รีวิว ทดสอบ New Toyota Camry 2.5 Sport โฉมไมเนอร์เชนจ์ ตัวล่างสุด เครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร ที่มาทดแทนขนาด 2.0 ลิตรให้พละกำลังถึง 209 แรงม้า
รีวิว ทดสอบ New Toyota Camry 2.5 Sport โฉมไมเนอร์เชนจ์ใหม่ ราคา 1.475 ล้านบาท
NEW CAMRY
“ใครที่ยังมีภาพจำของ Camry ในยุคอารมณ์การขับขี่ ที่เน้นเรื่องความนุ่มนวลดุจแพรไหม ราวกับสร้างไว้ตอบโจทย์ผู้บริหารล่ะก็ จงสลัดแนวคิดนั้น “ทิ้ง” ไปซะ … เพราะนั่นล่ะ คือ สิ่งที่ New Toyota Camry บอกเรา โดยเฉพาะเจ้ารุ่นเริ่มต้น 2.5 Sport ที่บอกได้เลยว่า นั่งก็ดี ขับขี่ก็มันส์”
ย้อนกลับไปในปี 2536 ชื่อของ Toyota Camry เป็นที่รู้จักในประเทศไทย จากรูปแบบรถยนต์นำเข้าทั้งคัน เพื่อแสดงตัวตนในฐานะภาพลักษณ์แห่งการเป็นรถยนต์หรูเหนือระดับสำหรับผู้นำ … ซึ่ง ณ วันนั้นใครก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า Toyota Camry คือ ยนตรกรรมอันดับหนึ่งในใจ ที่กลายเป็นกระแสตอบรับดีงามเกินความคาดหมาย ต่อยอดมาสู่การตั้งฐานทัพในบ้านเรา เพื่อประกอบ Toyota Camry เจเนอเรชันที่ 4 ราวปี 2542
ก่อนที่ 10 ปีต่อมา คือ 2552 ได้เปิดตัวเทคโนโลยีใหม่อย่าง Hybrid System ขึ้นมา เพื่อใส่ลงไปเป็นส่วนประกอบสำคัญของ Toyota Camry และเป็นทางเลือกให้กลุ่มผู้บริโภคชาวไทย ที่สร้างความสำเร็จอย่างต่อเนื่องเรื่อยมา กระทั่งปี 2561 ที่ Toyota Camry เจเนอเรชันใหม่ ภายใต้แนวคิด “Unprecedented Change” ได้กลับมาสร้างเสียงฮือฮาอีกครั้ง
ด้วยเทคโนโลยี ที่ถูกยกระดับขึ้นไปอีกขั้น จากทั้งแพลตฟอร์มใหม่ในชื่อ TNGA และ Hybrid System เจเนอเรชันที่ 4 ตลอดจนความปลอดภัยขั้นสูง … ซึ่งนั่นคือเรื่องราวทิ้งท้ายก่อนที่เมืองไทยจะโดน Covid-19 โจมตีระลอกใหญ่ จนหลายสิ่งนิ่งสงบ
จนปลาย 2021 กับฝุ่นควันจากวิกฤตเริ่มจาง เงารางๆ ของสิ่งใหม่จึงเกิดขึ้น รอต้อนรับยุคใหม่ ซึ่งที่น่าสนใจก็คือ New Toyota Camry รุ่นปรับโฉม ที่มาพร้อมสโลแกน “The Absolute Perfection…ความสมบูรณ์แบบที่เป็นคุณ” โดยปล่อยออกมา 4 รุ่นย่อยให้เลือก
แบ่งเป็น 2 รุ่นบนขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Hybrid ตามด้วย 2 รุ่นล่างกับเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.5 ลิตร ที่ย่อยออกมาเป็นรุ่น 2.5 Premium และรุ่นเริ่มต้น 2.5 Sport ที่อยู่กับเราในวันนี้
ด้วยเพราะ “หนึ่ง” เรารู้สึกว่ามันมีอะไรที่น่าสนใจแอบซ่อนอยู่ในค่าตัว 1,475,000 บาท และ “สอง” มันเป็นรุ่นเดียวที่มีนามสกุลพ่วงท้ายว่า Sport อันถูกจริตเรามากกว่าพี่น้องที่เหลือ ซึ่งแสดงจุดยืนไปในแนวทางของความหรูหรา จากคำว่า Premium ที่ต่อท้ายชื่อรุ่น
สำหรับ Toyota Camry แม้จะมีตัวถังที่ใหญ่โตสมฐานะ Mid-Size Sedan แต่ด้วยการหยิบจับความสปอร์ตมาแต่งแต้มเข้าไป ทำให้อารมณ์ความปราดเปรียวเกิดเป็นภาพที่ชัดเจนมากขึ้น เช่น ดีไซน์ใหม่จากมุมมองด้านหน้า ทั้งในส่วนของชุดกันชน, กระจังหน้าชิ้นบนบริเวณตราสัญลักษณ์ Toyota ก็มีการเสริมคิ้วสีเทาด้านมาให้
ส่วนมุมกันชนหน้า คือ ตำแหน่งของช่องดักอากาศ ที่ขยายให้กว้างขึ้น ส่งผลให้ตัวรถดูกว้าง และมีมิติมากขึ้น เสริมด้วยความโดดเด่นจากชุดไฟหน้า Projector Lens แบบ Bi-LED พร้อมไฟ Daytime Running Lights แบบ LED, ระบบเปิด-ปิดไฟหน้า และปรับสูง-ต่ำอัตโนมัติ ตลอดจนระบบไฟ Follow-Me-Home และไฟตัดหมอกแบบ LED
ส่วนในมุมมองด้านหลังมีการเปลี่ยนอารมณ์ด้วยโทนสีเมทัลลิค ประกบชุดไฟท้าย LED ในโทนสีใหม่ของตัวโคม พร้อมกับเพิ่มความปลอดภัยด้วยไฟเบรกดวงที่ 3 และไฟตัดหมอกหลัง ก่อนปิดท้ายด้วยชุดท่อไอเสียคู่ แต่ขัดอารมณ์อยู่เล็กน้อย ตรงที่ล้ออัลลอยกลับให้มาเป็นขนาด 17 นิ้ว ต่างจากรุ่นอื่นๆ ที่เป็น 18 นิ้ว ซึ่งบอกตรงๆ ว่า “เสียดาย” จนต้องแอบนึกในใจว่าน่าจะให้ขนาดใหญ่เท่ากัน เพราะนั่นคงจะเป็นอะไรที่ดีงามมากๆ
ภายในห้องโดยสารยังมีความคุ้นเคยในสไตล์ เพียงแต่มีการปรับอะไรบางอย่างเพื่อให้ดู “สดใหม่” มากขึ้น เช่น โทนสี แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นหลักที่น่าสนใจมากเท่ากับ “ออปชัน” ที่ให้มาในแบบที่ต้องเรียกว่า “ไม่น้อยหน้า” รุ่นพี่ๆ
อาทิ ในส่วนที่ใช้งานบ่อยๆ อย่าง พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น, หน้าจอแสดงข้อมูล MID ที่รวมอยู่กับมาตรวัดแบบสีขนาด 7 นิ้ว, เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมปุ่มปรับดันหลัง Lumbar Support ส่วนเบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้า ก็ปรับด้วยไฟฟ้า 4 ทิศทาง
ตามด้วยหน้าจอกลางที่เปลี่ยนไปเป็นสไตล์ Floating Screen ระบบสัมผัส และรองรับการเชื่อมต่อได้ทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto ไล่ลงมาจะเป็นชุดควบคุมระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ Dual Zone แยกอิสระซ้าย-ขวา ไปจนถึง Wireless Charging … ไม่ใช่แค่นั้นนะครับ เพราะตามข้อมูลที่มี บอกเลยว่า “อีกเยอะ” ชนิดที่ว่าให้มาน้อยกว่านี้ เราก็ยังถือว่ารับได้เลยทีเดียว
ด้านขุมพลังชัดเจนว่าเป็นพิกัด 2.5 ลิตร ที่มาทดแทนขนาด 2.0 ลิตร เพื่อให้ทันยุคทันสมัย ด้วยเรี่ยวแรงที่เค้นได้ถึง 209 แรงม้า พร้อมแรงบิด 250 นิวตันเมตร จากเครื่องยนต์ Dynamic Force รหัส A25A-FKB ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด สู่ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า ซึ่งเราสารภาพตามตรงเลยว่า จังหวะกดคันเร่งพุ่งตัวออกไป มันได้อารมณ์สะใจมากกว่ารุ่น Hybrid เกียร์ E CVT มากมาย
โดยเราว่าไม่ใช่แค่เครื่องยนต์ และเกียร์เท่านั้น ที่ทำให้ Camry 2.5 Sport สร้างความเร้าใจได้ชัดเจนขนาดนี้ หากแต่น่าจะเป็นเพราะส่วนสำคัญอย่างแพลตฟอร์ม TNGA และระบบช่วงล่างหน้าที่มีพื้นฐานด้านหน้าเป็นแบบ อิสระแม็คเฟอร์สันสตรัท
และด้านหลังแบบอิสระปีกนกคู่ ซึ่งมีการเซ็ทอัพใหม่ ส่งผลให้ความแน่นหนึบสไตล์สปอร์ต ผสานควบคู่ไปกับความนุ่มนวลอย่างลงตัว ก่อเป็นความสนุกสนานในการขับขี่ แบบที่หลายคนอาจจะคาดไม่ถึง
ส่วนที่เราชอบที่สุดใน Camry 2.5 Sport ก็คือ เส้นทางโค้ง เนื่องจากด้วยองค์ประกอบข้างต้นที่ว่ามานั้นไม่ได้เอื้ออำนวยให้คุณสบายใจ และสนุกไปกับการวิ่งตรงๆ ทื่อๆ อย่างเดียว เพราะในขณะเดียวกัน ความสามารถบนทางโค้ง ก็เป็นอีกหนึ่งเซอร์ไพรส์ ที่รับรองว่าต้องแปลกใจ และประทับใจเมื่อได้ขับ
ทั้งจากความรู้สึกในการตอบสนองอันเฉียบคม ภายใต้การแปรผันน้ำหนักพวงมาลัยที่สมดุล ผสานด้วยการบาลานซ์น้ำหนักที่ดีจากจุดศูนย์ถ่วงต่ำของโครงสร้างตัวถัง TNGA ไปจนถึงระบบเบรกแบบดิสก์ 4 ล้อที่ยอดเยี่ยม จนทำให้การถ่ายเทน้ำหนักในช่วงก่อนเข้าโค้ง เป็นไปได้อย่างราบรื่น และมั่นคง
สร้างความมั่นใจให้คุณสามารถสนุกกับโค้งได้มากมายหลากหลายองศา จนบางทีก็ทำให้เราลืมไปว่านี่คือ Toyota Camry รถยนต์นั่งขนาด Mid-Size Sedan ที่มีต้นกำเนิดมาจาก “รถยนต์หรูเหนือระดับสำหรับผู้นำ”
แต่ก็ช่างเถอะครับ ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปจนใครเลยจะรู้ว่า บางครั้งผู้นำเองก็มีความ “อยาก” ที่จะใช้ชีวิต “มันส์ๆ” แบบคนอื่นเค้าบ้าง ฉะนั้นเอาเป็นว่า ถ้ากำลังมองหารถซักคันที่ตอบโจทย์ได้รอบด้านล่ะก็ เราคิดว่า Toyota Camry 2.5 Sport ควรเป็นตัวเลือกที่คุณต้องให้ความสนใจ หรือถ้าเป็นไปได้ก็ “ลองขับ” เลยดีกว่า จะได้เข้าใจได้ชัดในความขับสนุก ลุกนั่งสบาย ภายใต้ค่าตัวที่เอื้อมง่ายกว่ารุ่นย่อยอื่นๆ
แต่ทั้งนี้ ทั้งนั้น คุณคงต้องลองถามตัวเองดูก่อนนะครับ ว่าเป็นคนไม่ยึดติดกับความ “รักษ์โลก” และ “อัตราสิ้นเปลือง” รวมถึงทำใจได้ว่า “ระบบความปลอดภัย” บางอย่างที่มันล้ำๆ ถูกตัดออกไปบ้าง ในขณะที่ฟังก์ชันพื้นฐาน “ยังอยู่” … เพราะถ้าคุณเป็นคนแบบนั้น เราว่าเจ้า Camry 2.5 Sport น่าจะเป็น “คำตอบ” ที่หาอยู่
Specification : New Toyota Camry 2.5 Sport
- Price : 1,475,000 BHT
- Engine : 2,487 CC / 4 Cylinder / 16 Valve 209 hp @ 6,600 rpm / 250 Nm @ 5,000 rpm
- Transmission : 8A/T
- Performance : 0 – 100 Km/h @ N/A / Top Speed @ N/A
- Weight : N/A