รีวิว ลองขับ Toyota Yaris Cross มินิเอสยูวีที่คุ้มค่าที่สุด ในตอนนี้

รีวิว ลองขับ Toyota Yaris Cross เครื่องยนต์ไฮบริด 1.5 ลิตร 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว Dual VVT-i กำลังรวม 111 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ E-CVT

รีวิว ลองขับ Toyota Yaris Cross HEV Premium Luxury 899,000 บาท  

Toyota Yaris Cross

“Toyota Yaris Cross ไม่ได้มีเพียงความโดดเด่นที่ถูกพัฒนาขึ้นจากคอนเซ็ปต์  “Urban x Adventure” เท่านั้น … เพราะลึกๆ แล้วยังถือเป็นการบอกเล่าเรื่องราวความสำเร็จของ Toyota Corolla Cross ไปในตัวอีกด้วย”

เรารู้จัก Toyota Corolla Cross ยนตรกรรมอเนกประสงค์ ซึ่งบอกตรงๆ ว่า ประทับใจใน “สมรรถนะ” ขณะที่เรื่อง “ดีไซน์” เรียกว่า “ยังไม่โดน” เท่าไหร่ ซึ่งก็ไม่รู้ว่า “เสียง” จากผู้บริโภคสามารถสื่อสารกลับไปยังต้นสังกัดหรือยังไง ? …

เพราะในที่สุด ยนตรกรรมอเนกประสงค์ ที่ “เข้าตา โดนใจ” อย่าง Toyota Yaris Cross ก็ถือกำเนิดขึ้นมา เป็นอีกหนึ่งผู้เล่นหน้าใหม่ในตลาด

ด้วยฐานะสมาชิกล่าสุดแห่งซีรี่ส์ Yaris ซึ่งนำเสนอความเป็นยนตรกรรมอเนกประสงค์พิกัด Compact Car ที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตคนรุ่นใหม่ที่มีความหลากหลาย จากการพัฒนาภายใต้คอนเซ็ปต์ “Urban” และ “Adventure” สู่แนวคิด “Move To The Max มูฟชีวิตไปให้สุดๆ” … และที่สำคัญ คือ กำลัง “ดัง” ไม่ใช่น้อยซะด้วยในช่วงนี้

ส่วนกระแสความโด่งดังของ Toyota Corolla Cross สำหรับเราอันดับแรกต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องของงานดีไซน์ ไล่เรียงมาตั้งแต่ภายนอก ด้วยแนวทางแบบ “Solid x Dynamic” สะท้อนความแช็งแกร่ง ทรงพลัง ผ่านเส้นสายทันสมัย

บนตัวถังขนาดความยาว 4,310 มม. ความกว้าง 1,770 มม. ความสูง 1,615 มม. ที่วางตัวบนความยาวฐานล้อ 2,620 มม. พร้อมความกว้างฐานล้อหน้า 1,525 มม. และล้อหลัง 1,520 มม. ไปจนถึงการนำเสนอความเป็น Cross Over ด้วยความสูงใต้ท้องรถที่จัดมาให้ถึง 210 มม. อีกด้วย

ตามด้วยภายในมากับแนวคิด “Roomy x Sporty” เน้นภาพรวมห้องโดยสารที่กว้างขวาง เสริมอารมณ์ความสปอร์ต ด้วยดีไซน์ฝั่งผู้ขับขี่แบบ “Driver-Oriented Cockpit” ผสมผสานการตกแต่งสไตล์พรีเมียมด้วยการเลือกใช้วัสดุ ตลอดจนการสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารผ่านระบบไฟ ที่ปรับความสว่างได้ 4 ระดับ และเลือกได้มากถึง 14 เฉดสี

สำหรับ Toyota Yaris Cross ที่จำหน่ายในบ้านเรา มีด้วยกันทั้งหมด 3 รุ่นย่อย เริ่มต้นด้วยรุ่น HEV SMART ราคา 789,000 บาท ก่อนจะไต่ระดับขึ้นมาที่รุ่นกลาง HEV Premium ราคา 849,000 บาท ปิดท้ายด้วยรุ่นสูงสุด

พระเอกของเราในวันนี้ รุ่น HEV Premium Luxury ราคา 899,000 บาท ซึ่งแน่นอนว่า “ความต่าง” อยู่ในเรื่องของ “ออปชันมาตรฐาน” อันครบครันที่สุด

ซึ่งคร่าวๆ ที่เป็นไฮไลท์ก็ประกอบด้วย ชุดไฟหน้า, ไฟท้ายแบบ Full LED มีชุดไฟ Daytime Running Light และชุดไฟตัดหมอกหน้าแบบ LED มาให้ ตลอดจนระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ พร้อมระบบ Follow-Me-Home แถมยังเพิ่มเติมความ “พิเศษ!” ด้วยล้ออัลลอยปัดเงาสีทูโทน ขนาด 18 นิ้ว, ภายในสีเทา-ดำ / ดำ ซึ่งขึ้นอยู่กับสีภายนอก

และมาพร้อมเบาะหนัง PU, หลังคา Panoramic แบบ Fixed Type พร้อมม่านปรับไฟฟ้า ตลอดจนมีระบบไฟ Welcome Lamp ที่กระจกมองข้างมาให้อีกด้วย

ด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวก จัดมาให้แบบแน่นๆ ตั้งแต่ ระบบ Push Start & Smart Entry, จอ MID แบบ Digital 7 นิ้ว, เบรกมือไฟฟ้า EPB พร้อมระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ, ความบันเทิงจากหน้าจอสัมผัสขนาด 10 นิ้ว พร้อมระบบเชื่อมต่อ Apple CarPlay & Android Auto แบบไร้สาย และช่องต่อ USB 4 ตำแหน่ง รวมถึงระบบปรับอากาศอัตโนมัติ

พร้อมกรองฝุ่น PM 2.5 และช่องปรับอากาศตอนหลัง เสริมความ “พิเศษ!” ด้วยลำโพง Pioneer 6 ตำแหน่ง, อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย, เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง และประตูหลังไฟฟ้า พร้อมฟังก์ชั่น Kick-Activated

ท้ายสุดเรื่องความปลอดภัย มีมาให้ครบๆ ตั้งแต่ระดับพื้นฐานเช่น ABS / EBD / BA / VSC / TRC / HAC ไปจนถึงระบบเซ็นทรัลล็อค พร้อมระบบ Speed Auto Lock, ถุงลมเสริมความปลอดภัย SRS 6 ตําแหน่ง, สัญญาณเตือนกะระยะด้านหน้า 2 จุด ด้านหลัง 2 จุด พร้อมกล้องบันทึกภาพด้านหน้า-หลัง, ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนตัว,

ระบบป้องกันการเหยียบคันเร่งผิดวิธี และระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง BSM & RCTA ซึ่งแน่นอนว่าต้องมีการเสริมความ “พิเศษ!” เช่นกัน ทั้งระบบตรวจวัดลมยางอัตโนมัติ, กล้องมองภาพรอบคัน Panoramic View Monitor ไปจนถึงระบบความปลอดภัยระดับโลก Toyota Safety Sense

“ขุมพลัง” ต้องบอกว่าน่าจะได้แรงบันดาลใจมาจาก Toyota Corolla Cross ไม่น้อย ด้วยความเป็น Hybrid ที่ผสมผสานเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว แบบ Dual VVT-i ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า โดยจะมีพละกำลังจากเครื่องยนต์ 91 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 121 นิวตันเมตร ที่ 4,000-4,800 รอบต่อนาที

ขณะที่มอเตอร์ไฟฟ้าจะให้กำลังสูงสุดอยู่ที่ 80 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 141 นิวตันเมตร รวมทั้ง 2 ระบบ เครื่องยนต์ และมอเตอร์ไฟฟ้า ได้บทสรุปเรี่ยวแรงของ Toyota Yaris Cross คือ 111 แรงม้า ที่ลงสู่ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า ผ่านระบบส่งกำลังแบบเกียร์อัตโนมัติ E-CVT

สำหรับในเรื่องของอรรถรสการขับ ต้องบอกเลยว่า “เซอร์ไพรส์” เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในย่านความเร็วต่ำ ที่ตอบสนองได้น่าประทับใจ ให้ความคล่องตัวได้ดี จนทำให้การขับขี่ในเมืองอันน่าเบื่อหน่ายกลายเป็นเรื่องสนุก

ส่วนการเดินทางด้วยความเร็วสูง ต้องยอมรับว่าอาจจะขาดความต่อเนื่องไปบ้าง ยิ่งถ้าเกินกว่า 120 กม./ชม. จะสัมผัสได้ถึง “ความพยายาม” ของเครื่องยนต์ และมอเตอร์ไฟฟ้าที่ชัดเจน จากทั้งเสียง และรอบเครื่อง

ช่วงล่างด้านหน้า แบบอิสระ แม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง และด้านหลัง แบบทอร์ชั่นบีม คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง กับการดูดซับแรงสั่นสะเทือน สำหรับเราถือว่าตอบโจทย์การเป็นรถอเนกประสงค์ได้ดี ในระดับที่เพียงพอต่อการใช้งาน

เพราะแน่นอนว่าความสูงใต้ท้องรถระดับ 210 มม. คงปฏิเสธไม่ได้ในเรื่องของอาการ “โคลง” ขณะเข้าโค้งด้วยความเร็ว ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นได้บ้าง

แต่ที่ลงตัวดีงามเลยก็คือ “พวงมาลัย” ซึ่งปรับเซ็ทมาให้ใช้งานได้ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมือง ซึ่งต้องการความคล่องตัวมากๆ น้ำหนัก และการควบคุมพวงมาลัยจะเป็นไปอย่างเบาแรง เพื่อสร้างความสะดวกในการขับขี่ ขณะที่การใช้ความเร็วสูง น้ำหนักพวงมาลัยจะแปรผันให้มีหนืดขึ้น เพื่อสร้างความมั่นใจในการขับขี่

แต่ต้องเข้าใจก่อนว่าการปรับ “หนืด” ขณะใช้ความเร็วสูงนั้นจะเป็นไปตามลักษณะของตัวรถ เพราะฉะนั้นก็หมายความว่า อารมณ์มันจะไม่ได้หน่วงหนักอะไรมากมายถึงขั้นรถสปอร์ตซะทีเดียว

และด้วยภาพรวมทั้งหมดที่รับรู้หลังจากได้ลองขับ ทำให้สรุปได้ว่า Toyota Yaris Cross เป็นยนตรกรรมอเนกประสงค์ ที่เข้าถึงง่ายเหมาะสมกับทุกเพศทุกวัย เน้นการใช้งานพื้นฐาน ใช้งานในชีวิตประจำวันเป็นหลัก โดยเฉพาะการขับขี่ในเมือง ที่บอกเลยว่า “ถูกใจ” มาก ทั้งในเรื่องของทัศนวิสัย และพละกำลังที่ตอบสนองได้ทันใจ สร้างความคล่องตัวในการขับขี่ได้ดี

ส่วนการเป็นรถเดินทางท่องเที่ยว อันนี้ต้องแล้วแต่ความชอบส่วนบุคคล เพราะในมุมหนึ่งสำหรับบางคน Toyota Yaris Cross อาจตอบโจทย์ได้ไม่เต็มเม็ด เต็มหน่วยนัก ขณะที่ในมุมมองของเรา กลับคิดว่าเพียงพอต่อการใช้งาน หากมองย้อนกลับไปดูที่ประเภทของตัวรถ … ท้ายสุด

ทั้งนี้ทั้งนั้นที่ถูกใจสุดๆ ก็ต้องว่ากันด้วยเรื่องค่าตัวแหละครับ ตีกลมๆ 9 แสนบาท เทียบกับรายละเอียดออปชัน และสมรรถนะ คงไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ ถ้าเค้าจะ “ขายดี” เป็นเทน้ำ เทท่า เลยทีเดียว

Specification: Toyota Yaris Cross

• Price: 899,000 BHT
• Engine: 1,496 CC / 4 Cylinder / 16 Valve / 91 hp @ 5,500 rpm / 121 Nm @ 4,000 – 4,800rpm 
• Electric Motor: 80 hp / 141 Nm
• Transmission: E-CVT / Front Wheel Drive
• Performance: 0 – 100 Km/h @ N/A / Top Speed @ N/A
• Weight: N/A