รีวิว ลองขับ Kia EV5 Earth Exclusive AWD มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ขับเคลื่อนสี่ล้อ ให้กำลังสูงสุด 230 แรงม้า แรงบิด 480 นิวตัน-เมตร ราคา 1,799,000 บาท
รีวิว ลองขับ Kia EV5 Earth Exclusive AWD ยนตรกรรมไฟฟ้า 100%
Kia EV5 Earth Exclusive AWD
“ถ้าจะมีแบรนด์รถยนต์ค่ายไหน ซักแบรนด์ ที่ Re-Born ใหม่ได้สมบูรณ์แบบที่สุด … เราขอยกให้แบรนด์เกาหลีค่าย Kia นี่แหละ ที่พลิกภาพลักษณ์จากเดิมโดยสิ้นเชิง มาสู่ความล้ำสมัย ดังจะเห็นกันจากหลากหลายรุ่นยนตรกรรมใหม่ที่น่าสนใจ … ในขณะที่ “ราคา” คือ ปัญหาที่ต้องแก้กันต่อไป”
ปฏิเสธไม่ได้ว่า “ตื่นเต้น” คือ ความรู้สึกแรกหลังจากทราบ ว่าเรามีโอกาสสัมผัส Kia EV5 Earth Exclusive AWD เพราะต้องยอมรับว่า “นาน” แบบจำไม่ได้ ว่าครั้งสุดท้ายที่เราได้สัมผัสยนตรกรรมจากค่าย Kia คือ “เมื่อไหร่”
พูดถึงแบรนด์ Kia จากภาพจำในอดีตของเรา เดินทางมาสู่ยุคสมัยใหม่ปัจจุบัน นึกไม่ออกเลยว่าต้องผ่านการ “ปฏิวัติ” มามากมายขนาดไหน ถึงสร้างผลงานการดีไซน์ออกมาได้ “ช็อกโลก” ชนิดที่เรียกว่า “โละ” ทิ้งความ “ล้าสมัย” ออกไปอย่างไม่หลงเหลือ ราวกับเพิ่งถือกำเนิดแบรนด์ใหม่ขึ้นมาไม่นาน
ใช่สิ … ต้องบอกว่าแบรนด์ Kia ถือกำเนิดขึ้นมาใหม่แบบจริงๆ จังๆ ก็ว่าได้ สังเกตง่ายๆ จากโลโก้ของแบรนด์ที่ถูกปรับดีไซน์ใหม่ เปลี่ยนอักษร 3 ตัว K I A จากภาพในความทรงจำของหลายๆ คนให้เรียบง่าย ล้ำยุค ล้ำสมัย ต่อยอดมาจนถึง “ดีไซน์” อยู่บนเรือนร่างของยนตรกรรม
ทั้งยังรวมไปถึงนวัตกรรม และเทคโนโลยี ต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ICE, HEV, PHEV หรือแม้แต่พระเอกของเราอย่าง EV รุ่น EV5 Earth Exclusive AWD ก็ตาม
Kia EV5 Earth Exclusive AWD ยนตกรรมทรงกล่อง ปูพรมด้วยเส้นสายเฉียบคม ผิดหูผิดตา ความเป็นแบรนด์ Kia ที่เราเคยรู้จักมานมนาน ประกอบด้วยมิติตัวถัง ความยาว 4,615 มิลลิเมตร, ความกว้าง 1,875 มิลลิเมตร, ความสูง 1,715 มิลลิเมตร และความยาวฐานล้อ 2,750 มิลลิเมตร
พร้อมดีไซน์ล้ำสมัย ด้วยการผสานแนวคิดปรัชญาการออกแบบที่เรียกว่า Opposites United – สู่ความสง่างามอย่างลงตัว อาทิ ชุดไฟหน้า และไฟท้ายแบบ LED ซึ่งมีเส้นสายคมชัด จนทำให้ยนตรกรรมอเนกประสงค์ SUV ขนาดกลางรุ่นนี้ มีความสปอร์ตที่โดดเด่นอย่างเห็นได้ชัด
ภายในห้องโดยสารยังคงรักษาธีมความล้ำสมัยเช่นเดียวกับภายนอก พร้อมด้วยการติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมาให้อย่างครบครัน เช่น หน้าจอแบบพาโนรามาขนาด 29.6 นิ้ว ที่ประกอบด้วย 3 ส่วน คือ
หน้าจอแสดงผล Digital Supervision ขนาด 12.3 นิ้ว, หน้าจอแสดงผลระบบปรับอากาศแบบสัมผัสขนาด 5.3 นิ้ว และหน้าจอมัลติมีเดีย (Infotainment) แบบสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว สามารถรองรับการเชื่อมต่อได้ทั้ง Android Auto™ และ Apple Carplay® แบบไร้สาย
ทั้งยังเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ด้วยระบบแสดงข้อมูลการขับขี่บนกระจกหน้า Head-Up Display (HUD), กล้องมองรอบทิศทาง (Surround View Monitor) และระบบ ADAS (Advanced Driver Assistance System) ซึ่งมีไฮไลต์ที่ประกอบด้วย
ระบบรักษาความเร็วคงที่อัตโนมัติแบบแปรผัน (Smart Cruise Control with Stop & Go) และระบบช่วยควบคุมให้รถอยู่ในช่องจราจร (Lane Following Assist และLane Keeping Assist), ระบบป้องกันการชนด้านหน้า ตรวจจับรถยนต์ คน และจักรยาน (Forward Collision Avoidance Assist – FCA) พร้อม Junction Assist,
ระบบช่วยเตือน และป้องกันการชนรถในมุมอับสายตา (Blind Spot Collision Avoidance Assist) ตลอดจนระบบแจ้งเตือน และหลีกเลี่ยงการชนขณะถอยหลัง พร้อมระบบช่วยป้องกันการชนขณะถอยจอด (Rear Cross Traffic Collision Avoidance และ Parking Collision Avoidance Assist)
จุดเด่นของ Kia EV5 Earth Exclusive AWD ในฐานะ “พี่ใหญ่” จากทั้งหมด 4 รุ่นย่อย คือ “สมรรถนะ” เพราะในขณะที่รุ่นอื่นมากับขนาดความจุแบตเตอรี่ 64.2 กิโลวัตต์/ชั่วโมง พร้อมมอเตอร์เดี่ยว เรี่ยวแรง 217 แรงม้า และแรงบิด 310 นิวตันเมตร
แต่ Kia EV5 Earth Exclusive AWD เสิร์ฟความเร้าใจกว่าด้วยขนาดความจุแบตเตอรี่ 88.1 กิโลวัตต์/ชั่วโมง ก่อน On Top เข้าไปอีกขั้น ด้วยการใช้มอเตอร์คู่ ด้านหน้า 217 แรงม้า และแรงบิด 310 นิวตันเมตร และด้านหลัง 95 แรงม้า พร้อมแรงบิด 170 นิวตันเมตร
ทำให้ สิริรวมแล้วมีกำลังทั้งหมดสูงสุดถึง 308 แรงม้า กับแรงบิดเร้าใจที่ 480 นิวตันเมตร ซึ่งทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ดุเดือดไม่เบาทีเดียวกับตัวเลข 6.1 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุดนั้น ทางต้นสังกัดทำการ “ล็อค” เอาไว้เหมือนๆ กันทุกรุ่น คือ 185 กม./ชม.
ในส่วนของการลองขับ อันดับแรกต้องบอกเลยว่าหลังจากเข้าประทับในตำแหน่งหลังพวงมาลัย และสัมผัสให้ทั่วๆ หลายคนน่าจะรู้สึกได้ ไม่ว่าจะเป็นงานดีไซน์ หรืออะไรต่างๆ นั้นค่อนข้างแสดงจุดยืน และกลิ่นอายความเป็น “เกาหลี” ออกมาให้สัมผัสกันแบบเต็มๆ
เราชอบในความ “เรียบง่าย” โดยเฉพาะการจัดวางปุ่มฟังก์ชันใช้งานต่างๆ ที่ไม่มาก ไม่น้อยเกินไป แถมยังเอื้ออำนวยให้สะดวกต่อการหยิบจับใช้งาน ชนิดที่ต่อให้ไม่เคยสัมผัสมาก่อน ก็สามารถเรียนรู้ และใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพในเวลาไม่นาน
รวมถึงการทำความคุ้นเคยกับตัวรถด้วยเช่นกัน เพราะด้วยขนาดของ Kia EV5 Earth Exclusive AWD ที่อยู่ในพิกัด ซึ่งไม่ใหญ่โตมากนัก ทำให้การขับขี่ถือว่าเป็นไปอย่างคล่องตัว อีกทั้งด้วยความเป็นยนตรกรรมอเนกประสงค์ SUV ที่มีความสูงเป็นต้นทุนชั้นดีเรื่องทัศนวิสัย
ก็ยิ่งทำให้เกิดความมั่นใจมากขึ้น แถมด้วยสถานะของความเป็นยนตรกรรมไฟฟ้า 100% ที่จุดเด่นก็อย่างที่หลายๆ คนทราบดีว่า ไม่มีอาการ “รอรอบ”
ฉะนั้น Kia EV5 Earth Exclusive AWD จึงตอบสนองการขับขี่ได้อย่างเฉียบคม ฉับไว ไม่เพียงเท่านั้น เพราะเรายังรู้สึกได้ว่าวิศวกรจากค่ายนี้เค้าเหนือชั้นกว่า เนื่องจากน่าจะปรับแต่งการตอบสนองให้ค่อนข้างไปทางอารมณ์เครื่องยนต์สันดาป
อาจเพราะเพื่อแก้ปัญหาที่หลายคนไม่ชอบยนตรกรรมไฟฟ้า 100% อย่างเช่นเวลา “เหยียบ” คันเร่งแล้ว “ยก” อาการ “กระตุก” จะเกิดขึ้นแบบฉับพลัน จนอาจทำให้ผู้โดยสารเวียนหัว
ซึ่งน่าจะเป็นเหตุผลให้ Kia EV5 Earth Exclusive AWD ได้รับการปรับแต่งให้การตอบสนองค่อนข้างคล้ายเครื่องยนต์สันดาป โดยข้อดีก็คือนอกจากจะทำให้ไม่เวียนหัวแล้ว ก็ยังทำให้ผู้ขับขี่ที่ไม่เคยผ่านมือยนตรกรรมไฟฟ้า 100% มาก่อน สามารถปรับตัวให้เข้าถึง และขับขี่ได้ง่ายอีกด้วย
นอกจากความคล่องตัว ที่สร้างความประทับใจได้ดีในการขับขี่ในเมืองแล้ว “นอกเมือง” ยังถือเป็นอีกหนึ่งความโดดเด่นของ Kia EV5 Earth Exclusive AWD ด้วยเรี่ยวแรงเหลือเฟือ ที่เร่งแซงได้อย่างมั่นใจ ตามด้วย “การเก็บเสียง” ที่แม้จะเป็นยนตรกรรมอเนกประสงค์ทรงกล่อง แต่ก็ทำได้ดีเกินคาด แม้บางครั้งเราจะใช้ความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดไปบ้างก็ตาม
ช่วงล่างเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่ไม่พูดถึง ไม่ได้ โดยเฉพาะการขับขี่ในเมือง ซึ่งดูดซับแรงสั่นสะเทือนได้ดีงาม จนผู้โดยสารประทับใจ ส่วนนอกเมืองแอบ “ขัดใจ” เบาๆ เมื่อเจอทางโค้ง ด้วยอาการ “แรงเหวี่ยงหนีศูนย์” จากด้านท้ายหากเข้าโค้งด้วยความเร็ว
รวมไปถึงเมื่อใช้ความเร็วสูงในการเดินทาง ผู้โดยสารด้านหลังน่าสัมผัสได้ถึงความ “นุ่ม” ของช่วงล่างด้านหลัง แต่กลับกัน ถ้าใช้ความเร็วปกติ หรือตามกฎหมายกำหนด Kia EV5 Earth Exclusive AWD ถือเป็นยนตรกรรมอเนกประสงค์ที่ทำได้ดี
ส่วนอาการ “แรงเหวี่ยงหนีศูนย์” เมื่อเข้าโค้งด้วยความเร็ว จุดนี้เรารู้สึกว่ายังไว้วางใจได้อยู่ ด้วยเพราะ Kia EV5 Earth Exclusive AWD มากับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่สามารถบริหารจัดการให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดในการขับขี่ แม้ “อาการ” จะ “เกินงาม” ไปนิดในความรู้สึกของผู้ขับขี่ก็ตาม
ซึ่งทั้งหมดนั่นแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า Kia EV5 Earth Exclusive AWD ถือกำเนิดขึ้นมาเพื่อการขับขี่แบบ “ความสบาย” เน้นตอบโจทย์การใช้งานปกติทั่วไป
ในส่วนของอัตราสิ้นเปลือง Kia EV5 Earth Exclusive AWD เคลมว่าการชาร์จไฟเต็ม 100% หนึ่งครั้ง สามารถวิ่งได้มากถึง 620 กิโลเมตร ทั้งนี้ทั้งนั้นในมุมมองเราคิดว่า “เป็นไปได้” ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของการขับ เนื่องจากท้ายที่สุดแล้ว “ไฟฟ้า” ก็คือ “พลังงาน” อย่างหนึ่ง ไม่ต่างกับ “น้ำมัน”
ฉะนั้นการ ขับเร็ว ขับแรง จึงถือเป็นปัจจัยอย่างหนึ่งในการใช้เชื้อเพลิง หรือ พูดง่ายๆ ว่า “รถน้ำมัน” การขับเร็ว ขับแรง คือ การใช้น้ำมันมากขึ้น เช่นเดียวกับ “รถไฟฟ้า” ที่การขับเร็ว ขับแรง ก็ทำให้ใช้ไฟฟ้ามากขึ้นเช่นกัน
ฉะนั้นในจุดนี้เราจึงยกให้เป็นการตัดสินของผู้ที่สนใจ เช่นเดียวกับ “ราคา” ซึ่งในมุมมองของเรา ค่าตัว 1,799,000 บาท ถือว่า “ไม่เบาทีเดียว สำหรับการเป็นเจ้าของ Kia EV5 Earth Exclusive AWD หากเทียบกับการรุกคืบของแบรนด์ใหม่ๆ จาก ดินแดนหลังม่านไม้ไผ่
Specification: Kia EV5 Earth Exclusive AWD
- Price: 1,799,000 BHT
- Electric Motor: Front : 217 hp / 310 Nm – Rear : 95 hp / 170 Nm
- Total: 308 hp / 480 Nm
- Transmission: Electric Transmission
- Performance: 0 – 100 Km/h @ 6.1 Sec / Top Speed @ 185 Km/h
- Weight: 2,030 Kg.