รีวิว ลองขับ AUDI RS Q3 SPORTBACK ขุมพลังเบนซิน 2.5 ลิตร พร้อมเทอร์โบชาร์จ ให้พละกำลังสูงสุด 400 แรงม้า ทำความเร็วสูงสุดที่ 280 กม./ชม.
รีวิว ลองขับ AUDI RS Q3 SPORTBACK SUV 400 แรงม้า ราคา 4.85 ล้านบาท
AUDI RS Q3 SPORTBACK
หลังจากการมาถึงของ AMG จาก Mercedes และ M ของ BMW คราวนี้ก็ถึงทีของ Audi กันบ้าง! พวกเขายกทัพอนุกรม ‘RS’ รถพลังแรงของแบรนด์เข้ามาทำตลาดในเมืองไทยอย่างเป็นทางการได้สักระยะหนึ่ง และคราวนี้เราก็มีโอกาสได้สัมผัสกับหนึ่งในผลผลิตเหล่านั้น… Audi RS Q3 Sportback
SUV ขนาดกะทัดรัดคันนี้ มาพร้อมกับขุมพลังเบนซิน 5 สูบ แถวเรียง ความจุ 2.5 ลิตร พร้อมเทอร์โบชาร์จ ซึ่งเป็นแบบเดียวกับที่มีอยู่ใน RS3 และ TT RS ดังนั้น คุณจึงได้รถอเนกประสงค์ที่มีบุคลิกแทบไม่ต่างไปจากรถ Hot Hatch! Q3 วิ่งผ่านโค้งได้อย่างกระฉับกระเฉงคล่องแคล่ว ร่ายรำจากโค้งสู่โค้งไปพร้อมกับคุณราวกับคู่เต้นที่รู้ใจ
แน่นอนว่านี่เป็นผลลัพธ์จากสูตรสำเร็จของ Audi… ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Quattro… ที่เลื่องลือเรื่องการมอบแรงยึดเกาะระดับสูง ร่วมด้วยระบบบังคับเลี้ยวที่แม้จะให้ความรู้สึกแบบสังเคราะห์ไปบ้าง แต่ก็ยังคงสื่อสารความเป็นไปของล้อหน้ามาสู่มือของคุณได้อย่างเห็นภาพ, เฉียบคม, ฉับไว และให้น้ำหนักที่เป็นธรรมชาติ กับระบบเบรกที่ทรงพลังด้วยคาลิปเปอร์ 6 ลูกสูบ ทั้งหมดนี้ถูกรังสรรค์ให้ทำงานสอดรับกันอย่างกลมกลืน ส่งให้ Q3 เป็นรถที่น่าประทับใจอย่างยิ่งเมื่ออยู่บนเส้นทางที่คดเคี้ยว
และซาวด์แทร็คประกอบการตะลุยโค้งก็ยอดเยี่ยมเช่นกัน ออปชั่นท่อไอเสียแบบสปอร์ตที่ Audi ประเทศไทย ใจดีติดตั้งมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เปล่งเสียงคำรามที่อาจไม่หวานหูเท่าขุมพลัง V6 แต่ด้วย “สูบ 5” ที่เพิ่มขึ้นมา ส่งให้รถมีโทนเสียงดุดันและแปลกใหม่กว่าเครื่องยนต์ 4 สูบ ถึงจะไม่สนั่นลั่นทุ่งและมีเสียงปะทุ “ปุ้งปั้ง!” ให้ได้ยินไม่สะใจนัก เนื่องจากการใช้ตัวกรองอนุภาคน้ำมันเบนซิน ทว่าเท่าที่มีอยู่ตอนนี้ก็ช่วยเพิ่มอรรถรสในการขับขี่ได้เป็นอย่างดี
พลังสูงสุด 400 แรงม้า ร่วมด้วยแรงบิด 480 นิวตันเมตร ใน SUV คันจิ๋วที่มีน้ำหนักเพียง 1.7 ตัน? คุณคงจินตนาการถึงความแรงของ RS Q3 ได้ไม่ยากนัก ใช้เวลาเพียง 4.5 วินาที ในการพุ่งจากจุดหยุดนิ่งสู่ 100 กม./ชม. และทำความเร็วสูงสุดที่ 280 กม./ชม. แรงบิดมาเต็มเพดานตั้งแต่ 1,950 ไปจนถึง 5,850 รอบ/นาที
คือกุญแจสำคัญที่ส่งให้ RS Q3 มีชีวิตชีวา เมื่อรวมกับชุดเกียร์คลัตช์คู่ 7 จังหวะ ที่ใช้อัตราทดชิดในเกียร์ 1, 2, 3 และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ รถจึงสามารถเร่งออกจากโค้งได้อย่างฉับไว เช่นเดียวกับการแซงที่ความเร็วสูงบนมอเตอร์เวย์ ซึ่งแรงบิดทรงพลังพอที่จะพุ่งไปข้างหน้าต่อได้โดยไม่ต้องลดเกียร์ลงต่ำแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม หากคุณจำเป็นต้องคิกดาวน์ขณะอยู่ในโหมด Comfort อาจต้องรอสักอึดใจเนื่องจากการตอบสนองยังช้าไปหน่อย เมื่อเทียบกับโหมด Sport หรือการใช้แพดเดิล ที่เปลี่ยนเกียร์ขึ้นลงได้ฉับไวกว่าอย่างเห็นได้ชัด นี่เป็นเรื่องปกติของเกียร์แบบคลัตช์คู่ที่แม้จะสลับจากเกียร์สู่เกียร์ได้ในพริบตา
ทว่าต้องแลกมาด้วยความกระโชกโฮกฮากมากกว่าเกียร์ที่ใช้ทอร์คคอนเวอร์เตอร์ ส่งให้ต้องปรับซอฟแวร์ควบคุมการเปลี่ยนเกียร์เมื่ออยู่ในโหมด “นุ่มนวล” ให้ค่อยๆ จับและปล่อยคลัตช์เพื่อความราบรื่นขณะขับขี่แบบปกติ
และ RS Q3 ก็ราบรื่นไม่ต่างจาก SUV ทั่วไป… หากตัดเรื่องช่วงล่างที่ค่อนข้างขึงตึงออกไปแล้ว นี่คือรถที่คุณสามารถใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างสะดวกสบาย ด้วยขนาดที่กะทัดรัด, พวงมาลัยน้ำหนักเบาที่ความเร็วต่ำ และเครื่องยนต์แบบ Direct-injection ที่ประหยัดน้ำมัน เมื่อเทียบกับพละกำลังมหาศาลที่มันทำได้ (เราทำได้ราว 10 กม./ลิตร เมื่อขับแบบปกติ)
ห้องโดยสารกว้างขวางพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานที่อาจมีมาให้ไม่มากนัก แต่ก็ถือว่าครบถ้วนสำหรับการใช้งานทั่วไป ร่วมด้วยคุณภาพวัสดุระดับพรีเมี่ยม และการตัดเสียงรบกวนจากภายนอกได้ดี ช่วยให้คุณเพลิดเพลินไปกับการขับขี่ท่ามกลางความพลุกพล่านของเมืองได้เป็นอย่างดี
ที่ราคา 4.85 ล้านบาท เทียบกับพละกำลัง, แฮนด์ลิง และอุปกรณ์มาตรฐานต่างๆ Audi RS Q3 จึงเป็นรถที่คุ้มค่าอย่างยิ่ง โดยเฉพาะถ้าคุณต้องการ SUV ขนาดกะทัดรัด ที่ใช้งานได้ครอบคลุมตั้งแต่ขับไปทำงาน จนถึงสนุกกับขีดจำกัดสูงสุดของรถในวันหยุดสุดสัปดาห์ นี่คือตัวเลือกที่น่าสนใจทีเดียว
ในประเทศไทย RS Q3 มีจำหน่ายเฉพาะตัวถังแบบท้ายลาด ‘Sportback’ เท่านั้น นั่นหมายถึง ส่วนท้ายที่บีบต่ำลง 45 มม. จึงมีพื้นที่เหนือศีรษะของผู้โดยสารเบาะหลังจะน้อยกว่าตัวถังแบบมาตรฐาน ผู้นั่งที่ตัวสูงหน่อยอาจไม่ค่อยสบายนักหากต้องอยู่ตรงนี้เป็นเวลานานๆ ส่วนพื้นที่เก็บสัมภาระท้ายรถน้อยกว่า (ในแนวตั้ง) รุ่นท้ายปกติ 125 ลิตร ตัวถังตกแต่งด้วยกันชนหน้าและหลัง รวมถึงสปอยเลอร์หลังคา แบบ RS เมื่อรวมกับโป่งล้อทั้งสี่ที่กว้างขึ้น 10 มม. เมื่อเทียบกับ Q3 รุ่นมาตรฐาน ส่งให้เวอร์ชั่น RS ดูดุดันทรงพลังอย่างยิ่ง… คันทดสอบของเรามาพร้อมกับสีเทาเข้ม ‘Daytona Grey’ และยังมีสีพิเศษเฉพาะรุ่น RS ให้เลือก 2 สี คือ เทาอ่อน ‘Nardo Grey’ และสีที่เราแนะนำคือ สีเขียว ‘Kyalami Green’ ที่ให้อารมณ์แบบ Lamborghini Urus
ไฟหน้าและไฟท้ายเป็น LED ทั้งหมด ออกแบบให้ DRL และไฟหรี่ด้านหลัง เป็นเส้นแถบรูปแบบเดียวกันเพื่อเชื่อมโยงดีไซน์ของมุมมองด้านหน้าและหลังให้กลมกลืนกัน ชุดไฟหน้ามาพร้อมกับไฟสูงอัตโนมัติ Matrix LED ที่ทำงานได้ยอดเยี่ยม ขณะที่ไฟเลี้ยวทั้งหน้าและหลังเป็นแบบซีเควนเชียลตามสไตล์ของ Audi
เกรด RS ถูกเพิ่มความดุดันด้วยการตกแต่งสีดำเงา (แทนที่โครเมี่ยม, สีเงิน หรือสีเดียวกับตัวรถ ใน Q3 รุ่นมาตรฐาน) ที่โดดเด่นคือกันชนหน้าซึ่งมีช่องรับอากาศขนาดใหญ่ที่ไม่เพียงแค่ความสวยงามเท่านั้น ทว่าทุกช่องยังถูกใช้ประโยชน์จริงอีกด้วย กระจังหน้าแบบชิ้นเดียวขนาดมหึมาใช้สีดำล้วนไม่เว้นแม้กระทั่งสัญลักษณ์ “สี่ห่วง” ปลายท่อไอเสียก็ใช้สีดำเงาเช่นกัน โดยชุดท่อเป็นออปชั่น ‘RS Sport’ ที่ต้องสั่งติดตั้งเพิ่มในตลาดต่างประเทศ แต่ Audi ประเทศไทย ติดตั้งมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ซึ่งจะให้เสียงกระหึ่มกว่าท่อเดิมขึ้นไปอีกระดับ
เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร 5 สูบเรียง เทอร์โบ มีความยาวไม่ถึง 50 ซม. และเบากว่ารุ่นที่แล้วถึง 26 กก. โดย 18 กก. ของน้ำหนักที่ลดลง ได้มาจากการใช้เสื้อสูบอลูมิเนียม และยังลดได้อีก 1 กก. ด้วยเพลาข้อเหวี่ยงแบบกลวง ขณะที่พละกำลังซึ่งเพิ่มขึ้น 17 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้านี้ แม้จะมีความจุกระบอกสูบเท่าเดิม เป็นผลลัพธ์ของการลดความฝืดให้กับชิ้นส่วนเคลื่อนไหวต่างๆ อาทิ ใช้กระบอกสูบเคลือบด้วยพลาสมา และประกับข้อเหวี่ยงที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางเล็กลงถึง 6 มม. เป็นต้น
ใช้เกียร์ 7 จังหวะ คลัตช์คู่ ในการถ่ายทอดกำลัง การเปลี่ยนเกียร์ขึ้นลงทำได้ฉับไว และสนุกอย่างยิ่งเมื่อเปลี่ยนเกียร์เองผ่านแพดเดิลหลังพวงมาลัย อัตราทดเกียร์ได้รับการจัดสรรมาเป็นอย่างดี จึงเริ่มจากจุดหยุดนิ่งไปสู่ความเร็วสูงสุดได้อย่างรวดเร็ว, ไม่มีแผ่ว และต่อเนื่องลื่นไหล มีโหมดการขับขี่ให้เลือก 6 รูปแบบ ผ่านปุ่มบนคอนโซลกลาง (ด้วยการกดซ้ำๆ ไปเรื่อยๆ เพื่อเลือก) ซึ่งนั่นรวมถึงโหมด ‘Individual’ ที่คุณสามารถเลือกผสมผสาน Setting ต่างๆ ได้เอง และ Save แยกไว้ได้ 2 เซ็ต (RS1 และ RS2) โดยเรียกใช้ได้ง่ายดายด้วยการกดปุ่ม ‘RS’ บนพวงมาลัย… ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Quattro ของ RS Q3 จะส่งกำลังไปที่ล้อหน้าในสภาพการขับขี่ทั่วไป และสามารถส่งไปยังล้อหลังได้สูงสุดถึง 85 เปอร์เซ็นต์ ผ่านชุดคลัตช์แบบหลายแผ่นซ้อนกัน เมื่อต้องการแรงยึดเกาะเพิ่มขึ้น
แม้มีสัมผัสแบบสังเคราะห์มากไปหน่อย ทว่าระบบบังคับเลี้ยวไฟฟ้าของ RS Q3 ก็ยังนับว่ายอดเยี่ยม สื่อสารชัดเจน, ตอบสนอง และมีน้ำหนักกำลังดี เมื่อรวมกับระบบ Quattro แล้ว ส่งให้การบังคับควบคุมเฉียบคมอย่างมาก
ได้ล้อขนาด 21 นิ้ว ติดตั้งมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน (ซึ่งเป็นออปชั่นในตลาดต่างประเทศ) ร่วมกับยางขนาด 255/35 ทั้งสี่เส้น เบรกหน้าใช้ดิสก์ขนาด 375 มม. ร่วมกับคาลิเปอร์ ‘RS’ 6 สูบ สีแดงสด ซึ่งเป็นสีที่ต้องสั่งพิเศษเช่นกัน ขณะที่ดิสก์เบรกหลังขนาด 310 มม. และคาลิเปอร์แบบสไลด์ ขณะที่ช่วงล่าง ‘RS Sport’ สามารถปรับความ แข็ง/อ่อน ได้อัตโนมัติ สอดคล้องกับสภาพถนนและโหมดงานขับขี่ที่เลือก โดยใช้วาล์วไฟฟ้าเป็นตัวควบคุมการไหลของน้ำมันเข้าสู่แดมเปอร์
ห้องโดยสารกว้างขวางน่าพอใจ เมื่อเทียบกับขนาดตัวถัง คุณภาพวัสดุและการประกอบยอดเยี่ยมตามแบบฉบับของยนตรกรรมจากยุโรป ดีไซน์โดยรวมเป็นไปตาม Q3 รุ่นมาตรฐาน ซึ่งแฝงความสปอร์ตไว้อยู่แล้ว ด้วยการโฟกัสไปที่ผู้ขับทั้งแดชบอร์ส่วนกลางที่หันเข้าหาผู้ขับ 10 องศา ตลอดจนการจัดวางปุ่มและสวิตช์ต่างๆ ที่เอื้อให้ผู้ขับสามารถใช้งานได้สะดวก มีการเพิ่มความพิเศษเฉพาะรุ่น RS ด้วยพวงมาลัยแบบสปอร์ตและหัวเกียร์หุ้มหนัง Alcantara, ปุ่มสตาร์ทล้อมด้วยสีแดง, ตกแต่งด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ที่แดชบอร์ดฝั่งคนนั่ง และเข็มขัดนิรภัยคาดด้วยแถบสีแดง เป็นต้น
จอแสดงผลสำหรับผู้ขับขนาด 12.3 นิ้ว ติดตั้งเต็มพื้นที่ภายในกรอบที่ออกแบบให้มีรูปทรงเป็นแนวทางเดียวกับกระจังหน้า สามารถปรับเปลี่ยนได้หลายรูปแบบ และเรียกดูข้อมูลได้มากมาย ที่พิเศษกว่ารุ่นมาตรฐานคือ การแสดง Shift light เพื่อเตือนให้เปลี่ยนขึ้นสู่เกียร์ถัดไป เมื่อใช้การเปลี่ยนเกียร์แบบ Manual นอกจากนั้น ยังแสดงข้อมูลด้านสมรรถนะต่างๆ เช่น แรงบิด, แรงม้า, G-force, เวลาต่อรอบ และอัตราเร่ง ได้อีกด้วย โดยทั้งหมดนี้สามารถควบคุมได้จากปุ่มบนก้านพวงมาลัยฝั่งซ้าย
จอแสดงผลส่วนกลางขนาด 10.1 นิ้ว ระบบสัมผัส ที่ทำงานได้รวดเร็วไม่ต่างจาก Smartphone และให้ความคมชัดสูง รองรับทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมเครื่องเสียงระดับพรีเมี่ยมจาก SONOS ระบบเสียง 3 มิติ ส่วนอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอื่นๆ ไม่ได้มีอะไรหวือหวานัก แต่ก็อยู่ในระดับที่ครอบคลุมการใช้งานได้ทั้งหมด หากคุณโฟกัสเรื่องความสนุกในการขับขี่เป็นหลัก นี่คงไม่ใช่ปัญหาสำหรับคุณ เช่นเดียวกับระบบช่วยเหลือขณะขับขี่ที่มีให้เพียงระบบมาตรฐาน เช่น ถุงลมนิรภัยรอบคัน, ครูสคอนโทรลแบบควบคุมความเร็วคงที่เท่านั้น, EBD, TCS, ESC เป็นต้น
เบาะนั่ง ‘RS Sport’ รูปทรงสวยงามและกระชับลำตัว ทว่านั่งสบายมากทีเดียว หุ้มด้วยหนังแท้ Fine Nappa สลับกับ Alcantara พร้อมการปักแบบรังผึ้งและปั๊มสัญลักษณ์อักษร ‘RS’ ไว้ที่ใต้พนักพิงศีรษะ พื้นที่ว่างรอบๆ ตัว นับว่ากว้างขวางในทุกตำแหน่ง แต่ด้วยหลังคาทรงลาดของรุ่น Sportback ส่งให้พื้นที่เหนือศีรษะของผู้โดยสารเบาะหลังลดน้อยลงพอสมควร จึงไม่เหมาะสำหรับคนตัวสูงๆ นัก ตัวเบาะหลังสามารถปรับเอน, เลื่อนหน้าหลัง และพับเพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระจาก 530 เป็น 1,400 ลิตร ได้
SPECIFICATIONS: AUDI RS Q3 SPORTBACK
Price: ฿4,850,000
Engine: 2480cc 20v turbo 5-cyl, 400hp @ 5850-7000rpm, 480Nm @ 1950-5850rpm
Transmission: 7-speed dual-clutch, all-wheel drive
Performance: 4.5sec 0-100km/h, 280km/h top speed, 12.1km/l, 202g/km Co2
Weight: 1700kg