Fisker Inc. (ชื่อย่อในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก: FSR) (“Fisker”) ผู้สร้างสรรค์รถยนต์พลังงานไฟฟ้าและพัฒนาโซลูชั่นสำหรับการเดินทางที่มีความยั่งยืนที่สุดระดับโลก เผยว่าบริษัทได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงร่วมกับบริดจสโตน ผู้นำระดับโลกด้านการส่งมอบโซลูชั่น
สำหรับยางรถยนต์และผลิตภัณฑ์ยางอื่นๆ เพื่อการเดินทางที่ปลอดภัยและยั่งยืน ทั้งยังให้บริการหลังการขายแบบครบวงจรและส่งมอบโซลูชั่นด้านการซ่อมบำรุงในประเทศฝรั่งเศสและเยอรมนี
หลังจากการประกาศไปให้บริดจสโตนเป็นพันธมิตรด้านยางรถยนต์เพียงรายเดียวสำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า SUV รุ่น Ocean ที่กำลังจะเปิดตัว Fisker กำลังขยายขอบเขตความร่วมมือกับบริษัทชั้นนำระดับโลกอย่างบริดจสโตน จากการเป็นพันธมิตรครั้งใหม่นี้และในฐานะผู้นำในอุตสาหกรรมยางรถยนต์และผลิตภัณฑ์ยางอื่นๆ เพื่อการเดินทาง
บริดจสโตนจะใช้ร้านค้าปลีกและเครือข่ายการให้บริการด้านรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของตน เพื่อให้บริการหลังการขายแบบครบวงจรแก่ลูกค้าของ Fisker ในประเทศฝรั่งเศสและเยอรมนี โดยผ่านเครือข่ายของ Speedy, Pitstop และ Reiff-ABS ซึ่งเป็นเครือข่ายร้านค้าปลีกของบริดจสโตนทั้งหมดในยุโรป ทั้งนี้ Speedy มีสาขามากกว่า 450 สาขาในฝรั่งเศส
ขณะที่ในประเทศเยอรมนี ซึ่งมีสาขาของ Pitstop และ Reiff-ABS รวมกันมากกว่า 300 สาขาทั่วประเทศ ทั้งนี้ Fisker จะดำเนินงานร่วมกับ บริดจสโตนเพื่อคัดเลือกสถานที่ที่มีความเหมาะสมมากที่สุดจากเครือข่ายการให้บริการทั้งหมดในประเทศฝรั่งเศสและเยอรมนีเพื่อตอบสนองความต้องการและตอบโจทย์แบบเฉพาะให้กับลูกค้าของ Fisker
การประสานความร่วมมือเพื่อนำเสนอโซลูชั่นที่ดียิ่งกว่า
“ภายในวันที่ 17 พฤศจิกายน 2565 เราจะเริ่มผลิตและส่งมอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้า SUV รุ่น Ocean โดยประเทศฝรั่งเศสและเยอรมนีจะเป็นตลาดแรกในยุโรป” Henrik Fisker ประธานและประธานกรรมการบริหารของ Fisker ให้ความเห็นว่า “การเป็นพันธมิตรร่วมกับบริดจสโตนได้เริ่มขึ้นแล้วในหลายภาคส่วนของธุรกิจเรา
และเรามีความประทับใจมาอย่างต่อเนื่องในการลงทุนของบริดจสโตนสำหรับอนาคตของการเดินทางที่ใช้พลังงานสะอาด และความมุ่งมั่นต่อผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมและโซลูชั่นในการให้บริการแก่รถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นต่อๆ ไปในอนาคต ปัจจัยสำคัญอยู่ที่บริดจสโตนเป็นผู้ให้บริการและนำเสนอแพ็กเกจแบบครบวงจรที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะ ได้แก่
การให้บริการยางติดรถยนต์สำหรับกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมยานยนต์ (OE) การบริการหลังการขาย และโซลูชั่นสำหรับการเดินทาง การใช้ประโยชน์จากเครือข่ายต่างๆ ที่มีอยู่อย่างกว้างขวางเพื่อให้บริการหลังการขายแก่ลูกค้าซึ่งจะเป็นกุญแจสำคัญต่อความสำเร็จในระยะยาวของ Fisker”
การขับเคลื่อนการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าผ่านการบูรณาการครบวงจร
“ส่วนหนึ่งในเจตนารมณ์ของเราคือช่วยกำหนดอนาคตของการเดินทางอย่างยั่งยืน บริดจสโตนกำลังสนับสนุนการนำรถยนต์พลังงานไฟฟ้ามาใช้ผ่านการบูรณาการครบวงจร ซึ่งรวมถึงการพัฒนายางรถยนต์ระดับพรีเมียมและเทคโนโลยียางสำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า พร้อมทั้งโซลูชั่นสำหรับการขนส่งและการเดินทาง” Laurent Dartoux ประธานและประธานกรรมการบริหารของบริดจสโตน EMIA กล่าว
“นอกจากนี้ยังเกี่ยวข้องกับการพัฒนาร้านค้าปลีกและเครือข่ายการให้บริการแบบครบวงจรสำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ซึ่งรวมถึงการซ่อมบำรุงและการให้บริการเกี่ยวกับยางรถยนต์ การชาร์จไฟฟ้าและการให้บริการเคลื่อนที่สำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าซึ่งรวมทั้งหมดไว้ครบในจุดเดียว”
“ความมุ่งมั่นของ Fisker ที่มีต่อนวัตกรรมที่ยั่งยืน รวมกับพันธกิจในการทำให้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่สามารถเข้าถึงได้มากขึ้นสอดคล้องอย่างยิ่งกับเป้าหมายของเรา” Dartoux กล่าวเพิ่ม “ในการเป็นพันธมิตรร่วมกับผู้สร้างสรรค์นวัตกรรมอย่าง Fisker เป็นสิ่งสำคัญต่อวิธีดำเนินงานของเรา และเรามีความภูมิใจที่จะนำจุดแข็งในการทำงานของเราและศักยภาพทั้งหมดของเครือข่ายร้านค้าปลีกสำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้ามาเพื่อให้บริการแก่ลูกค้า”
Fisker จะเริ่มผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า SUV รุ่น Ocean ในวันที่ 17 พฤศจิกายน 2565 จากโรงงานผู้ผลิตของบริษัท Magna-Steyr ซึ่งดำเนินงานโดยมุ่งความเป็นกลางทางคาร์บอนและเป็นพันธมิตรกับ Fisker โดยตั้งอยู่ที่เมืองกราซ ประเทศออสเตรีย รถยนต์พลังงานไฟฟ้า Ocean ซึ่งมีการตกแต่งพิเศษแบบสปอร์ต
โดยราคาอยู่ที่ 41,560 ยูโร ในประเทศเยอรมนี (ราคารถก่อนบวกสิทธิประโยชน์แก่ผู้จำหน่ายท้องถิ่น) และ 41,900 ยูโร ในประเทศฝรั่งเศส โดยคาดว่าจะสามารถวิ่งได้ในระยะทาง 250 ไมล์ (มาตรฐานการทดสอบของ EPA) / 275 ไมล์ หรือ 440 กิโลเมตร (มาตรฐานการทดสอบของ WLTP) การออกแบบเรียบหรูมีสไตล์ พร้อมทั้งเทคโนโลยียานยนต์ที่ทันสมัย และการตกแต่งภายในอย่างยั่งยืนด้วยวัสดุที่สามารถนำกลับมาใช้ได้อีก
รถยนต์พลังงานไฟฟ้าตัวท็อปรุ่น Ocean Extreme สามารถวิ่งได้ในระยะทางถึง 350 ไมล์ (มาตรฐาน EPA) / 390 ไมล์ หรือ 630 กิโลเมตร (มาตรฐาน WLTP) นอกจากนี้ Fisker ยังดำเนินงานร่วมกับผู้ผลิตแบตเตอรี่ บริษัท CATL มาอย่างต่อเนื่อง โดยใช้ตัวสารเคมีที่แตกต่างกัน 2 ชนิด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของแบตเตอรี่และลดค่าใช้จ่ายสำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่น Ocean ของ Fisker