รีวิว ลองขับ Kia Carnival SXL Luxury เครื่องยนต์ดีเซล Smartstream 4 สูบ ความจุ 2.2 ลิตร TCI-VGT กำลังสูงสุด 202 แรงม้า รองรับน้ำมันดีเซล B7
รีวิว ลองขับ Kia Carnival SXL Luxury MPV 7 ที่นั่ง ราคา 2,990,000 บาท
Kia Carnival SXL Luxury
“Kia Carnival SXL Luxury ยนตรกรรม MPV 7 ที่นั่ง คือ ความ “เซอร์ไพรส์” แบบเหนือความคาดหมาย เพราะค่าตัว 2,990,000 บาท นั่นแลกความด้วยความ “คุ้มค่า” ของทั้ง Driver และ Passenger ในแบบที่ใครก็ตาม … คาดไม่ถึง”
พูดกันตรงๆ “Kia” คือ แบรนด์นอกสายตาที่ คล้ายๆ จะ “โรยรา” จากตลาดเมืองไทย ไปด้วย หลากสาเหตุ หลายปัจจัย ชนิดที่พูดได้ว่า ผู้บริโภคมากมาย “เลิก” ให้ความหวัง ความสนใจ ไปเป็นที่เรียบร้อย แม้ยุคหนึ่งในสมัยก่อน จะเจาะตลาดเข้ามา เป็นส่วนหนึ่งของสงคราม Eco Car ด้วย Kia Picanto ก่อนคลื่นลมสงบ และเงียบหายไปตามกาลเวลา
หลายปีผ่านไป เรายังคงได้ข่าวจากแบรนด์ “Kia” เหมือนเป็นงานอดิเรก ในต่างประเทศ ซึ่งเติบโตขึ้น และแอบลุ้นเบาๆ ถึงการกลับมาในเมืองไทย ด้วยเพราะส่วนหนึ่ง เรายังฝังรากลึกในใจ ว่านี่คือหนึ่งในแบรนด์ ซึ่งเคยทำตลาดในเมืองไทย และอยากให้กลับมาอีกครั้ง โดยเฉพาะเมื่อ “Kia” มีสายงาน ตัวแรงสมรรถนะสูงให้เลือกเล่น
แต่ “คลื่นลม” ดังกล่าวยังคง “เงียบเหงา” เพราะในบ้านเรา “Kia” ยังคงมากับการนำเสนอ ยนตรกรรมพื้นฐาน เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมาย “สถาบันครอบครัว” ประเดิมด้วย Kia Carnival เป็นก้าวแรก และดูเหมือนจะถูกที่ ถูกเวลาอย่างคาดไม่ถึง เพราะหลังจาก เกีย เซลส์ (ประเทศไทย) เข้ามาดูแลอย่างเป็นทางการ
การมาของ Kia Carnival ก็ได้กลายเป็นอาวุธ เจาะกำแพงตลาดเมืองไทย จนเข้ามาเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ในใจ ผู้บริโภคชาวไทยอย่างคาดไม่ถึง ซึ่งท้ายที่สุด เราสามารถพูดได้ว่า “นี่คือ หนึ่งใน MPV ที่น่าครอบครองมากที่สุดในเวลานี้”
และนี่คือพระเอกของเรา Kia Carnival SXL Luxury ยนตรกรรมอเนกประสงค์ MPV ขนาด 7 ที่นั่ง เจเนอเรชั่นที่ 4 ซึ่งด้วยแนวคิด Grand Utility Vehicle ที่มีแรงบันดาลใจมาจากยนตรกรรม SUV จึงทำให้งานดีไซน์มากับความโดเด่น พรีเมี่ยม พร้อมด้วยพื้นที่ใช้สอย และความอเนกประสงค์ในระดับเหนือชั้น จากขนาดตัวถังที่มีมิติใหญ่ขึ้น เพื่อสร้างความกว้างขวางให้ห้องโดยสาร และพื้นที่จัดเก็บสัมภาระ
ภายนอกมากับดีไซน์ “Tiger-Nose” ในส่วนของกระจัง เสริมด้วยออปชั่นล้ำๆ อย่าง ชุดไฟหน้า พร้อมไฟ Daytime Running Lights แบบ LED สร้างความโดดเด่นให้กับมุมมองด้านหน้าเป็นอย่างมาก
ส่วนภายในห้องโดยสารใช้แรงบันดาลใจในการออกแบบจากแนวคิด Spatial Talents เพื่อแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าด้านคุณภาพ และงานดีไซน์ ที่ช่วยยกระดับสภาพแวดล้อม ที่ให้ทั้งความผ่อนคลาย ล้ำสมัย และมีสไตล์ไปพร้อมๆ กัน
โดยทั้งหมดทั้งมวลที่เราพูดถึง มากับขนาดตัวถัง ความยาว 5,155 มม., ความกว้าง 1,995 มม., ความสูง 1,775 มม. วางตัวบนระยะฐานล้อ ซึ่งมีความยาวถึง 3,090 มม. และความกว้างหน้า – หลัง เท่ากันที่ 1,746 มม. ซึ่งคุณอาจจะไม่รู้สึกอะไร หากดูจากตัวเลขดังกล่าว
แต่สำหรับผู้ที่ไม่คุ้นชินกับรถใหญ่ บอกเลยว่า Kia Carnival SXL Luxury จะทำให้คุณเกิดความประหม่าทันที เมื่อได้พบเจอตัวเป็นๆ กับขนาดที่ต้องบอกว่า “มโหฬาร” ด้วยเหตุผล ที่ต้องการเสิร์ฟความสะดวกสบายขั้นสุด ตามฐานะของยนตรกรรม MPV อเนกประสงค์นั่นเอง
ส่วนออปชั่นมาตรฐานที่ติดตั้งมาให้ ดูตามรายละเอียดจากบน “เว็บไซต์” แล้ว ก็ต้องบอกว่าครบเครื่อง ซึ่งจะให้สาธยายหมด ก็ดูจะเป็นไปได้ยาก ฉะนั้นเอาแค่หลักๆ ที่ใช้งานบ่อยก็พอ เช่น ชุดมาตรวัดที่ถูกใจในความกว้างแบบ Panorama กับขนาด 12.3 นิ้ว มาพร้อมหน้าจอ Infotainment รองรับการเชื่อมต่อ Android Auto™ และ Apple CarPlay™ แบบไร้สาย รวมไปถึงมีชุดควบคุมอุณหภูมิระบบสัมผัสแบบ Haptic Touch Panel ที่ใช้งานง่าย
ในเรื่องของความอเนกประสงค์ ถูกใจแน่นอนกับความสามารถในการปรับเปลี่ยนตามความต้องการ กับเบาะนั่งระบบ Premium Relaxation Seat ให้ผู้โดยสารแถว 2 ปรับเอนนอนได้ ทั้งยังมีพนักพิงหลัง และที่พักขาปรับไฟฟ้า ให้ปรับระดับได้เต็มรูปแบบ แถมยังมีระบบอุ่นเบาะ และระบบระบายอากาศเบาะ ที่บอกเลยว่าเหมือนกับนั่งเครื่องบินชั้น Business Class เลยทีเดียว
มีโหมด One-touch Relaxation ในที่นั่งแถว 2 ให้ผู้โดยสารปรับเอนพนักพิง และปรับเอนส่วนหน้าของเบาะนั่งได้พร้อมกัน ด้วยการสัมผัสเพียงครั้งเดียว แถมด้วยเครื่องเสียงที่ติดตั้ง Bose Premium พร้อมลำโพงถึง 12 ตัว
ด้านที่นั่งแถว 3 ก็สามารถพับเก็บได้ราบเรียบสนิท เพิ่มความอเนกประสงค์ และการบรรทุกสัมภาระได้มากขึ้น แถมยังมีคุณสมบัติพิเศษต่างๆ อีกมากมาย ที่ช่วยให้ทุกการเดินทางสะดวกสบายมากขึ้น เช่น ประตูสไลด์ไฟฟ้าอัจฉริยะ (Smart Power Sliding Door) และฝากระโปรงท้ายไฟฟ้าอัจฉริยะ (Smart Power Tailgate) ที่จะเปิดให้โดยอัตโนมัติ เมื่อเข้าใกล้ โดยที่มีกุญแจ Smart Key อยู่กับตัว
ขุมพลัง มากับเครื่องยนต์ดีเซล Smartstream ใหม่ล่าสุด ขนาด 2.2 ลิตร ซึ่งอัพเกรดให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น มีกำลังสูงสุด 202 แรงม้า ที่ 3,800 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุดระดับ 440 นิวตันเมตร ตั้งแต่ 1,750 – 2,750 รอบต่อนาที ส่งกำลังสู่ล้อหน้าด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด พร้อมโหมด Manual
ช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบ แมคเฟอร์สันสตรัท คอยล์สปริง พร้อม โช๊คอัพแก๊ส จับคู่กับด้านหลังแบบ มัลติลิงก์ คอยล์สปริง และ โช๊คอัพแก๊ส ตามด้วยดิสก์เบรกที่จัดมาให้ทั้ง 4 ล้อ และล้ออัลลอยที่มากับขนาด 19 นิ้ว พร้อมยางซีรี่ส์ 235/55 จากนั้นว่ากันที่เรื่องของระบบความปลอดภัย ซึ่งมีทั้ง Passive Safety และ Active Safety
ตลอดจนระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ เช่น ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (Electronic Stability Control – ESC), กล้องมองรอบทิศทาง (Surround View Monitor – SVM), ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง (Advanced Driver Assistance Systems – ADAS), ระบบควบคุมความเร็วตามรถคันหน้าอัตโนมัติ (Smart Cruise Control with Stop & Go),
ระบบป้องกันการชนด้านหน้า (Forward Collision Avoidance Assist – FCA), ระบบช่วยควบคุมให้รถอยู่ในช่องจราจร (Lane Keeping Assist – LKA), ระบบระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (Lane Following Assist), ระบบเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Collision Warning (BSW), ระบบป้องกันการชนจากมุมอับสายตา (Blind Spot Collision Avoidance Assist – BCA)
และระบบป้องกันการออกจากรถ ขณะมีรถวิ่งมาด้านข้าง (Safe Exit Assist – SEA) ซึ่งทั้งหมดตั้งแต่ขุมพลัง ไปจนถึงระบบความปลอดภัยนั่นแหละ คือตัวช่วยชั้นดี ที่จะทำให้อาการประหม่าหายไป หากต้องขับขี่รถพิกัดใหญ่ระดับนี้
เพราะด้วยตำแหน่งผู้ขับ ของรถอเนกประสงค์ MPV ที่มีความสูง ประกอบกับความกว้างของกระจกบังลมหน้า ทำให้ทัศนวิสัย “เริ่ด” ด้วยความโปร่งโล่งสบาย แถมด้วยแรงบิดระดับ 440 นิวตันเมตร ที่มาตั้งแต่ 1,750 – 2,750 รอบต่อนาที ก็ช่วยสร้างความกระฉับกระเฉงได้ดี จนบางทีออกตัวจากจุดหยุดนิ่งแบบ “จมคันเร่ง” ยังแอบมีเสียง “เอี๊ยด” ออกมาให้ได้ยินเบาๆ กันเลยทีเดียว
ทั้งยังมีระบบพวงมาลัยที่ปรับเซ็ทมาอย่างเหมาะสม มีการตอบสนองได้อย่างฉับไว จนทำให้การขับขี่ในเมืองเป็นเรื่องไม่น่าอึดอัดเท่าไหร่ แต่จะให้ปราดเปรียวเหมือนรถเล็กเลยก็ใช่เรื่อง เอาเป็นว่ามีความ “สมเหตุ สมผล” ตามสถานภาพของรถอเนกประสงค์ MPV ขนาดใหญ่ น่าจะเข้าใจง่ายกว่า
ในเรื่องของช่วงล่าง แน่นอนว่ามีการปรับเซ็ทมาเพื่อเน้นการโดยสาร ฉะนั้นในภาพรวมจึงมีส่วนผสมของทั้ง “ความนุ่มนวล” และ “ความเฟิร์ม” ออกมาให้สัมผัส ซึ่งจุดที่เราชอบที่สุด น่าจะเป็นย่านความเร็วเดินทางซัก 80 กม./ชม. ขึ้นไป ที่จะสัมผัสได้ถึง “ความสปอร์ต” เล็กๆ จากอารมณ์ของน้ำหนักพวงมาลัย, ช่วงล่าง และความสามารถในการยึดเกาะถนน
โดยเฉพาะในเส้นทางสายรอง ซึ่งมาพร้อมกับโค้งซ้าย โค้งขวาสลับกันไป ที่ใครจะเชื่อว่า รถอเนกประสงค์ MPV ขนาดใหญ่ อย่าง Kia Carnival SXL Luxury จะมอบความสนุกสนานในการขับขี่มาให้แบบเกินคาด
และหากยังสนุกไม่มากพอ Kia Carnival SXL Luxury เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ยังมีโหมด Manual ให้เลือกเล่นอีกด้วย แต่การเล่นในจุด คือ ต้องเล่นกับแรงบิด (Torque) เป็นหลัก ด้วยเพราะพื้นฐานขุมพลัง คือ เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ ที่ความมันส์อยู่ในย่านรอบเครื่องยนต์
ที่สามารถดึงเอาแรงบิดสูงสุดมาใช้นั่นเอง เพียงเท่านั้น รถอเนกประสงค์ MPV ขนาดใหญ่ อย่าง Kia Carnival SXL Luxury ก็พร้อมจะพุ่งทะยานไปข้างหน้า เพื่อมอบความสนุกเล็กๆ ให้ผู้ขับขี่
ส่วนการขับขี่ที่ “ดีที่สุด” ของ Kia Carnival SXL Luxury ก็คือ อารมณ์ของการเป็นรถเดินทาง ซึ่งผู้ขับ “ขับสบาย” ส่วนผู้โดยสาร “สบายกว่า” กับการใช้ความเร็วคงที่ เดินหน้าไปเรื่อยๆ อย่างมั่นคง และปลอดภัย ให้สมกับที่เป็น รถอเนกประสงค์ MPV ขนาดใหญ่ ที่เราคิดว่าน่าจะเป็นการขับขี่ที่เหมาะสำหรับครอบครัวอย่างแท้จริง
Specification: Kia Carnival SXL Luxury
- Price: 2,990,000 BHT
- Engine: 2,151 CC / 4 Cylinder / 16 Valve / Diesel Turbo 202 hp @ 3,800 / 404 Nm @ 1,750 – 2,750 rpm
- Transmission: 8A/T & Manual Mode
- Performance: 0 – 100 Km/h @ NA / Top Speed @ NA
- Weight: NA