Breaking News

รีวิว ลองขับ HONDA CIVIC TYPE R ตำนานความแรงจากฮอนด้า ที่ปลุกจิตวิญญาณดิบในตัวคุณ

รีวิว ลองขับ HONDA CIVIC TYPE R ขุมพลังเครื่องยนต์ VTEC TURBO 2.0 ลิตร ให้พละกำลัง 320 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตร ราคา 3,999,000 บาท

HONDA CIVIC TYPE R 2023

รีวิว ลองขับ HONDA CIVIC TYPE R ดีไซน์สปอร์ตพรีเมียม ในทุกมุมมอง

HONDA CIVIC TYPE R

เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ Honda ประเทศไทย นำ Honda Civic Type R เข้ามาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ แน่นอนว่า ถูกขายหมดเกลี้ยงในพริบตาอย่างไม่ต้องสงสัย! ตำนาน Type R ซึ่งปัจจุบันมีแค่ Civic เพียงรุ่นเดียว เป็นผู้สืบทอดสายพันธุ์ให้โลดแล่นอยู่บนโลกแห่งยนตรกรรมต่อไป ยังคงเน้นไปที่ความสนุกเร้าใจในการขับขี่เช่นเดิม

ทว่าไม่เพียงนักขับมากประสบการณ์เท่านั้น แต่ยังเข้าถึงนักขับมือใหม่ได้ง่ายขึ้นด้วยการนำเทคโนโลยีเข้ามาร่วมควบคุมการทำงาน… นั่นทำให้มนต์เสน่ห์ของความดิบเถื่อนตามวิถี “Type R” หายไปหรือไม่? เราอยู่กับรถรุ่นใหม่คันนี้เพื่อหาคำตอบมาให้คุณ…

… เมื่อนั่งอยู่บนเบาะสีแดงสด หนึ่งในเอกลักษณ์สำคัญของอนุกรม Type R คุณจะสัมผัสได้ถึงความพิเศษเหนือ Civic รุ่นมาตรฐานได้อย่างชัดเจน ลำตัวที่ถูกห่อไว้ด้วยปีกเบาะ, นั่งต่ำเกือบติดพื้นรถ และหนังกลับของวงพวงมาลัยขนาดอวบอิ่มเต็มมือ

ร่วมด้วยหัวเกียร์อลูมิเนียมและเสียงทุ้มต่ำของท่อไอเสียที่ดังคลอเคลียอยู่ท้ายรถขณะเดินเบา สิ่งเหล่านี้จะปลุกอะดรีนาลีนของคุณให้พุ่งพล่านไปทั่วร่าง และไม่อาจอดใจจอดอยู่นิ่งๆ แบบนี้ได้อีกต่อไป!

แป้นคลัตช์เบาแรง ในขณะที่เกียร์ Quick Shift ก็ให้น้ำหนักพอดีมือและสามารถเข้าแต่ละเกียร์ได้อย่างแม่นยำ นั่นหมายถึงคุณสามารถขับขี่ Civic Type R ใหม่ ในเมืองที่การจราจรหนาแน่นได้โดยไม่ต้องเหนื่อยแรง ขนาดตัวที่กะทัดรัดกว่า Civic ซีดาน (สั้นกว่า 85 มม.)  

เมื่อรวมกับโหมดการขับขี่ ‘Comfort’ ส่งให้สามารถใช้งานในชีวิตประจำวันได้แทบไม่ต่างจากรถเกียร์ธรรมดาทั่วไป ที่โหมดนี้ช่วงล่างให้ความนุ่มนวลมากกว่าที่คาดหวังเอาไว้มาก ส่วนระบบบังคับเลี้ยวก็เบามือและฉับไว ทั้งยังสามารถเร่งแซงได้ตามสั่ง จากอัตราทดเกียร์ที่ค่อนข้างชิดและพละกำลังของเครื่องยนต์ที่ไม่ธรรมดา

แม้จะอยู่ในโหมด ‘อ่อนโยน’ แต่คุณก็สามารถคาดเดาถึงศักยภาพของรถ (ที่ยังคงถูกซ่อนไว้) ได้โดยง่าย จากการตอบสนองคันเร่งแบบ “จัดให้ตามสั่ง” ของเครื่องยนต์… ขุมพลัง VTEC เบนซิน 4 สูบ อันเลื่องชื่อของ Type R หันหลังให้กับการสูดอากาศด้วยตัวเอง เปลี่ยนมาทำงานร่วมกับเทอร์โบชาร์จที่ให้ประสิทธิภาพสูงกว่า

ทั้งในแง่ของพละกำลัง, การตอบสนอง, อัตราสิ้นเปลือง และการปล่อยมลพิษสู่โลก ความจุกระบอกสูบ 2.0 ลิตร ของเครื่องยนต์ ทำกำลังสูงสุดได้ 320 แรงม้า ที่ 6,500 รอบ/นาที และให้แรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตร ตั้งแต่รอบกลางๆ ที่ 2,600 รอบ/นาที ทว่าด้วยอัตราทดเกียร์ที่ค่อนข้างจัด จึงสามารถเร่งได้ทันใจในทุกย่านความเร็ว

Civic Type R เริ่มเผยให้เห็นความยอดเยี่ยมมากขึ้นเมื่ออยู่บนมอเตอร์เวย์ ถึงจะยังคงอยู่ในโหมด Comfort แต่สมรรถนะที่ปลดปล่อยออกมาช่างน่าเหลือเชื่อ ด้วยเทอร์โบชาร์จและเกียร์ธรรมดาอัตราทดชิด ทำให้มันมีบุคลิกคล้าย Subaru Impreza WRX STi ที่เราเคยขับทดสอบไปเมื่อ2-3 ปีก่อน

ทั้งในด้านของอัตราเร่งที่ดุดัน และความคล่องแคล่วเมื่อเปลี่ยนเลนไปมา เหล่านี้จะดีขึ้นไปอีกเมื่อปรับเข้าสู่โหมด Sport ที่ทำให้ Type R ขึงตึงขึ้นทั้งช่วงล่าง, เครื่องยนต์ และพวงมาลัย คุณจะต้องปลื้มปริ่มกับประสิทธิภาพชั้นยอดของมันอย่างแน่นอน ทั้งทรงพลัง, เกาะหนึบ และปราดเปรียว ที่น่าประหลาดใจก็คือ Civic Type R ยังคงให้ความสบายได้เป็นอย่างดี

แม้จะยังเทียบชั้นกับรถยุโรปตัวแรง เช่น Merc AMG, BMW M หรือ Audi RS ไม่ได้ ทว่าเท่าที่มีอยู่ตอนนี้ก็นับว่าไม่น่าเกลียด เว้นเพียงการเก็บเสียงที่อาจไม่ค่อยดีนัก ทำให้ทั้งเสียงลม, ยาง และเครื่องยนต์ ดังเข้ามาในห้องโดยสารได้พอสมควรเมื่อเร่งหนักๆ หรือใช้ความเร็วสูงๆ

และเราก็มาถึงไฮไลต์ของ Civic Type R นั่นก็คือโหมด ‘+R’ ร่วมด้วยถนนที่คดเคี้ยวลัดเลาะขึ้นลงไปตามเขา เสียงจากปลายท่อไอเสียสะท้อนก้องเส้นทางอันว่างเปล่า ขณะที่รถกำลังทะยานไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูง ขุมพลัง VTEC เทอร์โบ ปลดปล่อยศักยภาพทั้งหมดที่มีออกมาในโหมดนี้ บวกกับแดมเปอร์ที่เฟิร์มที่สุดเมื่อเทียบกับโหมดอื่นๆ

ส่งให้ Type R ฉวัดเฉวียนไปตามโค้งได้อย่างมีชีวิตชีวา กดแป้นเบรกให้หนัก เพื่อสั่งให้คาลิเปอร์ Brembo อันทรงพลัง ลดความเร็วรถลงก่อนถึงโค้ง หน้ารถมุดลงต่ำพร้อมเสียงยางที่เริ่มกรีดร้องจากการเบรกอย่างหนักหน่วง ทว่าตัวรถยังคงทรงตัวได้ดีจนถึงจุดเริ่มหักเลี้ยว จากนั้นรับหน้าที่ต่อโดยพวงมาลัยที่ฉับไว, คมกริบ และสื่อสารมาสู่มือได้อย่างไร้ที่ติ

ร่วมด้วยยาง Michelin Pilot Sport 4S ขนาด 265/30-19 (ซึ่งนับว่ากว้างมากสำหรับรถขับเคลื่อนล้อหน้า) ช่วยกันประคับประคองให้การเข้าโค้งราบรื่นตลอดทาง

ระบบควบคุมการทรงตัวและการลื่นไถลคอยสนับสนุน (อย่างห่างๆ) อยู่เบื้องหลัง เพื่อเปิดโอกาสให้คุณได้สัมผัสความดิบของรถได้มากขึ้นอีกขั้นในโหมด +R นั่นหมายถึง Civic Type R ใหม่ สามารถควบคุมได้เชื่องมือยิ่งขึ้น แต่ก็ยังคงเหลือช่องให้คุณได้ลิ้มรสชาติความเถื่อนของมันได้บ้าง ทว่าอยู่ในขอบเขตที่ปลอดภัย เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่ไปกองอยู่ในพงหญ้าข้างทางเสียก่อน

นี่คือเทคโนโลยีปกติที่ถูกใส่เข้าไปในรถรุ่นใหม่ๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ด้วยเหตุผลด้านคะแนนความปลอดภัยและข้อบังคับที่เข้มงวดยิ่งขึ้น ด้านหนึ่งอาจลดทอนความสนุกในการขับขี่ลงไป (เว้นแต่คุณจะปิดระบบเหล่านี้เอง – ควรทำให้สนามแข่งเท่านั้น)

แต่ในอีกด้านหนึ่ง ก็ช่วยให้นักขับมือใหม่สามารถเข้าถึงรถสมรรถนะสูงได้อย่างง่ายดายและปลอดภัยยิ่งขึ้น ก่อนพัฒนาทักษะการขับขี่ต่อไปในอนาคต

ถ้าจะให้หาตำหนิของ Civic Type R ก็คงเป็นเรื่องเครื่องยนต์ที่หันมาใช้เทอร์โบชาร์จ… ถึงจะให้สมรรถนะที่เหนือกว่า แต่เสียงแผดแหลมของเรดไลน์ปั่นจี๋ทะลุ 7,000 รอบ/นาที และอาการ “เทคเปิด” ของขุมพลัง N/A ในอดีต ยังคงเป็นภาพจำที่ประทับใจไม่รู้ลืม และอยากให้ Type R คงเอกลักษณ์นี้เอาไว้ต่อไป

อีกประการก็คือ มันขายหมดในพริบตาตั้งแต่เปิดจองวันแรก นั่นหมายถึง คุณจะเป็นเจ้าของได้ก็ต่อเมื่อเป็นรถมือสอง หรือหาซื้อในราคาที่แพงกว่านี้จากผู้นำเข้าอิสระ

แต่ท้ายที่สุด ไม่ว่าด้วยวิธีใด และราคาใด หากคุณได้ Civic Type R ใหม่มาครอบครองล่ะก็ คุณจะต้องปลื้มกับสมรรถนะของมันอย่างแน่นอน

HONDA CIVIC TYPE R 2023

HONDA CIVIC TYPE R 2023
เมื่อเทียบกับ Civic Type R รุ่นที่แล้ว รถรุ่นใหม่เตี้ยลง 13 มม. และกว้างกว่าเดิม 15 มม. หรือหากเทียบกับ Civic รุ่นมาตรฐาน จะกว้างกว่ากันถึง 90 มม. ทีเดียว โครงสร้างตัวถังส่วนหลังของรถได้รับการเพิ่มความแข็งแกร่งขึ้นจากเดิม 15% เมื่อเทียบกับ Civic Type R รุ่นก่อนหน้านี้ ด้วยการเพิ่มกาวเชื่อมประสานตัวถังทั่วทั้งคัน มากขึ้นกว่าเดิมถึงราว 3.8 เท่า ในขณะที่ปีกนกล่างของช่วงล่างด้านหน้าก็ถูกปรับรูปทรงใหม่ และเพิ่มความแกร่งขึ้นอีก 16% ส่วนแอโรไดนามิกส์ของรถได้รับการพัฒนาขึ้นจากการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีต่างๆ ระหว่างพาร์ทเนอร์ทีมแข่งที่ Honda คัดเลือกจากเครือข่ายทั่วโลก อาทิ J.A.S Motorsport ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์ของ WTCR และวิศวกรจากการแข่งขัน Super GT ของแผนก HRD จากโรงงาน Sakura เป็นต้น งานวิศวกรรมต่างๆ มุ่งเน้นไปที่การใช้เครื่องคำนวณการไหลของอากาศ (CFD – Computational Fluid Dynamics) เพื่อลดแรงต้านอากาศรอบตัวรถ ผลลัพธ์ที่ได้คือค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานที่ดีกว่า Type R รุ่นก่อนหน้านี้อย่างมาก ทั้งยังสามารถควบคุมการไหลผ่านของอากาศและลดการเปลี่ยนแลงแรงดันอากาศทั้งจากด้านบนและรอบๆ ตัวรถได้อีกด้วย

HONDA CIVIC TYPE R 2023

HONDA CIVIC TYPE R 2023

HONDA CIVIC TYPE R 2023
กันชนหน้านำพื้นฐานจาก Civic e:HEV มาปรับใช้ โดยขยายช่องรับอากาศให้มีขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อป้อนลมเย็นให้กับอินเตอร์คูลเลอร์ และเปลี่ยนจากช่องสปอตไลต์มาเป็นปล่องดักอากาศส่งไประบายความร้อนให้กับเบรกหน้า ส่วนช่องระบายอากาศบนฝากระโปรงอลูมิเนียม (เบากว่าฝาเหล็กของรุ่นที่แล้วถึง 43%) ทำงานร่วมกับช่องรับอากาศของกันชน เพื่อเพิ่มการไหลเวียนระบายอากาศร้อนให้กับเครื่องยนต์ ทั้งยังช่วยสร้างแรงกดให้กับส่วนหน้ารถอีกด้วย

HONDA CIVIC TYPE R 2023

HONDA CIVIC TYPE R 2023

HONDA CIVIC TYPE R 2023
มุมมองด้านหน้าที่ดูเตี้ย, กว้าง และกำยำกว่า Civic รุ่นมาตรฐานอย่างเห็นได้ชัด เป็นผลมาจากโป่งล้อขนาดใหญ่ขึ้น จนสามารถขยายความกว้างฐานล้อหน้าออกไปได้อีกราว 25 มม. ช่องระบายอากาศด้านหลังล้อหน้าทำหน้าที่ 2 ประการด้วยกันคือ ลดแรงดันอากาศที่เกิดขึ้นภายในซุ้มล้อ และกระแสอากาศที่ถูกระบายออกมานี้จะถูกลำเลียงไปตามสเกิร์ตข้าง ก่อนถูกระบายทิ้งบริเวณครีบด้านปลายสุดก่อนถึงล้อหลัง

HONDA CIVIC TYPE R 2023

HONDA CIVIC TYPE R 2023

HONDA CIVIC TYPE R 2023

HONDA CIVIC TYPE R 2023

HONDA CIVIC TYPE R 2023
โป่งหลังกลมกลืนเป็นส่วนหนึ่งกับตัวรถเพื่อให้ดูแนบเนียนสะอาดตา รูปทรงโค้งมนของโป่งช่วยลดความปั่นป่วนของแรงดันอากาศบริเวณประตูหลังให้น้อยลงกว่าเดิม แอโรไดนามิกส์ด้านหลังเป็นหน้าที่ของดิฟฟิวเซอร์ที่ติดตั้งรวมเป็นส่วนหนึ่งของกันชนหลัง ซึ่งจะทำงานร่วมกับปีกหลังที่ติดตั้งไว้บนฝาท้ายที่ใช้เรซิ่นเป็นองค์ประกอบโครงสร้าง (เบาขึ้น 20%) ปีกนี้มีความกว้างกว่าเดิมและติดตั้งในตำแหน่งต่ำกว่ารุ่นก่อนหน้านี้ ทั้งยังจัดวางเยื้องไปยังปลายสุดของท้ายรถมากขึ้นเพื่อลดแรงต้านอากาศ ทั้งยังช่วยเพิ่มทัศวิสัยด้านท้ายเนื่องจากปีกอยู่ในแนวเดียวกับขอบด้านบนของกระจกบานหลังพอดี

HONDA CIVIC TYPE R 2023

HONDA CIVIC TYPE R 2023HONDA CIVIC TYPE R 2023

HONDA CIVIC TYPE R 2023

HONDA CIVIC TYPE R 2023
ชุดไฟหน้า Full LED พร้อมระบบไฟสูงอัตโนมัติ และไม่มีสปอตไลท์ที่กันชนเนื่องจากถูกแทนที่ด้วยช่องรับอากาศไประบายความร้อนให้ระบบเบรก ที่แปลกตาคือชุดไฟท้าย ซึ่งออกแบบมาเฉพาะสำหรับ Civic ตัวถัง Hatchback ซึ่งไม่มีจำหน่ายในไทย จึงโดดเด่นกว่าเมื่ออยู่บนถนน

HONDA CIVIC TYPE R 2023

HONDA CIVIC TYPE R 2023

HONDA CIVIC TYPE R 2023
ขุมพลัง VTEC “ฝาแดง” รหัส K20C1 ได้รับการปรับปรุงเพิ่มเติมจากรุ่นที่แล้ว เริ่มจากตัวเทอร์โบที่ลดครีบของกังหันลง จึงสามารถปรับรูปทรงและลดขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางลง เพื่อประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น ผลลัพธ์ที่ได้คือแรงเฉื่อยลดลงและมีตัวเรือนเทอร์โบขนาดเล็กกว่าเดิม เมื่อรวมกับท่อทางเดินอากาศที่มีขนาดใหญ่ขึ้น 10% เครื่องยนต์จึงตอบสนองได้รวดเร็วในทุกย่านความเร็ว และให้พละกำลังเพิ่มขึ้น ทว่าประหยัดเชื้อเพลิงกว่าเดิม ควบคู่กันไปคือระบบระบายความร้อนที่เปลี่ยนมาใช้หม้อน้ำขนาดใหญ่ขึ้น ร่วมกับพื้นที่รับอากาศ (กันชนหน้าและกระจังหน้า) ที่มากกว่ารุ่นที่แล้วถึง 48% เพื่อให้แน่ใจว่าเครื่องยนต์จะทำงานหนักได้ต่อเนื่องในสนามแข่ง โดยปราศจากปัญหาโอเวอร์ฮีท ในขณะที่ระบบระบายไอเสียปรับปรุงให้ท่อทางเดินเป็นแนวตรงมากที่สุด เพื่อลดการเกิดแรงดันย้อนกลับ ตลอดจนเพิ่มประสิทธิภาพการไหลได้มากขึ้น 13% มาพร้อมระบบแอคทีฟวาล์วช่วยเพิ่มการไหล (และเสียง) ยิ่งขึ้น เมื่ออยู่ในโหมดการขับขี่แบบสปอร์ตต่างๆ ทั้งหมดที่กล่าวมา ถูกบริหารจัดการด้วยระบบควบคุมเครื่องยนต์ซึ่งอัพเดตล่าสุด โดยเพิ่มความละเอียดในการควบคุมการจุดระเบิดและการปรับระบบ VTC (Variable Timing Control) ส่งให้การตอบสนองขณะเร่งความเร็วดียิ่งขึ้น… เครื่องยนต์ตัวนี้สามารถทำรอบเครื่องสูงสุดได้ที่ 7,000 รอบ/นาที

HONDA CIVIC TYPE R 2023

HONDA CIVIC TYPE R 2023
เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ พร้อมถุงเกียร์ “ด้ายแดง” เอกลักษณ์ของ Type R ทำงานควบคุมกับฟลายวีลที่เบากว่าเดิมถึง 18% ช่วยลดแรงเฉื่อยลงได้ 25% ส่งให้เครื่องยนต์สามารถปั่นสู่รอบสูงได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น ในขณะที่ระบบ Rev-match ก็ถูกปรับปรุงใหม่ เพื่อการเปลี่ยนเกียร์ลงต่ำที่ราบรื่นและด้วยรอบเครื่องยนต์ที่แม่นยำกว่าการใช้เทคนิค Heel & Toe แบบดั้งเดิม โครงสร้างของกลไกคันเกียร์ได้รับการเสริมความแข็งแกร่ง ส่วนร่องเกียร์รวมไปถึงแขนที่เป็นส่วนหนึ่งของกลไกคันเกียร์ก็ถูกพัฒนาขึ้นใหม่เพื่อการเปลี่ยนเกียร์ที่นุ่มนวลและลื่นไหลยิ่งขึ้น ทั้งยังเพิ่มความแข็งของสปริงขึ้นอีกเล็กน้อย จึงได้สัมผัสขณะเปลี่ยนเกียร์ที่หนักแน่น และช่วยให้เปลี่ยนได้ฉับไวกว่าเดิม

HONDA CIVIC TYPE R 2023

HONDA CIVIC TYPE R 2023
ปุ่ม ‘+R’ เป็นโหมดพิเศษที่แยกออกมาจากสวิตช์แบบคันโยกของ 3 โหมดที่เหลือ (Comfort, Sport และ Individual) มุ่งเน้นไปที่ประสิทธิภาพสำหรับขับขี่ในสนามแข่ง โดยเพิ่มการตอบสนองคันเร่งสูงสุดและช่วงล่างที่ขึงตึงกว่าโหมดอื่นๆ ผลลัพธ์คือสมรรถนะที่เต็มพลังต่อเนื่อง ร่วมด้วยสัมผัสการบังคับควบคุมที่ตรงไปตรงมา เมื่อเข้าสู่โหมด +R จอแสดงผลของผู้ขับจะเปลี่ยนรูปแบบกราฟฟิกและโทนสี (แดง) ร่วมด้วยการแสดงตำแหน่งเกียร์ พร้อมไฟ Shift Light เตือนเปลี่ยนเกียร์เหนือหน้าจอ และในโหมดนี้ ผู้ขับยังสามารถปิดระบบควบคุมการลื่นไถล (Traction Control) และระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (Vehicle Stability Assist) ได้โดยสิ้นเชิง ด้วยการกดปุ่ม VSC ค้างไว้ 5 วินาที นั่นหมายถึง คุณจะได้สัมผัสความดิบของ Civic Type R ได้อย่างหมดเปลือก!!!

HONDA CIVIC TYPE R 2023

HONDA CIVIC TYPE R 2023
แอปพลิเคชัน ‘Honda Log R 2.0’ เวอร์ชั่นล่าสุด ถูกรวมไว้ในระบบ Infotainment ของรถ นั่นหมายถึง คุณไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อสายผ่านโทรศัพท์มือถือเหมือนรุ่นก็หน้านี้อีกต่อไป (แต่ก็ยังสามารถดูผ่านมือถือได้เช่นเดิมด้วย) ในเวอร์ชั่น 2.0 มีการปรับปรุงกราฟฟิกใหม่ให้อ่านง่ายยิ่งขึ้นทั้งบนจอแสดงผลส่วนกลางและในสมาร์ตโฟน ระบบวิเคราะห์ข้อมูลนี้ นำข้อมูลมาจากเซนเซอร์ต่างๆ ของรถ โดยแบ่งการแสดงผลออกเป็น 2 คุณสมบัติคือ ‘Performance Monitor’ แสดงข้อมูลด้านประสิทธิภาพการทำงานต่างๆ ของรถ โดยผู้ขับสามารถเลือกได้ถึง 12 ข้อมูล อาทิ องศาพวงมาลัย, แรงเบรก, องศาคันเร่ง เป็นต้น หนึ่งในฟังก์ชั่นใหม่ล่าสุดคือ การแสดงค่าแรงเสียดทานของยาง โดยระบบสามารถคำนวณแรงเสียดทานของยางแต่ละล้อได้แยกอิสระ ตลอดจนแสดงค่าแรงกระทำทั้งตามแนวยาว (ขณะเร่งและเบรก) และแนวขวางของยาง (ขณะเข้าโค้ง) ออกมาในรูปแบบกราฟเส้น อีกคุณสมบัติคือ ‘Scoring’ ซึ่งจะแสดงผลออกมาในรูปแบบคะแนนสมมุติ สำหรับให้ผู้ขับนำข้อมูลไปใช้ปรับปรุงทักษะการขับขี่ โดยฟังก์ชั่นนี้แยกออกเป็น 2 หมวดย่อย คือ ‘Auto Score’ คะแนนของการขับขี่ทั่วไป ที่จะทำงานตลอดเวลาที่เปิดใช้แอปฯ Log R ตรวจจับและเก็บบันทึก 5 ข้อมูล ได้แก่ การเร่ง, ถอนคันเร่ง, การเลี้ยว, การขับขี่ทางตรง และข้อมูลโดยรวม (ของทั้ง 4 ข้อมูลดังกล่าว) คะแนนของอินพุตแต่ละรายการถูกสร้างขึ้นโดยการเปรียบเทียบการขับขี่ของผู้ใช้กับอัลกอริธึมที่จากฐานข้อมูลของ Honda R&D ที่มีอยู่ในแอป เพื่อช่วยพิจารณาว่าผู้ขับสามารถปรับปรุงวิธีการขับขี่ในจุดใดได้บ้าง อีกหมวดคือ ‘Data Log’ ซึ่งจะบันทึกข้อมูลต่างๆ เมื่อขับขี่ในสนามแข่ง ทั้งการเร่ง, เบรก และแรง G ขณะเข้าโค้ง แล้วนำข้อมูลมาประมวลผลร่วมกับ GPS เพื่อทำแผนที่สนามแข่งในภาพรวม และแสดงเป็นแถบสี (บนแผนที่สนาม) ของจุดที่ผู้ขับเบรกและเร่ง ฟีดแบ็คที่แสดงให้ผู้ขับขี่ทราบ ได้มาจากการเปรียบเทียบการขับขี่กับระบบการให้คะแนนของฟังก์ชั่น Data Log ซึ่งคะแนนต่างๆ (สูงสุด 100 คะแนน/รอบ) จะจัดเรียงตามคลาสนักแข่ง คือ C, B, A, S และ S+ ด้วยข้อมูลที่เข้าใจง่าย ช่วยให้ผู้ขับสามารถทราบถึงจุดที่สามารถพัฒนาเพิ่มเติมได้ เช่น เบรกเร็วไป, เร่งออกจากโค้งช้าไป เป็นต้น
HONDA CIVIC TYPE R 2023
ระบบบังคับเลี้ยวที่สื่อสารความเป็นไปของล้อหน้ามาสู่มือของคุณได้อย่างแจ่มชัด ทั้งยังแม่นยำ, ฉับไว และให้น้ำหนักเหมาะมือ เป็นผลมาจากการพัฒนาหลายอย่าง อาทิ ใช้ลูกปืนคอพวงมาลัยที่แข็งแกร่ง (และทนทาน) ยิ่งขึ้น ส่วนปลายของแกนพวงมาลัยก็เปลี่ยนมาใช้วัสดุที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ร่วมด้วยการใช้แกนช่วงกลางแบบฟันเฟืองเพื่อเพิ่มสัมผัสการตอบสนองขณะหักเลี้ยว ที่สำคัญคือการใช้คานบิดตัวที่แข็งกว่าเดิมถึง 60% และคันชักคันส่งที่แข็งแกร่งขึ้นเช่นกัน เพื่อลดการโก่งตัวของพวงมาลัยขณะหักเลี้ยว ผลลัพธ์ที่ได้คือการตอบสนองแบบทันทีทันใดในทุกองศาการเลี้ยว

HONDA CIVIC TYPE R 2023

HONDA CIVIC TYPE R 2023
ล้อฟอร์จขนาด 19 นิ้ว นอกจากมีน้ำหนักเบาแล้ว ยังซ่อนความลับไว้ในการออกแบบอีกด้วย ด้วยขอบล้อแบบ Stepless ที่ช่วยให้ล้อแข็งแกร่งยิ่งขึ้น และดีไซน์นี้ยังช่วยรักษาแรงกดของไหล่ยางด้านในให้เสถียรขณะเข้าโค้งอีกด้วย ใช้ยาง Pilot Sport 4S ขนาด 265/30-19 ทั้งสี่ล้อ ที่ Honda และ Michelin ร่วมกันพัฒนาเนื้อยางสูตรพิเศษขึ้นมาสำหรับโครงการ Civic Type R นี้โดยเฉพาะ เพื่อให้เหมาะสมกับระบบขับเคลื่อนล้อหน้าของรถคันนี้ ด้วยเป้าหมายคือ ให้ยางมีประสิทธิภาพเสถียรขณะถูกบดขยี้อย่างหนักในสนามแข่ง และสามารถรับมือกับการถ่ายน้ำหนักไปมาของ Type R ได้ โครงสร้างลวดภายในยางแบบ “หยัก” ถูกออกแบบขึ้นเพื่อให้เหมาะกับรูปทรงของดอกยางแต่ละบล็อก และลดระยะห่างระหว่างลวดกับหน้ายาง (ส่วนที่สัมผัสพื้นถนน) ทำให้ดอกยางมีการบิดตัวลดลง ช่วงล่างใช้แดมเปอร์แบบ Adaptive สามารถปรับความแข็งได้ตามโหมดการขับขี่ ซึ่งเป็นชุดเดียวกับที่ใช้ใน Civic Type R รุ่นที่แล้ว แต่มีการปรับ Logic การควบคุมการเอียงตัวใหม่ ในขณะที่คาลิเปอร์และจานเบรกแบบแยกชิ้นจาก Brembo ก็เป็นของรุ่นก่อนหน้านี้เช่นกัน ทว่าใช้แม่ปั๊มเบรกแบบใหม่ที่ตอบสนองฉับไว, ให้พลังสูง และให้สัมผัสที่ดียิ่งขึ้น

HONDA CIVIC TYPE R 2023

HONDA CIVIC TYPE R 2023
ติดตั้งระบบ Honda Sensing มาให้ครบครันเช่นเดียวกับ Civic รุ่นมาตรฐาน ใช้กล้องหน้าแบบมุมกว้าง 100 องศา เพื่อตรวจจับและวิเคราะห์วัตถุ ร่วมกับเซนเซอร์คลื่นโซนาร์รอบคันรวม 8 ตำแหน่ง (หน้าและหลังอย่างละ 4 จุด) และแม้จะเป็นเกียร์ธรรมดา แต่ก็มาพร้อมกับ Adaptive Cruise Control และระบบขับขี่เองกึ่งอัตโนมัติ ซึ่งอาจจะยุ่งยากกว่าเกียร์อัตโนมัติเล็กน้อยเนื่องจากคุณต้องเปลี่ยนเกียร์เอง

HONDA CIVIC TYPE R 2023

HONDA CIVIC TYPE R 2023

HONDA CIVIC TYPE R 2023
แม้เกือบทั้งหมดของห้องโดยสารเป็นของ Civic รุ่นมาตรฐาน ทว่าบรรยากาศใน Type R นั้นพิเศษกว่ามาก โดยเฉพาะการใช้สีแดงตกแต่งตามส่วนต่างๆ กรอบรอบๆ ช่องแอร์ใช้สีเทาเข้มแบบตัดแสงสะท้อน ร่วมด้วยคอนโซลอลูมิเนียม เพื่อลดการสะท้อนของแสงแดดเช่นกัน และถึงจะเป็นพาหนะที่มุ้งเน้นเรื่องความสนุกในการขับขี่ แต่ก็ติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมาให้ครบถ้วนเต็มพิกัด นั่นรวมไปถึง Wireless Charger และช่อง USB ด้วย เพลทบอกลำดับการผลิตซึ่งติดตั้งไว้ที่แถบช่องแอร์ช่วยเน้นย้ำความพิเศษของ Civic Type R ได้เป็นอย่างดี
037, 038 จอแสดงผลสำหรับผู้ขับขี่แบบ Full Digital ให้สีสันสดใสและคมชัดอย่างยิ่ง นอกจากนั้น กราฟฟิกต่างๆ ก็ทำออกมาได้สวยงามและอ่านค่าได้ง่าย คุณสามารถเรียกดูข้อมูลสำคัญๆ และเลือกแสดงการบอกค่าที่ต้องการไว้บนจอได้ ทั้งยังเปลี่ยนรูปแบบการแสดงผลได้หลากหลายอีกด้วย

HONDA CIVIC TYPE R 2023

HONDA CIVIC TYPE R 2023
จอแสดงผลสำหรับผู้ขับขี่แบบ Full Digital ให้สีสันสดใสและคมชัดอย่างยิ่ง นอกจากนั้น กราฟฟิกต่างๆ ก็ทำออกมาได้สวยงามและอ่านค่าได้ง่าย คุณสามารถเรียกดูข้อมูลสำคัญๆ และเลือกแสดงการบอกค่าที่ต้องการไว้บนจอได้ ทั้งยังเปลี่ยนรูปแบบการแสดงผลได้หลากหลายอีกด้วย

HONDA CIVIC TYPE R 2023

HONDA CIVIC TYPE R 2023

HONDA CIVIC TYPE R 2023

HONDA CIVIC TYPE R 2023
เบาะน้ำหนักเบาติดตั้งต่ำกว่าเดิม 8 มม. เพื่อลดจุดศูนย์ถ่วงและให้ความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับรถยิ่งขึ้น ตัวเบาะหุ้มด้วยวัสดุ “คล้ายหนังกลับ” สีแดงสดกว่ารุ่นก่อนหน้านี้ และใช้พรมสีแดงทั่วห้องโดยสาร ในขณะที่เบาะหลังหุ้มด้วยวัสดุชนิดเดียวกัน ทว่าใช้สีดำและด้ายแดงเพื่อขับให้เบาะคู่หน้าโดดเด่นยิ่งขึ้น พื้นที่โดยรอบนับว่ากว้างขวางทุกตำแหน่ง ต้องขอบคุณฐานล้อที่ยาวขึ้น 35 มม.

HONDA CIVIC TYPE R 2023

SPECIFICATIONS: HONDA CIVIC TYPE R

  • Price: ฿3,999,000
  • Engine: 1996cc turbocharged 16v inline-four, 320hp @ 6500rpm, 420Nm @ 2600-4000rpm
  • Transmission: 6-speed manual, front-wheel drive
  • Performance: 5.4sec 0-100km/h, 274km/h top speed, 186g/km Co2
  • Weight: 1429kg

Check Also

Kia EV5 Earth Exclusive AWD 2024

รีวิว ลองขับ Kia EV5 Earth Exclusive AWD รถไฟฟ้าจากเกาหลี ที่เติมอรรถประโยชน์ในการใช้งานที่คุ้มค่า

รีวิว ลองขับ Kia EV5 Earth Exclusive AWD มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ขับเคลื่อนสี่ล้อ ให้กำลังสูงสุด 230 แรงม้า แรงบิด 480 นิวตัน-เมตร …