Breaking News

รีวิว ลองขับ HAVAL H6 Hybrid อีกหนึ่งทางเลือกที่คุ้มค่าในยุคนี้

รีวิว ลองขับ HAVAL H6 เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เทอร์โบ 150 แรงม้า ทำงานร่วมด้วย H6 จะให้พลังรวมที่ 243 แรงม้า อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 15 กม./ลิตร

รีวิว ลองขับ HAVAL H6 Ultra รถอเนกประสงค์จาก HAVAL ราคา 1,249,000 บาท

รีวิว ลองขับ HAVAL H6 Ultra รถอเนกประสงค์จาก HAVAL ราคา 1,249,000 บาท

HAVAL H6 ULTRA

Haval H6 ต้อนรับเราด้วยการเผยให้เห็นประสิทธิภาพของมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 130 แรงม้า, 300 นิวตันเมตร ที่ “ฉายเดี่ยว” ด้วยการขับเคลื่อนไฟฟ้าล้วน แม้จะเหยียบคันเร่งลึกลงไปพอสมควรก็ตาม การตอบสนองอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ ให้อัตราเร่งเพียงพอสำหรับการเคลื่อนที่ไปตามกระแสจราจรในเมือง

เมื่อเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เทอร์โบ 150 แรงม้า, 230 นิวตันเมตร ถูกปลุกขึ้นมา (อย่างแทบจะไร้ร้อยต่อ) ทำงานร่วมด้วย H6 จะให้พลังรวมที่ 243 แรงม้า กับแรงบิดรวมสูงถึง 530 นิวตันเมตร นั่นหมายถึงอัตราเร่งที่ดีตั้งแต่เริ่มออกตัว ทั้งยังเพียงพอสำหรับการแซงที่ความเร็วสูง

นับว่าเป็นรถที่ทรงพลังคันหนึ่งในคลาสเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องแลกมาก็คืออัตราสิ้นเปลืองซึ่งเราทำได้เฉลี่ยที่ราว 15 กม./ลิตร นับว่าดุเดือดเมื่อเทียบกับรถไฮบริดกลุ่มเดียวกันซึ่งเราทำได้ที่ราว 17 กม./ลิตร หรือมากกว่า

รีวิว ลองขับ HAVAL H6 Ultra รถอเนกประสงค์จาก HAVAL ราคา 1,249,000 บาท

รีวิว ลองขับ HAVAL H6 Ultra รถอเนกประสงค์จาก HAVAL ราคา 1,249,000 บาท

การขับขี่บนมอเตอร์เวย์ให้สัมผัสที่ยอดเยี่ยม ช่วงล่างสามารถดูดซับแรงสั่นสะเทือนได้ดี ทว่ายังไม่ถึงขั้นนุ่มนวลชวนฝัน H6 ทรงตัวมั่นคงเมื่อเข้าโค้งกว้างๆ รักษาระดับการเอียงตัวได้ดี ขณะที่พวงมาลัยเบาและให้สัมผัสแบบสังเคราะห์มากไปในโหมดน้ำหนักเบา เราแนะนำให้ปรับเป็นโหมดสปอร์ตที่มีน้ำหนักตึงมือขึ้นเล็กน้อย

ช่วยให้การตอบสนองดีขึ้นและยังเบาพอสำหรับการใช้ในเมืองด้วย การเก็บเสียงน่าประทับใจเช่นกัน เสียงเครื่องยนต์อาจดังเข้ามาให้ได้ยินพอสมควรขณะเร่งรอบสูงๆ แต่เมื่อใช้ความเร็วคงที่เสียงก็จะเบาลงอย่างมาก

บนถนนเส้นรองที่คดเคี้ยว H6 ดูจะดื้อดึงพอสมควร โดยเฉพาะกับช่วงล่างด้านหน้าที่เริ่มอันเดอร์สเตียร์ระหว่างโค้ง ตั้งแต่ที่ความเร็วไม่สูงนัก เมื่อรวมกับระบบบังคับเลี้ยวที่ไม่สื่อสารเท่าไหร่ ส่งให้มันเป็นรถที่คุณต้องเบามือหน่อยเมื่อเข้าโค้ง อย่างไรก็ตาม การเอียงตัวของรถยังคงไว้ใจได้ และระบบควบคุมการลื่นไถลก็เข้ามาแทรกแซงได้ทันท่วงที ช่วยลดโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุลงได้มากทีเดียว

และเมื่อพูดถึงระบบความปลอดภัย สิ่งที่โดดเด่นของ Haval H6 ก็คือระบบครูสคอนโทรล ไม่เพียงรักษาตำแหน่งให้อยู่กลางเลนได้ดีเท่านั้น แต่เมื่อตรวจจับว่ามีมอเตอร์ไซค์กำลังวิ่งอยู่ชิดขอบทาง ระบบยังสามารถบังคับพวงมาลัยหักหลบเล็กน้อยโดยไม่ต้องลดความเร็ว (และไม่ข้ามออกนอกเลน) ได้อีกด้วย

ซึ่งต่างจากระบบของรถรุ่นอื่นๆ ที่จะเบรกให้มีระยะห่างเช่นเดียวกับตอนตรวจเจอรถยนต์คันหน้า นับเป็นระบบที่ทำงานได้ชาญฉลาดทีเดียว ส่วนการรักษาระยะห่างยังคงเหลือพื้นที่หน้ารถมากเกินไป และการเบรกก็ไม่นุ่มนวลนัก ซึ่งก็อยู่ในเกณฑ์ที่ใกล้เคียงกับระบบของรถรุ่นอื่นๆ ในคลาสเดียวกัน ที่ห่างและเบรกค่อนข้างแรงไม่ต่างกันนัก

แน่นอนว่าท้ายที่สุดแล้ว จุดขายของรถจากแบรนด์ประเทศจีนก็คือราคาที่เข้าถึงได้ง่ายกว่า และ H6 ก็เช่นกัน ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 1.15 ล้านบาท ใน “Pro” เกรดเริ่มต้น หรือเพิ่มอีก 1 แสนบาท เพื่อเกรด “Ultra” เหมือนคันทดสอบของเรา ต่างก็เป็นราคาที่ถูกกว่ารถญี่ปุ่นในคลาสเดียวกันทั้งสิ้น แม้คุณภาพโดยภาพรวมยังสู้ไม่ได้ในบางด้าน แต่เมื่อเทียบกับราคาที่จ่ายไป

ส่งให้ Haval H6 เป็นรถที่คุ้มค่าคันหนึ่ง ด้วยรายการอุปกรณ์อำนวยความสะดวกยาวเป็นหางว่าว, ห้องโดยสารกว้างขวาง, พละกำลังไหว้วานได้ บวกด้วยดีไซน์เรียบหรูจากฝีมือ Phil Simmons (อดีตนักออกแบบของ Land Rover ผู้เคยรังสรรค์ผลงานที่งดงามอย่าง Velar และ Evoque เป็นต้น) ทำให้ H6 มีสัดส่วนลงตัวและซ่อนรายละเอียดสวยงามไว้ภายใต้ความมินิมัลได้อย่างน่าประทับใจ

รีวิว ลองขับ HAVAL H6 Ultra รถอเนกประสงค์จาก HAVAL ราคา 1,249,000 บาท

นี่เป็น Haval ที่น่าจะมัดใจคุณได้ไม่ยาก

SPECIFICATIONS : HAVAL H6 ULTRA

  • Price: ฿1,249,000
  • Engine: 1499cc 4-cyl petrol turbo, 150ps @ 5500-6000rpm, 230Nm @ 1500-4000rpm with e-motor, 130ps, 300Nm (243ps, 530Nm combined)
  • Transmission: DHT auto with 2-speed for hybrid system, front-wheel drive
  • Performance: n/a
  • Weight: 1690kg

รีวิว ลองขับ HAVAL H6 Ultra รถอเนกประสงค์จาก HAVAL ราคา 1,249,000 บาท

รีวิว ลองขับ HAVAL H6 Ultra รถอเนกประสงค์จาก HAVAL ราคา 1,249,000 บาท
ในเกรด Ultra จะได้กระจังหน้าโครเมียม และระบบกล้องรอบทิศทาง ซึ่งติดตั้งกล้องตัวหน้าไว้ใต้โลโก้ของแบรนด์ ภาพที่แสดงยังไม่คมชัดเท่าที่ควร และมุมกล้องด้านข้างก็แคบทั้งยังดูยากอีกด้วย

รีวิว ลองขับ HAVAL H6 Ultra รถอเนกประสงค์จาก HAVAL ราคา 1,249,000 บาท

รีวิว ลองขับ HAVAL H6 Ultra รถอเนกประสงค์จาก HAVAL ราคา 1,249,000 บาท
รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่งดงาม จากการออกแบบของ Phil Simmons ชายผู้เคยพลิกโฉมให้ Land Rover กลายเป็นรถ SUV ที่โฉบเฉี่ยวแตกต่างจากอดีตชนิดหนังคนละม้วน จึงไม่แปลกที่ H6 มีสัดส่วนที่สวยงามลงตัวกว่ารถรุ่นอื่นๆ จากประเทศจีนด้วยกัน

รีวิว ลองขับ HAVAL H6 Ultra รถอเนกประสงค์จาก HAVAL ราคา 1,249,000 บาท

รีวิว ลองขับ HAVAL H6 Ultra รถอเนกประสงค์จาก HAVAL ราคา 1,249,000 บาท
ชุดไฟหน้า Full LED มาพร้อมไฟสูงอัตโนมัติและระบบหน่วงเวลาปิดหลังดับเครื่องยนต์ หากไม่ได้เปิดสปอตไลต์ (เป็น LED เช่นกัน) มันจะทำหน้าที่เป็นไฟส่องอัตโนมัติขณะเลี้ยว

รีวิว ลองขับ HAVAL H6 Ultra รถอเนกประสงค์จาก HAVAL ราคา 1,249,000 บาท

รีวิว ลองขับ HAVAL H6 Ultra รถอเนกประสงค์จาก HAVAL ราคา 1,249,000 บาท
แถบไฟหรี่แบบพาดยาวตลอดความกว้างของรถ มีการจัดเรียงหลอดไฟได้ดีจึงให้แสงสม่ำเสมอตลอดทั้งเส้น ชุดไฟเบรกแยกออกมาไว้ด้านล่างโอบล้อมไฟเลี้ยวที่จัดวางไว้ส่วนกลาง ไฟเบรกดวงที่สามบนสปอยเลอร์หลังคาเป็นแบบเส้นยาว ช่วยเติมเต็มให้ส่วนท้ายของ H6 ดูสวยงามสมบูรณ์แบบ

รีวิว ลองขับ HAVAL H6 Ultra รถอเนกประสงค์จาก HAVAL ราคา 1,249,000 บาท

รีวิว ลองขับ HAVAL H6 Ultra รถอเนกประสงค์จาก HAVAL ราคา 1,249,000 บาท

รีวิว ลองขับ HAVAL H6 Ultra รถอเนกประสงค์จาก HAVAL ราคา 1,249,000 บาท

HAVAL H6 Hybrid SUV - Ultra

HAVAL H6 Hybrid SUV - Ultra
ระบบไฮบริดของ H6 ทำงานได้น่าประทับใจ การสลับไปมาระหว่างมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์แทบจะไร้รอยต่อ นอกจากนั้นมันยังพยายามคงการทำงานด้วยไฟฟ้าเอาไว้ จึงสามารถเหยียบคันเร่งลงไปได้ลึกกว่ารถไฮบริดรุ่นอื่นๆ ในคลาสเดียวกัน โดยเครื่องยนต์ไม่เข้ามาร่วมทำงานด้วย อย่างไรก็ตาม อัตราสิ้นเปลืองยังไม่ถึงกับใช้คำว่า “ประหยัด” ได้เต็มปากนัก
HAVAL H6 Hybrid SUV - Ultra
หนึ่งในเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ Phil Simmons คือดีไซน์ที่แฝงไว้ซึ่งความแข็งแกร่งบึกบึน… ใน H6 คุณจะเห็นได้จากเส้นตัดที่คมกริบซึ่งประดับประดาอยู่บนตัวถังที่เรียบง่าย ซุ้มล้อขนาดใหญ่เป็นส่วนสำคัญในการเพิ่มภาพลักษณ์กำยำ และทำให้ล้อขนาด 19 นิ้ว ดูเล็กไปเลย (แม้อยู่ใน SUV ขนาดไม่ใหญ่นักเช่นนี้) ช่วงล่างให้ความนุ่มนวลได้ระดับหนึ่ง แต่มีอาการอันเดอร์สเตียร์ค่อนข้างมาก
HAVAL H6 Hybrid SUV - Ultra
การรวบรวมเกือบทุกฟังก์ชั่นไว้ในจอแสดงผลส่วนกลาง เปิดพื้นที่ให้นักออกแบบเล่นกับวอลลุ่มพื้นผิวได้มากยิ่งขึ้น มีการนำเส้นสายเฉียบคมแบบเดียวกับตัวถังภายนอกมาใช้ที่แดชบอร์ดและแผงประตู จึงไม่อาจพูดได้เต็มปากว่านี่คือดีไซน์แบบมินิมัลเหมือนภายนอก การตกแต่งด้วยสีโรสโกลด์ดูแปลกใหม่สะดุดตา สีแบบทูโทนมีให้เฉพาะเกรด Ultra ในขณะที่เกรด Pro เป็นสีดำล้วน ตัดด้วยการตกแต่งสีเงิน… ซึ่งดูดีกว่าเยอะ
HAVAL H6 Hybrid SUV - Ultra
ระบบบังคับเลี้ยวเป็นแบบไฟฟ้า สามารถปรับน้ำหนักได้ 3 ระดับ จากเบาไปจนถึงหนัก ซึ่งก็ยังเบาไปอยู่ดี การตอบสนองฉับไวแต่ไม่เฉียบคม และให้สัมผัสแบบสังเคราะห์เกินไปจนแทบจะไม่สามารถสื่อสารความเป็นไปของล้อหน้าได้ หากคุณไม่ได้ใส่ใจเรื่องความสนุกในการขับขี่ นี่เป็นพวงมาลัยที่ช่วยให้คุณขับขี่ซอกแซกในเมืองได้ทั้งวันโดยไม่ส่งผลกระทบต่อกล้ามเนื้อแขนแต่อย่างใด

HAVAL H6 Hybrid SUV - Ultra

HAVAL H6 Hybrid SUV - Ultra
ในขณะที่ดีไซน์ของรถแสนงดงาม อินเตอร์เฟซของจอแสดงผลสำหรับผู้ขับขี่กลับน่าผิดหวังอย่างยิ่ง ทั้งจืดชืดและหมดเปลืองไปกับพื้นที่โล่งๆ ที่เก็บไว้สำหรับแสดงสัญลักษณ์อื่นๆ ซึ่งจะปรากฏทั้งหมดเมื่อเริ่มสาร์ตรถเท่านั้น… แต่ในความผิดหวังยังมีอะไรเหลือให้ชื่นชมอยู่บ้าง นั่นคือการแสดงกราฟฟิกแบบ Real-time ที่ส่วนกลางของจอ โดยอาศัยภาพที่ตรวจจับได้จากกล้องบนกระจกหน้า (ของระบบช่วยเหลือขณะขับขี่) มาประมวลผล โดยแสดงตำแหน่งและรูปแบบของยานพาหนะแต่ละประเภท ทั้งยังแสดงถึง 2 เลน ซึ่งมีประโยชน์อย่างมากและเพิ่มความปลอดภัยยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเมื่อคุณขับอยู่ในเลนขวาและต้องการแซงซ้าย ซึ่งปกติคือการแซงที่อันตรายเพราะอาจไม่เห็นว่ามีรถช้าขับอยู่ในเลนซ้าย แต่ใน H6 คุณสามารถดูจากกราฟฟิกได้ว่ามีรถอยู่ที่เลนซ้ายหรือไม่ ก่อนทำการแซง

HAVAL H6 Hybrid SUV - Ultra

HAVAL H6 Hybrid SUV - Ultra
จอแสดงผลส่วนกลางระบบสัมผัส เป็นศูนย์รวมสำหรับสั่งงานและปรับเปลี่ยนระบบต่างๆ เกือบทั้งหมดของรถ ข้อดีคือให้ความรู้สึกล้ำสมัย แต่กลับมีข้อเสียมากมาย ตั้งแต่การใช้เวลาประมวลผล (เมื่อเรียกดูข้อมูลแต่ละฟังก์ชั่น) ค่อนข้างนาน, ไอค่อนย่อยมีขนาดเล็กและตอบสนองช้า และจะต้องกดที่หน้าจอหากต้องการปรับระบบปรับอากาศ เป็นต้น สรุปก็คือ การรวมทุกอย่างไว้ที่หน้าจอ ทำให้ใช้งานยากและเสี่ยงอันตรายเนื่องจากต้องละสายตาจากถนนนานกว่าการกดปุ่ม… น่าแปลกที่ Haval เลือกใช้ปุ่มในการสั่งงานสำหรับฟังก์ชั่นที่แทบไม่ได้ใช้เลย เช่น ระบบไล่ฝ้า, ปิดหน้าจอ หรือแม้แต่ปุ่ม เปิด-ปิด เซนเซอร์รอบทิศทาง ซึ่งเมื่อปิด สักพักระบบก็จะเปิดขึ้นมาใหม่อีกครั้ง… อืมมม…
HAVAL H6 Hybrid SUV - Ultra
ระบบอแดปทีฟครูสคอนโทรล พร้อม Stop & Go ทำงานร่วมกับระบบบังคับเลี้ยวไฟฟ้า ช่วยให้ H6 สามารถขับเคลื่อนได้แบบกึ่งอัตโนมัติ ที่ยอดเยี่ยมมากๆ คือระบบเบี่ยงหลบพาหนะ (WDS: Wisdom Dodge System) ที่อาจขับชิดหรือเกือบล้ำเข้ามาในเลนของคุณ โดยรถจะหักพวงมาลัยหลบเล็กน้อยและกลับมาอยู่กึ่งกลางเลนได้เอง จากการทดสอบพบว่า ในถนนเลนสวน ระบบสามารถตรวจจับมอเตอร์ไซค์ที่วิ่งบนไหล่ทาง (ชิดกับเส้นขอบทาง) และเบนหลบได้อย่างราบรื่นเป็นธรรมชาติโดยไม่ต้องชะลอความเร็ว

HAVAL H6 Hybrid SUV - Ultra

HAVAL H6 Hybrid SUV - Ultra
ติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมาให้แบบเต็มพิกัด นั่นรวมถึงเบรกมือไฟฟ้าพร้อมระบบ Hold, กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ และช่อง USB ที่อยู่ด้านบน สำหรับติดตั้งกล้องหน้ารถ จึงไม่ต้องเดินสายให้ยุ่งยาก

HAVAL H6 Hybrid SUV - Ultra

HAVAL H6 Hybrid SUV - Ultra

HAVAL H6 Hybrid SUV - Ultra
ใช้เกียร์ระบบ DHT (Dedicated Hybrid Transmission) ซึ่งประกอบด้วยเกียร์ 2 ชุด ชุดหนึ่งสำหรับเครื่องยนต์และอีกชุดสำหรับมอเตอร์ไฟฟ้า โดยสามารถทำงานได้ทั้งแบบเดี่ยว, เรียงต่อกัน หรือพร้อมกัน ขึ้นอยู่กับแหล่งพลังงานหรือรูปแบบการขับขี่ เกียร์ DHT มีข้อดีเรื่องขนาดที่กะทัดรัด, มีกลไกไม่ซับซ้อน และสามารถนำไปปรับใช้กับระบบขับเคลื่อนของรถไฮบริดได้หลายรูปแบบ จึงลดต้นทุนด้านการพัฒนาระบบลงได้อย่างมาก การเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ทำได้โดยหมุนปุ่มที่คอนโซลกลาง เซ็ตน้ำหนักการหมุนไว้เบามากจนบางครั้งไม่แน่ใจว่าหมุนไปถึงตำแหน่งที่ต้องการหรือยัง แถมไฟแสดงตำแหน่งเกียร์ก็แทบมองไม่เห็นเมื่อขับขี่ตอนกลางวัน

HAVAL H6 Hybrid SUV - Ultra

HAVAL H6 Hybrid SUV - Ultra

HAVAL H6 Hybrid SUV - Ultra

HAVAL H6 Hybrid SUV - Ultra

HAVAL H6 Hybrid SUV - Ultra
เบาะคู่หน้าแบบปรับไฟฟ้าทั้งสองตัว ยังนั่งไม่สบายนักเมื่อต้องเดินทางไกล แต่พื้นที่รอบๆ ตัว กว้างใหญ่เหลือเฟือในทุกตำแหน่ง มีช่องแอร์และช่องเสียบ USB สำหรับผู้โดยสารตอนหลังติดตั้งมาให้เรียบร้อย ในขณะที่ห้องเก็บสัมภาระท้ายรถก็กว้างขวางเพียงพอสำหรับกระเป๋าเดินทางไซส์ใหญ่ๆ

Check Also

ISUZU MU-X 4x2 3.0 RS 2024

รีวิว ลองขับ ISUZU MU-X 4×2 3.0 RS ลุคใหม่ที่สปอร์ตยิ่งกว่าเดิม เสริมความปลอดภัย ที่ยังคงเด่นในสมรรถนะและความประหยัดเฉกเช่นเดิม

รีวิว ลองขับ ISUZU MU-X 4×2 3.0 RS A/T เครื่องยนต์ 3.0 Ddi Blue Power 190 แรงม้า …