NEW MG HS และ NEW MG HS PHEV โฉมใหม่ มาพร้อมกับนิยาม “REFINEMENT” สะท้อนความเป็นรถยนต์สปอร์ตพรีเมี่ยม SUV ที่มีดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ผสมผสานระหว่างความหรูหราและความสปอร์ตอย่างลงตัว ทั้งในด้านของการออกแบบภายนอกและภายในที่ทันสมัยใส่ใจในทุกรายละเอียด ฟังก์ชันและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ดียิ่งขึ้น
โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยด้วยการติดตั้งระบบนำทางเสมือนจริง หรือ AR NAVIGATION ซึ่งระบบดังกล่าวเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างกล้องหน้าที่ถ่ายทอดสภาวะแวดล้อมจริงในขณะเดินทางร่วมกับระบบนำทาง Navigation แบบ real time ช่วยให้การใช้งานระบบนำทางแม่นยำมากยิ่งขึ้น
รวมไปถึงการพัฒนาระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART เพื่อให้ใช้งานได้สะดวกสบายมากกว่าเดิม และระบบกุญแจดิจิตอล (Digital Key Technology) อีกทั้งยังมีการติดตั้งระบบความปลอดภัยมาตรฐานสากลสูงสุดถึง 26 ระบบ และระบบช่วยผู้ขับขี่หรือระบบ ADAS ที่เทียบเท่ากับระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติระดับที่ 2
พร้อมสมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลังจากระบบขับเคลื่อนทั้งแบบเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบขนาด 1.5 ลิตร และเทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริด (Plug-in Hybrid) ที่ผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์ และมอเตอร์ไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้พละกำลังสูงสุด 284 แรงม้า
มาพร้อมแบตเตอรี่ Lithium-ion แบบโมดูล ขนาดใหญ่ 16.6 กิโลวัตต์-ชั่วโมง (kWh) ทำให้สามารถขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% (EV Mode) ได้ไกลถึง 67 กิโลเมตร รองรับการใช้งานในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี
- ข้อมูลผลิตภัณฑ์ NEW MG HS และ NEW MG HS PHEV
REFINED EXTERIOR:
NEW MG HS และ NEW MG HS PHEV โฉมใหม่ล่าสุด ยกระดับคุณค่าด้านการออกแบบให้มีความโดดเด่น และทันสมัย ผสานทั้งความหรูหราและความสปอร์ตอย่างลงตัว ด้วยเส้นสายของตัวถังแบบ British Shoulder Line ที่เน้นเรื่องความโค้งมนสมบูรณ์แบบของตัวรถ พร้อมกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ที่คงเอกลักษณ์เฉพาะของเอ็มจี
- มิติตัวถัง 4,574 x 1,876 x 1,664 มิลลิเมตร (ยาว x กว้าง x สูง)
- ระยะช่วงล้อ 2,720 มิลลิเมตร
- กระจังหน้า DNA ใหม่ สี 2-Tone ดีไซน์ Digital Burning Grille
- กันชนหน้า กันชนท้ายดีไซน์ใหม่ พร้อมท่อไอเสียคู่
- ไฟหน้าแบบ QUAD LED Projector
- ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน (Daytime Running Lights)
- ไฟท้ายแบบ Full LED
- ไฟ Welcome Light
- สปอยเลอร์หลังพร้อมราวหลังคา
- ฝากระโปรงท้ายระบบไฟฟ้า มีฟังก์ชั่นปรับระดับสูง-ต่ำ พร้อมสั่งการผ่านทางรีโมทคอนโทรล
- ล้ออัลลอยด์ BI-COLOUR ดีไซน์ใหม่ ขนาด 18 นิ้ว
REFINED INTERIOR & UTILITY:
ภายในห้องโดยสารของ NEW MG HS และ NEW MG HS PHEV ตกแต่งด้วยสี 2-Tone Monaco Blue ใช้วัสดุบุนุ่มแบบ Soft Touch ให้ความรู้สึกหรูหราและพรีเมี่ยมในทุกรายละเอียด พร้อมฟังก์ชั่นที่ให้ทั้งความสะดวกสบายและคุณค่าระหว่างการขับขี่ที่ครบครัน
- ภายในมีทั้งสีดำ และ 2-Tone ขาว – น้ำเงิน
- เบาะหนังคู่หน้าแบบ Sport Bucket Seat ใช้วัสดุ Alcantara
- เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง และเบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง
- พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น พร้อมระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift)
- หลังคา Panoramic Sunroof ขนาดใหญ่
- Interactive Ambient Light ในห้องโดยสาร ปรับได้ 64 เฉดสี
- หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะ Full Virtual Dashboard ขนาด 12 นิ้ว
- หน้าจอกลาง แบบ Multi-Function Touchscreen ขนาด 10 นิ้ว
- ระบบเสียง Surround เหนือระดับ กับ BOSE 8.1 Sound System
- ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แบบ Dual Zone
- ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
- ระบบกรองอากาศ PM 2.5
- กระจกมองหลังตัดแสงแบบอัตโนมัติ
- ระบบกุญแจรีโมทอัจฉริยะ (Smart Key) พร้อมปุ่ม Push Start
- NVH Luxury Silence Space และแผ่นซับเสียงภายในห้องโดยสาร
- ระบบเชื่อมต่อมัลติมิเดีย Apple CarPlay และสมาร์ทโฟนระบบ Andriod
REFINED PERFORMANCE & EFFICIENCY:
NEW MG HS PHEV ขับเคลื่อนด้วยระบบ Plug-in Hybrid ผสานกำลังระหว่างเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร และมอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้มีพละกำลังสูงสุด 284 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 480 นิวตันเมตร ขับขี่อย่างต่อเนื่องได้ด้วยระบบเกียร์แบบ EDU II – 10 Speeds ทำอัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ภายในเวลา 7.5 วินาที และสามารถขับขี่ด้วยไฟฟ้า 100% ได้ถึง 67 กิโลเมตร
- เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 162 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตันเมตร
- มอเตอร์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงแบบ Hairpin Winding Technology ให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้า
แรงบิด 230 นิวตันเมตร - ระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว (Liquid Coolant System)
- แบตเตอรี่ Lithium-Ion แบบ 6 โมดูล ขนาด 6 kWh
- แบตเตอรี่มาตรฐานความปลอดภัย AMERICAN UL2580 และมาตรฐาน IP67 ในการป้องกันน้ำและฝุ่น
- รูปแบบการขับขี่ 5 รูปแบบ ได่แก่ โหมด EV โหมด Eco โหมด Normal โหมด Sport และโหมด
Super Sport - ระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) 3 ระดับ
- ระบบการบริหารพลังงานไฟฟ้าและสร้างกระแสไฟฟ้าจากเครื่องยนต์กลับสู่แบตเตอรี่ (Battery Management System)
- ระบบช่วงล่างหน้า MacPherson Strut พร้อมเหล็กกันโคลง และระบบช่วงล่างหลังแบบ Multi-link พร้อมเหล็กกันโคลงทั้งหน้าและหลัง
- ดิสก์เบรกหน้าพร้อมช่องระบายความร้อน และดิสก์เบรกหลัง
NEW MG HS มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร ขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์ TST (Twin Clutch Sportronic Transmission) แบบ 7 สปีด ให้พละกำลังสูงสุดถึง 162 แรงม้า แรงบิดสูงสุดที่ 250 นิวตันเมตร ในรอบที่ต่ำเพียง 1,700 รอบต่อนาที มีรูปแบบการขับขี่ 4 รูปแบบ ได่แก่ โหมด Normal โหมด Eco โหมด Sport และโหมด Super Sport
REFINED SAFETY: เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยรอบคัน
NEW MG HS และ NEW MG HS PHEV มาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ครบครัน ทั้งระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัย (Full Space Frame) ระบบช่วงล่างแบบ EURO TUNING SUSPENSION และมีระบบความปลอดภัยมาตรฐานยุโรป Advanced Synchronized Protection System มากถึง 26 ระบบ
โดยแบ่งออกเป็นระบบความปลอดภัย เชิงป้องกันก่อนเกิดอุบัติเหตุที่ช่วยทั้งเรื่องระบบเบรก และช่วยรักษาเสถียรภาพในการขับขี่ จำนวน 14 ระบบ และระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ Advanced Driver Assistance System (ADAS) หรือระบบช่วยควบคุมการขับขี่ และลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุทั้งด้านหน้าและด้านท้ายรถ ซึ่งเทียบเท่ากับระบบขับเคลื่อนอัตโนมัตืระดับที่ 2 (Autonomous Level 2) รวมกันกว่า 12 ระบบ ได้แก่
- ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection)
- ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
- ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู DOW (Door Open Warning)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning)
- ระบบช่วยควบคุมรถเมื่อรถจะออกนอกเลน LDP (Lane Departure Prevention)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA (Lane Keep Assist)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าในขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning)
- ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-Beam Control)
- ระบบช่วยเบรกฉุกเฉืนอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Brake) ที่เพิ่มเติมเข้ามาในโฉมล่าสุดนี้ เพื่อความปลอดภัยที่ดียิ่งกว่า
นอกจากนี้ ยังเสริมอุปกรณ์ความปลอดภัย อาทิ จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ (Speed Sensing Door Lock) เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย กล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ (3D Around View Monitor) พร้อมสัญญาณเตือนระยะถอยหลัง ระบบกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง และระบบไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่องยนต์
REFINED TECHNOLOGY:
ระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i–SMART ที่ช่วยยกระดับคุณค่าและประสบการณ์การขับขี่ของผู้ใช้รถยนต์เอ็มจี รวมถึงการเชื่อมต่อทุกไลฟ์สไตล์ให้ง่ายยิ่งขึ้น พร้อมเทคโนโลยี Digital Key และล่าสุดกับ AR NAVIGATION ระบบนำทางเสมือนจริง ที่จะทำให้ทุกการเดินแม่นยำมากยิ่งขึ้น
Smart Check หรือ ระบบตรวจเช็กอัจฉริยะ ประกอบไปด้วย
- ระบบตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่และการชาร์จ รวมถึงการค้นหาสถานีชาร์จ
- ตรวจสอบสถานะของประตูรถ
- ตรวจสอบตำแหน่งของรถ พร้อมบอกเส้นทางไปยังรถยนต์ผ่านฟังก์ชั่น FIND MY CAR
- ตรวจสอบความผิดปกติ และแจ้งสถานะการทำงานของรถ เช่น เครื่องยนต์ ลมยาง และถุงลมนิรภัย
- ระบบแจ้งเตือนเมื่อความผิดปกติเกิดขึ้นกับระบบการทำงาน หรืออุปกรณ์ของรถ
- ระบบขอบเขตอิเล็คทรอนิกส์
- ระบบช่วยค้นหาศูนย์บริการ นัดหมาย และบันทึกการดูแลรักษารถยนต์ตามระยะ
Smart Command หรือ ระบบสั่งการอัจฉริยะ ประกอบไปด้วย
- กุญแจดิจิตอล
- ระบบสั่งการผ่านคำสั่งเสียงภาษาไทย
- ควบคุมการทำงานของระบบปรับอากาศผ่านทางสมาร์ทโฟน
- โทรออก – รับสายจากจอทัชสกรีน
- ระบบโทรอัตโนมัติกรณีฉุกเฉิน เมื่อถุงลมนิรภัยทำงาน(Emergency Call)
- ระบบ i-CALL ที่สามารถติดต่อ MG Call Centre เพื่อสอบถามข้อมูล หรือขอรับจุดน่าสนใจ (Point Of Interest) ด้วยปุ่มลัดบนพวงมาลัย
- ค้นหาข้อมูลจุดท่องเที่ยวน่าสนใจ และวางแผนการเดินทาง Travel Plan จากสมาร์ทโฟนส่งเข้าหน้าจอทัชสกรีนของรถได้
Smart Connect หรือ ระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะ ประกอบไปด้วย
- ระบบนำทางอัจฉริยะ แสดงเส้นทางพร้อมภาพเสมือนจริงจากกล้องหน้ารถ (AR NAVIGATION) ครั้งแรกในรถยนต์เอ็มจี กับเทคโนโลยีที่มอบความสะดวกและความแม่นยำในการขับขี่บนทุกเส้นทาง
- ระบบนำทาง Navigation พร้อมรายงานการจราจรแบบ Real Time
- ระบบช่วยค้นหาร้านอาหาร และที่พักบนแผนที่นำทาง
- ระบบเล่นเพลงออนไลน์แบบสตรีมมิ่ง
- ระบบเรียกดูข้อมูลข่าวสาร เหตุการณ์ปัจจุบัน และอัพเดทข้อมูลพยากรณ์อากาศ
- อัพเกรดระบบต่าง ๆ ผ่านออนไลน์ (FOTA)
* อุปกรณ์ที่ติดตั้งจะแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่น
NEW MG HS และ NEW MG HS PHEV มีให้เลือกทั้งหมด 5 รุ่นย่อย แบ่งออกเป็นรุ่นที่เป็นเครื่องยนต์สันดาปจำนวน 3 รุ่น ได้แก่ รุ่น C รุ่น D และรุ่น X และรุ่นที่ขับเคลื่อนด้วยระบบปลั๊กอินไฮบริดจำนวน 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น PHEV D และ รุ่น PHEV X พร้อมสีตัวถังทั้งหมด 4 สี ได้แก่
- สีขาว (Arctic White)
- สีดำ (Black Knight)
- สีเทา (Metal Ash Grey)
- สีแดง (Scarlet Red)
NEW MG HS และ NEW MG HS PHEV “REFINEMENT”
NEW MG HS รุ่นเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร |
ราคา (บาท) |
– NEW MG HS รุ่น C |
939,000.- |
– NEW MG HS รุ่น D |
1,089,000.- |
– NEW MG HS รุ่น X |
1,159,000.- |
NEW MG HS PHEV รุ่นเครื่องยนต์ปลั๊กอินไฮบริด |
ราคา (บาท) |
– NEW MG HS PHEV รุ่น D |
1,299,000.- |
– NEW MG HS PHEV รุ่น X |
1,379,000.- |
ข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าที่จองและรับรถยนต์ NEW MG HS และ NEW MG HS PHEV โฉมใหม่ ภายในวันที่ 21 มีนาคม – วันที่ 3 เมษายนนี้เท่านั้น
NEW MG HS
- ดาวน์เริ่มต้นที่ 5% หรือดอกเบี้ยพิเศษ 90 % นาน 4 ปี
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. ความคุ้มครอง 1 ปี
- ประกันคุณภาพรถยนต์นาน 5 ปี หรือ 150,000 กม.
NEW MG HS PHEV
- ดาวน์เริ่มต้นที่ 5% หรือดอกเบี้ยพิเศษ 90 % นาน 4 ปี
- ฟรีประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. ความคุ้มครอง 1 ปี
- ประกันคุณภาพรถยนต์นาน 5 ปี หรือ 150,000 กม.
- ฟรี MG Home Charger พร้อมค่าติดตั้ง
- แบตเตอรี่แรงดันสูงรับประกันนาน 8 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
- ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ MG CALL CENTRE โทร. 1267
- หรือเว็บไซต์ www.mgcars.com