความยาวระยะฐานล้อ 3,130 มม. และความสูงใต้ท้องรถ (Ground Clearance) ถึง 222 มม.
วางตัวบนโครงสร้างแชสซีส์ใหม่ แบบ Mega Frame ที่ใหญ่ขึ้น แข็งแรงขึ้น แต่เบาลง จากการเลือกใช้วัสดุเหล็กทนแรงดึงสูง High-Tensile Steel ตามด้วยการติดตั้งระบบช่วงล่างใหม่ ที่ถูกปรับเซ็ทมาให้รองรับการบรรทุกหนัก
และยึดเกาะถนนอย่างยอดเยี่ยม บนพื้นฐานแบบ อิสระปีกนก 2 ชั้น คอยล์สปริง และโช๊คอัพ ในด้านหน้า จับคู่กับ แหนบแผ่นซ้อน ในด้านหลัง และล้ออัลลอยขนาดมาตรฐาน 18 นิ้ว พร้อมยาง 265/60 R18
ตามด้วยขุมพลัง ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล คอมมอนเรล ใหม่ Hyper Power พิกัด 2.4 ลิตร เสริมแรงด้วย VG Turbo แบบแปรผัน และอินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลังสูงสุด 184 แรงม้า พร้อมแรงบิด 430 นิวตันเมตร ส่งกำลังสู่ล้อหลัง ผ่านชุดเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด โดยมีระบบพวงมาลัยเป็นแบบ แร็ค แอนด์ พิเนี่ยน พร้อมเพาเวอร์ช่วยผ่อนแรง
และด้วยองค์ประกอบทั้งหมดด้านสมรรถนะ บอกเลยว่าได้ทำให้ All – New Mitsubishi Triton มีภาพรวมอารมณ์การขับขี่ชนิดที่เปลี่ยนไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง ตั้งแต่เรื่องของอัตราเร่งที่ฉับไว รวดเร็ว แบบไม่ต้องใช้คันเร่งเยอะมากมาย เพราะแรงบิด 430 นิวตันเมตร ในรอบต่ำเพียง 2,250 – 2,500 รอบต่อนาที
ขณะที่บุคลิกของเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ก็ทำงานได้น่าประทับใจ จากการส่งต่อกำลังที่ราบเรียบ และต่อเนื่อง จนทำให้รู้สึกได้ ว่ามีแรงตอบสนองให้สัมผัสในทุกย่านความเร็ว
ส่วนต่อมา ระบบพวงมาลัย และระบบช่วงล่าง “ของดี” ที่ต้องบอกต่อ เพราะการปรับเซ็ทใหม่หมดจน ทำให้ All – New Mitsubishi Triton มอบความรู้สึกในการขับขี่ ที่รู้สึกได้เลยว่าความตึงตังในสไตล์รถกระบะ แบบที่เราๆ ท่านๆ คุ้นเคย ได้ถูกลดทอนลงไปมาก การดูดซับแรงสั่นสะเทือน ทำได้ดีขึ้นกว่าเดิม
รวมไปถึงการเก็บเสียงด้วยเช่นกัน สังเกตได้จากทั้ง “เสียง” และ “อาการ” ของรถ เช่น พวงมาลัยที่ไร้การสะท้าน ตลอดจนการทำงานของระบบช่วงล่าง ขณะขับผ่านรอยต่อถนน ที่ทำเอาทั้งผู้ขับขี่ และผู้โดยสาร ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า “เพลิน” … แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น
ต้องบอกก่อนว่า นี่คือ All – New Mitsubishi Triton รุ่นย่อย Double Cab Plus Ultra AT หรือ รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ ยกสูง ตัวถัง 4 ประตู พูดง่ายๆ คือ เปรียบได้กับ รถยนต์นั่ง
เพราะงั้นการปรับเซ็ทโดยส่วนใหญ่ จึงเน้นอารมณ์ความเป็นรถยนต์นั่ง มากกว่าเป็นรถเพื่อการพาณิชย์ หรือ รถปิคอัพ และนั่นเองก็คือเหตุผลที่ทำให้ All – New Mitsubishi Triton อัพเกรดจากความเป็นรถปิคอัพที่คุ้นเคย
มาเป็นรถปิคอัพที่มีส่วนผสมของยนตรกรรมอเนกประสงค์ เพื่อตอบโจทย์ความสบายในการใช้งานไม่ว่าจะทั้งในฐานะของผู้ขับขี่ หรือผู้โดยสารก็ตาม
ระบบพวงมาลัย อีกจุดที่เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี แต่บางทีก็ทำเอาเราๆ ท่านๆ หรืออีกหลายคนรู้สึกได้ว่าไม่คุ้นชิน เพราะจากเจเนอเรชั่นเดิมหากจำได้ ในความเร็วต่ำ น้ำหนักจะเบาแรง ชนิดที่สามารถหมุนพวงมาลัยแบบ “ล้างจาน” ได้
แต่กับ All – New Mitsubishi Triton ดูเหมือนการปรับเซ็ทใหม่ จะทำให้น้ำหนักในความเร็วต่ำเพิ่มขึ้น และรู้สึกได้ว่ามีความ “หนืด” มากขึ้น ซึ่งนั่นอาจส่งผลด้านความรู้สึกว่าใช้งาน “ยาก”
แต่เอาเข้าจริงๆ หากปรับตัวให้เข้ากัน คุณจะพบว่าความ “หนืด” ของน้ำหนักพวงมาลัย All – New Mitsubishi Triton ในย่านความเร็วต่ำ ไม่ได้ทำให้การใช้งานในเมืองเป็นเรื่องลำบากมากกว่า น้ำหนักพวงมาลัยเบาๆ ของเจเนอเรชั่นที่ผ่านมาเลยซักนิด
ในทางกลับกันมันสร้างความมั่นใจดีกว่าเดิมซะด้วยซ้ำ เพราะในความเร็วต่ำ ก็สามารถมอบเสถียรภาพการทรงตัวที่ดี และดีกว่าอย่างชัดเจน เมื่อยามที่ใช้ความเร็วสูง ด้วยส่วนประกอบสำคัญ เช่น
ระบบช่วงล่างที่จัดการกับพื้นถนนได้อย่างอยู่หมัด ไม่ส่งอาการสะท้านถึงพวงมาลัย ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่สามารถส่งต่อให้คุณสามารถสัมผัสได้ถึงเสถียรภาพการขับขี่แบบเต็มเม็ด เต็มหน่วย
และอย่างที่บอกครับ ว่าเมื่อประกอบกับอารมณ์ของยนตรกรรมอเนกประสงค์ SUV ที่ถูกใส่ลงมาด้วยล่ะก็ ยิ่งทำให้ All – New Mitsubishi Triton เต็มเปี่ยมไปด้วยความ “สบาย” สำหรับการใช้งาน แบบที่ไม่ต้องหวั่นใดๆ ทั้งสิ้น
แม้จะมีขนาดตัวที่ใหญ่โต แต่ก็สามารถให้ความคล่องแคล่ว ปราดเปรียวได้อย่างเฉียบคม แถมในความเร็วเดินทางปกติ หรือสูงกว่าปกติ ก็ยังมีสมรรถนะที่ดีแบบเหลือๆ
และทั้งหมดนี่แหละครับ คือ ความน่าสนใจด้าน “สมรรถนะ” ของ All – New Mitsubishi Triton รุ่นย่อย Double Cab Plus Ultra AT ขับเคลื่อน 2 ล้อ ยกสูง 4 ประตู ที่โดยความคิดส่วนตัวเราสรุปเลยว่า “ผ่าน” … แล้วก็อย่างที่บอกไว้ข้างต้นนะครับ
ว่าในเรื่องของ “งานดีไซน์” จุดนี้เรายกให้เป็นเรื่องความชอบส่วนบุคคล แล้วก็น่าจะรวมไปถึงในเรื่องของ “ออปชั่น” ด้วยดีกว่า เพราะเท่าที่ได้ใกล้ชิดกันอยู่พักใหญ่ ส่วนตัวเราคิดว่าเพียงพอ และตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างครบครัน
แต่สำหรับผู้บริโภคชาวไทยที่ส่วนใหญ่ต้องไปให้สุด หยุดที่ตัวท็อป บอกเลยว่าต้องอดใจรอไปก่อน เพราะจากการสังเกตดูดีๆ เราคิดว่ามีอะไรบางอย่างขาดหายไปบ้าง ซึ่งคาดเดาได้ว่าต้องไปโผล่อยู่ในร่างของรุ่นท็อปขับเคลื่อน 4 ล้อ 4WD แน่ๆ
ฉะนั้นที่เราต้องทำก็แค่ “รอ” … เพราะนอกจากเรื่อง “ออปชั่น” ที่มาเต็มกว่าแล้ว เรี่ยวแรงเองก็ยังมาเต็มอีกด้วยเช่นกัน การันตีว่าทะลุ 200 แรงม้าไปเป็นที่เรียบร้อย
Specification: All – New Mitsubishi Triton Double Cab Plus Ultra AT
- Price: 1,027,000 BHT
- Engine: Diesel / VG Turbo / Intercooler 2,442 CC / 4 Cylinder / 16 Valve / 184 hp @ 3,500 rpm / 430 Nm @ 2,250-2,500 rpm
- Transmission: 6A/T / Two Wheel Drive
- Performance: 0 – 100 Km/h @ N/A / Top Speed @ N/A
- Weight: N/A