รีวิว ลองขับ Mercedes-Benz C 220 d AMG Dynamic เวอร์ชั่นล่าสุดของ C-Class ขุมพลังดีเซลเทอร์โบ 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร 200 แรงม้า ราคา 2,990,000 บาท
รีวิว ลองขับ Mercedes-Benz C 220 d AMG Dynamic ซีดานรุ่นเล็กจาก Merc
MERCEDES-BENZ C220 d AMG DYNAMIC
เวอร์ชั่นล่าสุดของ C-Class เน้นย้ำให้เห็นถึงการยกระดับความหรูหราและทันสมัยให้กับซีดานรุ่นเล็กของ Merc ได้อย่างชัดเจนอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน จึงไม่แปลกหากคุณจะรู้สึกแบบเดียวกับผมในตอนนี้… หลงรักตั้งแต่แรกเห็น…
ต่างจากรถรุ่นอื่นๆ ซึ่งทันทีที่ถูกส่งมาให้ผมเทสต์ไดร์ฟ ผมจะเข้าไปนั่งและขับออกไปทันที แต่กับ C-class ใหม่ ผมหมดเวลากว่าครึ่งชั่วโมงไปกับการชื่นชมรายละเอียดต่างๆ ของรถ ไล่ตั้งแต่กันชนหน้าไปถึงปลายท่อไอเสีย, จากแดชบอร์ดไปถึงเบาะหลัง
แม้เป็นดีไซน์มินิมัล ทว่าแต่ละชิ้นส่วนแฝงไว้ด้วยลูกเล่นในการออกแบบอันละเอียดละออ คุณภาพวัสดุและการประกอบที่ประณีตและแน่นหนายังคงเป็นไปตามมาตรฐานขั้นสูงของ Mercedes พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ติดตั้งมาให้ยาวเป็นหางว่าว
ตอนนี้ก็ถึงเวลาปลุกขุมพลังดีเซลเทอร์โบให้ตื่นจากภวังค์เสียที… เมื่ออยู่ในห้องโดยสาร คุณแทบจะไม่รู้สึกถึงความสั่นสะเทือนหรือได้ยินเสียงของเครื่องยนต์ดังเข้ามาในห้องโดยสารนัก เป็นอีกครั้งที่ต้องบอกว่า “เป็นไปตามมาตรฐานขั้นสูงของ Mercedes” เช่นเดียวกับขณะขับขี่คุณยังคงได้ความเงียบสงบไม่ว่าจะที่ความเร็วต่ำในเมือง
หรือความเร็วสูงบนมอเตอร์เวย์ แรงบิดสูงที่รอบต่ำตามบุคลิกของขุมพลังดีเซล ร่วมด้วยระบบ ISG และเกียร์อัตโนมัติอัตราทดชิด 9 จังหวะ ส่งให้ C220 d เร่งแซงได้อย่างน่าพอใจในทุกย่านความเร็ว การปลดปล่อยพลังเป็นไปอย่างสุภาพเรียบร้อยตามสไตล์ของพวกเขา ในขณะที่ช่วงล่างแบบสปอร์ตช่วยให้รถทรงตัวได้ดี ทว่ายังคงให้ความนุ่มนวลได้ในระดับที่น่าพอใจ
น้ำหนักพวงมาลัยยอดเยี่ยม แปรผันอัตราทดและความตึงได้เหมาะสมกับความเร็ว การเซ็ตให้ตอบสนองไวช่วยให้คุณสามารถฉวัดเฉวียนไปตามโค้งสลับได้อย่างกระฉับกระเฉง และนี่คือที่ซึ่งเบรกและช่วงล่าง AMG จะเผยให้เห็นประสิทธิภาพของมัน สัมผัสที่หนักแน่นเพิ่มความมั่นใจในการบังคับควบคุมขณะอยู่ในโค้ง การทรงตัวเป็นธรรมชาติ
ส่วนระบบเบรกอาจต้องเหยียบลึกกว่าปกติเล็กน้อยจึงเริ่มปล่อยพลังเบรกให้เห็น เมื่ออยู่ในโหมดสปอร์ต ชุดเกียร์ 9G-Tronic จะลดลงสู่เกียร์ต่ำทันทีที่มันมีโอกาส เพื่อเตรียมแรงบิดให้พร้อมทันทีที่คุณกดคันเร่งเมื่อถึงทางออกโค้ง เทียบกับพละกำลัง 200 แรงม้า (บวกด้วยอีก 20 แรงม้า จากระบบ Mild Hybrid) นับว่า C220 d ขับสนุกและให้สมรรถนะที่เหนือความคาดหมายทีเดียว
อุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่เพียบพร้อมยิ่งขึ้น, เครื่องยนต์ปรับปรุงใหม่ และดีไซน์ที่น่าหลงใหลทั้งภายนอกและภายใน ขณะที่ราคาจำหน่ายยังคงเท่ากับรุ่นก่อนหน้านี้ ที่ 2,990,000 บาท คืออีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งให้ C-class ใหม่ เป็นรถที่น่าสนใจอย่างยิ่ง C200 d การแสดงให้เห็นทิศทางของ Mercedes ยุคใหม่ได้อย่างชัดเจน
ทั้งในเรื่องของการออกแบบ, เทคโนโลยี และสมรรถนะ และในอีกด้านหนึ่ง นี่คือจุดเริ่มต้นของการเอ่ยคำลาให้กับเครื่องยนต์สันดาปภายใน ก่อนที่จะค่อยๆ เลือนหายไป ด้วยการมาถึงและเข้าครอบครองตลาดของยานยนต์ไฟฟ้า
ฝากระโปรงหน้าเน้นการเล่นระดับและใช้เส้นคมเพื่อความดุดันและนำสายตาไปสู่สันช่วงไหล่ที่ใช้เส้นคมเช่นเดียวกัน ตัดด้วยการลดความซับซ้อนของเส้นสายด้านข้างตัวถังลง เพื่อช่วยขับภาพลักษณ์แบบมินิมัลให้เด่นชัด ต่อเนื่องไปจนถึงท้ายรถที่โค้งมน ห้องโดยสารที่ขยับเลื่อนมาด้านท้ายมากขึ้นส่งให้ภาพรวมของรถมีความสปอร์ตกว่าโฉมที่แล้วอย่างชัดเจน คนทดสอบของเรามาพร้อมกับชุดกันชนหน้า, หลัง และอุปกรณ์ตกแต่ง AMG
กระจังหน้าทรงอักษร A แบบเดียวกับอนุกรมสปอร์ตของ Mercedes เติมความดุดันให้กับ C-class ใหม่ ในเกรด AMG Dynamic ได้กระจังแบบพิเศษที่มาพร้อมกับสัญลักษณ์ “ดาวสามแฉก” ขนาดจิ๋ว ร้อยเรียงต่อกันเต็มพื้นที่กระจังหน้า
รูปทรงของไฟหน้าปรับให้กะทัดรัดกว่าโมเดลที่แล้ว ระบบไฟ LED High Performance เป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับ C-class ทุกเกรดเลเวล ในขณะที่บางประเทศมีระบบ Digital ที่ล้ำสมัยให้เลือกติดตั้งด้วย
เป็นครั้งแรกใน C-class ที่ใช้ไฟท้ายแยก 2 ชิ้น (ตัวถังและฝาท้าย) จึงสามารถออกแบบให้ดูเพรียวบางได้ เมื่อรวมกับแถบแสงที่แยกเป็นบล็อกสี่เหลี่ยมเล็กๆ เรียงต่อกัน ทำให้มุมมองด้านท้ายรถดูแบนและกว้างยิ่งขึ้น
เครื่องยนต์ได้รับการปรับปรุงหลักๆ 4 จุดด้วยกัน คือ ใช้เพลาข้อเหวี่ยงที่มีระยะชักยาวขึ้น 2 มม. (จาก 92.3 เป็น 94.3 มม.) จึงได้ความจุกระบอกสูบเพิ่มขึ้น (จาก 1,950 ซีซี.) เป็น 1,992 ซีซี., เพิ่มแรงดันหัวฉีดจาก 2,500 เป็น 2,700 บาร์, ใช้เทอร์โบคู่ (แปรผันได้ทั้งสองตัว) ระบายความร้อนด้วยน้ำ เพื่อการตอบสนองคันเร่งที่ฉับไวยิ่งขึ้น และสุดท้ายคือ ลูกสูบที่มาพร้อมกับระบบระบายความร้อนด้วยโซเดียม เพื่อกระจายความร้อนจากหัวลูกสูบออกไป ล้อขนาด 19 นิ้ว จับคู่กับยางพร้อมโฟมช่วยลดเสียงรบกวนจาก Pirelli ขนาด 225/40 ที่ด้านหน้า และ 255/35 ที่ด้านหลัง กับช่วงล่างแบบสปอร์ตเตี้ยลง 10 มม. ร่วมด้วยดิสก์และคาลิเปอร์หน้าขนาดใหญ่ ติดตั้งเป็นมาตรฐานในเกรด AMG ห้องโดยสารดูแตกต่างจากรุ่นก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง จากการเปลี่ยนจอแสดงผลส่วนกลางมาเป็นแบบแนวตั้ง แยกส่วนจากจอสำหรับผู้ขับ แดชบอร์ดดีไซน์แบบ 2 ชั้น และมีลักษณะโอบล้อมไปทางผู้ขับ ใช้วัสดุคุณภาพสูงและมีดีไซน์ที่เต็มไปด้วยรายละเอียดงดงาม ติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมาให้ครบครัน พร้อมการตกแต่งจาก AMG ที่ช่วยเพิ่มความสปอร์ตขึ้นอีกระดับ ระบบบังคับเลี้ยวไฟฟ้าแบบแปรผันตามความเร็ว ให้สัมผัสที่เป็นธรรมชาติและปรับน้ำหนักได้เหมาะสมทุกย่านความเร็ว การเซ็ตให้ตอบสนองไวช่วยให้ง่ายต่อการซอกแซกไปตามกราจราจรในเมือง และขณะขับบนเส้นทางที่คดเคี้ยว พวงมาลัย 3 ก้าน ขนาดอวบอ้วนจับถนัด เป็นดีไซน์ใหม่ล่าสุดของ Mercedes มาพร้อมกับชุดควบคุมด้วยระบบสัมผัสที่ก้านพวงมาลัยทั้งสองฝั่ง… สวยงาม, ล้ำสมัย แต่ใช้งานค่อนข้างยากเมื่อเทียบกับแบบปุ่มกดและสวิตช์ของรุ่นที่แล้ว ระบบ Start / Stop สามารถสั่งดับเครื่องยนต์ในขณะถอนคันเร่งหรือก่อนรถหยุดสนิทได้ ต้องขอบคุณระบบ ISG (Integrated Starter-Generator) ซึ่งจะทำหน้าที่แบบระบบ Mild Hybrid ที่ความเร็วต่ำ เจเนอเรชั่นที่ 2 ของ ISG ใช้ไดสตาร์ทระบบไฟฟ้า 48 โวลท์ ทำหน้าที่ทั้งจ่ายไฟขณะดับเครื่องยนต์เมื่อถอนคันเร่งหรือจอดอยู่กับที่, ส่งพลังเสริม (20 แรงม้า) ให้กับรถขณะเร่งความเร็ว และนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน พร้อมระบบช่วยนำจอดอัตโนมัติที่ได้รับการอัพเกรดให้ทำงานได้รวดเร็วและง่ายดายยิ่งขึ้น จากการใช้เซนเซอร์รอบคันแบบใหม่และรวมระบบเข้าเป็นส่วนหนึ่งของระบบ MBUX
จอแสดงผล LED ความคมชัดสูง สำหรับผู้ขับขี่ มีขนาด 12.3 นิ้ว เท่ากับรุ่นก่อนหน้านี้ แต่ติดตั้งแบบ Stand Alone และมีอินเตอร์เฟซใหม่หมด สามารถเรียกดูข้อมูลได้มากมายและปรับรูปแบบได้หลากหลาย รวมไปถึงการแสดงแผนที่แบบ Full Screen
การเปลี่ยนมาใช้จอส่วนกลางแบบแนวตั้งขนาดใหญ่ คือกุญแจสำคัญที่ทำให้ดีไซน์ของห้องโดยสารดูแตกต่างจากเจเนอเรชั่นก่อนๆ โดยสิ้นเชิง การควบคุมต่างๆ ของระบบอินโฟเทนเมนต์ถูกรวบรวมไว้ที่นี่ทั้งหมด นั่นหมายถึงการไร้ซึ่งทัชแพดเหมือนรุ่นก่อนและลดปุ่มกดลงได้จำนวนมาก ตอนนี้เหลือเพียงบาร์ด้านล่างที่สั่งการได้ทั้งการสัมผัสและกด ชุดเกียร์อัตโนมัติซึ่งได้รับการพัฒนาให้ทำงานร่วมกับระบบ ISG ได้ มีน้ำหนักเบากว่าเดิมถึง 30% การจัดวางและปรับปรุงองค์ประกอบต่างๆ ใหม่ ทั้งยังช่วยให้ระบบโดยรวมมีขนาดกะทัดรัดขึ้นอีกด้วย ทั้งหมดเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนมาใช้ปั๊มน้ำมันเกียร์แบบไฟฟ้า ซึ่งติดตั้งรวมเป็นส่วนหนึ่งของเกียร์ ร่วมกับระบบระบายความร้อนเกียร์และชุดควบคุมอิเลกทรอนิกส์ จึงลดท่อทางเดินและสายไฟลงได้อย่างมาก นอกจากนั้น ยังใช้ระบบประมวลผลแบบ Multi-core ที่ทรงพลัง และใช้เทคโนโลยีการเชื่อมต่อแบบใหม่ ที่ช่วยลดอินเตอร์เฟซของระบบไฟฟ้าให้น้อยลง จึงตัดน้ำหนักรวมของเกียร์ลงได้อีกทางหนึ่ง ช่องแอร์ปรับรูปทรงใหม่โดยตัดตรงที่ด้านบนและล่าง ซ่อนแถบไฟ LED ไว้ข้างใน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Ambient Light ที่สามารถเปลี่ยนได้มากถึง 64 เฉด ใช้การตกแต่งด้วยพื้นผิวที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ซึ่งรวมไปถึงไม้วีเนียร์สีดำที่แทรกด้วยแถบอลูมิเนียมจริง ให้สัมผัสที่แปลกใหม่และทันสมัยยิ่งขึ้น ผสานกับการใช้หนังและอลูมิเนียมแวววาว
หลังคากระจกขนาดใหญ่เป็นอุปกรณ์มาตรฐานของเกรด AMG Dynamic สวิตช์ควบคุมเป็นระบบสัมผัส เช่นเดียวกับชุดควบคุมกระจกมองข้างที่เป็นระบบสัมผัส ติดตั้งอยู่บนที่วางแขนดีไซน์แบบลอยตัว
เบาะนั่งคู่หน้าแบบสปอร์ตจาก AMG มีส่วนรองรับ (ปีก) ลำตัวและท่อนขาที่สูงกว่ารุ่นมาตรฐาน สามารถปรับได้จากสวิตช์ระบบสัมผัสที่ติดตั้งไว้บริเวณแผงประตู เบาะหลังมีพื้นที่วางขายาวขึ้น 20 มม. จากการขยายความยาวฐานล้อออกไปอีก 25 มม. SPECIFICATIONS: MERCEDES-BENZ C220 d AMG DYNAMIC
Price: ฿2,990,000
Engine: 1993cc turbodiesel 4-cyl, 200hp @ 3600rpm, 400Nm @ 1800-2800rpm
Transmission: 9-speed 9G-tronic auto, rear-wheel drive
Performance: 7.3sec 0-100km/h, 240km/h top speed
Weight: n/a
NCAP rating: 5 stars
TorqueThailand.com
