รีวิว ลองขับ FORD RANGER RAPTOR เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบคู่ V6 ขนาด 3.0 ลิตร ให้พลังสูงสุด 397 แรงม้า หรือมากกว่ารุ่นที่แล้วถึง 184 แรงม้า!
รีวิว ลองขับ FORD RANGER RAPTOR กระบะพันธุ์แกร่ง ราคา 1,869,000 บาท
Next-Gen Ford Ranger Raptor
หลังจากประสบความสำเร็จกับเจเนอเรชั่นแรกไปแล้ว ดูเหมือนว่า Ford จะเห็นแววรุ่งของ Raptor และครั้งนี้เป็นการ “เอาจริง” ด้วยการโฟกัสไปที่การขับขี่แบบ Baja ลืมเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่ ไปได้เลย เพราะใน Raptor ใหม่ มาพร้อมกับขุมพลังที่เพิ่มขึ้นจากเดิมเกือบ 1 เท่าตัว จากเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบคู่ V6 ขนาด 3.0 ลิตร ให้พลังสูงสุด 397 แรงม้า หรือมากกว่ารุ่นที่แล้วถึง 184 แรงม้า!
จาก Ranger รุ่นมาตรฐาน ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่โดยเน้นไปที่คุณภาพการขับขี่ ด้วยฐานล้อกว้างขึ้น 50 มม. และเลื่อนช่วงล่างหน้าให้ขยับไปทางปลายด้านหน้าของรถเพิ่มขึ้นจากโมเดลก่อนหน้านี้ 50 มม. เป็นพื้นฐานที่ดีให้ทีมวิศวกรของ Ford Performance นำมาต่อยอดให้กับ Raptor ตอนนี้รถรุ่นใหม่มีเครื่องยนต์ที่ติดตั้งไว้แบบวางกลางลำ (Mid-front engine) ส่งให้รถมีการกระจายน้ำหนัก หน้า/หลัง ที่ยอดเยี่ยมกว่าเดิม
คุณจะสัมผัสสิ่งนี้ได้ชัดเจนเมื่ออยู่ในโค้ง… แม้ Raptor จะมาพร้อมกับส่วนสูงแบบรถ Off-road และดอกยาง All-terrain ทว่าการยึดเกาะแม้บนถนนลาดยางกลับไม่ธรรมดา ต้องขอบคุณช่วงล่างปีกนกอลูมิเนียมคู่ที่ล้อหน้า และ Watt’s Link ด้านหลัง ซึ่งทำงานร่วมกับแดมเปอร์จาก Fox ทั้งหมด
ร่วมด้วยเนื้อยางสูตรพิเศษที่คราวนี้ BF Goodrich ออกแบบให้แมตช์กับระบบ Live Valve ที่สามารถปรับความ อ่อน/แข็ง ได้ ของแดมเปอร์ชุดนี้โดยเฉพาะ ในกรณีนี้ เราอยู่ในโหมด Sport ที่เซ็ตติ้งของช่วงล่างจะขึงตึงขึ้น ตัวรถจึงมีการเอียงตัวไม่มากนักขณะอยู่ในโค้ง พวงมาลัยที่ให้น้ำหนักกำลังดีและตอบสนองฉับไวกว่ารถกระบะทั่วไป
คืออีกหนึ่งกุญแจสำคัญที่เติมเต็มความมั่นใจให้กับคุณ แฮนด์ลิงโดยรวมของรถจึงยอดเยี่ยม ให้ความรู้สึกราวกับกำลังขับ SUV คุณภาพสูงจากยุโรป ทั้งคล่องแคล่ว, เกาะถนนได้ดีกว่าที่คาดไว้ และแน่นอนครับ… เร็วเป็นพายุ!!!
แต่นั่นเป็นเพียงการเผยศักยภาพบางส่วนของ Raptor เท่านั้น เพชรยอดมงกุฎอยู่ในโหมด Baja ที่ซึ่งเป็นแก่นแท้ในการสร้างรถรุ่นใหม่คันนี้ขึ้นมา และนิยามตัวตนของมันเองโดยไม่จำเป็นต้องสรรหาคำใดๆ มาอธิบายให้มากความ เพียงชั่วอึดใจหลังจากปรับเข้าสู่โหมดนี้ คุณจะได้ยินเสียงคำรามดังกระหึ่มราวกับคำกล่าวต้อนรับจากปิศาจร้าย เครื่องยนต์ถูกปรับให้ถ่ายทอดพละกำลังทั้งหมดออกมา
ขณะที่ชุดเกียร์, ระบบขับเคลื่อน, ระบบควบคุมแทร็คชั่น, ช่วงล่าง และการตอบสนองของคันเร่งและพวงมาลัย ต่างตอบรับเซ็ตติ้งนักสู้ของเครื่องยนต์ด้วยการเข้าสู่ตำแหน่งพร้อมรบ
บนถนนลูกรังสายเก่าที่รกร้างว่างเปล่า เสียงแผดจากปลายท่อทั้งสองที่เปิดหมดเปลือก ดังกึกก้องห้องโดยสารทันทีที่กดคันเร่งมิดพรม ยาง BF Goodrich ทั้งสี่ ต่างพร้อมใจกันตะกุยไปข้างหน้า เห็นเป็นฝุ่นคละคลุ้งและเสียงระรัวของกรวดหินน้อยใหญ่ที่กระเด็นใส่ตัวรถ Raptor กระโจนออกไปอย่างรวดเร็ว
มือขวาของคุณกดที่แพดเดิลแมกนีเซียมอย่างเป็นระวิงเพื่อเปลี่ยนสู่เกียร์ 2 และ 3 จากรอบเครื่องที่ประเคนเข้ามาเพียงชั่วอึดใจจากเกียร์สู่เกียร์ พวงมาลัยสะบัดไปมาเพราะล้อหน้าที่กระแทกกระทั้นไปตามความขรุขระของผิวทาง ในขณะที่ช่วงล่างพยายามดันยางรถให้กลับมากดติดพื้นอยู่เสมอ
เป็นอีกครั้งที่ต้องยกความดีความชอบให้กับปีกนกอลูมิเนียม, Watt’s Link และระบบ Live Valve ของแดมเปอร์จาก Fox องค์ประกอบทั้งหมดนี้ถูกเซ็ตให้มีระยะ Travel (ยืดสุด-ถึง-ยุบสุด) มากเป็นพิเศษ ตามสไตล์ของรถแข่ง Baja นั่นหมายถึง ระบบ Live Valve สามารถปรับความหนืดของแดมเปอร์ให้นุ่มพอที่จะยุบจน (เกือบ) สุด เพื่อดูดซับแรงกระแทกได้ ทว่าเพียงพอที่จะดันกลับได้เร็วเพื่อให้ล้อลงมาแนบกับพื้นอย่างทันท่วงที
คุณจะจินตนาการได้ถึงล้อทั้งสี่ที่กำลังเต้นระรัว ขึ้น-ลง อยู่เบื้องล่าง ขณะนั่งอยู่ในห้องโดยสารที่โคลงเคลงไปมาอย่างช้าๆ แต่มั่นคง แม้ที่ความเร็วมากกว่า 160 กม./ชม. บนทางตรงของถนนลูกรังที่ทอดยาวเป็นเนินสูงต่ำไปเบื้องหน้า กระทั่งถึงทางโค้ง คุณถอนคันเร่ง (พร้อมเสียงปะทุ “ปุ้งปั้งๆๆ !!!) เริ่มเหยียบเบรก และกดแพดเดิลฝั่งซ้ายเพื่อลดเกียร์ลงต่ำจนหน้ารถมุดต่ำลง
จากนั้นหักเลี้ยวเพื่อส่ง Raptor เข้าสู่โค้ง การใช้เบรกขณะอยู่ในโค้ง เป็นไปได้ในรถคันนี้ แม้จะใช้ระบบเบรกของรุ่นก่อนหน้านี้ทั้งหมด ทว่าระบบ ABS ได้รับการปรับแต่งซอฟต์แวร์ใหม่ เพื่อเปิดให้คุณสามารถใช้เบรกควบคุมความเร็วและอาการของรถระหว่างอัดใส่โค้งได้มากขึ้น เครื่องยนต์ที่อยู่ในตำแหน่ง “กลางลำ” และความยาวฐานล้อที่เพิ่มขึ้น 50 มม.
คือองค์ประกอบที่เสริมทัพให้การบังคับควบคุมรถขณะอยู่ในโค้งเป็นไปโดยสวัสดิภาพจนถึงทางออก ที่ซึ่งแรงบิดระดับมหากาฬถึง 583 นิวตันเมตร จากขุมพลัง V6 เทอร์โบคู่ และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ จะช่วยส่งร่างมหึมาและน้ำหนักกว่า 2.4 ตัน ของ Raptor ให้ดีดตัวออกไปข้างหน้าได้ราวกับ Hot Hatch คันจิ๋ว!
แต่สิ่งที่ไม่จิ๋วคืออัตราสิ้นเปลือง… หลังจากการขับบนขีดจำกัดสูงสุด (ในโหมด Sport และ Baja) เพียงไม่กี่ กม. หน้าจอแสดงผลการใช้เชื้อเพลิงที่ 2.4 กม./ลิตร ขณะที่การขับขี่แบบปกติจนถึงลองขับแบบ “ยั้ง” เพื่อให้ประหยัดที่สุด ก็ยังไม่เกินไปกว่า 6.5 กม./ลิตร
นั่นเป็นค่าเฉลี่ยที่น่าขนลุกมากๆ หรือแม้จะเป็นตัวเลขเคลมจากโรงงานผู้ผลิตที่ระบุไว้ 8.7 กม./ลิตร (เฉลี่ย) ก็ตาม เพราะนั่นเป็นตัวเลขเทียบเท่ากับ Mustang เครื่องยนต์ V8 5.0 ลิตร ซึ่งให้พลังถึง 450 แรงม้า เช่นเดียวกับการคายมลพิษที่ 262 กรัม/กม. ซึ่งใกล้เคียงกับ Mustang V8 เช่นกัน
และนั่นคือประเด็นหลักที่ทำให้ต้องถอยกลับมาคิดให้ดี จริงอยู่ที่ Raptor ทั้งทรงพลัง, ขับสนุก และยอดเยี่ยมแม้การขับขี่ทั่วไป จนกล่าวได้ว่า นี่คือพาหนะที่ใช้งานได้อรรถประโยชน์ ตั้งแต่ขับในเมือง… เอิ่ม… อาจยุ่งยากเล็กน้อยจากขนาดตัวถัง… ไปจนถึงการบุกป่าฝ่าดงแบบ Off-road (Diff-lock ทั้งหน้าและหลัง คืออาวุธลัพธ์ชั้นยอด)
และที่สุดของที่สุดคือการทำความเร็วบนทางวิบาก ทว่าด้วยอัตราสิ้นเปลืองและการคายมลพิษระดับนี้ Raptor จึงไม่คู่ควรกับการเป็นรถคันเดียวของคุณ เพื่อขับใช้งานทุกวัน แต่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับใช้เป็นพาหนะในวันหยุดสุดสัปดาห์
โดยเฉพาะในโหมด Baja!!!
SPECIFICATIONS: FORD RANGER RAPTOR
- Price: ฿1,869,000
- Engine: 3.0l petrol V6 twin-turbo EcoBoost, 397ps @ 5650rpm, 583Nm @ 3500rpm
- Transmission: 10-speed automatic, part-time 4WD with all-wheel drive mode
- Performance: under 7.0sec 0-100km/h, 200+km/h top speed, 8.7l/km, 262g/km Co2
- Weight: 2475kg