Breaking News

รีวิว ลองขับ FORD RANGER WILDTRAK 2022 จิตวิญญาณกระบะอเมริกันที่แท้จริง

รีวิว ลองขับ FORD RANGER WILDTRAK DOUBLE CAB 2.0L BI-TURBO 4X4 10AT ขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่ 210 แรงม้า ราคา 1,299,000 บาท

รีวิว ลองขับ FORD RANGER WILDTRAK 2022 มาพร้อมเทคโนโลยีไฮเทคยิ่งขึ้น

รีวิว ลองขับ FORD RANGER WILDTRAK 2022 มาพร้อมเทคโนโลยีไฮเทคยิ่งขึ้น

Next-Gen Ford Ranger Wildtrak 

รถกระบะที่เรารัก กลับมาอีกครั้งพร้อมเทคโนโลยีไฮเทคยิ่งขึ้น, อุปกรณ์อำนวยความสะดวกคับคั่ง และยังคงไว้ซึ่งแฮนด์ลิงที่ใกล้เคียงกับรถยนต์นั่ง อันเป็นจุดเด่นที่ Ranger มีมาตั้งแต่โมเดลก่อนหน้านี้ ต้องยกความดีความชอบนี้ให้กับระบบบังคับเลี้ยวไฟฟ้าที่ตอบสนองฉับไวและหมุนจากล็อคสู่ล็อคด้วยระยะสั้นกว่ารถกระบะรุ่นอื่นๆ แม้จะไม่สื่อสารแบบชัดถ้อยชัดคำเหมือนรถยนต์นั่ง ทว่าเท่าที่ทำได้ตอนนี้ก็นับว่าน่าปรบมือให้ดังๆ แล้ว

รถรุ่นใหม่คันนี้ มีระยะฐานล้อยาวขึ้น 50 มม. แต่จุดประสงค์ไม่ใช่เพื่อเพิ่มพื้นที่ห้องโดยสารหรือกระบะท้ายรถ ความยาวที่เพิ่มขึ้นมาจากการย้ายตำแหน่งช่วงล่างด้านหน้าให้เลื่อนเดินหน้ามามากยิ่งขึ้น ช่วยให้รถมีโอเวอร์แฮงก์สั้นลงซึ่งส่งผลโดยตรงคือ มีมุมปะทะ (สำหรับการปีนไต่ขึ้นทางลาดชัน) เพิ่มขึ้น

ขณะที่ผลลัพธ์ทางอ้อมนั้นน่าประทับใจกว่าหลายเท่า… ช่วงล่างที่ขยับไปด้านหน้า 50 มม. หมายถึง Ranger ใหม่ กลายเป็นรถกระบะเครื่องยนต์วางกลางลำด้านหน้าอีกคันในกลุ่ม (คันแรกคือ Isuzu D-Max) เมื่อเปิดฝากระโปรงขึ้น คุณจะเห็นชัดเจนว่า ตอนนี้เครื่องยนต์ติดตั้งอยู่หลังแนวของช่วงล่างหน้า ส่งให้รถมีสมดุล หน้า:หลัง ที่ดีขึ้น และคุณจะสัมผัสได้เมื่ออยู่บนเส้นทางคดเคี้ยว

แม้ช่วงล่างจะเซ็ตมาค่อนข้างนุ่ม ทว่าอาการอันเดอร์สเตียร์ลดลงอย่างเห็นได้ชัดเมื่ออยู่ในโค้ง การเอียงตัวค่อนข้างมาก เป็นปกติของรถกระบะ “ยกสูง” เช่นเดียวกับโอเวอร์สเตียร์ระหว่างวิ่งผ่านโค้ง จนระบบควบคุมการยึดเกาะต้องเข้ามาแทรกแซงเพื่อประคับประคองรถ อย่างไรก็ตาม พวงมาลัยที่ฉับไวช่วยให้การบังคับควบคุมง่ายยิ่งขึ้น ทั้งยังมอบความมั่นใจได้แม้จะอยู่บนขีดจำกัดสูงสุดของยางก็ตาม

ที่การขับขี่ทั่วไป Ranger ใหม่ มอบความสบายในการเดินทางราวกับรถยนต์นั่ง เป็นอีกครั้งที่ต้องขอบคุณฐานล้อที่ยาวขึ้น จึงช่วยให้รถวิ่งได้นุ่มนวล ช่วงล่างด้านหลังอาจจะมีอาการกระเด้งกระดอนอยู่บ้าง เนื่องจากยังต้องคำนึงถึงการรับน้ำหนักบรรทุกร่วมด้วย แต่ก็อยู่ในเกณฑ์ที่ให้ความนุ่มนวลได้ดีพอใช้

สามารถดูดซับแรงสั่นสะเทือนขณะวิ่งผ่านผิวทางขรุขระได้โดยมีการลอยตัวของยาง (ออกจากพื้นถนน) อยู่บ้างเล็กน้อย เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่ และเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ ให้อัตราเร่งที่ดีในช่วงรอบต่ำถึงกลาง แต่เริ่มตอบสนองช้าลงที่รอบสูงๆ เมื่อรวมกับการทำงานของเกียร์ที่พยายามเปลี่ยนสู่เกียร์สูงเสมอ ทำให้ที่ความเร็วสูง คุณต้องคิกดาวน์ทุกครั้งหากต้องเร่งแซง

สิ่งที่น่าชื่นชมเป็นพิเศษคือการลดเสียงรบกวนจากภายนอก ที่ Ford ทำได้อย่างน่าประทับใจ ห้องโดยสารเงียบสงบทั้งการขับขี่ท่ามกลางความจอแจของการจราจรในเมือง ไปจนถึงการใช้ความเร็วมากกว่า 100 กม./ชม. บนทางด่วนตลอดจนเดินทางไกลด้วยมอเตอร์เวย์หรือ

ถนนเชื่อมระหว่างจังหวัด เมื่อรวมกับพื้นที่กว้างขวางตามประสารถกระบะและเบาะตัวใหญ่นั่งสบาย ส่งให้ Ranger เป็นรถกระบะที่คุณสามารถใช้เป็นพาหนะสำหรับเดินทางท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี

ที่ราคา 1.3 ล้านบาท สำหรับเกรดสูงสุดเหมือนคันทดสอบของเรา ส่งให้ Ranger ใหม่ เป็นรถกระบะที่มีค่าตัวสูงที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์ไทย (ไม่นับรวมรุ่นพิเศษ Raptor) แต่เมื่อเทียบกับประสิทธิภาพการขับขี่ และอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ตลอดจนระบบความปลอดภัย ที่ติดตั้งมาให้อย่างเต็มพิกัด จนแทบจะเทียบเท่ากับรถซีดานระดับท้อปแล้ว Ford Ranger ใหม่ นับเป็นรถที่คุ้มค่าอย่างยิ่ง

รีวิว ลองขับ FORD RANGER WILDTRAK 2022 มาพร้อมเทคโนโลยีไฮเทคยิ่งขึ้น

รีวิว ลองขับ FORD RANGER WILDTRAK 2022 มาพร้อมเทคโนโลยีไฮเทคยิ่งขึ้น

รีวิว ลองขับ FORD RANGER WILDTRAK 2022 มาพร้อมเทคโนโลยีไฮเทคยิ่งขึ้น

รีวิว ลองขับ FORD RANGER WILDTRAK 2022 มาพร้อมเทคโนโลยีไฮเทคยิ่งขึ้น

รีวิว ลองขับ FORD RANGER WILDTRAK 2022 มาพร้อมเทคโนโลยีไฮเทคยิ่งขึ้น

รีวิว ลองขับ FORD RANGER WILDTRAK 2022 มาพร้อมเทคโนโลยีไฮเทคยิ่งขึ้น

รีวิว ลองขับ FORD RANGER WILDTRAK 2022 มาพร้อมเทคโนโลยีไฮเทคยิ่งขึ้น
รูปทรงของไฟหน้าออกแบบให้คล้ายกับปากกาจับชิ้นงาน (C-clamp) เพื่อสื่อถึงอรรถประโยชน์ของรถ ไฟหน้าที่จัดเรียงตามแนวตั้ง ประกอบด้วยไฟหลักดวงล่างชนิด LED และไฟสูงด้านบนชนิด Matrix ที่ไม่เพียง เปิด-ปิด อัตโนมัติ แต่ยังสามารถปรับการส่องสว่างของลำแสงด้วยการดับไม่ให้แยงตารถคันอื่นๆ ได้อีกด้วย กล่าวคือ เมื่อไฟสูงทำงาน หากระบบตรวจจับรถด้านหน้าได้ (ทั้งคันที่วิ่งไปทิศทางเดียวกัน และรถที่กำลังวิ่งสวนทางมา) ระบบประมวลผลจะทำการดับไฟบาง Diode ในช่วงแสงที่ส่องไปโดนรถคันนั้นๆ เพื่อไม่ให้แสงไปรบกวนสายตาผู้ขับขี่ คุณจะเห็นแนวมืดทอดยาวครอบคลุมรถคันนั้นๆ ได้อย่างชัดเจน โดยระบบจะแทร็ครถคันนั้นๆ จนกว่าคุณจะแซงผ่านไป กรณีขับตามหลัง หรือจนรถที่วิ่งสวนมาแล่นผ่านไป… ไฟเลี้ยวและสปอตไลต์ก็เป็น LED เช่นกัน

รีวิว ลองขับ FORD RANGER WILDTRAK 2022 มาพร้อมเทคโนโลยีไฮเทคยิ่งขึ้น

รีวิว ลองขับ FORD RANGER WILDTRAK 2022 มาพร้อมเทคโนโลยีไฮเทคยิ่งขึ้น

รีวิว ลองขับ FORD RANGER WILDTRAK 2022 มาพร้อมเทคโนโลยีไฮเทคยิ่งขึ้น

รีวิว ลองขับ FORD RANGER WILDTRAK 2022 มาพร้อมเทคโนโลยีไฮเทคยิ่งขึ้น
ราวหลังคาสามารถรับน้ำหนักได้สูงสุดถึง 350 กก. โดย Ford แนะนำให้วางน้ำหนักสูงสุดที่ 85 กก. หากต้องขับขี่ สปอร์ตบาร์ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับเกรด Wildtrak ตัวกระบะมีความกว้างเพิ่มขึ้น 50 มม. มาพร้อมกับช่องต่อไฟ 12 และ 230 โวลต์ (400 วัตต์) ฝาท้ายพร้อมระบบช่วยผ่อนแรงและระบบล็อค (พร้อมกับการล็อคประตู) มีช่องสำหรับยึดปากกาจับงานมาให้ด้วย ส่วนบันไดด้านข้างกระบะ เป็นผลลัพธ์จากการสำรวจความต้องการของผู้ใช้ ที่มักจะเหยียบยางล้อหลังเพื่อปีนขึ้นไปขยับจัดวางสิ่งของท้ายกระบะ… ยินดีด้วยครับ… ตอนนี้คุณไม่ต้องลำบากขนาดนั้นอีกแล้ว

รีวิว ลองขับ FORD RANGER WILDTRAK 2022 มาพร้อมเทคโนโลยีไฮเทคยิ่งขึ้น

รีวิว ลองขับ FORD RANGER WILDTRAK 2022 มาพร้อมเทคโนโลยีไฮเทคยิ่งขึ้น

รีวิว ลองขับ FORD RANGER WILDTRAK 2022 มาพร้อมเทคโนโลยีไฮเทคยิ่งขึ้น
ชุดไฟท้ายมีดีไซน์สอดคล้องกับไฟหน้า น่าเสียดายที่เส้นไฟหรี่ยังคงใช้ไฟ LED หันตรงมาด้านหน้าจึงเห็นจุดไฟอย่างชัดเจน แทนที่จะเห็นเป็นแถบแสง (แบบ DRL ด้านหน้า) เมื่อรวมกับการใช้เลนส์สี Smoke ส่งให้ภาพรวมของมุมมองด้านท้ายดูไม่ “แพง” เหมือนด้านหน้า

รีวิว ลองขับ FORD RANGER WILDTRAK 2022 มาพร้อมเทคโนโลยีไฮเทคยิ่งขึ้น

รีวิว ลองขับ FORD RANGER WILDTRAK 2022 มาพร้อมเทคโนโลยีไฮเทคยิ่งขึ้น
ช่วงล่างคือไฮไลต์สำคัญของ Ranger ใหม่ ผลจากการเลื่อนตำแหน่งช่วงล่างหน้า 50 มม. (จากตำแหน่งเดิมของรุ่นที่แล้ว, มาด้านหน้ารถ) ให้ข้อดีมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการขับขี่ ฐานล้อที่ยาวขึ้นช่วยเพิ่มความนุ่มนวลได้มากกว่า นั่นหมายถึง สามารถใช้สปริงและแดมเปอร์ที่แข็งกว่าเดิมได้ รถจึงมีการโคลงตัวน้อยทั้งสี่ทิศทาง (ซ้าย/ขวา เมื่อเข้าโค้ง, หน้ายุบน้อยลงเมื่อเบรก, หลังยุบน้อยลงเมื่อเร่งความเร็วหรือบรรทุกสัมภาระ) โดยแดมเปอร์คู่หลังย้ายตำแหน่งมาไว้ด้านนอกของแชสซีส์ เพื่อลดการเอียงตัวขณะเข้าโค้ง, ให้ความนุ่มนวลมากขึ้น และรับน้ำหนักได้ดีขึ้นในเวลาเดียวกัน ระบบเบรกเป็นแบบดิสก์ทั้งล้อคู่หน้าและหลัง ใช้ล้อขนาด 18 นิ้ว ร่วมกับยาง 255/65 ทั้งสี่ล้อ

รีวิว ลองขับ FORD RANGER WILDTRAK 2022 มาพร้อมเทคโนโลยีไฮเทคยิ่งขึ้น

รีวิว ลองขับ FORD RANGER WILDTRAK 2022 มาพร้อมเทคโนโลยีไฮเทคยิ่งขึ้น
ขุมพลังดีเซล 2.0 ลิตร 16 วาล์ว 4 สูบเรียง เทอร์โบคู่ ยังคงเป็นของเดิม แต่สเปคระบุว่ามี 210 แรงม้า หรือน้อยกว่าโมเดลก่อนหน้านี้ 3 แรงม้า ขณะที่แรงบิดสูงสุดยังคงอยู่ที่ 500 นิวตันเมตรเช่นเดิม และรองรับเชื้อเพลิง B20 ได้ ผลจากการเลื่อนช่วงล่างหน้ามาอีก 50 มม. ส่งให้ Ranger ใหม่ กลายเป็นรถกระบะเครื่องยนต์วางกลางลำด้านหน้า จากภาพจะเห็นว่ามีพื้นที่ว่างขนาดใหญ่บริเวณส่วนหน้าของห้องเครื่อง

รีวิว ลองขับ FORD RANGER WILDTRAK 2022 มาพร้อมเทคโนโลยีไฮเทคยิ่งขึ้น

FORD RANGER WILDTRAK DOUBLE CAB 2.0L BI-TURBO 4X4 10AT

FORD RANGER WILDTRAK DOUBLE CAB 2.0L BI-TURBO 4X4 10AT
ห้องโดยสารได้รับการออกแบบใหม่หมด แดชบอร์ดก็เป็นดีไซน์ใหม่แต่ยังคงมีหน้าตาไม่แตกต่างจากรุ่นก่อนหน้านี้มากนัก แผงประตูออกแบบให้แบนแนบไปกับตัวถัง ช่วยให้รู้สึกถึงความกว้างขวางยิ่งขึ้น มือเปิดประตูเป็นลิ้นซ่อนอยู่ในที่พักแขนของแผงประตู จึงเปิดประตูได้สะดวกยิ่งขึ้น ที่น่าชมเชยคือการเก็บเสียงที่ทำได้ยอดเยี่ยมไม่ต่างจากรถยุโรปเครื่องยนต์ดีเซล สามารถตัดเสียงรบกวนของการจราจรที่แออัดในเมืองได้ดี เช่นเดียวกับเมื่อใช้ความเร็วบนทางยกระดับ อาจมีเสียงลมเข้ามาให้ได้ยินบ้างที่ความเร็วสูงๆ แต่ก็เป็นปกติของรถรูปทรงแบบนี้
FORD RANGER WILDTRAK DOUBLE CAB 2.0L BI-TURBO 4X4 10AT
พูดได้เต็มปากว่า นี่คือระบบบังคับเลี้ยวที่ดีที่สุดในกลุ่มรถกระบะที่มีจำหน่ายในไทย พวงมาลัยของ Ranger ให้การตอบสนองที่เหนือกว่า ทั้งยังฉับไวและให้น้ำหนักที่พอดีมือในทุกย่านความเร็ว สัมผัสในการบังคับควบคุมทิศทางใกล้เคียงกับรถยนต์นั่ง นับเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของรถรุ่นนี้

FORD RANGER WILDTRAK DOUBLE CAB 2.0L BI-TURBO 4X4 10AT

FORD RANGER WILDTRAK DOUBLE CAB 2.0L BI-TURBO 4X4 10AT
แม้จะเป็นรถกระบะที่มีราคาสูงที่สุดในปัจจุบัน ทว่า Ranger ใหม่ ก็ติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ มาให้มากมายจนใกล้เคียงกับรถซีดานระดับหรูของญี่ปุ่น ที่โดดเด่นคือระบบช่วยเหลือขณะขับขี่ซึ่งปรับปรุงให้ทำงานได้ดีขึ้นมาก โดยเฉพาะระบบครูสคอนโทรลที่เร่งและเบรกได้อย่างนุ่มนวลเป็นธรรมชาติกว่าเดิม นอกจากนั้น ยังมีระบบช่วยหักหลบอัตโนมัติเพื่อเลี่ยงการปะทะ ซึ่งจะทำงานเมื่อระบบคำนวณแล้วว่า ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติไม่เพียงพอที่จะหยุดรถได้ทันก่อนเกิดการชน และระบบแจ้งเตือนและเบรกอัตโนมัติเมื่อมีพาหนะหรือคนเข้ามาในระยะอันตรายขณะรถกำลังถอยหลัง
FORD RANGER WILDTRAK DOUBLE CAB 2.0L BI-TURBO 4X4 10AT
จอแสดงผลขนาด 8 นิ้ว สำหรับผู้ขับขี่ ให้สีสันสดใสและมีความคมชัดสูง อินเตอร์เฟซออกแบบมาเป็นอย่างดี สามารถอ่านค่าต่างๆ ได้ง่ายดายและชัดเจน เรียกดูข้อมูลได้หลากหลายผ่านปุ่มควบคุมบนพวงมาลัย ขนาบสองข้างของจอด้วยมาตรบอกระดับเชื้อเพลิงและอุณหภูมิเครื่องยนต์
FORD RANGER WILDTRAK DOUBLE CAB 2.0L BI-TURBO 4X4 10AT
จอส่วนกลางขนาด 12 นิ้ว พาดยาวเต็มพื้นที่ส่วนกลางของแดชบอร์ด ทำงานบนระบบปฏิบัติการ SYNC 4 พร้อมโมเด็ม ‘FordPass Connect’ ติดตั้งมาให้เป็นมาตรฐานจากโรงงาน สำหรับให้ผู้ใช้เชื่อมต่อกับรถได้ผ่านแอพพลิเคชั่น FordPass จึงสามารถเรียกดูข้อมูลสำคัญๆ ของรถ ตลอดจนใช้งานฟังก์ชั่นต่างๆ อาทิ สตาร์ทรถและเปิดระบบปรับอากาศ, ล็อค/ปลดล็อค ประตู ได้ง่ายๆ ผ่านโทรศัพท์มือถือ นอกจากนั้น ในเกรด Wildtrak เหมือนคันทดสอบของเรา ยังมาพร้อมกับลำโพงรอบทิศทาง 6 ตัว ที่ให้เสียงกระหึ่มใช้ได้ทีเดียว

FORD RANGER WILDTRAK DOUBLE CAB 2.0L BI-TURBO 4X4 10AT

FORD RANGER WILDTRAK DOUBLE CAB 2.0L BI-TURBO 4X4 10AT

FORD RANGER WILDTRAK DOUBLE CAB 2.0L BI-TURBO 4X4 10AT
ระบบขับเคลื่อนมีให้เลือก 6 โหมด โดยแต่ละโหมดระบบจะเลือกการขับเคลื่อนแบบ 2 หรือ 4 ล้อ ให้อัตโนมัติ หรือคุณสามารถเลือกเองได้จากปุ่มควบคุม ในโหมดกลุ่ม Off-road ระบบจะแสดงข้อมูลสำคัญๆ พร้อมเปิดกล้อง 360 องศา ขึ้นที่จอโดยอัตโนมัติ ช่วยให้การขับขี่บนทางวิบากปลอดภัยยิ่งขึ้น นอกจากนั้น Wildtrak ยังมาพร้อมกับระบบล็อคเฟืองท้าย (ของล้อคู่หลัง) อีกด้วย แต่แทนที่จะแยกปุ่มกดไว้ใกล้กับสวิตช์เลือกโหมดขับเคลื่อนเหมือนโมเดลก่อน Ford กลับใส่ไว้เป็นส่วนหนึ่งในเมนูบนหน้าจอ ทำให้ค่อนข้างวุ่นวายในการเรียกใช้งาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่มือของคุณเปื้อนโคลนหรือใส่ถุงมืออยู่
FORD RANGER WILDTRAK DOUBLE CAB 2.0L BI-TURBO 4X4 10AT
Ranger เป็นรถกระบะรุ่นแรกของไทยที่มาพร้อมกับเบรกมือไฟฟ้า พร้อมระบบ Auto Hold ที่คุณจะต้องเลือกเปิดปิดการทำงาน… เป็นอีกครั้งที่ต้อง… เข้าไปค้นในเมนูบนหน้าจอ
FORD RANGER WILDTRAK DOUBLE CAB 2.0L BI-TURBO 4X4 10AT
ชุดเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ เป็นของเดิมเช่นกัน แต่ได้รับการปรับชุดทอร์คคอนเวอร์เตอร์และซอฟต์แวร์ใหม่ ช่วยให้ตอบสนองดีและมีการเปลี่ยนเกียร์ที่ฉับไวยิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่นที่แล้ว ที่น่าตำหนิคือคันเกียร์ที่จับไม่ถนัด บวกด้วยการเปลี่ยนเกียร์แบบ Manual จากปุ่มกดด้านข้างที่ขัดกับการรับรู้โดยธรรมชาติ เมื่อเทียบกับการเปลี่ยนเกียร์ ขึ้น/ลง ด้วยการโยกคันเกียร์หรือแป้นหลังพวงมาลัย

FORD RANGER WILDTRAK DOUBLE CAB 2.0L BI-TURBO 4X4 10AT

FORD RANGER WILDTRAK DOUBLE CAB 2.0L BI-TURBO 4X4 10AT

FORD RANGER WILDTRAK DOUBLE CAB 2.0L BI-TURBO 4X4 10AT

FORD RANGER WILDTRAK DOUBLE CAB 2.0L BI-TURBO 4X4 10AT
เต็มไปด้วยจุดชาร์จไฟทั่วทั้งห้องโดยสาร มีตั้งแต่ระบบชาร์จไร้สาย, USB, ช่องต่อไฟ 12 โวลต์ และปลั๊กสำหรับต่อไฟ 230 โวลท์ ที่รองรับสูงสุดถึง 400 วัตต์ เช่นเดียวกับในกระบะท้าย นอกจากนั้นยังมีช่อง AUX สำหรับต่ออุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ติดตั้งมาให้อีกด้วย ส่วนด้านข้างของกระจกมองหลังก็มีช่อง USB สำหรับต่อ On-board Camera มาให้พร้อมสรรพ ไม่ต้องลากสายระโยงรยางค์อีกต่อไป
FORD RANGER WILDTRAK DOUBLE CAB 2.0L BI-TURBO 4X4 10AT
มีพื้นที่โอ่อ่ากว้างขวางตามแบบฉบับของรถกระบะ เบาะคู่หน้าขนาดใหญ่นั่งสบายด้วยปีกเบาะที่โอบรับ ทั้งยังจัดวางตำแหน่งได้ดีและปรับ (ด้วยไฟฟ้า) ได้ถึง 8 ทิศทาง ทั้งฝั่งผู้ขับและผู้โดยสาร ตัวเบาะ, แผงประตู และคอนโซลกลาง ตกแต่งด้วยด้ายสีส้ม ซึ่งเข้ากันอย่างยิ่งกับสี ‘Sedona Orange’ ของตัวถังภายนอกที่คุณต้องจ่ายเพิ่มอีก 10,000 บาท นั่นหมายถึง Ranger Wildtrak สีส้มของคุณจะมีราคารวม ทะลุ 1.3 ล้านบาท ไปเล็กน้อย

SPECIFICATIONS: FORD RANGER WILDTRAK DOUBLE CAB 2.0L BI-TURBO 4X4 10AT

  • Price: ฿1,299,000
  • Engine: 1996cc inline-4 diesel twin-turbo, 210hp @ 3750rpm, 500Nm @ 1750-2000rpm
  • Transmission: 10-speed automatic, part-time 4WD with e-locking rear diff
  • Performance: n/a 0-100km/h, n/a top speed, 13.1km/l, 201g/km Co2
  • Weight: 2341kg

Check Also

ISUZU MU-X 4x2 3.0 RS 2024

รีวิว ลองขับ ISUZU MU-X 4×2 3.0 RS ลุคใหม่ที่สปอร์ตยิ่งกว่าเดิม เสริมความปลอดภัย ที่ยังคงเด่นในสมรรถนะและความประหยัดเฉกเช่นเดิม

รีวิว ลองขับ ISUZU MU-X 4×2 3.0 RS A/T เครื่องยนต์ 3.0 Ddi Blue Power 190 แรงม้า …