รีวิว ลองขับ Honda CR-V e:HEV RS 4WD เเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว ผสานพลังมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว อัตราประหยัดน้ำมัน 20.8 กม./ ลิตร
รีวิว ลองขับ Honda CR-V e:HEV RS 4WD สปอร์ตพรีเมียมเอสยูวีที่สมบูรณ์แบบ
Honda CR-V e:HEV RS 4WD
“Honda CR-V e:HEV RS 4WD คือ การ “ถม” ที่ว่างให้เต็ม ในไลน์อัพ Hybrid ของโมเดลที่ผลิตในประเทศไทย ซึ่งเมื่อใครต่อใคร ต่างการันตีความยอดเยี่ยม จนน่าสงสัย … แล้วจะมีเหตุผลอะไรล่ะครับที่เราจะ “พลาด” โอกาส ถ้ามีได้ลอง”
เห็นใครต่อใครเค้าว่า “ขับดี” งานนี้ไม่ลองคงไม่ได้ หลังจากครั้งก่อนสนุกกับรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน VTEC Turbocharger เป็นที่เรียบร้อย คราวนี้เลยถึงเวลาแล้วที่จะหยิบ “รุ่นท็อป” มาลองบ้างกับ Honda CR-V e:HEV RS 4WD แล้วก็ด้วยสถานะของ “รุ่นท็อป”
ฉะนั้น “ออฟชั่น” ต่างๆ คงไม่ต้องพูดกันมาก เพราะเค้าจัดมาให้ชนิดที่เรียกว่า “ล้น” จนเราต้องขอหยิบเอามาเลือกพูดแค่บางอย่างที่น่าสนใจเท่านั้น
การมาถึงของ Honda CR-V e:HEV RS 4WD บอกอะไรหลายอย่างที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เพราะหากนึกให้ดี นี่คือ การเติมเต็ม “ไลน์อัพ Hybrid” หรือพูดง่ายๆ ว่าทุกรุ่นของ Honda ที่ผลิตในบ้านเรา จะมีขุมพลัง Hybrid ไว้เป็นอีกหนึ่งทางเลือก นอกเหนือจากรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปเพียวๆ
รูปลักษณ์ต้องยอมรับว่าทำการมาดีทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรุ่นย่อย RS ตั้งแต่การประทับตราสัญลักษณ์ RS บนกระจังหน้า และการเลือกใช้ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 19 นิ้ว ที่ช่วยนำเสนอความสปอร์ตได้ขัดเจน ทั้งยังมีการเก็บรายละเอียดต่างๆ เช่น
ชุดกันชนหน้า – หลัง และชายกันกระแทกด้านข้างโทนสีเดียวกับตัวรถ ตัดกับคิ้วแต่งประตูสีดำ Gloss Black ตลอดจนกระจกมองข้าง พร้อมไฟเลี้ยว, สปอยเลอร์หลัง และเสาอากาศครีบฉลาม ที่เลือกใช้โทนสีดำ Piano Black เช่นเดียวกัน
ภายในห้องโดยสารพูดได้ว่า “ระดับสปอร์ตพรีเมียม” ด้วยรายละเอียดการตกแต่ง เช่น เบาะหนัง และพวงมาลัยโทนสีดำ ด้ายสีแดง ส่วนแป้นคันเร่ง และแป้นเบรกก็มากับดีไซน์สปอร์ต ส่วน “ออฟชั่น” ก็อย่างที่บอกไว้ข้างต้นว่า “เพียบ” เลยขอหยิบมาพูดบางอย่างที่ใช้บ่อยๆ
แล้วค่อนข้างรู้สึกดี เช่น ระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ พร้อม Honda Smart Key Card, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ ปรับอุณหภูมิแยกอิสระซ้าย-ขวา แบบ i-Dual Zone พร้อมระบบฟอกอากาศภายในห้องโดยสาร Plasmacluster
แถมด้วยเทคโนโลยีใหม่ ล้ำสมัย ที่บอกตรงๆ “ไม่มี ไม่ได้” สำหรับยุคนี้ อาทิ อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger), ระบบแสดงข้อมูลบนกระจกหน้า (Head-up Display: HUD) ตามด้วยระบบนำทางเนวิเกเตอร์ แล้วก็เครื่องเสียง BOSE พร้อมลำโพง 12 ตำแหน่ง
ทั้งหมดควบคุมจากเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสแบบ Advanced Touch ขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay แบบไร้สาย รองรับ Android Auto ไปจนถึงระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto ส่วน มาตรวัด พร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ก็เป็นอีกสิ่งที่น่าประทับใจ ด้วยขนาดที่ใหญ่ถึง 10.2 นิ้ว
ส่วนจุดที่ใครๆ เค้ายกนิ้วให้ ก็คือ “ขุมพลัง” เพราะ Honda CR-V e:HEV RS 4WD มากับ ระบบ Full Hybrid e:HEV เป็นครั้ง มีส่วนประกอบสำคัญหลักๆ เป็น เครื่องยนต์ใหม่พิกัด 2.0 ลิตร Direct Injection Atkinson-Cycle DOHC แบบ 4 สูบ 16 วาล์ว
จับมือกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว โดย 1 ตัว ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า (Motor Generator) และอีก 1 ตัว ทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อ (Motor Drive) ซึ่งมีแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ประสิทธิภาพสูง สำหรับจัดเก็บพลังงานไฟฟ้า
โดยกำลังสูงสุดของเครื่องยนต์ที่มีมาให้ คือ 148 แรงม้า พร้อมแรงบิด 183 นิวตันเมตร แต่ที่น่าสนใจต้องยกให้ตัวเลขจากมอเตอร์ไฟฟ้า ที่มีแรงบิดสูงระดับ 335 นิวตันเมตร ทั้งยังมากับเทคโนโลยีการขับเคลื่อนที่ปรับเปลี่ยนโหมดได้ตามสภาวะการขับขี่
ซึ่งหลักๆ จะมีอยู่ 3 โหมด ประกอบด้วย โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode) โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode) และโหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode)
แถมด้วยสวิทซ์โหมดการขับขี่ (Drive Mode Switch) ให้เลือกปรับตามสไตล์ได้อีก 3 รูปแบบเช่นกัน คือ Sport, Normal และ Econ Mode
การส่งกำลังสู่ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ AWD เป็นหน้าที่ของเกียร์อัตโนมัติ E-CVT ขณะที่การรองรับเป็นหน้าที่ช่วงล่างด้านหน้าแบบ อิสระ แม็คเฟอร์สัน สตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง จับคู่กับด้านหลังแบบ อิสระ มัลติลิงค์ พร้อมเหล็กกันโคลง ซึ่งเห็นว่ามีการปรับแต่งให้รุ่นย่อย RS มีความต่างจากรุ่นมาตรฐาน คาดเดาว่าน่าจะเป็นเพราะต้องรองรับน้ำหนักที่มากกว่าเพื่อนร่วมรุ่น คือ ราวๆ 1.8 ตัน เลยทีเดียว
และนั่นก็เป็นหตุผลที่เราไม่รอช้า ในการเริ่มต้นใช้ชีวิตกับ Honda CR-V e:HEV RS 4WD ทันที สตาร์ทกันจากในเมือง แน่นอนว่า “รถติด” คือ สิ่งที่ต้องเจอเป็นอันดับแรก แต่ด้วยพิกัดรถอเนกประสงค์ ฉะนั้นความโปร่งโล่งสบาย แม้ต้องเจอกับสภาพการจราจรน่าอึดอัด
ถือว่าทำได้ดี และดีมากกับ แรงบิด 335 นิวตันเมตร กับน้ำหนักพวงมาลัยแปรผัน ที่ช่วยทำให้ รถอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ระดับนี้มีความคล่องตัวอย่างคาดไม่ถึง จากคุณสมบัติการออกตัวที่ง่าย และการควบคุมที่คล่องมือ
ส่วนระบบช่วงล่างกับการใช้งานในเมือง จุดนี้ค่อนข้างแปลกไปจากความเป็น Honda CR-V ที่เคยรู้จักพอสมควร เพราะรู้สึกได้ถึงความตึงตังที่มากขึ้น ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการปรับแต่งช่วงล่างให้รองรับน้ำหนักราว 1.8 ตัน
แถมยังต้องการความสปอร์ตให้สมฐานะรุ่นย่อย RS บวกกับล้ออัลลอยด์ขนาด 19 นิ้ว เข้าไปอีก ฉะนั้นการขับขี่ในเมือง เลยอาจจะไม่สบอารมณ์ “สาวก” Honda CR-V ที่ชอบความนุ่มนวลเท่าไหร่
แต่ถ้าถามส่วนตัว เรารับได้ และดูเหมือนจะรับได้เอามากๆ เมื่อเดินทางออกนอกเมือง เพราะความตึงตัง ความสปอร์ตที่ว่ามา ทำให้การเดินทางด้วยความเร็วปกติ หรือความเร็วสูง ให้ความมั่นใจได้ดี แถมยังให้ความรู้สึก “สนุก” ราวกับขับรถสปอร์ตอีกด้วย โดยเฉพาะในทางโค้ง บนเส้นทางถนนชนบทที่เราเลือกขึ้นมา หลังจากหาช่องทางออกนอกเมือง
อีกหนึ่งเหตุผลที่ Honda CR-V e:HEV RS 4WD มีความสนุกในการขับขี่มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ก็น่าจะเป็นการทำงานของระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD ที่ปรับปรุงขึ้นใหม่ เพราะจากเดิมอัตราส่วนจะอยู่ 60:40 แต่กับเจเนอเรชันใหม่ สามารถแปรผันได้ถึงระดับ 50:50
และหากรวมกับการตอบสนองของเครื่องยนต์ที่ฉับไว, พวงมาลัยที่เฉียบคม และช่วงล่างที่กระชับแล้วล่ะก็ คงไม่แปลกอะไร ที่จะรู้สึกว่าทั้งหมดนี้ คือ การสร้างบรรทัดฐานบุคลิกใหม่ของ Honda CR-V e:HEV RS 4WD
และจากเท่าที่ได้ลองขับ เราบอกได้เลยว่า “ชอบ” เพราะส่วนตัวแล้ว เราชอบฟิลลิ่งของรถหนักๆ และเจ้า Honda CR-V e:HEV RS 4WD ระดับ 1.8 ตัน ก็ให้ความรู้สึกแบบที่ชอบได้เป็นอย่างดี แถมยังมีอารมณ์ความสปอร์ต เหมือนกับรถสปอร์ตมาให้สัมผัสอีกด้วย
เพราะงั้นเราเลยรู้สึกได้ว่าเป็นอะไรค่อนข้าง “โดนใจ” โดยเฉพาะเมื่อใช้ความเร็วเดินทาง ส่วนในเมืองที่พบเจออาการตึงตัง ก็อย่างที่บอกไว้ว่าเรารับได้ ฉะนั้นการสร้างมาตรฐานใหม่ในครั้งนี้ แนะนำว่าจะให้ดี คือ ต้องไปลอง
อีกนิดที่เรารู้สึก “ขัดใจ” เบา ก็คือ ระบบ HondaLaneWatch ที่พูดจริงๆ คือ ตอบโจทย์การใช้งานได้ยังไม่ครอบคลุมเท่าไหร่ เพราะถ้าตำแหน่งของ Honda CR-V e:HEV RS 4WD คือ ระดับพ่อบ้าน แม่บ้าน ที่ใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน การมีกล้องแค่เฉพาะซ้ายมือฝั่งเดียว “ไม่น่าจะพอ”
… แล้วก็น่าจะต่อเนื่องระบบความปลอดภัยอื่นๆ ด้วย ที่คู่แข่งติดตั้งมาให้เป็นมาตรฐาน เพื่อทำให้ชีวิตในเมืองเป็นเรื่องง่ายขึ้นอีกเยอะ แถมน่าจะเป็นอะไรที่ทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจง่ายขึ้นอีกด้วย เมื่อเทียบกับค่าตัว 1,729,000 บาท
Specification: Honda CR-V e:HEV RS 4WD
- Price: 1,729,000 BHT
- Engine: 1,993 CC / 4 Cylinder / 16 Valve / 148 hp @ 6,100 rpm / 183 Nm @ 4,500 rpm
- Electric Motor: 135 hp @ 5,000 – 8,000 rpm / 335 Nm @ 0 – 2,000 rpm
- Transmission: E-CVT / All Wheel Drive
- Performance: 0 – 100 Km/h @ N/A / Top Speed @ N/A
- Weight: 1,815 Kg.