รีวิว ลองขับ Mercedes-Benz CLS 220 d AMG Premium ขุมพลังดีเซล 4 สูบ 2 ลิตร เทอร์โบชาร์จ และอินเตอร์คูลเลอร์ 194 แรงม้า ราคา 4,640,000 บาท
รีวิว ลองขับ Mercedes-Benz CLS 220 d AMG Premium รถสปอร์ตหรู
Mercedes-Benz CLS 220 d AMG Premium
“The CLS คือ ยนตรกรรม ซึ่งต้องยอมรับว่ามีดีไซน์ ที่ต้องการแสดงให้เห็นถึงความพยายามในการ “เอาชนะ ความต้องการ” แบบชัดเจนที่สุด … นั่นเพราะไม่ใช่เรื่องง่าย ที่จะออกแบบรถ 4 ประตู ให้ออกมาดูสปอร์ตแบบ Coupe”
พูดถึง The CLS โดย Mercedes-Benz Thailand ณ วันนี้ และลองนึกย้อนกลับไปในวันแรกที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ เราพนันว่าทันทีที่ผ้าคลุมถูกกระชาก ก็น่าจะสร้างความ “เซอร์ไพรส์” ไม่น้อยให้กับผู้บริโภคชาวไทยทีเดียว
เพราะอันดับแรกเลย คือ เรานึกถึงความพยายามอย่างหนักของเหล่าดีไซน์เนอร์แห่ง Mercedes-Benz ในการปฏิวัติงานเดิมๆ ที่คุ้นเคยของยนตรกรรมซีดาน 4 ประตู ให้ออกมาดูสปอร์ตเฉี่ยวระดับใกล้เคียงกับรถ 2 ประตู Coupe
มากไปกว่านั้น คือ เส้นสาย งานดีไซน์รูปลักษณ์ที่นำมาใช้ ยังทำให้ยนตรกรรม 4 ประตูอย่าง The CLS มีหุ่นที่เพรียวบางขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จนกลายเป็นดีไซน์เฉพาะตัวที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น Iconic model แม้ขนาดตัวถังที่ถูกวางเอาไว้ จะดูเป็นเรื่องใหญ่ เรื่องโต ไม่น้อยทีเดียว ด้วยตัวเลขความกว้าง 1,890 มม. ความยาว 4,996 มม. และความสูง 1,424 มม.
ล่าสุดจาก The CLS สู่ฐานะ The New CLS เส้นสายของยนตรกรรมที่ได้รับการขนานนามว่า Iconic model ยังคงอยู่ พร้อมกับเพิ่มเติมความทันสมัยเข้าไปในรายละเอียดบางอย่าง เพื่อให้เกิดความโดดเด่นสะดุดตามากขึ้นไปอีกระดับ เช่น กระจังหน้า Star Pattern Radiator Grille ดีไซน์ใหม่ หรือแม้กระทั่งล้ออัลลอย AMG แบบ Multi-Spoke
ภายในห้องโดยสาร ยังคงเป็นอะไรที่เราชื่นชอบเมื่อได้สัมผัส โดยเฉพาะงานดีไซน์ ในตำแหน่งผู้ขับขี่ … ใช่ครับ นี่ไม่ใช่การเจอกันครั้งแรก แต่ทุกครั้งที่ได้เจอกันเราก็ยังประทับใจทุกครั้ง กับการอัพเกรดในส่วนสัมผัส ซึ่งใช้วัสดุที่ “หรูหรา”
อีกทั้ง “ตำแหน่ง” ผู้ขับขี่ก็จัดวางออกมาได้อย่างลงตัว ทั้งพวงมาลัย และเบาะนั่ง ชนิดที่เรียกว่า “ปรับ” เล็กๆ น้อยๆ ก็คุ้นเคยแบบไม่เคอะเขิน ที่สำคัญเลย คือ เอื้ออำนวยให้สามารถควบคุม Mercedes-Benz CLS 220 d AMG Premium ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดอีกด้วย
หลายคนคาดหวัง “ออปชัน” เพราะงั้นเราจะลงรายละเอียดไว้ให้ว่ามีอะไรบ้าง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เราจะไม่ขอกล่าวอะไรมาก เพราะคนที่ควรต้องตัดสินเรื่องความคุ้มค่า น่าจะต้องเป็นผู้บริโภคมากกว่า … เริ่มต้นว่ากันจากภายนอก ประกอบด้วย
ชุดแต่ง AMG Body Styling (กันชนหน้า- หลัง และสเกิร์ตข้าง), ชุดไฟหน้าแบบ Multibeam LED พร้อมระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Adaptive Highbeam Assist Plus), หลังคาซันรูฟ เลื่อนเปิด – ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า, ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ Multi-Spoke ขนาด 20 นิ้ว สี Tremolite Grey จับคู่ยางรถยนต์แบบ Run-Flat
ตามด้วยกระจกมองข้างปรับระดับ และพับเก็บด้วยระบบไฟฟ้า ซึ่งกระจกมองข้างฝั่งผู้ขับขี่ และกระจกส่องหลัง จะมากับการปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ ขณะที่กุญแจรถเป็นระบบ Keyless -Go Comfort Package ตลอดจนฝากระโปรงท้าย เปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมบานประตูท้ายอัตโนมัติ โดยไม่ต้องใช้มือ (Hands – Free Access)
“ออปชัน” ภายในมีอะไรบ้าง ไปดูกัน เริ่มด้วย เบาะนั่งหุ้มหนัง Nappa คู่หน้าปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมหน่วยบันทึกความจํา ตามด้วยเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหลังพับได้แบบ 40/20/40 ขณะที่พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบสปอร์ต เน้นความหรูด้วยการหุ้มหนัง Nappa
ไปต่อกับ ระบบปรับโหมดการขับขี่แบบ Dynamic Select, ระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย ตกแต่งแป้นเกียร์ด้วย Galvanized (Steering-wheel), ม่านบังแดดด้านหลัง เลื่อนขึ้น – ลงด้วยระบบไฟฟ้า, ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ Thermatic, หน้าจอแสดงผลแบบ Widescreen Cockpit, ระบบชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย (Wireless Charging)
ระบบควบคุม และสั่งงานด้วย Touchpad, ระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester®, ไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสารแบบ 64 สี, กาบบันไดเรืองแสง พร้อมสัญลักษณ์ Mercedes-Benz และพรมปูพื้นพร้อมตราสัญลักษณ์ AMG
ส่วน “ออปชัน” ระบบความบันเทิง และการสื่อสาร ยังคงจัดเต็มเช่นกัน อาทิ ระบบมัลติมีเดีย MBUX Entertainment พร้อมฟังก์ชันการเชื่อมต่อ Music Streaming Service, โทรศัพท์มือถือระบบปฏิบัติการ iOS และ Android (Apple CarPlay™ & Android Auto),
อุปกรณ์สื่อสารด้วยสัญญาณ LTE สําหรับบริการ Mercedes Me Connect, ระบบรายงานสภาพการจราจร Live Traffic Information, ระบบขอความช่วยเหลืออัตโนมัติเมื่อเกิดอุบัติเหตุ แล้วก็ระบบแผนที่นําทางแบบ Hard-Disc Navigation
รหัส 220 d สำหรับสาวกดาวสามแฉก ต้องรู้จักดีแน่นอน กับศักยภาพของ เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ พิกัด 2 ลิตร เสริมแรงด้วยเทอร์โบชาร์จ และอินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลังสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 200 แรงม้า (194 แรงม้า) พร้อมแรงบิดระดับ 400 นิวตันเมตร
ไล่ตั้งแต่ 1,600 รอบต่อนาที ลากยาวไปจนถึง 2,800 รอบต่อนาที โดยมีเกียร์อัตโนมัติ อัตราทด 9 สปีด คอยทำหน้าที่ลำเลียงกำลังสู่ล้อหลัง พร้อมตัวเลขการันตีอัตราเร่งเดือดๆ จาก 0 – 100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 7.5 วินาที
และหากถามถึงในภาพรวมของการขับขี่ เราคงต้องบอกว่าเป็นอะไรที่คุ้นเคย ด้วยเพราะการปรับเปลี่ยนในครั้งนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นการอัพเกรดลักษณะทางกายภาพ และออปชันใหม่ เพื่อให้เข้าถึงการอำนวยความสะดวกได้ง่ายขึ้น ส่วนสมรรถนะที่คุ้นเคย ก็เรียกว่า “เข้าถึง” ได้ง่ายขึ้นเช่นเดิม โดยเฉพาะใครก็ตามที่ไม่เน้นหนักเรื่อง Performance
เพราะ ณ ปัจจุบัน The New CLS นั้นมีจำหน่ายอยู่เพียง 2 รุ่นเท่านั้น คือ Mercedes-Benz CLS 220 d AMG Premium และตัวแรงสุดในสายระดับ 425 แรงม้า พร้อมแรงบิด 520 นิวตันเมตร ค่าตัว 5,880,000 บาท อย่าง Mercedes-AMG CLS 53 4MATIC+
ซึ่งเมื่อถามตัวเองดู แล้วพบว่าชีวิตไม่ได้ต้องการความดุเดือดอะไรขนาดนั้น 194 แรงม้า กับแรงบิด 400 นิวตันเมตร ใน Mercedes-Benz CLS 220 d AMG Premium ก็น่าจะเพียงพอต่อการใช้งาน รวมถึงน่าจะตอบโจทย์ได้มากกว่า หากมองถึงความเป็นยนตรกรรม 4 ประตู เพราะจากประสบการณ์ที่เราผ่านมือมาแล้วทั้ง 2 รุ่น
เลยอยากเล่าให้ฟังว่า Mercedes-AMG CLS 53 4MATIC+ คือ Super Saloon ที่เมื่อได้สัมผัส มันจะมีอะไรอย่างเช่น แรงม้า และแรงบิด ตลอดจน เสียงจากท่อไอเสีย ไปจนถึงบุคลิกอะไรบางอย่าง ยั่วยุให้คุณใช้คันเร่งมากกว่าปกติ จนเราเชื่อว่าในบางจังหวะมันก็เป็นเรื่องยากที่จะคุมคันเร่งให้นิ่งๆ เนียนๆ
ฉะนั้นมันจะตามมาด้วยการไม่สบอารมณ์ของผู้โดยสารในตำแหน่งต่างๆ แต่กับ Mercedes-Benz CLS 220 d AMG Premium บุคลิกในภาพรวม เค้าคือ Saloon หรูหนึ่งรุ่น มีสมรรถนะสูงในระดับพอดีๆ ให้ใช้งานทั้งในชีวิตประจำวันปกติทั่วไป
หรือเดินทางไกลในวันพักผ่อน แล้วก็ไม่มีแรงยั่วยุใดๆ ให้คุณใช้น้ำหนักเท้าขวาขยี้คันเร่ง เพราะงั้นสมาชิก ไม่ว่าจะในบ้าน หรือในรถ รับรองชอบใจแน่นอน
เหนืออื่นใดเลย คือ อัตราสิ้นเปลืองการันตีว่า “ดีกว่า” แม้ผู้บริโภคที่ซื้อรถระดับนี้ อาจจะไม่ซีเรียสเรื่องค่าน้ำมันก็ตาม แต่ยังไงซะเราก็ต้องบอกไปตามตรงว่า เครื่องยนต์ ดีเซล 2 ลิตร 4 สูบ เทอร์โบ ก็ประหยัดกว่า เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ เทอร์โบ แน่นอน
แต่ก็อย่างที่กล่าวไปครับว่า The New CLS ทั้ง 2 มีความต่างๆ ที่ชัดเจนแบบสุดขั้ว จนทำให้เรานึกถึงคำว่า “รถเลือกเจ้าของ” แบบปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ทำเอาเราต้องยืนยันความคิดเดิมๆ ว่า ใครอยากเป็นเจ้าของก็คงต้องเรียบรู้
และยอมรับ พร้อมกับปรับพฤติกรรมให้เหมาะสม ซึ่งสิ่งนั้นน่าจะเป็นวิธีเดียวในการพิสูจน์ว่า คุณนั่นแหละครับ เหมาะสมกับ The New CLS รุ่นไหน่
Specification: Mercedes-Benz CLS 220 d AMG Premium
- Price: 4,640,000 BHT
- Engine: 1,950 CC / 4 Cylinder / 16 Valve / Turbocharged / Intercooler 194 hp @ 3,800 rpm / 400 Nm @ 1,600 – 2,800 rpm
- Transmission: 9A/T (9G-Tronic) / Rear Wheel Drive
- Performance: 0 – 100 Km/h @ 7.5 Sec / Top Speed @ 235 Km/h
- Weight: N/A