รีวิว ลองขับ Nissan Almera ให้กำลังสูงสุด 100 แรงม้า แรงบิด 152 นิวตันเมตร ประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น ตามตัวเลขเคลมที่ทำได้ถึง 23.3 กิโลเมตร/ลิตร
รีวิว ลองขับ Nissan Almera 1.0L Turbo VL CVT ราคา 699,000 บาท
Nissan Almera
“แน่ล่ะว่า ถ้าเทียบกับคู่แข่งสายตรง Nissan Almera อาจดู “ด้อย” ลงไปถนัดตา แต่เชื่อเถอะว่า ถ้าเปิดใจไปลองสัมผัส Nissan Almera ดูซักครั้ง … “คำตอบ” บางอยางที่ได้พบ จะทำให้ “เปลี่ยนใจ” อย่างแน่นอน”
เพราะความชอบคนเราไม่เหมือนกัน ฉะนั้นเรื่องสนุกหลายอย่าง จึงเกิดขึ้นได้จากหลากหลายมุมมอง ส่วนเรื่องสนุกของเราก็คือ การเปิดตัวยนตรกรรมใหม่ๆ ที่มักจะมีเรื่องให้เราได้ “ลุ้น” กันประจำ โดยเฉพาะเรื่องของงาน “ดีไซน์” … สิ่งแรกที่ได้เห็น และเป็นส่วนสำคัญในการ “คิด” ว่าจะ “ไปต่อ” หรือ พอแค่นี้”
และใช่ครับ เรายอมรับว่าไม่น้อยเลย ที่เส้นสายของยนตรกรรมรุ่นใหม่ๆ ใส่ความคิดให้เรา “พอแค่นี้” … ยกเว้น Nissan Almera ใหม่ ที่สร้างความโดดเด่น สะดุดตากันตั้งแต่เปิดผ้าคลุม ด้วยวิวัฒนาการงานดีไซน์ที่ก้าวล้ำ หากใครยังจำภาพของ เจเนอเรชันแรกๆ ได้
ซึ่งนั่นแหละครับ “ความสนุก” ของเรา ที่ทำให้อยาก “ไปต่อ” เพื่อค้นหาความน่าสนใจของ Nissan Almera ใหม่ ไล่มาตั้งแต่ “อัตลักษณ์” ภายนอกที่ใช้แนวคิด V-Motion เข้ามาเป็นส่วนสำคัญในการออกแบบ ผสมผสานเข้ากับการเลือกใช้สีใหม่ สไตล์ทูโทน Gray Sky Pearl ตัดกับหลังคาโทนสีดำ ในรุ่นท็อปสุด VL
ขณะเดียวกันแนวคิด V-Motion ก็ยังถูกนำมาใช้กับเส้นสายภายในห้องโดยสาร เช่น การตกแต่งด้วยวัสดุ โทนสีน้ำเงินเข้มยาว ตลอดแนวคอนโซลหน้า ต่อเนื่องถึงแผงประตู ที่ไม่เพียงดูทันสมัยขึ้น แต่ยังเพิ่มอารมณ์สปอร์ตได้เยอะขึ้นแบบผิดหู ผิดตาอีกด้วย
พูดถึงภายในห้องโดยสาร นอกจากความกว้างขวางที่ยังคงเป็นจุดเด่นหลักแล้ว “ออปชัน” ที่จัดมาให้ก็ยังมีอีกมากมาย เช่น เบาะนั่งคู่หน้าระดับพรีเมียม Quole Modure, อุปกรณ์ชาร์จแบบไร้สาย Wireless Charger, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control หรือแม้กระทั่งกุญแจรีโมทอัจฉริยะดีไซน์ใหม่
และพลาดไม่ได้เลยกับ Nissan Connect Services แอปพลิเคชันอัจฉริยะที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุม หรือสั่งการรถได้จากระยะไกลผ่านสมาร์ทโฟน ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบสถานะการล็อคประตู, สั่งล็อค – ปลดล็อค ไปจนถึงสตาร์ทเครื่องยนต์จากระยะไกล รวมถึงสั่งกะพริบไฟหน้า และสั่งระบบแตรจากระยะไกล เพื่อช่วยค้นหาตำแหน่งของรถ
ทั้งยังมีฟังก์ชัน My Car Finder หรือระบบค้นหาตำแหน่งรถ ก็สามารถที่จะช่วยช่วยค้นหา และนำทางไปยังรถได้อย่างสะดวก นอกจากนี้ “ทีเด็ด” อีกหนึ่งระบบ คือ ฟังก์ชั่น SOS ที่ติดตั้งมาให้เป็นครั้งแรก เพื่อช่วยสร้างความมั่นใจในขณะขับขี่ ว่าจะมีผู้ให้ความช่วยเหลือได้ทันทีเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินแน่นอน
ไหนๆ ก็พูดถึงเทคโนโลยีสุดล้ำแล้ว เพราะงั้นขอเล่าต่ออีกนิดแล้วกัน … โดยเราสามารถพนันได้เลยว่า คนชอบความ “คุ้มค่า” น่าจะถูกใจเรื่องความปลอดภัยแน่นอน เพราะนอกจากฟังก์ชันมาตรฐานที่เราคุ้นเคยกันอยู่แล้วนั้น Nissan Almera ยังทำการอัพเกรดขึ้นไปอีกขั้น ด้วยการเสริมทัพเทคโนโลยี 360° Safety Shield เข้าไป
ซึ่งจะประกอบด้วย ระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง (Tire Pressure Monitoring System – TPMS) ที่มาติดตั้งมาให้เป็นครั้งแรก, ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ (High Beam Assist – HBA), ระบบการแจ้งเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง (Lane Departure Warning – LDW), ระบบตรวจจับวัตถุด้านหลังขณะถอย (Rear Cross Traffic Alert – RCTA),
กล้องอัจฉริยะมองรอบทิศทาง (Intelligent Around View Monitoring – IAVM) พร้อมระบบตรวจจับ และส่งสัญญาณเตือนวัตถุ หรือบุคคลที่เคลื่อนไหว จากกล้องรอบคัน (Moving Object Detection – MOD),
ระบบช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้า (Intelligent Forward Collision Warning – IFCW), ระบบเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Warning – BSW) กระทั่งระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน (Hill Start Assist – HSA) ก็มีมาให้เช่นกัน
เรื่องสุดท้ายของ Nissan Almera คือ ความสนุกสนานในการขับขี่ ที่เกิดขึ้นจาก ขุมพลังเบนซินบล็อกเล็ก เพียง 1.0 ลิตร แต่เพิ่มเขี้ยวเล็บเข้าไปด้วยการติดตั้ง “เทอร์โบ” จนได้กำลังสูงสุดถึง 100 แรงม้า พร้อมแรงบิด 152 นิวตันเมตรแบบ Flat Torque ซึ่งสามารถถ่ายทอดเรี่ยวแรงได้แบบแต่เนื่อง ผ่านเกียร์อัตโนมัติ Xtronic CVT พร้อม D-Step Logic
ตามด้วยการติดตั้งระบบตัดการทำงานของเครื่องยนต์อัตโนมัติเมื่อรถหยุดนิ่ง (Idling Stop) มาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เพื่อช่วยสร้างการประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น ตามตัวเลขเคลมที่ทำได้ถึง 23.3 กิโลเมตร/ลิตร ส่วนจะทำได้หรือไม่ … ? อันนี้ขึ้นอยู่กับความ “เซียน” ของผู้ขับขี่
แต่บอกตรงๆ ว่าทั้งหมด ทั้งมวล ที่กล่าวมา สำหรับ Nissan Almera … นั่นคือ ส่วนประกอบที่ลงตัวอย่างเหลือเชื่อ ยิ่งโดยเฉพาะผู้ที่ชื่นชอบอารมณ์ความเป็นยนตรกรรมขับสนุก เพราะตั้งแต่ได้สัมผัสมาแล้วหลายครั้ง หลายหน
สิ่งหนึ่งที่เรารับรู้ได้ คือ Nissan Almera ไม่ได้เกิดมาเพื่อ “อ่อนโยน” อย่างชัดเจน ด้วยจากสัมผัสความ “ตึงตัง” ที่เกิดขึ้นกับช่วงล่าง ผสมกับความ เฉียบคม” ของพวงมาลัย ทั้งเบาแรงในความเร็วต่ำ และหน่วงให้มั่นใจบนความเร็วสูง
ฉะนั้นสิ่งที่เกิดขึ้น คือ Nissan Almera จะเปลี่ยนสภาพการจราจรที่แน่นหนา ให้กลายเป็นสวนสนุกสำหรับผู้ขับขี่ ด้วยความคล่องตัวที่เกิดจากการตอบสนองของพวงมาลัย และพละกำลังแรงบิด 152 นิวตันเมตร ที่หากดูตัวเลขอาจจะน้อยไปนิด
แต่ข้อดี คือ เมื่อแรงบิดมาแบบ Flat Torque เลยทำให้เราไม่กังวลเรื่องการใช้คันเร่งมาก จนเปลืองรอบเครื่องยนต์ ที่ลามไปจนถึงเรื่องเปลืองน้ำมัน
แต่แค่เดิมน้ำหนักเท้าขวาลงไปบนแป้นคันเร่งเพียงเล็กน้อย ผู้ขับขี่ก็สามารถรู้สึกได้ถึง “แรงกระตุ้น” บางอย่างที่ทำให้ Nissan Almera เกิดความคึกคักขึ้นมาทันที ซึ่งนี่แหละ คือ เคล็ดลับความสนุก ท่ามกลางการจราจรสุดบรรยายในกรุงเทพฯ บ้านเรา
ความสนุกอีกอย่างในการซิ่ง Nissan Almera ก็คือ บนเส้นทางหลวงชนบทดีๆ ที่รถราบางตา พร้อมโค้งหลากหลายองศาให้พบเจอ และท้าทายศักยภาพ
ซึ่ง Nissan Almera ไม่เคยทำให้เราผิดหวัง ตั้งแต่การตอบสนองของระบบเบรก ไปจนถึงการถ่ายน้ำหนักขณะเบรก และปล่อยเบรก ที่ทำได้อย่างสมดุล จนเกิดเป็นเสถียรภาพ ก่อนจะตามด้วยน้ำหนักพวงมาลัย และการควบคุมแบบเนียนๆ
ไล่เรียงจากจังหวะเริ่มหักเข้าโค้ง ต่อเนื่องถึงเริ่มคืนตรง ควบคู่ไปกับน้ำหนักแป้นคันเร่งโดยเท้าขวา ที่เพิ่มขึ้นไปตามจังหวะการขับ แล้วก็จบหลักสูตรการเข้าโค้งด้วยความเร็วไปอย่างสวยงาม โค้งแล้วโค้งเล่า
โดยทั้งนี้ ทั้งนั้น เราเดาว่าคุณจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ ว่าสามารถผ่านผ่านโค้งต่างๆ ไปได้อย่างยอดเยี่ยม และสนุกแค่ไหน … แต่เอาเถอะจะบอกให้ก็ได้ว่า ลองดู 2 มือที่จับพวงมาลัยสิครับว่ามีอาการ “เหงือชื้นมือ” เกิดขึ้นหรือไม่ … ? นั่นแหละครับข้อพิสูจน์ง่ายๆ
เพราะถ้าหากความมั่นใจไม่เกิด รับรองว่ายนตรกรรมรุ่นไหนก็ “เหงื่อออกมือ” แน่ๆ แต่กับ Nissan Almera บอกเลยว่าอาการนี้ไม่เคยเกิดขึ้นกับเราระหว่างขับ แต่กับผู้บริโภคท่านอื่น อันนี้แนะนำให้ไปลองก่อนครับ
สำหรับ Nissan Almera เจเนอเรชันล่าสุด มีการส่งออกมาทำตลาดกัน 4 รุ่น ด้วยกัน เริ่มต้นกับรุ่น E ราคา 549,000 บาท ก่อนไต่ขึ้นมาที่รุ่น EL ราคา 589,000 บาท, รุ่น V ราคา 659,000 บาท และปิดไลน์ด้วยตัวท็อปสุดรุ่น VL ราคา 699,000 บาท …
แน่นอนครับ “ออปชั่น” อาจลดหลั่นกันไปตามระดับ “ราคา” … แต่สิ่งที่เรามั่นใจว่า คงเส้นคงวา คือ สมรรถนะการขับขี่ ที่รับรองว่าประทับใจแน่นอน
Specification: Nissan Almera
- Price: 549,000 – 699,000 BHT
- Engine: 999 CC / 3 Cylinder / 12 Valve / 100 hp @ 5,000 rpm / 152 Nm @ 2,400 – 4,000 rpm
- Transmission: CVT / Front Wheel Drive
- Performance: 0 – 100 Km/h @ N/A / Top Speed @ N/A
- Weight: 1,073 – 1,079 Kg.