รีวิว ลองขับ Ford Everest 2.0L Bi-Turbo Titanium+ 4×4 รถยนต์นั่งแบบอเนกประสงค์รุ่นล่าสุด ที่มาพร้อมความสะดวกสบายเหนือระดับ และเทคโนโลยีล้ำสมัย
รีวิว ลองขับ Ford Everest 2.0L Bi-Turbo Titanium+ 4×4 เจเนอเรชันใหม่ล่าสุด
Next-Gen Ford Everest
ฟอร์ด ประเทศไทย เชิญคณะสื่อมวลชนร่วมกิจกรรมทดสอบขับรถฟอร์ด เอเวอเรสต์ เจเนอเรชันใหม่ ภายใต้แนวคิด ‘Life is Yours to Master’ จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อสัมผัสประสบการณ์การขับขี่รถยนต์นั่งแบบอเนกประสงค์รุ่นล่าสุดจากฟอร์ด ที่ผสานสุดยอดสมรรถนะเพื่อพิชิตทุกการผจญภัยทั้งบนทางเรียบและออฟโรด เข้ากับอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัย ความสะดวกสบายเหนือระดับ และเทคโนโลยีล้ำสมัย
ภายในงาน ฟอร์ดยังได้จัดแสดงรถฟอร์ด เอเวอเรสต์ เจเนอเรชันใหม่ ครบทั้ง 4 รุ่นย่อย ที่มีจำหน่ายในประเทศไทย ได้แก่ รุ่นเทรนด์ รุ่นสปอร์ต รุ่นไทเทเนียมพลัส 4×2 และรุ่นไทเทเนียมพลัส 4×4 ที่มาพร้อมตัวเลือกขุมพลังเครื่องยนต์ที่เหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกันของรถแต่ละรุ่นย่อย ได้แก่
- ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ไทเทเนียมพลัส 4×4 10AT: มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่ ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติแบบ E-Shifter 10 สปีด มอบพละกำลัง 210 PS ที่ 3,750 รอบต่อนาที ให้แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตรที่ 1,750-2,000 รอบต่อนาที ราคา 1,854,000 บาท
- ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ไทเทเนียมพลัส 4×2 10AT: ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่ มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติแบบ SelectShift 10 สปีด ให้กำลัง 210 PS ที่ 3,750 รอบต่อนาที ให้แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตรที่ 1,750-2,500 รอบต่อนาที ราคา 1,704,000 บาท
- ฟอร์ด เอเวอเรสต์ สปอร์ต 4×2 6AT: มาพร้อมเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบเดี่ยวทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ให้กำลัง 170 PS ที่ 3,500 รอบต่อนาที ให้แรงบิดสูงสุด 405 นิวตันเมตรที่ 1,750-2,500 รอบต่อนาที ราคา 1,464,000 บาท
- ฟอร์ด เอเวอเรสต์ เทรนด์ 4×2 6AT: ผสานการทำงานของเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบเดี่ยว กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ให้กำลัง 170 PS ที่ 3,500 รอบต่อนาที และให้แรงบิดสูงสุด 405 นิวตันเมตรที่ 1,750-2,500 รอบต่อนาที ราคา 1,334,000 บาท
ซึ่งรุ่นที่ทางทีมงานได้ร่วมทดสอบในครั้งนี้ คือ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ไทเทเนียมพลัส 4×4 10AT ในการขับขี่บนถนนและเส้นทางออฟโรด ระยะทางร่วม 40 กิโลเมตร สำหรับผู้หญิงไซซ์มินิ หลังจากที่ได้นั่งบนที่นั่งผู้ขับขี่ ปรับเบาะ ความสูงของเบาะที่นั่ง ความยาวของขาในการกดคันเร่งและเบรก พวงมาลัย กระจกมองหลัง กระจกมองข้างซ้าย-ขวา เมื่อทุกอย่างปรับได้ตามสรีระของผู้ขับแล้ว
เราเริ่มออกเดินทางบนเส้นทางถนนหลวง ลองใช้โหมดการขับขี่ต่างๆ ที่ติดตั้งมาในตัวรถ อาทิ โหมดปกติ: ออกแบบเพื่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน ทดสอบคู่กับระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติพร้อมฟังก์ชัน Stop and Go และระบบควบคุมรถให้อยู่กลางช่องทาง
ที่ช่วยตรวจสอบช่องทางจราจรเพื่อให้รถอยู่ตรงกลางเลน ช่วยให้ผู้ขับขี่รักษาระยะห่างที่ปลอดภัย และจำกัดความเร็วได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะขณะขับขี่บนทางไฮเวย์ หรือเส้นทางที่ใช้ความเร็วสูงและมีรถพลุกพล่าน
โหมดประหยัด: ทำงานด้วยการประเมินพฤติกรรมการขับขี่ และปรับการทำงานของระบบส่งกำลังและระบบควบคุมความเร็วให้เหมาะสม เพื่อเพิ่มอัตราการประหยัดน้ำมันให้ได้สูงสุด
ฟอร์ด เอเวอเรสต์ เจเนอเรชันใหม่ มาพร้อมถุงลมนิรภัย 7 จุด และเทคโนช่วยการขับขี่ขั้นสูง ระบบความปลอดภัย อาทิระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ พร้อมระบบ Stop&Go และระบบควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง (Adaptive Cruise Control with Stop-and-Go and Lane Centering),
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง พร้อมตัวช่วยตรวจจับเส้นถนน (Lane Keeping System with Road Edge Detection), ระบบเตือนการชนด้านหน้า (Forward Collision Warning Brake Support), ระบบช่วยหักพวงมาลัยเลี่ยงการปะทะ (Evasive Steer Assist)
ซึ่งฟังก์ชั่นการใช้งานตอบสนองได้อย่างดี รวมทั้งเกียร์อัตโนมัติ Electronic Shifter (E-Shifter) ที่ใช้งานง่าย เหมาะมือ น้ำหนักพวงมาลัยไม่หนักเกินไป ระบบเบรกสมูท นิ่ม ห้องโดยสารเก็บเสียงได้ดี เบาะที่นั่งที่โอบกระชับ ไม่รู้สึกเมื่อยตัวเมื่อขับขี่ สายเบลท์ที่รัดพอดี ไม่พาดคอให้รู้สึกอึดอัดแต่อย่างใด ทำให้เราขับขี่ได้อย่างสบายตลอดการทดสอบในครั้งนี้
และเมื่อถึงเส้นทางออฟโรด เราได้ลองฟังก์ชั่น โหมดทางลื่น: ปรับการทำงานของเครื่องยนต์ เกียร์ และระบบควบคุมการยึดเกาะถนน เพื่อลดโอกาสที่ล้อจะหมุนฟรี ป้องกันการลื่นไถล)
โหมดโคลน: พื้นที่ผิวที่ปกคลุมด้วยโคลน กรวด หรือร่องดิน ฟอร์ด เอเวอเรสต์ เจเนอเรชันใหม่ พร้อมตะลุยผ่านได้อย่างมั่นใจด้วยระบบดิฟล็อคหลังไฟฟ้าที่ทำงานแบบอัตโนมัติในโหมดนี้ พร้อมเพิ่มการยึดเกาะให้เต็มประสิทธิภาพและรักษากำลังของรถไว้ ควบคู่กับการปล่อยให้ล้อหมุนด้วยความเร็วเพื่อรีดโคลนออกจากดอกยาง
พร้อมลุยผ่านทางน้ำได้อย่างง่ายดาย ด้วยความสามารถในการลุยน้ำได้สูงสุดถึง 800 มม. และทัศนวิสัยที่เพิ่มขึ้นจากกล้องมองรอบคัน 360 องศา
นอกจากประสบการณ์ขับขี่บนทางเรียบและออฟโรดแล้ว ทางทีมงานยังได้สัมผัสเทคโนโลยีที่ฟอร์ดพัฒนาขึ้นเพื่อมอบทั้งความอเนกประสงค์และความสะดวกสบายในสถานี ‘Comfort and Convenience’ โดยมีฟีเจอร์เด่นๆ อาทิ
ฟอร์ดพาส (FordPass™): แอปพลิเคชันที่ยกระดับประสบการณ์การเป็นเจ้าของรถฟอร์ดได้ทุกที่ ทุกเวลา ด้วยบริการเชื่อมต่อและฟีเจอร์อำนวยความสะดวกที่หลากหลาย เช่น การสตาร์ทรถ ล็อกและปลดล็อก ปรับอุณหภูมิรถล่วงหน้า และตรวจสอบสถานภาพของรถผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน
เบาะที่นั่งปรับได้ตามการใช้งาน: นอกจากจะรองรับผู้โดยสารได้สูงสุดถึง 7 ที่นั่งแล้ว เบาะนั่งแถวที่ 2 ของฟอร์ด เอเวอเรสต์ เจเนอเรชันใหม่ ยังปรับให้พับราบได้แบบ 60:40 ส่วนเบาะนั่งแถวที่ 3 แบ่งสัดส่วน 50:50 พร้อมฟังก์ชั่นการพับเบาะแบบไฟฟ้าได้ง่ายๆ เพียงกดปุ่มบริเวณที่เก็บของท้ายรถในรุ่นไทเทเนียมพลัส ผู้ขับขี่จึงขนของที่มีขนาดใหญ่ได้อย่างสะดวกสบายและปลอดภัย
ห้องโดยสารกว้างขวาง: ห้องโดยสารของฟอร์ด เอเวอเรสต์ เจเนอเรชันใหม่ กว้างขวางและนั่งสบายได้ทั้งครอบครัว ใส่ใจในรายละเอียดด้วย ‘จุดดักแอปเปิ้ล’ หรือแนวแผงกั้นบริเวณท้ายรถ ช่วยกันไม่ให้ของตกเมื่อเปิดประตูท้าย พร้อมที่เก็บของใต้พื้นรถ ช่วยให้การเก็บสัมภาระเป็นระเบียบยิ่งขึ้น
หน้าจอความละเอียดสูงแบบสัมผัสแนวตั้งขนาดใหญ่: ฟอร์ดติดตั้งหน้าจอสีแบบสัมผัสขนาด 10.1 หรือ 12 นิ้ว มาในฟอร์ด เอเวอเรสต์ เจเนอเรชันใหม่ เพื่อให้ผู้ขับขี่ควบคุมอุปกรณ์เพื่อความบันเทิงและเชื่อมต่อการสื่อสารผ่านระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC® 4A ซึ่งเป็นระบบล่าสุดของฟอร์ด
และในสถานี ‘Smart Technology’ เรายังได้ลองใช้เทคโนโลยีช่วยในการขับขี่ขั้นสููง ที่ติดตั้งมาเพื่อเสริมความมั่นใจของผู้ขับขี่ และช่วยให้ควบคุมรถได้ดียิ่งขึ้นในหลากหลายสถานการณ์ ได้แก่
ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ 2.0: ฟอร์ด เอเวอเรสต์ เจเนอเรชันใหม่ ช่วยให้ผู้ขับขี่จอดรถเทียบข้าง หรือถอยจอดเข้าซองได้ง่ายๆ เพียงกดปุ่มเดียว โดยระบบจะช่วยหมุนพวงมาลัย เปลี่ยนเกียร์ รวมถึงควบคุมคันเร่งและเบรก ให้รถเข้าสู่ช่องจอดได้อย่างง่ายดาย
ระบบช่วยเบรกขณะถอยหลัง: ช่วยให้ผู้ขับขี่ถอยรถได้มั่นใจยิ่งขึ้น ด้วยการตรวจจับวัตถุบริเวณท้ายรถ และส่งเสียงเตือน หากผู้ขับขี่ไม่สามารถตอบสนองได้ทัน ระบบจะส่งแรงเพื่อเบรกจนรถหยุดนิ่ง
รายละเอียดราคาฟอร์ด เอเวอเรสต์ เจเนอเรชันใหม่
รายละเอียด |
ราคา |
เทคโนโลยีช่วยการขับขี่ขั้นสูง: ฟอร์ด เอเวอเรสต์ แพ็คเกจ A |
ชุดแผ่นโลหะกันกระแทกใต้ท้องรถ |
ภายในสีครีมพราลีน |
สีเงิน อลูมิเนียม เมทัลลิก |
สีเทา เมทิออร์ เกรย์ |
สีดำ แอบโซลูท แบล็ก |
สีน้ำเงิน บลู ไลท์นิ่ง |
สีน้ำตาล อีควิน็อกซ์ บรอนซ์ |
สีขาว สโนว์เฟลค ไวท์ เพิร์ล |
สีส้ม เซโดนา ออเรนจ์ |
ฟอร์ด เอเวอเรสต์ เทรนด์ 4×2 6AT |
1,334,000 |
|
|
||||||||
|
|
|
|
|
|
|
|
+12,000 บาท |
+12,000 บาท |
||
ฟอร์ด เอเวอเรสต์ สปอร์ต 4×2 6AT |
1,464,000 |
|
|
||||||||
+60,000 บาท |
|
|
|
|
|
|
|
+12,000 บาท |
+12,000 บาท |
||
ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ไทเทเนียมพลัส 4×2 10AT |
1,704,000 |
|
|
||||||||
|
|
+10,000 บาท |
|
|
|
|
|
+12,000 บาท |
+12,000 บาท |
||
ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ไทเทเนียมพลัส 4×4 10AT |
1,854,000 |
|
|||||||||
|
+5,000 บาท |
+10,000 บาท |
|
|
|
|
|
+12,000 บาท |
+12,000 บาท |
ฟอร์ด เอเวอเรสต์ เจเนอเรชันใหม่ ทุกรุ่นมาพร้อมการรับประกันคุณภาพรถใหม่จากโรงงานนาน 5 ปี หรือ 150,000 กม. (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน)
- พิเศษ อัตราดอกเบี้ย 1.99% และฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง (Ford Ensure) ในปีแรก
- พร้อมส่งมอบรถให้แก่ลูกค้าตั้งแต่ช่วงต้นเดือนสิงหาคม 2565 เป็นต้นไป
ผู้ที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับรถฟอร์ด เอเวอเรสต์ เจเนอเรชันใหม่ ทุกรุ่นได้ที่เว็บไซต์ www.ford.co.th และที่โชว์รูมฟอร์ดทั่วประเทศ ตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคม 2565 เป็นต้นไป